บทที่ 297 เงาแผ่นหลังที่ดูคล้ายกับซูซีมู่
โล่เฟยเอ๋อนั่งเครื่องบินไปสวิตเซอร์แลนด์ตอนหนึ่งทุ่มของวันรุ่งขึ้น เที่ยวบินใช้เวลาสิบสามชั่วโมง
พอถึงสวิตเซอร์แลนด์ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว
ดังนั้นโล่เฟยเอ๋อจึงไม่ได้ไปที่พักของคุณท่าน แต่ไปพักโรงแรมที่เธอจองไว้ก่อนหนึ่งคืน แล้วค่อยไปหาคุณท่านในวันรุ่งขึ้น
แล้วจัดกระเป๋าเดินทางอย่างคร่าวๆ จากนั้นลงไปทานอาหารเย็นที่ชั้นล่าง
หลังอาหารเย็น โล่เฟยเอ๋อไม่ได้กลับไปพักผ่อนที่ห้อง แต่เตรียมที่จะเดินออกไปข้างนอกโรงแรม
หลังจากออกมาจากโรงแรม โล่เฟยเอ๋อก็สุ่มเลือกทิศทางและเดินอย่างช้าๆ
ตอนนี้ใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว แต่บริเวณโดยรอบก็ยังคึกคัก
โล่เฟยเอ๋อเดินไปได้ไม่นาน ก็เห็นสวนสาธารณะขนาดเล็กแห่งหนึ่ง
ถึงแม้ว่าสวนสาธารณะจะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีผู้คนมากมาย
โล่เฟยเอ๋อเดินไปตามทางของสวนสาธารณะสักพัก จากนั้นก็มานั่งที่ม้านั่งยาวซึ่งอยู่ค่อนข้างไกล
เมื่อฟังเสียงที่มีชีวิตชีวาในระยะไกล พอโล่เฟยเอ๋อก็นึกแผนการของเธอ มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย
เพราะกำลังเธอจมอยู่กับความคิด โล่เฟยเอ๋อจึงไม่ได้สังเกตเห็นผู้ชายผิวขาวสองคนคนหนึ่งตัวสูงและตัวเตี้ยหนึ่งคนที่เดินข้ามถนนมา
คนผิวขาวทั้งสองสังเกตเห็นโล่เฟยเอ๋อนั่งอยู่ห่างไกลคนเดียว จึงเหลือบมองกันและกันแล้วเดินไปหาโล่เฟยเอ๋ออย่างรวดเร็ว
เมื่อโล่เฟยเอ๋อได้สติกลับมา ทั้งสองคนก็อยู่ห่างจากเธอไม่ถึงหนึ่งเมตร
โล่เฟยเอ๋อลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ แล้วเตรียมที่จะออกไป
แต่กลับช้าไปหนึ่งก้าวจึงถูกชายผิวขาวทั้งสองขวางเอาไว้
“คุณผู้ชาย พวกคุณมีเรื่องอะไรเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อมองอย่างระมัดระวังไปด้วยแล้วใช้ภาษาอังกฤษถามอย่างคล่องแคล่วไปด้วย
ผู้ชายผิวขาวตัวสูงนั้นหัวเราะเหอะๆ ไปทางโล่เฟยเอ๋อแล้วเอ่ย: “คนสวย ไม่มีใครบอกคุณเหรอว่าอย่าเดินไปข้างนอกคนเดียวในตอนกลางคืน?”
พอได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้ โล่เฟยเอ๋อก็นิ่งอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นเอ่ย: “ขอบคุณ ฉันจะรีบไป”
พวกเขาจะปล่อยโล่เฟยเอ๋อไปได้อย่างไร? ชายผิวขาวที่เตี้ยกว่าคนนั้นคว้าแขนของโล่เฟยเอ๋อไว้ “คนสวย ตอนนี้คุณไปไหนไม่ได้แล้ว”
โล่เฟยเอ๋ออยากสะบัดมือของฝ่ายตรงข้ามออก แต่ฝ่ายนั้นแรงเยอะเกินไปแล้ว เธอสะบัดออกไม่ได้
เธอจึงต่อสู้ดิ้นรนไปด้วยแล้วตะโกนเสียงดังไปด้วย “พวกคุณจะทำอะไร? อยากได้เงินใช่ไหม? ฉันสามารถให้เงินพวกคุณได้มากมาย”
จุดประสงค์ที่โล่เฟยเอ๋อตะโกนเสียงดังขนาดนี้ ก็เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คน
น่าเสียดายที่ตอนนี้ฝูงชนอยู่ค่อนข้างไกล จึงไม่มีใครสนใจทางนี้
มือที่กำลังสั่นอยู่ของโล่เฟยเอ๋อเปิดกระเป๋าและหยิบธนบัตรจำนวนมากออกมาจากในนั้นแล้วยื่นให้อีกฝ่าย
ธนบัตรก้อนนี้มีจำนวนไม่น้อย สองคนนั้นหยิบมันไปอย่างละโมบโลภมาก
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อคิดว่าพอให้เงินพวกเขาแล้ว ก็คงหมดเรื่อง แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาสองคนไม่คิดจะหยุดแค่นี้ สายตากลับมองร่างของโล่เฟยเอ๋ออย่างพิจารณา สายตาที่มีเจตนาร้ายนั้นกำลังเข้าใกล้โล่เฟยเอ๋อเรื่อยๆ
“ผู้คนต่างก็บอกว่าผู้หญิงเอเชียตัวเล็กน่ารัก พวกเราสองพี่น้องไม่เคยชิมมาก่อน วันนี้จะต้องชิมให้ได้”
โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเสียใจภายหลังเมื่อได้ยินคำพูดต่ำช้าแบบนี้ของพวกเขา
เธอจะออกมาทำข้างนอกอะไรกัน แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี?
