บทที่ 309 ในที่สุดก็รั้งเขาไว้ได้
โล่เฟยเอ๋อตื่นขึ้นมาจากร่างกายจิตใจอ่อนแอและเหนื่อยล้า เธอกะพริบตาอย่างงงงวยสักครู่ ถึงจะนึกได้ถึงเรื่องเมื่อคืนก่อน
หลังจากซูซีมู่ขับรถออกไปแล้ว เธอเดินไปตามถนนคนเดียว จากนั้นเดินมาได้สักพัก อยู่ ๆ รู้สึกเหนื่อยมาก ๆ ขึ้นมา จากนั้นก็หมดสติไป…..แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?
โล่เฟยเอ๋อกวาดสายตาเพื่อมองไปรอบ ๆ ห้อง ผลคือมองเห็นแผ่นหลังคนที่ยืนอยู่หน้าหน้าต่างบานยาวพอดี
เธอจ้องแผ่นหลังนั้นไม่กี่วินาที จากนั้นจึงเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจ “ซูซีมู่?”
แผ่นหลังซูซีมู่นิ่งไม่ไหวติง จากนั้นหมุนตัวกลับมาช้า ๆ
“ตื่นแล้ว?” น้ำเสียงเย็นชา ฟังอารมณ์ไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเทียบความเฉยเมยของซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อดูจะตื่นเต้นกว่ามาก
เพราะเธอแน่ใจแล้ว เมื่อคืนก่อนเธอจะหมดสติไป ได้ยินเสียง เป็นเสียงของซูซีมู่จริง ๆ
“ซูซีมู่ เมื่อคืนเป็นคุณจริง ๆ? ฉันไม่ได้ฝันไป?”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบเธอ พูดแค่เพียง “ผมไปก่อนแล้ว โจวเฉิงกำลังมาที่นี่แล้ว” หมุนตัวเดินออกห้องพักผู้ป่วยไป
ที่จริงแล้วเขาควรจะไปตั้งแต่แจ้งโจวเฉิงแล้ว แต่ถ้าไม่เห็นโล่เฟยเอ๋อได้สติก่อน เขาก็ไม่วางใจ…..
“ซูซีมู่ คุณอย่าพึ่งไป…..” เห็นซูซีมู่จะไป โล่เฟยเอ๋อลนลาน เธอพลิกผ้าห่มออก ก็ลงจากเตียงตามซูซีมู่ไป
เสียดายที่ร่างกายของเธออ่อนแอเกินไป เท้าพึ่งถึงพื้น ร่างกายก็เซไปข้างหน้า
มือซูซีมู่จับที่ลูกบิดประตู ได้ยินโล่เฟยเอ๋อห้ามไม่ให้เขาไป เขายังไม่ทันได้ทำอะไร ก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
เขาหันกลับไปทันที เห็นโล่เฟยเอ๋อล้มอยู่บนพื้น
ในตอนนั้นเขาจำได้ที่ไหนว่าต้องการเพิ่มระยะห่างกับโล่เฟยเอ๋อ รีบเดินเข้าไป อุ้มโล่เฟยเอ๋อขึ้นมาจากพื้น ถามย่างร้อนใจ “ล้มลงไหน? เจ็บไหม?”
เห็นท่าทางของซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อดีใจขึ้นมาทันที “ซูซีมู่ คุณยังสนใจฉัน”
ได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูด ซูซีมู่เกร็งขึ้นอย่างกะทันหัน สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที วางโล่เฟยเอ๋อลงบนเตียงผู้ป่วย เอ่ยเสียงเรียบ: “ผมต้องไปก่อนแล้ว”
ครั้งนี้ เขายังไม่ทันได้หันกลับไป โล่เฟยเอ๋อเร็วกว่าหนึ่งก้าว คว้าข้อมือของเขาไว้
“ปล่อย” ซูซีมู่ไม่มองโล่เฟยเอ๋อ แค่ออกแรงบิดข้อมือตัวเองออก
แต่โล่เฟยเอ๋อจะปล่อยเขาหลุดไปได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ซูซีมู่หลุดไปได้ เธอใช้สองแขนกอดแขนซูซีมู่ “ไม่ปล่อย”
ซูซีมู่คิ้วขมวด ใช้มืออีกข้างออกแรงแกะแขนโล่เฟยเอ๋อออก
โล่เฟยเอ๋อพบว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ช้าเร็วซูซีมู่ต้องหลุดไปได้แน่
คิดแล้วคิดอีก เธอปล่อยแขนของซูซีมู่อย่างรวดเร็ว จากนั้นเปลี่ยนเป็นกอดเอวซูซีมู่แทน
การกระทำอย่างกะทันหันของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ตอบโต้ไม่ทันอย่างสิ้นเชิง ถูกโล่เฟยเอ๋อกอดไว้จากทางด้านหลัง
เมื่อก่อนตอนที่พวกเขาใกล้ชิดสนิทสนมกัน โล่เฟยเอ๋อกอดเขาแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
ความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน ซูซีมู่เลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง ทั้งร่างราวกับถูกฝังเข็ม หยุดนิ่งไปแล้ว
โล่เฟยเอ๋อเห็นท่าทางของซูซีมู่ ก็รู้สึกย่ามใจเล็กน้อย ว่าวิธีนี้ของตัวเองก็ดี
และซูซีมู่ตอบสนองกลับมาหลังจากตัวเองสั่นคลอนอย่างไม่คาดคิด ความว่างเปล่าบนใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา แววตาก็เพิ่มความโกรธเข้ามาชั้นหนึ่ง
เขาดึงมือโล่เฟยเอ๋อออก ถามด้วยความโกรธ: “โล่เฟยเอ๋อ คุณคิดอะไรอยู่กันแน่?”
เธอบอกทางใครทางมัน ไม่ต้องมาหาเธออีก เขาก็รับฟังแล้วก็ปล่อยมือเธอแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับตามเขามาจากฝรั่งเศสจนถึงสวิตเซอร์แลนด์
เธอคิดอย่างไรกันแน่?
เผชิญหน้ากับคำถามของซูซีมู่ น้ำตาของโล่เฟยเอ๋อก็ไหลพราก
น้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าหยดลงบนเตียงผู้ป่วย แต่กลับแผดเผาใจของซูซีมู่
เขารู้สึกแน่ชัด ไม่ง่ายเลยที่ตัวเองจะทำเป็นใจแข็ง เริ่มอ่อนลงทีละนิด
แม้กระทั่งคิดรวบโล่เฟยเอ๋อมาไว้ในอ้อมกอด แล้วเช็ดน้ำตาแทนเธอ
เขาช่วยไม่ได้จริง ๆ เธอจะเด็ดขาดขนาดนั้นในตอนแรก แต่เขาก็ยังใจอ่อนแล้ว
แน่นอนว่าไม่ได้เข้าไปกอดโล่เฟยเอ๋อ พูดเพียง: “ไม่ต้องร้องแล้ว”
ได้ยินเขาพูด โล่เฟยเอ๋อเงยหน้าทันที ถามเขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า “งั้นคุณไม่ไปได้ไหม”
ซูซีมู่มองเธอไม่กี่วินาที สุดท้ายก็ยอมประนีประนอม ตัดสินก่อนที่โจวเฉิงจะมา ไม่ไป
“ก่อนโจวเฉิงจะมา ผมไม่ไป”
โล่เฟยเอ๋อไม่พอใจในคำตอบของซูซีมู่ แต่ว่าพอมาคิดดี ๆ ให้ซูซีมู่อยู่ต่อก่อน แล้วเธอก็ห้ามโจวเฉิงไม่ได้มา ซูซีมู่ก็อยู่ต่อไปได้แล้ว
มีคมคิดในใจแล้ว สภาพจิตใจก็ดีขึ้น โล่เฟยเอ๋อคลี่ยิ้มบนใบหน้า “พูดแล้วนะ ห้ามหลอกฉัน”
เห็นรอยยิ้มโล่เฟยเอ๋อ มุมปากของซูซีมู่ก็ยกขึ้น จากนั้นก็นึกอะไรออก ก็กลับสู่สภาพเดิม
แต่โล่เฟยเอ๋อเห็นซูซีมู่ไม่พูด คิดว่าเขาเสียใจ รีบลุกจากเตียงผู้ป่วย เตรียมลงจากเตียงดึงซูซีมู่ไว้ ผลคือเธอลืมข้อเท้าที่เคล็ดก่อนหน้านี้
“ซี้ด…..”
ซูซีมู่เดินมาหาทันที พยุงเธอ “เท้ายังไม่หายดี อยู่ไม่สุขอะไร?”
“ฉันลืมไป” โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างไร้เดียงสา
ข้อเท้าของเธอเอง ลืมไป?
ซูซีมู่เห็นฉากท่าทางน่าสงสารของเธอ ก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอ แค่อุ้มเธอกลับเตียงผู้ป่วย จากนั้นเลิกขากางเกงเธอขึ้น ตรวจดูสภาพข้อเท้าของเธอ
เห็นข้อเท้าเธอดูเหมือนว่าจะบวมขึ้นมาอีก ซูซีมู่ขมวดคิ้ว “ผมจะไปเรียกหมอ”
โล่เฟยเอ๋อกลัวซูซีมู่ออกไปจากห้องแล้ว จะไม่กลับมา ดึงมือซูซีมู่ไว้
ซูซีมู่มองเธอ สุดท้ายก็ยอมแพ้ ไม่ออกไปจากห้อง แต่กดกระดิ่งในห้องเรียกหมอ
หมอรีบมาในไม่ช้า ตรวจดูข้อเท้าให้โล่เฟยเอ๋อ แน่ใจว่าเพราะโล่เฟยเอ๋ออยู่ไม่สุข ทำให้อาการบาดเจ็บข้อเท้าร้ายแรงขึ้นมาอีกเล็กน้อย
ทิ้งเหล้ายาหนึ่งขวดกับคำแนะนำจากแพทย์ไว้แล้วก็จากไป
โล่เฟยเอ๋อที่ทำผิด ราวกับหญิงที่แต่งงานเร็วถูกโขกสับ ก้มหน้าลงไม่กล้าพูด
ซูซีมู่เปิดขวดยาโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วนวดเท้าให้เธอ
เหล้ายานวดเท้าเจ็บมาก แต่โล่เฟยเอ๋อกลัวซูซีมู่โกรธ จึงทำได้แค่อดทน แต่เท้าก็สั่นโดยไม่รู้ตัว
ซูซีมู่เงยหน้ามองเธอ ไม่พูดอะไร แต่แรงที่นวดเท้าเบาขึ้นไม่น้อย
หลังจากนวดเท้า ซูซีมู่ห่มผ้าให้เธอ จากนั้นก็หยิบเอาขวดยาลุกขึ้น
โล่เฟยเอ๋อยื่นมือดึงมือของเขาไว้ เรียกชื่อเขาอย่างระมัดระวัง “ซูซีมู่……”
ซูซีมู่หันกลับมามองเธอ เอ่ยเสียงเรียบ: “ผมจะไปล้างมือ”
“อ่อ” โล่เฟยเอ๋อถึงเก็บมือกลับมา
รอซูซีมู่เข้าห้องน้ำไปแล้ว โล่เฟยเอ๋อลุกนั่งบนเตียงทันที
มองไปทางห้องน้ำก่อนจะหยิบกระเป๋าตัวเองจากโต๊ะข้างเตียงมาเปิดแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา
จากนั้นส่งข้อความหนึ่งถึงโจวเฉิง “คุณโจวฉันกำลังคิดวิธีรั้งซูซีมู่ไว้ คุณอย่ามาหาฉัน”