บทที่ 272 เต็มไปด้วยความสุขเพราะคุณเป็นคนทำ
หซิวหยูเฉียวจุ๊ปากอีกหลายครั้ง “การงานก็ดี งานบ้านงานครัวก็ได้ เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเหลือเกิน ไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอโชคดีมาจากไหน ไม่คิดเลยว่าจะหาผู้ชายดี ๆ แบบนี้ได้”
เธอไม่ได้เรื่องขนาดนี้ แม้แต่อาหารยังทำไม่เป็น ซูซีมู่ถือว่าเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
คิดถึงระหว่างเธอกับซูซีมู่ตรงนี้แล้ว อารมณ์ของโล่เฟยเอ๋อตกลงทันที พูดพึมพำ: “ใช่สิ ฉันมันไม่ได้เรื่องจริง ๆ ขนาดกับข้าวยังทำไม่เป็น”
หซิวหชูเฉียวที่ได้ยินโล่เฟยเอ๋อไม่ชัด ถาม “อะไรนะ?”
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ตอบหซิวหชูเฉียว เอ่ยทิ้งท้าย “ฉันจะกลับห้องแล้ว” ไม่รอให้หซิวหชูเฉียวตอบรับ ลุกจากไปทันที
แม้กระทั่งหซิวหชูเฉียวจะเรียกตามหลังเธอ เธอก็ไม่ได้หยุดฝีเท้า
“หรือว่าฉันพูดแรงไป? ไม่สิ เฟยเอ๋อก็น่าจะรู้ดีว่าฉันล้อเธอเล่น ไม่ได้ ฉันต้องไปดูเธอ…..” หซิวหชูเฉียวลุกขึ้น เตรียมจะขึ้นไปตามหาโล่เฟยเอ๋อที่ชั้นบน ซูซีมู่ก็เข้ามาพอดี
เมื่อเห็นซูซีมู่ หซิวหชูเฉียวจึงรีบบอก “คุณกลับมาแล้ว รีบไปดูเฟยเอ๋อที่ห้องเร็ว”
“เธอเป็นอะไร?” ซูซีมู่ขมวดคิ้วถาม
“เมื่อกี้เธอทำอาหาร…..” หซิวหชูเฉียวชะงักไป แล้วจึงบอกเรื่องโล่เฟยเอ๋อทำอาหารให้ซูซีมู่ฟัง
“…..แล้วฉันก็แค่ล้อเธอเล่นจริง ๆ สุดท้ายเธอโกรธซะแล้ว”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบหซิวหชูเฉียว เพียงแค่ลากสายตามองอาหารหลายจานที่ดำเกรียมบนโต๊ะอาหาร “อาหารที่เธอทำ?”
“เธอขลุกอยู่ในห้องครัวหลายชั่วโมง แต่ว่ามันไหม้จริง ๆ …..” ประโยคหลังหซิวหชูเฉียวไม่ได้พูดต่อ เพราะเธอเห็นซูซีมู่หยิบตะเกียบ กินอาหารไหม้เกรียมพวกนั้นที่โล่เฟยเอ๋อทำ
ผู้ชายคนนี้รักเฟยเอ๋อมากเกินไปแล้ว ไม่อย่างนั้นจะกินอาหารไหม้เกรียมแบบนี้ลงไปได้อย่างไร?
“รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?”
ซูซีมู่ตอบโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน “อืม ก็ไม่เลว…..”
ไหม้หมดแล้ว รสชาติก็ยังไม่เลว? หซิวหชูเฉียวเหลือบมองอาหารบนจานอย่างสงสัย จากนั้นพูด “รบกวนคุณไปโอ๋เธอหน่อย เธอโกรธฉันแล้ว”
ซูซีมู่อืมรับหนึ่งคำ วางตะเกียบลงแล้วลุกขึ้นไปหาเฟยเอ๋อข้างบน
หซิวหชูเฉียวมองตามซูซีมู่เดินออกไป หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารที่โล่เฟยเอ๋อทำส่งเข้าปาก
เคี้ยวไปได้หนึ่งคำ ก็ต้องคายออกมา
พระเจ้า เฟยเอ๋อทำอาหารนี้อย่างไร? เปรี้ยวหวานขมเผ็ดปนกันไปหมด
ที่เหลือเชื่อคือ เมื่อสักครู่ซูซีมู่กินลงได้อย่างไร? หรือว่าจะเป็นอย่างที่เล่ากันว่าคนที่ตกอยู่ในความรักมองอะไรก็สวยงาม หรือแม้กระทั่งต่อมรับรสก็เปลี่ยนได้?