ขณะที่เธอกำลังก้าวถอยหลังพร้อมกวาดสายตามองรอบๆ ตัว
ตอนนี้เธอถูกบีบให้อยู่ในที่เปลี่ยวมากขึ้น ทำอย่างไรถึงจะวิ่งไปหาฝูงชนให้ไวที่สุดดี?
ขณะที่โล่เฟยเอ๋อกำลังคิดหาหนทาง ทันใดนั้นก็มีเงาร่างสีดำก็พุ่งออกมาจากความมืด
ความเร็วของฝ่ายนั้นไวมาก ชายผิวขาวทั้งสองไม่ทันได้มีเวลาตอบโต้ มือที่กำลังดึงโล่เฟยเอ๋อก็ถูกเตะออก
ได้ยินเพียงแค่เสียงของหัก ชายผิวขาวคนนั้นก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วปล่อยมือที่กำลังดึงโล่เฟยเอ๋อออก จากนั้นถอยออกไปสองสามก้าว
ได้ยินเพียงเสียงคลิกและชายผิวขาวก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดปล่อยมือที่จับโล่เฟยเอ๋อและก้าวถอยหลัง
เมื่อเป็นอิสระโล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกประหลาดใจก่อนเป็นอันดับ หลังจากนั้นใช้สายตาจับจ้องไปที่ชายคนนั้น
ฝ่ายนั้นหันหลังให้เธอและจากตรงนี้ก็มืดมาก จึงทำให้โล่เฟยเอ๋อมองเห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายไม่ชัดเจน แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยเงาด้านหลังนั้นเล็กน้อย
แต่เธอยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก ชายผิวขาวสองคนก็ตอบสนองโดยการเข้าไปล้อมคนๆ นั้นไว้
โล่เฟยเอ๋อทำตามสัญชาตญาณแล้วหมุนตัววิ่งไปทางแสงสว่างอย่างรวดเร็ว
วิ่งไปด้วย แล้วยังตะโกนไปด้วย “ช่วยด้วยค่ะ…”
เธอจึงไม่เห็นว่า ชายคนนั้นเคลื่อนตัวเข้าหาชายผิวขาวสองคนแล้วลงมืออย่างรวดเร็วมาก
ท่าทางที่ดุเดือดและมีไอสังหารรุนแรง
ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงของเฟยเอ๋อจากไกลๆ ตลอด “อยู่ทางนี้ค่ะ…”
เงาดำยกขาเตะชายผิวขาวสองคนล้มลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วิ่งไปในความมืดแล้วหายไปอย่างว่องไว
หลังจากฝ่ายนั้นหายไปไม่ถึงหนึ่งนาที โล่เฟยเอ๋อก็พาผู้คนมาจำนวนไม่น้อย
พอมาถึงก็เห็นชายผิวขาวสองคนกลิ้งอยู่บนพื้นและส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด แต่คนที่ช่วยเธอได้หายไปแล้ว
คนที่ตามโล่เฟยเอ๋อมา มองไปที่ชายผิวขาวสองคนที่อยู่บนพื้นแล้วต่างคนต่างก็พูดขึ้น
“ใครเป็นคนลงมือกันนะ ถึงทำได้โหดร้ายขนาดนี้?”
