บทที่ 277 เขาทำลายบริษัทโล่ซื่อ ทำลายพ่อเธอ
โล่เฟยเอ๋อออกมาจากวิลล่าแล้ว ก็ไปที่เดินเล่นแถวบริษัทซูซื่อเพื่อฆ่าเวลา เตรียมตัวรอตอนเที่ยงไปหาซูซีมู่ สุดท้ายตอนใกล้เที่ยง เธอได้รับสายจากเห้อจิ้นเหยา
“ฮัลโหล คุณป้าเหยา…..”
โล่เฟยเอ๋อยังพูดไม่ทันจบ เสียงร้องไห้ของเห้อจิ้นเหยาก็ดังผ่านสายมา “เฟยเอ๋อพ่อเธออัมพฤกษ์-อัมพาต เธอมาเยี่ยมได้ไหม?”
ได้ยินที่เห้อจิ้นเหยาพูด โล่เฟยเอ๋อในใจตื่นตกใจ “คุณป้าเหยา…..คุณ…..คุณพูดอะไร?”
“พ่อเธอเส้นเลือดในสมองแตก ยังไม่ฟื้น” เห้อจิ้นเหยาร้องไห้ไปด้วยตอบไปด้วย
โล่เฟยเอ๋อนิ้วที่ถือโทรศัพท์สั่นระริก จากนั้นจึงถาม “พ่อฉันอยู่โรงพยาบาลไหน?”
“อยู่ที่โรงพยาบาลชื่อซาน”
“ฉัน…..จะไปเดี๋ยวนี้” โล่เฟยเอ๋อมือสั่น วางสายโทรศัพท์ แล้ววิ่งไปริมถนนเรียกรถไปที่โรงพยาบาลชื่อซาน
โล่เฟยเอ๋อหาห้องพักผู้ป่วยที่โล่ชิงไป๋เจอแล้ว เห้อจิ้นเหยานั่งข้างเตียงผู้ป่วยจับมือโล่ชิงไป๋และพูด
“คุณป้าเหยา”
เห็นโล่เฟยเอ๋อเข้ามา เห้อจิ้นเหยาสีหน้าดีใจ “เฟยเอ๋อเธอมาแล้ว….”
โล่เฟยเอ๋ออืมรับคำ สายตามองโล่ชิงไป๋ที่นอนอยู่เตียงผู้ป่วย
ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยท่อและเครื่องมือทางการแพทย์ต่าง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าอกมีการขยับเคลื่อนไหวกระเพื่อมเล็กน้อยแล้ว เธอคงคิดว่าเขาไม่อยู่แล้ว
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอพ่อลูกไม่ดีมาตลอด แต่โล่ชิงไป่ก็เป็นพ่อแท้ ๆ ของเธอ แม้โล่ชิงไป๋จะไม่สนใจเธอ เย็นชากับเธอ และทำเรื่องไว้กับเธอมากมาย แต่เห็นโล่ชิงไป๋เป็นแบบนี้ โล่เฟยเอ๋อยังคงเจ็บปวดใจ
“พ่อ…..” หลังจากเสียงตะโกนเรียกตามมาด้วย น้ำตาของโล่เฟยเอ๋อที่หยดไหลอาบแก้ม
เห้อจิ้นเหยาที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอสายตาวาววับเย็นชา เธอเดาไม่ผิด
แม้โล่เฟยเอ๋อตั้งแต่เด็กจนโตมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับโล่ชิงไป๋ แต่โล่ชิงไป๋เป็นพ่อแท้ ๆ ของเธอ เธอแคร์เขา
ดังนั้นเธอมั่นใจมากว่าโล่เฟยเอ๋อจะเล่นตามแผนของเธอ
เก็บสีหน้าแววตาแล้ว เห้อจิ้นเหยาแสร้งทำเป็นร้องไห้ หยิบทิชชูให้โล่เฟยเอ๋อเช็ดน้ำตา “เฟยเอ๋อไม่ต้องร้องแล้ว เด็กดี…..”
“อืม…..” โล่เฟยเอ๋อรับทิชชูในมือเห้อจิ้นเหยา มาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเอง แล้วเอ่ยถาม “คุณป้าเหยา คุณพ่อสุขภาพดีมาตลอดไม่ใช่เหรอ? ทำไมอยู่ ๆ ถึงอัมพฤกษ์-อัมพาต?”