ซูซีมู่ผลักประตูห้องเข้าไป เห็นโล่เฟยเอ๋อนอนคว่ำเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง
“เป็นอะไร?” ซูซีมู่เดินเข้าไปถาม
“เปล่า” โล่เฟยเอ๋อตอบหน้ามุ่ย
มองท่าทางบูดบึ้งของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่คิดว่าเธอน่ารักมากจริง ๆ แน่นอนว่าตอนนี้โล่เฟยเอ๋ออารมณ์เสียมาก เขาต้องโอ๋เธอ “โกรธคุณหซิวแล้ว?”
“ไม่ได้โกรธ เธอก็ไม่ได้พูดผิด ฉันมันไม่มีพรสวรรค์ในการเข้าครัว” โล่เฟยเอ๋อเบะปากตอบ
ซูซีมู่ลูบศีรษะที่มีผมหนานุ่มของโล่เฟยเอ๋อ “ไม่ใช่ ครั้งแรกทำออกมาได้ขนาดนี้ ก็ไม่เลวเลย”
โล่เฟยเอ๋อชะงักไปก่อนจะถาม “คุณรู้ได้อย่างไรว่าไม่เลว? คุณเห็นแล้ว?”
“ไม่ได้แค่เห็น ผมยังชิมแล้ว” ซูซีมู่ตอบพร้อมมุมปากยกโค้งขึ้น
“ฮะ? คุณชิมแล้ว?” โล่เฟยเอ๋อตะลึง
ซูซีมู่พยักหน้า “ชิมแล้ว รสชาติไม่เลวเลย” เปรี้ยวหวานขมเผ็ดมีหมด
โล่เฟยเอ๋อที่ได้ยินซูซีมู่บอกว่ารสชาติไม่เลว รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย “ไหม้หมดเลยนะ คุณทานได้อย่างไร?”
“เพราะคุณเป็นคนทำไง” ซูซีมู่ตอบอย่างหนักแน่น
เพราะคุณเป็นคนทำ ก็เลยทาน…..โล่เฟยเอ๋อรู้สึกหวานจากก้นบึ้งหัวใจลามถึงใบหน้า หัวเราะสดใสสะกดใจคน เอียงศีรษะถามอย่างน่ารัก: “คุณจะคิดว่าฉันไม่ได้เรื่องไหม แม้แต่อาหารก็ทำไม่เป็น”
ซูซีมู่จูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากของโล่เฟยเอ๋อ: “ไม่เลย ในบ้านมีคนใช้ คุณไม่จำเป็นต้องทำอาหารเป็น ต่อให้ไม่มีคนใช้ ผมก็ทำอาหารเป็น ผมทำให้คุณกินได้”
น้ำเสียงช่างน่าหลงใหล! ช่างทำให้คนตื้นตันใจ?
ลึก ๆ ในใจโล่เฟยเอ๋อมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ เธอเป็นหนอนตัวน้อยที่ถูกซูซีมู่เลี้ยงไว้ในบ้าน ไม่ต้องทำอะไร แค่กิน ๆ นอน ๆ อยู่ที่บ้าน
โล่เฟยเอ๋อพลิกตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง “คุณพึ่งกลับมา ยังไม่ได้ทานข้าว? รีบลงไปทานสิ”
“ผมทานก่อนกลับมาแล้ว” ซูซีมู่ลูบผมโล่เฟยเอ๋อ ถามกลับ “คุณอยากลงไปทานข้าวไหม?”
โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้าบอก: “ไม่อยากทานข้าว คืนวันก่อนซื้อขนมมายังเหลืออีกเยอะ ฉันจะกินขนมแทน”
ซูซีมู่ส่ายหน้า “ไม่ได้ ตอนเย็นไปชายหาดร่วมงานเลี้ยงปิ้งย่าง ตอนเที่ยงกินขนมไม่ดี”
“กินนิดเดียวไม่เป็นไรหรอก นะซูซีมู่ได้ไหม?” โล่เฟยเอ๋อกอดแขนซูซีมู่เขย่าไปมาอย่างออดอ้อน
“ก็ได้” ซูซีมู่ตกลงอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นลุกขึ้นหยิบเอาขนมที่ซื้อมาเมื่อคืนก่อนที่วางอยู่บนโต๊ะชุดน้ำชา “อยากกินอะไร?”
โล่เฟยเอ๋อตอบโดยไม่ได้คิด “คอเป็ด”
“ไม่ทานข้าวเที่ยง ไม่ให้กินคอเป็ด” ครั้งนี้สีหน้าซูซีมู่สีบ่งบอกว่าไม่ให้ต่อรอง
โล่เฟยเอ๋อเบะปาก “ก็ได้ งั้นกินขนมปังก็ได้?”
ซูซีมู่อืมรับหนึ่งคำ หยิบขนมปังถุงหนึ่งออกมาจากถุง แกะซองขนมปังแล้วยื่นไปใกล้ ๆ ริมฝีปากของโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อหลุบตามอง จากนั้นก็อ้าปากงับขนมปังในมือของซูซีมู่ไปหนึ่งคำ
ซูซีมู่สังเกตเธอจนกลืนขนมปังในปากไปแล้ว ก็ยื่นขนมปังในมือมาที่ริมฝีปากเธออีกทันที
อีกคนกิน อีกคนป้อน ช่างอบอุ่นเหลือเกิน
แน่นอนว่าในสายตาคนอื่น นี่มันให้อาหารหมาชัด ๆ!
หซิวหชูเฉียวที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องของพวกเขา คิดแบบนี้
ซูซีมู่ที่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวหันกลับมามองหซิวหชูเฉียว แล้วพูดกับโล่เฟยเอ๋อ: “คุณหซิวมาแล้ว คุณคุยกับเธอสิ ผมไปเข้าห้องน้ำก่อน”
โล่เฟยเอ๋อครางรับ แล้วกวักมือเรียกหซิวหชูเฉียวที่ยืนอยู่หน้าประตู “เฉียวเฉียว เธอมาได้อย่างไร?”
หซิวหชูเฉียวหัวเราะ เดินเข้าไปในห้อง “ฉันกลัวว่าเธอโกรธเลยตั้งใจมาขอโทษน่ะสิ! ผลสุดท้ายเธอกลับกินของว่างอย่างสบายใจอยู่นี่เอง”
“ฉันไม่ได้โกรธนะ” โล่เฟยเอ๋อหน้าแดง จากนั้นล้วงเอาของว่างออกจากถุงมาหนึ่งถุงพร้อมถาม “เธออยากกินไหม?”
“ฉันไม่กินแล้ว” หซิวหชูเฉียวส่ายหน้า ถาม “อาหารทำใหม่เสร็จแล้ว พวกเธอจะลงไปทานไหม?”
“ซูซีมู่ทานจากข้างนอกมาแล้ว ฉันก็กินของว่างไปเยอะแล้ว ไม่ทานข้าวแล้วก็ได้” โล่เฟยเอ๋อตอบ
หซิวหชูเฉียวพยักหน้าแล้วบอก: “งั้นฉันลงไปกินข้าวแล้วนะ”
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วนึกอะไรบางอย่างได้จึงถาม “จริงสิ ตอนค่ำจะไปชายหาดร่วมงานเลี้ยงปิ้งย่าง เธอไปไหม?”
“งานเลี้ยงปิ้งย่าง? ฉันไปแน่นอน”
“งั้นถ้าถึงเวลาแล้วฉันจะไปหาเธอที่ห้อง”
“โอเค…..”