บทที่ 289 ความลับของตุ๊กตาไม้
โล่เฟยเอ๋อร้องไห้อยู่อย่างนั้น ร้องไห้จนเสียงแหบเกือบจะไม่มีเสียง แล้วจึงค่อยๆหยุดลง ร่างกายเปียกปอนเพราะน้ำฝน ร่างกายที่เพิ่งฟื้นฟูเนื่องจากนั่งอยู่ท่ามกลางสายฝนเป็นเวลานาน จึงทำให้อ่อนเพลียมาก โล่เฟยเอ๋อดันร่างกายของตัวเอง ให้ลุกขึ้นมา
เนื่องจากบริเวณที่โล่เฟยเอ๋อยืนอยู่นั้น อยู่ริมถนนพอดี ดังนั้นหลังจากที่เธอยืนขึ้นได้ไม่นาน ก็มีเท็กซี่คันหนึ่งเข้ามาจอด
คนขับแท็กซี่ปรับกระจกรถลง ยื่นหัวออกมาถาม“ คุณผู้หญิง ฝนตกหนักขนาดนี้ คุณเปียกไปทั้งตัวแล้ว ต้องการให้ไปส่งไหม?”
โล่เฟยเอ๋อมองไปที่คนขับแท็กซี่ จากนั้นก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง
“คุณผู้หญิง เช็ดผมและเสื้อผ้าก่อนเถอะ”คนขับแท็กซี่ยื่นผ้าเช็ดตัวผืนหนึ่งไปให้โล่เฟยเอ๋อ แล้วถามขึ้นว่า“ คุณผู้หญิง คุณจะไปไหนเหรอ?”
เธอจะไปไหน? เธอสามารถไปไหนได้?
โล่เฟยเอ๋อตะลึงไปสักพัก จึงพูดที่อยู่ของวิลล่าซูซีมู่ออกมา
เมื่อไปถึงวิลล่า โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ทำเหมือนเมื่อก่อน ที่กดรหัสประตูแล้วเข้าไปข้างในเลย ครั้งนี้เธอกลับกดกริ่ง
คนรับใช้มาเปิดประตู เห็นโล่เฟยเอ๋อเปียกไปทั้งตัว รู้สึกแปลกใจมาก
“คุณนาย คุณทำไมไม่ใช้ร่ม รีบเข้ามาเร็ว” คนรับใช้กล่าวและดึงโล่เฟยเอ๋อเข้ามาข้างใน
จากนั้นเขาก็ช่วยโล่เฟยเอ๋อใส่น้ำในอ่างอาบน้ำ เพื่อให้โล่เฟยเอ๋อได้แช่ตัว
เมื่อแช่ตัวเสร็จ โล่เฟยเอ๋อนอนอยู่บนเตียง
มองไปบนเพดานเม่อลอยสักพัก จากนั้นสายตาหันไป หยุดอยู่ตรงบนตู้ของหัวเตียง
ที่นั่น มีตุ๊กตาไม้ที่ซูซีมู่มอบให้เธอ ในวันแห่งความรักวางอยู่
โล่เฟยเอ๋อจ้องมองไปที่ตุ๊กตาไม้อยู่หลายวินาที จากนั้นยื่นมือไปจับตุ๊กตาไม้ที่หน้าตาเหมือนเธอมาถือไว้
เธอกอดตุ๊กตาไว้ในอก ลูบไล้อย่างรักใคร่
ไม่นานนัก ก็มีเสียงเคาะประตูดังออกมาจากข้างนอก
“คุณนาย คุณหลับแล้วหรือยังค่ะ?”