เห้อจิ้นเหยายกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของเธอ จากนั้นจึงตอบ “พ่อของเธอสุขภาพไม่ค่อยดีมาตลอด ช่วงที่ผ่านมา บริษัทวุ่นวาย หุ้นตกฮวบ พ่อเธอกังวลจนไม่เป็นอันนอน วันนี้ตอนเช้าทราบข่าวว่ามีการซื้อหุ้นจำนวนมากของบริษัท บริษัทอาจจะถูกเทคโอเวอร์ เขาทนรับไม่ไหว ล้มหมดสติไป”
ได้ยินเห้อจิ้นเหยาพูดว่าบริษัทโล่ซื่อจะถูกเปลี่ยนมือ โล่เฟยเอ๋อจำได้ว่าเมื่อคืนเธอไม่ได้สนใจสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทโล่ซื่อ รู้สึกผิดจนก้มหน้าลง “เปลี่ยนมือ? ร้ายแรงขนาดนั้น?”
“อืม ว่ากันว่าอีกฝ่ายฉวยโอกาสตอนที่บริษัทโล่ซื่อมีปัญหา ได้ซื้อหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัทโล่ซื่อไปแล้ว” เห้อจิ้นเหยาเว้นไป ก่อนจะพูดอีก: “บริษัทโล่ซื่อเป็นทั้งหมดของพ่อเธอ เขาเห็นมันสำคัญกว่าชีวิตเสียอีก”
“ฉันรู้” โล่เฟยเอ๋อกำมือทั้งสองแน่น แล้วถาม “คุณป้าเหยา หมอได้บอกไหมว่าพ่อจะฟื้นเมื่อไหร่?”
“หมอบอกว่า พ่อของเธอฟื้อหรือไม่ฟื้น ขึ้นอยู่กับพระเจ้า”
ได้ยินขึ้นอยู่กับพระเจ้าสามคำนี้ โล่เฟยเอ๋อสั่น สีหน้าซีดเผือดอย่างรุนแรง
เห้อจิ้นเหยาเห็นแบบนี้ แววตาเยาะเย้ยปรากฏขึ้นในดวงตา
เฮอะเฮอะ ระหว่างซูซีมู่กับโล่ชิงไป๋ โล่เฟยเอ๋อจะเลือกใครนะ? ฉันคาดหวัง!
“พ่อต้องฟื้นสิ…..” โล่เฟยเอ๋อปลอบเห้อจิ้นเหยา และปลอบตัวเอง
“ฉันก็เชื่อว่าชิงไป๋จะผ่านมันไปได้” เห้อจิ้นเหยาพยักหน้าให้โล่เฟยเอ๋ออย่างนิ่มนวล จากนั้นก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เอ่ยถาม “เฟยเอ๋อตอนนี้เธอกับซูซีมู่เป็นอย่างไรบ้าง?”
“พวกเรา….ก็ดีนะ”
ได้ยินเห้อจิ้นเหยาเอ่ยถึงซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อถึงนึกได้ เธอนัดกับซูซีมู่ไว้แล้วว่าจะไปทานข้าวกับเขาที่บริษัท
ช่างเถอะ อีกเดี๋ยวค่อยโทรบอกเขา
“ดีแล้วก็…..” เห้อจิ้นเหยายังไม่ทันพูดจบ เสียงเคาะประตูก็ดังมาจากข้างนอก ตามมาด้วยเสียงของคนที่อยู่ข้างนอก
“คุณนาย คนที่บริษัทมาหาคุณ”
เห้อจิ้นเหยามองไปทางด้านนอก จากนั้นพูดกับโล่เฟยเอ๋อ “คนที่บริษัทมาแล้ว เฟยเอ๋อเธออยู่ที่นี่เป็นเพื่อนคุณพ่อเถอะ ฉันออกจะไปดู”
“ค่ะ” โล่เฟยไม่ได้คิดอะไรมาก พยักหน้า
เห้อจิ้นเหยามองโล่เฟยเอ๋อลึกเข้าไป แล้วยิ้มเยาะออกมา เดินออกจากห้องผู้ป่วยไป
เพียงไม่นาน โล่เฟยเอ๋อได้ยินเสียงอุทานของเห้อจิ้นเหยาดังมาจากข้างนอก
“เป็นไปไม่ได้? เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร? เป็นเขาได้อย่าง…..”
