งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! – ตอนที่ 293

ตอนที่ 293

บทที่ 293 ความจริงเกี่ยวกับการจากไปของซูซีมู่

พอเห็นโจวเฉิงคุกเข่าต่อหน้าเธออย่างกะทันหัน โล่เฟยเอ๋อก็ตกใจ หลังจากนั้นเปิดผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียงมาดึงโจวเฉิง “คุณโจว นี่คุณทำอะไร? รีบลุกขึ้น”

โจวเฉิงไม่ยอมขยับ “ถ้าคุณนายไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคำพูดเหล่านั้นของผมในวันนั้น ผมก็จะลุกขึ้น”

โล่เฟยเอ๋อนิ่งอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นพยักหน้า “ได้ ฉันจะถือว่าวันนั้นคุณไม่ได้พูดอะไร คุณรีบลุกขึ้นเถอะ”

“คุณนาย สิ่งที่ผมพูดในคืนนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ผมคิดเองเออเอง แล้วก็ไม่ผ่านสมอง ผมขอโทษคุณ คุณอย่าใส่ใจเลย ถ้ามีความคิดเห็นอะไร ก็บอกผมได้” หลังจากที่พูดแบบนี้เสร็จ ทันใดนั้นโจวเฉิงก็ยกมือขึ้นแล้วตบปากตัวเองสองครั้ง แรงมากจนเลือดออกปาก

โล่เฟยเอ๋อนิ่งอึ้งไปแล้ว หลังจากนั้นตอบกลับ “คุณโจว ฉันบอกแล้วว่าฉันถือว่าวันนั้นคุณไม่ได้พูดอะไร ทำไมคุณยัง…ฉันจะเรียกหมอให้คุณ”

พอได้ยินว่าโล่เฟยเอ๋อจะไปเรียกหมอ กลับถูกโจวเฉิงร้องห้ามไว้

“คุณนาย ผมไม่เป็นอะไร ไม่ต้องเรียกหมอ”

โล่เฟยเอ๋อชี้รอยเลือดที่มุมปากของโจวเฉิง: “คุณเลือดออกแล้ว อย่างไรก็ให้หมอมาดูสักหน่อยเถอะ”

“เลือดนิดเดียว ไม่มีอะไรร้ายแรง” โจวเฉิงยกมือแล้วเช็ดเลือดที่มุมปากอย่างลวกๆ หลังจากนั้นเอ่ย: “คุณนาย คุณนั่งก่อน ผมมีอะไรจะพูดกับคุณ”

โล่เฟยเอ๋อจ้องเขาแวบหนึ่ง พอมั่นใจว่าเขาไม่เป็นอะไร จึงเดินไปนั่งที่โซฟา “คุณก็มานั่งด้วย”

โจวเฉิงพยักหน้า แล้วนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามโล่เฟยเอ๋อ

หลังจากนั้นเอ่ยอย่างช้าๆ “คุณนาย ความจริงแล้วก่อนหน้าที่ประธานซูจะไป ได้สั่งผมไว้ นอกจากให้คุณเซ็นชื่อในเอกสารทั้งสามฉบับแล้ว ห้ามพูดมากแม้แต่คำเดียว สำหรับคำพูดที่ผมพูดพวกนั้น เป็นผมเองที่พูดเพราะประธานซูไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่เกี่ยวกับประธานซูเลยสักนิด ตอนนี้ผมอยากคุยกับคุณเรื่องประธานซู”

โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว คุณพูด ฉันจะฟัง”

“คุณนาย บางทีคุณอาจจะรู้แค่ว่าผมเป็นผู้ช่วยของประธานซู แต่ไม่รู้ว่าผมก็เป็นผู้คุ้มกันของประธานซูด้วยใช่ไหม? ผมเริ่มติดตามประธานซูมาตั้งแต่อายุสิบเจ็ด จนถึงตอนนี้ก็สิบห้าปีแล้ว ในสายตาของผม ประธานซูเย็นชา เย็นชาต่อทุกสิ่ง รวมถึงกับคุณท่านด้วย สาเหตุทุกอย่างเป็นเพราะ วันเกิดครบรอบสิบปีของประธานซูเมื่อสิบห้าปีก่อน พ่อแม่ของเขาบินกลับจากMเพื่อมาฉลองวันเกิดเขาเป็นพิเศษ ผลปรากฏว่าเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ ประธานซูโทษตัวเองมาตลอด ถ้าไม่ใช่เขาขอให้พ่อแม่กลับมาฉลองวันเกิดให้ได้ พ่อกับแม่ก็คงไม่ตาย ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาประธานซูก็เริ่มเย็นชาขึ้นและเขาก็ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ในวันเกิดของเขาทุกปี เขามักจะอยู่ในห้องทั้งวันโดยไม่กินหรือดื่ม เป็นอย่างนี้มาสิบสี่ปีแล้ว”

โล่เฟยเอ๋อคิดมาโดยตลอดว่านิสัยของซูซีมู่เป็นแบบนี้โดยธรรมชาติ ที่แท้นิสัยของเขาเป็นเพราะโทษตัวเองเรื่องการจากไปของพ่อแม่

พอคิดว่าซูซีมู่หนุ่มจะต้องอดทนมากมายขนาดนี้ ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดจนพูดไม่ออก

“เขาเกิดวันที่เท่าไหร่?”

