บทที่ 296 รู้สึกผิดหวังกับโล่ชิงไป๋อีกครั้ง
“เฟยเอ๋อ ทำไมกว่าจะรับโทรศัพท์ถึงนานขนาดนี้?” น้ำเสียงของโล่ชิงไป๋ไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
“กำลังยุ่ง คุณพ่อโทรหาฉันมีธุระอะไร?” โล่เฟยเอ๋อตอบเสียงเรียบ
โล่ชิงไป๋จึงถาม: “เฟยเอ๋อคุณป้าเหยาของลูกถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ทำไมลูกไม่บอกพ่อ?”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณพ่ออยากรู้เรื่องนี้!” ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อเย็นชาแล้วพูดต่อ: “เพราะก่อนหน้านี้คุณพ่อบอกว่าไม่อยากเจอเธออีก ดังนั้นฉันเลยไม่บอกคุณ”
เดิมทีโล่ชิงไป๋มีคำถามที่อยากจะถามโล่เฟยเอ๋ออยู่เต็มอก ผลปรากฏว่าถูกประโยคนี้ของโล่เฟยเอ๋อสกัดไว้หมดแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากเจอเห้อจิ้นเหยา แต่พอร่างกายของเขาฟื้นตัว หลังจากที่เขาก็คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด ก็ยังอาลัยอาวรณ์เห้อจิ้นเหยาอยู่
อย่าไรเสียเขาก็รักเห้อจิ้นเหยามานานหลายปี มีความรู้สึกต่อเห้อจิ้นเหยาอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้นโล่ชิงไป๋เชื่อว่าเห้อจิ้นเหยาไม่ได้ทำให้เกิดความสูญเสียใดๆ นอกจากทำให้เขาเป็นโรคหลอดเลือดสมอง
ถ้าเขาไม่สนใจมัน แล้วพลิกคดีให้เห้อจิ้นเหยา ก็คงไม่มีปัญหา
ส่วนความคิดเห็นของโล่เฟยเอ๋อ? จากความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับโล่เฟยเอ๋อ ตราบใดที่โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ว่าเห้อจิ้นเหยาฆ่าไป๋หนิง โล่เฟยเอ๋อจะต้องใจอ่อนแน่นอน
ไม่อย่างนั้นก่อนหน้านี้โล่เฟยเอ๋อก็คงไม่ไปเยี่ยมเห้อจิ้นเหยาแทนเขา แม้กระทั่งมีแนวโน้มเห็นด้วยกับความนัยที่เขาสื่อ
โล่ชิงไป๋ไม่รู้ว่าเลยว่า แผนการที่เขาวางไว้คราวนี้จะพังเพราะโล่เฟยเอ๋อไม่ยอมใจอ่อนแน่นอน
“เฟยเอ๋อ ลูกมีเวลาไหม? มาหาที่โรงพยาบาลหน่อยเถอะ พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูก”
มีเรื่องจะคุยกับเธอ? โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว หลังจากนั้นตอบ: “ฉันจะไปตอนดึกๆ ”
โล่ชิงไป๋รู้สึกแค่ว่าน้ำเสียงของโล่เฟยเอ๋อไม่ค่อยถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
หลังจากได้ยินว่าโล่เฟยเอ๋อเห็นด้วยแล้วจะมาที่โรงพยาบาล จึงวางสายไป
ถึงแม้ว่าจะซื้อของมาครบหมดแล้ว แต่โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมโล่ชิงไป๋ในทันที แต่เอาของกลับไปเก็บที่วิลล่า
หลังจากทานอาหารกลางวันที่วิลล่าแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็จัดการของที่จะนำขึ้นเครื่องบินในวันพรุ่งนี้ จากนั้นนั่งรถไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมโล่ชิงไป๋
เมื่อโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในห้องผู้ป่วยของโล่ชิงไป๋ โล่ชิงไป๋กำลังนั่งพิงหัวเตียงแล้วฟังพยาบาลอ่านนิตยสารเศรษฐกิจให้เขา
พอเห็นโล่เฟยเอ๋อ พยาบาลก็หยุดหลังจากนั้นก็ยิ้มให้โล่เฟยเอ๋อแล้วเอ่ย: “เฟยเอ๋อ คุณมาแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อตอบอืมคำหนึ่งด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ หลังจากนั้นโบกมือให้พยาบาล “คุณออกไปก่อนเถอะ”
พยาบาลพยักหน้า หลังจากนั้นออกจากห้องผู้ป่วยไป
หลังจากพยาบาลออกไป โล่เฟยเอ๋อก็วางกระเป๋าในมือไว้บนโซฟา จากนั้นก็หยิบมีดผลไม้จากโต๊ะกาแฟขึ้นมา แล้วปอกแอปเปิ้ล หั่นเสร็จก็วางใส่จากแล้วมอบให้โล่ชิงไป๋
“คุณพ่อ คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ?”