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว ลุกขึ้น เดินออกจากห้องพักผู้ป่วย
นอกห้องพัก เห้อจิ้นเหยากำลังมองไปที่บางอย่างในมืออย่างตื่นตระหนก และข้างหน้าเธอเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นโล่เฟยเอ๋อจำได้ เธอคือเลขาของพ่อเธอ
“คุณป้าเหยา เกิดอะไรขึ้น?” โล่เฟยเอ๋อเดินเข้ามาถาม
เห้อจิ้นเหยาลากสายตามามองหน้าโล่เฟยเอ๋อ จ้องเธออยู่ไม่กี่วินาที จากนั้นก็วิ่งมาอย่างตื่นตระหนก มือทั้งสองออกแรงจับไหล่ของโล่เฟยเอ๋อไว้แล้วพูด: “เฟยเอ๋อซูซีมู่เป็นสามีเธออยู่ใช่ไหม? เขาทำไมถึงต้องทำลายบริษัทโล่ซื่อ? ทำลายพ่อเธอ?”
ซูซีมู่? ซูซีมู่ทำลายบริษัทโล่ซื่อ? ทำลายพ่อฉัน? ทำไมซูซีมู่ถึงมาเกี่ยวข้อง? โล่เฟยเอ๋อตัวสั่น มองที่เห้อจิ้นเหยา ถามอย่างว่างเปล่า “คุณป้าเหยา คุณพูดอะไร?”
“เธอดูเอง” เห้อจิ้นเหยาร้องไห้ไปพลางเอาของในมือยัดใส่มือโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อเปิดดูข้อมมูลในมือ ดูไปทีละบรรทัด
มีรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทโล่ซื่อถูกคนจัดการข้างหลังอย่างไร แล้วถูกคนควบคุมหุ้นอย่างไร สุดท้ายหุ้นของบริษัทโล่ซื่อมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ถูกคนซื้อไป
และคนคนนั้นเป็นซูซีมู่
เห็นชื่อของซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อเซไปสองสามก้าว “ได้อย่างไร? ซูซีมู่ลงมือกับบริษัทโล่ซื่อได้อย่างไร? ต่อให้เขาลงมือ ก็ต้องช่วยบริษัทโล่ซื่อ ต่อให้เขาช่วยบริษัทโล่ซื่อ เขาทำไมถึงเทคโอเวอร์บริษัทโล่ซื่อล่ะ…..”
เห้อจิ้นเหยาร้องไปพูดไป: “เฟยเอ๋อกระดาษขาวอักษรสีดำที่เขียนข้างบนนั้น มีผิดไหม? ต่อให้เธอจะไม่สนใจบริษัทโล่ซื่อ เธอไม่สนใจพ่อของเธอเหรอ? เขาทำร้ายพ่อเธอจนอัมพฤกษ์-อัมพาตแล้ว!”
โล่เฟยเอ๋อมองเห้อจิ้นเหยาด้วยความงุนงง “คุณป้าเหยา…..”
“เธอไม่เชื่อใช่ไหม? งั้นก็ให้เขาบอกเธอเอง” เห้อจิ้นเหยาเช็ดน้ำตา หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า แล้วกดหมายเลขโทรออก
ไม่กี่สิบวินาทีให้หลัง เสียงของโจวเฉิงก็ดังมาจากโทรศัพท์ที่กดเปิดลำโพง “สวัสดีครับ จากใครครับ?”
เห้อจิ้นเหยามองโล่เฟยเอ๋อ “สวัสดี ฉันเห้อจิ้นเหยาเป็นภรรยาโล่ชิงไป๋ประธานของบริษัทโล่ซื่อ ฉันติดต่อประธานซู”
อีกฝ่ายเงียบไปหลายวินาทีแล้วตอบกลับ “คุณนายโล่ กรุณารอสักครู่”