“อย่างไรเสียก็ไม่ใช่คนดี ถูกตีตายก็สมควรแล้ว”
“ถึงอย่างไรก็รีบแจ้งตำรวจ ให้ตำรวจมาจัดการเถอะ…”
เพราะที่นี่ตั้งอยู่ในย่านที่เจริญ หลังจากโทรแจ้งตำรวจไม่นาน ตำรวจก็มาถึงแล้ว
ตำรวจลากชายสองคนที่นอนอยู่กับพื้นขึ้นมาแล้วนำตัวไป แน่นอนว่าก่อนไปก็เดินไปสอบปากคำโล่เฟยเอ๋อ
สองคนนั้นเป็นพวกอันธพาลแถวๆ นี้ เพราะเห็นว่าโล่เฟยเอ๋ออยู่ในสวนสาธารณะคนเดียว พวกเขาจึงเกิดชั่วร้ายขึ้นมา
แต่ไม่คาดคิดว่าความคิดชั่วร้ายยังไม่ทันสำเร็จ ก็ถูกทำร้ายจนเกือบตาย
คนที่ทำร้ายพวกเขาเป็นใคร โล่เฟยเอ๋อก็ไม่แน่ใจ เพียงแค่ขอบคุณอีกฝ่ายอยู่ในใจอย่างเงียบๆ
ถ้าไม่ใช่อีกฝ่ายออกมาได้ทันเวลาพอดี เกรงว่าสถานการณ์ของเธอก็คงไม่ดีเท่าไหร่
พอบันทึกคำให้การเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็เตรียมที่จะกลับโรงแรง ทันใดนั้นก็ได้ยินหนึ่งในคนผิวขาวพูดขึ้นว่า “ผู้ชายคนนั้นเป็นชายเอเชียที่มีศิลปะการต่อสู้เก่งกาจ”
ผู้ชายเอเชีย?
โล่เฟยเอ๋อนึกถึงสถานการณ์ในตอนนั้นขึ้นมา เธอเพิ่งได้รับการปล่อยมือจากคนร้ายและยังอยู่ในอาการตกใจ ดังนั้นเธอจึงไม่ค่อยได้สังเกตมาก เห็นแค่แผ่นหลังที่สูงและปราดเปรียว
พอลองคิดดูแล้ว แผ่นหลังนั้นดูคล้ายกับแผ่นหลังของซูซีมู่มาก
อาจเป็นเพราะเธอคิดถึงซูซีมู่มากเกินไป ดังนั้นจึงจินตนาการไปเอง
หรือจะบอกว่า คนๆ นั้นคือซูซีมู่?
พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ หัวใจของโล่เฟยเอ๋อก็เต้นแรงขึ้นมา
แน่นอนว่าตอนนี้คนหายไปแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาหลักฐานจากไหนมาพิสูจน์
หลังจากที่ออกมาจากสถานีตำรวจ โล่เฟยเอ๋อก็เรียกรถกลับไปที่โรงแรม ในขณะที่นอนอยู่บนเตียงของโรงแรม เธอกลับไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด เธอจ้องตรงไปที่เพดานสักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือจากโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาและโทรหาโจวเฉิง
ในไม่ช้าเสียงของโจวเฉิงก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “คุณนาย ตอนนี้เวลาที่สวิตเซอร์แลนด์น่าจะเที่ยงคืนแล้ว ทำไมคุณถึงยังไม่นอน?”
“นอนไม่หลับ ฉันอยากให้คุณช่วยตรวจสอบเรื่องหนึ่งให้ฉัน” โล่เฟยเอ๋อพูด
โจวเฉิงนิ่งสักพักแล้วถาม “เรื่องอะไรครับ?”
ปลายนิ้วของโล่เฟยเอ๋อบีบโทรศัพท์มือถือแน่นขึ้น หลังจากนั้นบอก: “คุณช่วยตรวจสอบหน่อย ตอนนี้ซูซีมู่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์หรือไม่?”
“คุณนาย คุณหาประธานซูเจอแล้ว?” โจวเฉิงถามด้วยความดีใจ
“ไม่ใช่ เมื่อครู่ตอนที่ฉันกำลังอยู่ในสวนสาธารณะ มีผู้ชายชาวเอเชียที่มีแผ่นหลังดูเหมือนกับซูซีมู่มากมาช่วยเหลือฉัน ฉันคิดว่าอาจจะเป็นเขา”
โล่เฟเอ๋อไม่ได้บอกว่าตนเองเกือบจะเกิดเรื่องที่สวนสาธารณะกับโจวเฉิง เพียงแค่บอกว่าเห็นคนที่คล้ายกับซูซีมู่
พอโจวเฉิงได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ ก็รู้สึกเศร้าใจแวบหนึ่ง
ดูเหมือนคุณนายจะคิดถึงประธานซูเกินไปแล้ว ดังนั้นพอเห็นแผ่นหลังใคร ก็คิดว่าเป็นประธานซูไปหมด
“คุณนาย แผ่นหลังที่ดูคล้ายกันมีเยอะมาก คุณ…”
โจวเฉิงยังไม่ทันพูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็ตัดบทเขา
“ฉันมั่นใจว่าเขาคือซูซีมู่”
โจวเฉิงถอนหายใจอยู่ในใจแล้วเอ่ย: “ได้ครับ ผมจะช่วยคุณหา หลังจากหาแล้ว ผมจะโทรศัพท์หาคุณ”
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณคุณโจว” โล่เฟยเอ๋อยิ้มอย่างสดใสแล้วเอ่ยขอบคุณโจวเฉิง
“คุณนายไม่ต้องเกรงใจ อยู่ข้างนอกคนเดียว ก็ดูแลตัวเองดีๆ นะครับ”
“ได้ค่ะ”