“ลูกนั่งก่อน” โล่ชิงไป๋ชี้ไปที่เก้าอี้ข้างเตียง
โล่เฟยเอ๋อตอบอืมหนึ่งคำ หลังจากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้
พอโล่ชิงไป๋เห็นโล่เฟยเอ๋อนั่งแล้ว จึงยิ้มกริ่มแล้วเอ่ยปาก “เฟยเอ๋อ พ่ออยากคุยกับลูกเกี่ยวกับเรื่องคุณป้าเหยาของลูก”
เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อ หัวใจของโล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกเย็นวาบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองโล่ชิงไป๋แวบหนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า: “เรื่องอะไรคะ คุณพ่อพูดมาตรงๆ เถอะ”
โล่ชิงไป๋จึงไม่พูดอ้อมค้อมอีกและพูดตรงๆ : “เฟยเอ๋อ ลูกดูสิ คุณป้าเหยาของลูกแค่โกรธพ่อเรื่องบริษัท ตอนนี้พ่อสบายดีแล้ว บริษัทก็ไม่เป็นอะไร ลูกยกโทษให้คุณป้าเหยาเถอะ”
“ยกโทษให้เธอ?” ใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อไร้อารมณ์ ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“ใช่แล้ว ลูกดูสิตลอดหลายปีมานี้คุณป้าเหยาของลูกดูแลลูกดีมากขนาดนี้ ครั้งนี้เธอแค่สติไม่ดี เลยทำผิดพลาดไป…” โล่ชิงไป๋ไม่ทันพูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็เอ่ยตัดบทเขา
“เพราะสติไม่ดี เธอถึงทำร้ายฉันครั้งแล้วครั้งเล่า?”
“โล่เฟยเอ๋อ ลูก…” โล่ชิงไป๋ไม่เข้าใจความหมายของโล่เฟยเอ๋อเล็กน้อย
“เพราะสติไม่ดี เธอเลยฆ่าแม่ของฉัน?”