“ยัง”โล่เฟยเอ๋อตอบออกมา ดึงผ้าห่มออก แล้วไปเปิดประตู
คนรับใช้พูดกับโล่เฟยเอ๋ออย่างเคารพ:“ คุณนาย คุณโจวมา บอกว่าต้องการพบคุณ”
ได้ยินว่าโจวเฉิงอยากเจอตัวเอง โล่เฟยเอ๋อตัวแข็งขึ้นมาเล็กน้อย
เธอไม่อยากเจอโจวเฉิง เธออยากจะหลบหน้าเขา
จากนั้นเธอได้เดินมาเปิดประตู และไม่หาข้ออ้างเพื่อที่จะหลบหน้าเขาอีกต่อไป
สีหน้ามีความเสียใจเล็กน้อย โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า“ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงไป”
“ค่ะ คุณนาย”คนรับใช้พยักหน้า แล้วลงไปชั้นล่าง
โล่เฟยเอ๋อยืนพิงประตูห้องอยู่สองสามวินาที จากนั้นก็กลับเข้าไปในห้องและเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปชั้นล่าง
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อลงไปชั้นล่างนั้น โจวเฉิงได้นั่งรอที่โซฟาอยู่แล้ว
เมื่อเห็นโล่เฟยเอ๋อลงมาจากชั้นล่าง เขาก็ลุกขึ้นจากโซฟาทันที
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้พูดอะไร กอดตุ๊กตาไว้ในอกและนั่งลงโซฟาตรงข้ามโจวเฉิง
โจวเฉิงก็ไม่พูดอะไร เปิดกระเป๋าทำงาน แล้วหยิบซองสีน้ำตาลตอนเช้าออกมา ส่งให้โล่เฟยเอ๋อ
“ผมเอาเอกสารมาให้คุณเซ็นชื่อ
“ฉันได้พูดไปแล้ว ฉันไม่เซ็น”โล่เฟยเอ๋อไม่ได้มองซองสีน้ำตาลที่โจวเฉิงหยิบออกมาเลยด้วยซ้ำ
“คุณทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย?คุณกับประธานซูไม่ได้มีสัมพันธ์อะไร……”
คำพูดของโจวเฉิงพูดไม่ทันจบ โล่เฟยเอ๋อก็ลุกขึ้นจากโซฟา
“ฉันไม่เซ็น และไม่มีวันเซ็นด้วย คุณไม่ต้องมาหาฉันอีก”พูดจบโล่เฟยเอ๋อก็เตรียมที่จะขึ้นไปข้างบนทันที
วันนี้โจวเฉิงได้รับคำสั่งมา จำเป็นต้องให้โล่เฟยเอ๋อเซ็นชื่อให้ได้ ดังนั้นจึงรีบรั้งตัวเธอไว้“ประธานซูหวังว่าคุณจะเซ็นเอกสารพวกนี้ เขาไม่อยากเป็นหนี้คุณ ประธานซูได้พูดอีกว่า ถ้าคุณไม่อยากย้ายออกไปจากที่นี่ เขายินดีที่จะยกวิลล่านี้ให้คุณ……”
ได้ยินโจวเฉิงพูดว่าซูซีมู่ต้องการให้เธอเซ็นเอกสารพวกนี้ เพราะไม่อยากเป็นหนี้เธอ ทำให้โล่เฟยเอ๋อตกใจมาก
เขาไม่อยากเป็นหนี้เธอ? เขาเป็นหนี้เธอตั้งแต่เมื่อไหร่?
มีแต่เธอที่เป็นหนี้เขามาโดยตลอด
เขาทำหลายสิ่งหลายอย่างมากเพื่อเธอและเพื่อลูกมากขนาดนั้น ส่วนเธอนั้นไม่เพียงไม่ทำอะไรเลย มิหนำซ้ำยังไม่เชื่อใจเขาอีก
โล่เฟยเอ๋อก้มหัวลงไป แล้วพูดเสียงต่ำออกมาว่า:“ ฉันรู้แล้ว พรุ่งนี้ฉันจะย้ายออกไปจากที่นี่เอง แล้วสำหรับของพวกนี้ ไม่ได้เป็นของฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฉันไม่เอาหรอก”
พูดจบประโยคนี้ โล่เฟยเอ๋อไม่รอให้โจวเฉิงตอบกลับ รีบเดินไปตรงบันไดทันที
ปรากฏว่าเพิ่งเดินได้สองก้าว ร่างกายอ่อนแรง ล้มฟุบไปกองอยู่ที่พื้น
โจวเฉิงและคนรับใช้เห็นโล่เฟยเอ๋อกำลังจะหกล้ม ยื่นมือไปเพื่อจะไปพยุงเธอ แต่ก็ไม่ทัน
เมื่อโล่เฟยเอ๋อล้มไปที่พื้น ตุ๊กตาไม้ที่อยู่ที่อ้อมกอดของเธอก็หล่นใส่พื้นไปพร้อมกัน
เสียงโคลงเคลงดังขึ้น หัวของตุ๊กตาไม้ แขน ขาทุกส่วนในร่างกายของตุ๊กตาแยกออกจากกัน และกระเด็นไปไกลมาก
“คุณนาย คุณเป็นอะไรไหม?”คนรับใช้รีบเข้าไปพยุงเธอไว้
โล่เฟยเอ๋อไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองดูอย่างตกใจกับตุ๊กตาไม้ที่แตกเสียหายอยู่ที่พื้นไปสักพัก