โจวเฉิงตอบ “วันที่สิบเดือนมีนาคม”

วันที่สิบเดือนมีนาคม? วันนี้วันที่สิบเจ็ดมีนาคม วันที่สิบเป็นวันที่สองที่เธอเลือกเชื่อเห้อจิ้นเหยา

โล่เฟยเอ๋อหันมามองโจวเฉิง “วันที่สิบ…”

“วันที่สิบ วันนั้นประธานซูนัดคุณไปที่วิลล่าหลันถิง” โจวเฉิงไม่รอให้เธอถาม ก็ตอบให้เธอเข้าใจ แล้วนิ่งไปสักพัก เขาถึงพูดต่อ “เดิมทีประธานซูวางแผนว่าวันนั้นจะจัดโต๊ะอาหารให้คุณ จากนั้นค่อยสารภาพความในใจกับคุณ”

“เดิมทีวางแผนจะสารภาพความในใจ?” โล่เฟยเอ๋อรู้สึกใจสั่นขึ้นมา

“ก่อนที่จะไปอ่าวโป๋ไห่ประธานซูก็วางแผนนี้ ว่าจะสารภาพความในใจกับคุณในวันเกิดของเขา จากนั้นก็เล่าเรื่องทั้งหมดของเห้อจิ้นเหยาให้คุณฟัง” โจวเฉิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแตะที่โทรศัพท์มือถือสองสามครั้งแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือให้โล่เฟยเอ๋อ ในนั้นมีวัตถุดิบและของประดับตกแต่งบางส่วน

“พวกนี้เป็นของที่ประธานซูให้ผมไปซื้อ ในตอนนั้นผมกลัวว่าจะทำใบรายการหาย เลยใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเก็บไว้”

“เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะเปลี่ยนแผนไม่ทัน เห้อจิ้นเหยาก็ชิงลงมือก่อน วันนั้นหลังจากที่โทรหาคุณไม่ติด ประธานซูก็ส่งข้อความหาคุณ นัดวันที่สองให้คุณไปที่วิลล่าหลันถิงเพื่ออธิบายกับคุณ”

“คืนนั้นเขาอยู่ที่บริษัทรอโทรศัพท์และข้อความจากคุณจนดึก เพียงแต่คุณก็ไม่ตอบเลย สุดท้ายประธานซูก็ไปวิลล่าหลันถิง”

“ผมไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ในวันเกิดคืนนั้นเท่าไหร่ แต่ผมมั่นใจว่าประธานซูรอคุณอยู่ที่วิลล่าหลันถิงสองวันหนึ่งคืนแล้ว ในคืนที่สอง ตอนที่เรียกผมเข้าไปนั้น เขายังนั่งโง่ๆ อยู่ที่ห้องอาหาร แล้วเหม่อมองโต๊ะอาหารนั้น”

นั่งโง่ๆ อยู่ที่ห้องอาหาร เหม่อมองโต๊ะอาหารนั้น…โล่เฟยเอ๋อคล้ายกับจะจินตนาการได้ทุกอย่างว่าฉากนั้นเขามีท่าทางอย่างไร

ในใจของเธอรู้สึกเจ็บปวดมาก ความรู้สึกเจ็บปวดที่กลางอกนั้นหนาวเหน็บจนถึงกระดูก

น้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

“ในภายหลัง ประธานซูให้ผมเตรียมเอกสารสามฉบับนั้น รวมถึงข้อมูลพวกนั้นของเห้อจิ้นเหยา หลังจากนั้นเขาก็จากไป เขาจากไป ไม่ใช่เพราะคุณเชื่อเห้อจิ้นเหยา แต่เพราะเขาคิดว่าเขาถูกคุณทอดทิ้งแล้ว จึงได้จากไปอย่างเสียใจ” พอโจวเฉิงพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดสักพัก หลังจากนั้นมองโล่เฟยเอ๋อแล้วเอ่ยอย่างจริงจังมาก: “ดังนั้น คุณนาย ขอให้คุณพาประธานซูกลับมาเถอะ”

โล่เฟยเอ๋อน้ำตาไหลและไม่พูดอะไร

โจวเฉิงก้มหน้าลงแล้วพูดอีกว่า: “เป็นเพราะคุณนาย ประธานซูถึงมีอารมณ์ความรู้สึกและก้าวออกมาจากการตำหนิตัวเองเรื่องการจากไปของพ่อแม่ ประธานซูอาจจะกลายเป็นประธานซูคนเดิมที่เมื่อก่อนไม่เคยแยแสต่อสิ่งใดๆ ดังนั้น คุณนายได้โปรดพาประธานซูกลับมาด้วยครับ”

โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ตอบโจวเฉิง เพียงแค่พูดว่า: “คุณกลับไปก่อนเถอะ”

โจวเฉิงยังอยากพูดอะไรต่อ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เพียงแค่ทำความเคารพโล่เฟยเอ๋ออย่างตั้งใจ แล้วจึงออกไป