พอได้ยินคำพูดนี้ของโล่เฟยเอ๋อ รูม่านตาของโล่ชิงไป๋ก็หดลงทันที “ลูกรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”
“ทำไมฉันถึงรู้? ก็เพราะเห้อจิ้นเหยาบอกกับฉันเอง เธอบอกกับฉันว่า โรคหลอดเลือดสมองของคุณ เป็นเพราะได้ยินเธอบอกว่าเธอฆ่าแม่ของฉัน” มุมปากของโล่เฟยเอ๋อยิ้มอย่างเยาะเย้ย
“เธอเป็นคนบอกลูกเอง…” โล่ชิงไป๋พูดประโยคนี้จบ ทันใดนั้นก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างได้แล้วรีบพูดกับโล่เฟยเอ๋ออย่างเป็นกังวล: “เฟยเอ๋อ พ่อไม่รู้เรื่องนี้ พ่อ…”
โล่เฟยเอ๋อไม่คิดจะฟังคำพูดของเขาอยู่แล้ว เพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชาแล้วพูด: “คุณพ่อ คุณนี่รักเธอมากจริงๆ นะ ถึงแม้จะป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองเพราะเธอ ถึงแม้จะรู้ว่าแม่ของฉันถูกเธอฆ่า คุณก็ยังยกโทษให้เธอ”
โล่ชิงไป๋ไม่สามารถพูดอะไรเพื่อหักล้างคำพูดของโล่เฟยเอ๋อได้ ได้แต่รู้สึกเสียใจในใจ ถ้าก่อนหน้านี้เขารู้ว่าโล่เฟยเอ๋อรู้แล้วว่าไป๋หนิงถูกเห้อจิ้นเหยาฆ่า เขาจะไม่ยกเรื่องที่จะให้โล่เฟยเอ๋อปล่อยเห้อจิ้นเหยาไป ตอนนี้โล่เฟยเอ๋อจึงไม่พอใจเขาเรื่องนี้
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นพ่อของโล่เฟยเอ๋อ ถึงโล่เฟยเอ๋อจะไม่พอใจ แต่ก็คงจะลืมได้ไว
พอโล่ชิงไป๋คิดได้แบบนี้ ก็วางใจ
แต่เขากลับไม่รู้ว่า ชีวิตนี้เขาคงไม่ได้รับการยกโทษจากโล่เฟยเอ๋ออีกแล้ว
เพราะครั้งนี้เขาไดเหยียบลงบนฟางเส้นสุดท้ายของโล่เฟยเอ๋อแล้ว
เห้อจิ้นเหยาฆ่าแม่ของเธอ ฆ่าลูกของเธอ แล้วยังทำให้เธอกับซูซีมู่แยกจากกัน(ความไม่สนใจของโล่ชิงไป๋เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน อยากจับปลาสองมือ ผลสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย)
“ฉันไม่มีทางปล่อยเห้อจิ้นเหยา ฉันจะทำให้เธออยู่ไม่สู้ตาย”
ศัตรูที่ฆ่าแม่ ศัตรูที่ฆ่าลูก แล้วยังตัวการสำคัญสร้างเรื่องให้เธอกับซูซีมู่ต้องแยกจากกัน เธอจะปล่อยเธอไปดีๆ ได้อย่างไร? ต้องดังนั้นเห้อจิ้นเหยาสมควรจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ไม่ใช่ประหารชีวิต
พอได้ยินประโยคสุดท้ายที่โล่เฟยเอ๋อบอกว่าอยู่ไม่สู้ตาย กล้ามเนื้อบนใบหน้าของโล่ชิงไป๋ก็สั่นขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
เมื่อดูปฏิกิริยาทั้งหมดของโล่ชิงไป๋ โล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ แค่ถามอย่างเฉยเมยว่า “คุณพ่อมีเรื่องอะไรจะบอกฉันอีกไหมคะ?”
“ไม่มีแล้ว” โล่ชิงไป๋ส่ายหน้า
“ถ้าไม่มีแล้ว ฉันขอตัวก่อน” โล่เฟยเอ๋อลุกขึ้นจากเก้าอี้
พอเห็นโล่เฟยเอ๋อจะไป โล่ชิงไป๋ก็ถามทันที “จะไปตอนนี้เหรอ?”
“มีธุระต้องทำ” โล่เฟยเอ๋อตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
พอได้ยินโล่เฟยเอ๋อบอกว่ามีธุระ โล่ชิงไป๋ก็รั้งเธอไว้ไม่ได้แล้ว จึงพยักหน้า “ในเมื่อมีธุระ ลูกก็ไปเถอะ”
โล่เฟยเอ๋อตอบอืมหนึ่งคำ แล้วหยิบกระเป๋าบนเก้าอี้แล้วเดินออกไป