จากนั้นรีบถลาเข้าไป เก็บชิ้นส่วนของตุ๊กตาที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
เมื่อค้นพบว่าชิ้นส่วนไม่ครบ เธอจึงรีบหาที่พื้น
หาไปด้วยร้องไห้ไปด้วย“ทำไมฉันไม่ระวังขนาดนี้……”
เมื่อเห็นสภาพของโล่เฟยเอ๋อแบบนั้น คนรับใช้รีบช่วยเธอหาไปพร้อมกัน“คุณนาย คุณอย่ากังวล ฉันช่วยคุณหา……”
หลังจากที่หาชิ้นส่วนของตุ๊กตาไม้ครบแล้ว โล่เฟยเอ๋อให้คนรับใช้ช่วยหากาวมาให้เธอ เพราะเธอจะประกอบตุ๊กตาใหม่อีกครั้ง
แขนและขาประกอบกันแล้ว เธอไม่เห็นความผิดปรกติอะไร แต่เมื่อเธอประกอบหัวของตุ๊กตาไม้ จู่ๆโล่เฟยเอ๋อก็เห็นรอยต่อระหว่างหัวกับร่างกายนั้น ว่างเปล่า และดูเหมือนจะมีอะไรอยู่ข้างใน
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้วเข้าหากัน และยื่นเล็บเข้าไปด้านใน สัมผัสได้ว่ามันเป็นเหมือนกระดาษ
ท่าทีของมือได้หยุดชะงักลง จากนั้นโล่เฟยเอ๋อใช้เล็บแคะกระดาษออกมาจากร่างกายของตุ๊กตา
เมื่อแกะกระดาษที่พับเอาไว้ออกมา มองเห็นหนังสือเขียนเต็มอยู่ในกระดาษ
แวบแรกที่เห็นก็จำได้เลยว่ามันเป็นลายมือของซูซีมู่
กระดาษนี้ซูซีมู่เป็นคนใส่มันลงไปเหรอ?โล่เฟยเอ๋อรู้สึกใจเต้นตุบตับ
จากนั้นดูตัวหนังสือบนกระดาษ
เฟยเอ๋อ ผมรักคุณ คุณชอบผมบ้างไหม?
บางทีคุณอาจจะไม่มีโอกาสเห็นจดหมายฉบับนี้ แต่ผมอยากเก็บความหวังนี้ไว้
ผมไม่รู้ว่าเริ่มรักคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อผมรู้ตัวว่าได้ตกหลุมรักคุณเข้าไปแล้ว การรักคุณได้กลายเป็นสัญชาตญาณของผมไปแล้ว
เห็นคุณร้องไห้ ผมรู้สึกแย่
เห็นคุณถูกรังแก ผมอยากช่วยคุณ
เห็นคุณเสียใจ ผมเสียใจยิ่งกว่าคุณ
เห็นคุณดีใจ ผมดีใจยิ่งกว่า
……
อารมณ์ของผมขึ้นอยู่กับคุณเป็นหลัก ตอนแรกผมคิดกับคุณแค่เพื่อน ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าคิดกับคุณเกินความเป็นเพื่อนแล้ว
ผมเริ่มตื่นตระหนก และอยากดึงความสัมพันธ์ของเราให้กลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม
ผมเลือกที่จะอยู่ห่างจากคุณ แต่นึกไม่ถึงว่ามันกลายเป็นการผลักคุณให้ไปจากผมโดยสิ้นเชิง
จนกระทั่งได้ยินโล่หยิวชิวพูดว่า คุณจะแต่งงาน
วินาทีนั้น ผมรู้ว่าผมตกหลุมรักคุณโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว
เนื่องจากคุณจะแต่งงานแล้ว ผมกลัวว่าถ้าจะจีบคุณคงไม่ทัน ดังนั้นผมจึงไปหาคุณปู่ ให้คุณปู่ช่วยผมเพื่อให้ได้แต่งงานกับคุณ
ตอนที่พ่อคุณตกลงให้พวกเราแต่งงานกัน ผมดีใจมาก แต่ยิ่งไปกว่านั้นในขณะเดียวกัน ก็กังวลมากเช่นกัน
ผมกลัวว่าเมื่อคุณรู้ว่าคนที่จะต้องแต่งงานด้วยคือผม คุณจะไม่พอใจ
หลังจากที่พวกเราแต่งงานกันแล้ว แต่คุณทำเหมือนผมเป็นคนแปลกหน้า และเย็นชาใส่ผม
ได้ยินที่คุณพูดว่า การแต่งงานของเราไม่เป็นผล ผมเสียใจมาก จากนั้นก็ได้โกหกคุณว่าได้ทำสัญญากันไว้แล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้
หลังการแต่งงานผมระมัดระวังมาโดยตลอด กลัวว่าคุณจะหนีผมไป
ขอแค่เพียงคุณอยู่ข้างกายของผม ผมสามารถทนได้ทุกอย่าง ถึงแม้จะรู้ว่าคุณมีคนอื่นอยู่ในใจแล้ว ก็ไม่เป็นไร
วันนั้นที่คุณถามผมว่าผมมีคนที่ชอบแล้วใช่ไหม? ผมตอบคุณว่า ใช่ ผมรักเธอ และจะรักเธอตลอดไป
เฟยเอ๋อ คุณจะรู้ไหม ว่าตอนนั้นคนที่ผมพูดถึงคนนั้นก็คือคุณนั่นเอง?