หลังจากที่โจวเฉิงจากไป โล่เฟยเอ๋อก็หยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาและคลิกไปที่บันทึกการโทร

ในนั้นมีสายที่ไม่ได้รับเกือบห้าร้อยสาย นอกจากบางสายที่หซิวหชูเฉียวโทรหาเธอ ที่เหลือทั้งหมดเป็นสายจากซูซีมู่

ช่วงเวลาระหว่างการโทรค่อนข้างใกล้เคียงกันคือสิบวินาที เป็นไปได้ว่าคงจะโทรหนึ่งครั้งแล้วไม่ติด จึงได้โทรต่อไปอีก

จากนั้นระยะห่างของช่วงเวลาก็จะนานขึ้นเล็กน้อย นั่นคือการโทรหนึ่งครั้งทุกๆ สิบนาที

แต่วันที่สิบเดือนมีนาคมวันนั้น ซูซีมู่โทรมาเยอะที่สุด

ตั้งแต่บ่ายโมงถึงเย็นวันที่สองซูซีมู่ก็ยังคงโทรหาเธอไม่หยุด

โล่เฟยเอ๋อดูบันทึกการโทรทั้งหมดอย่างเงียบๆ หนึ่งรอบและพบว่าในวันที่สิบนั้น มีหนึ่งสายที่ถูกวางสาย

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสายนี้เห้อจิ้นเหยาจะต้องเป็นคนวางแน่นอน

โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบ หลังจากนั้นก็กดดูหน้าข้อความ

มีข้อความมากมายในข้อความกล่องข้อความ นอกจากข้อความโฆษณาและการแจ้งเตือนอัตโนมัติไม่กี่ข้อความ ที่เหลือล้วนเป้นข้อความที่ซูซีมู่ส่งให้เธอ

ข้อความแรก เป็นข้อความเดียวที่เธอเคยดูแล้ว ซูซีมู่ต้องการอธิบายกับเธอ เป็นเพราะเธอเห็นข้อความนี้ ถึงอยากจะไปหาซูซีมู่ หลังจากนั้นก็ถูกเห้อจิ้นเหยาทำให้สลบไป

โล่เฟยเอ๋อสูดหายใจลึกๆ แล้วดูต่อไป

ข้อความที่สอง ซูซีมู่เตือนเธอให้ระวังเห้อจิ้นเหยา แต่น่าเสียดาย ในตอนนั้นเธอไม่เห็นข้อความนี้ ถ้าตอนนั้นเห็นล่ะก็ คงไม่มาถึงจุดนี้ อย่างน้อยที่สุด เธอก็คงจะป้องกันเห้อจิ้นเหยาได้

ข้อความที่สาม เป็นซูซีมู่นัดเธอไปอธิบายที่วิลล่าหลันถิง

ข้อควาหลังจากนั้น ล้วนเป็นตอนที่ซูซีมู่อยู่ที่วิลล่าหลันถิงส่งให้เธอ

ให้เธอไปที่วิลล่าหลันถิง เขาจะรอเธอ

ข้อความพวกนี้ ส่งมาสิบกว่าข้อความแล้ว

ข้อความสุดท้ายคือ เฟยเอ๋อ คุณเห็นข้อความแล้วทำไมไม่ตอบกลับ? ทำไมถึงต้องปิดโทรศัพท์? หรือว่าคุณตัดสินใจที่จะทิ้งผมจริงๆ แล้วเชื่อเห้อจิ้นเหยาใช่ไหม?

และในโทรศัพท์มือถือของเธอ ก็พอว่าได้ตอบกลับซูซีมู่ไปหนึ่งข้อความ

ซูซีมู่ นับตั้งแต่นี้ไปพวกเราทางใครทางมัน คุณไม่ต้องตามหาฉันอีกแล้ว!

พอเห็นข้อความพวกนี้ ในที่สุดโล่เฟยเอ๋อก็เข้าใจแล้วว่าทำไมซูซีมู่ถึงจากไปแล้ว

เธอกอดโทรศัพท์มือถือ แล้วร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด

“ซูซีมู่ ทำไมคุณโง่ขนาดนั้นล่ะ? ฉันไม่ได้ส่งข้อความพวกนั้น! ไม่ใช่ฉันนะ!”

“ซูซีมู่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ฉันจะไม่ยอมไม่เชื่อใจคุณอีกแล้ว ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว”

“ซูซีมู่ คุณอยู่ไหน?คุณอยู่ไหนกันแน่?”

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว!

Status: Ongoing

โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึง เธอมาเข้าร่วมงานแต่งงานของพี่สาว แต่สุดท้าย เธอกลายเป็นเจ้าสาวซะเอง หนี ต้องหนีไป ซูซีมู่เป็นคนที่ชอบควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง อยากสั่งให้เขาแต่งงานอย่างเชื่อฟัง ไม่มีทาง เมื่อโล่เฟยเอ๋อที่กำลังหนีงานแต่งงานมาพบกับซูซีมู่ที่กำลังหนีงานแต่งงานเหมือนกัน จะเกิดอะไรขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท