บทที่ 314 กลับประเทศแล้ว
พอบอกว่ากลับประเทศ ก็กลับประเทศทันที
ซูซีมู่รีบโทรศัพท์จองตั๋วเครื่องบินกลับเมืองA หลังจากนั้นก็พาโล่เฟยเอ๋อกลับมาเก็บกระเป๋าเดินทางที่โรงแรม จัดการคืนห้องพัก แล้วค่อยเรียกรถไปสนามบิน
พอถึงสนามบินก็เป็นเวลาขึ้นเครื่องพอดี ทั้งคนสองคนรีบเช็คอิน จากนั้นก็ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยและขึ้นเครื่องบิน
สิบห้าชั่วโมงต่อมา เครื่องบินลงจอดที่สนามบินนานาชาติเมืองA
เพราะว่าไม่ได้บอกใครว่าพวกเขากลับมา ดังนั้นจึงทำได้เพียงเรียกรถแท็กซี่
พอขึ้นรถ คนขับรถแท็กซี่ก็ถาม “ทั้งสองท่านจะไปที่ไหนครับ?”
โล่เฟยเอ๋อบอกที่อยู่ของวิลล่าไปเรียบๆ โดยไม่คิดอะไร
ซูซีมู่ก็ไม่พูด กับว่ายอมรับคำพูดของเธอ
ภายในวิลล่าไม่มีคน แม้กระทั่งคนรับใช้ก่อนหน้านี้ก็ไม่อยู่ ซูซีมู่ขมวดคิ้ว
โล่เฟยเอ๋อเธอดูความคิดของเขาออก จึงยิ้มแล้วเอ่ย: “เพราะว่าฉันไม่รู้ว่าต้องไปฝรั่งเศสนาแค่ไหน ก็เลยให้ทุกคนกลับคฤหาสน์ตระกูลซูแล้ว”
“อืม” ซูซีมู่พยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่อ
โล่เฟยเอ๋อยิ้มให้เขา จากนั้นลากซูซีมู่ไปที่ห้องของเขา
หลังจากซูซีมู่จากไป เธอก็พักอยู่ในห้องของเขามาโดยตลอด จนเริ่มคุ้นเคยแล้วและวางแผนว่าหลังจากนี้ต่อไปที่จะอยู่กับเขาที่นี่
แต่เธอไม่รู้ว่าพฤติกรรมของเธอสำหรับซูซีมู่แล้ว เป็นการผลักเขาออกจากห้องของเธอ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้คัดค้านใดๆ แต่การแสดงออกของซูซีมู่ก็ค่อนข้างเย็นชาแล้วเล็กน้อย
โล่เฟยเอ๋อไม่ทันสังเกตถึงสีหน้าและอารมณ์ของเขา หลังจากลากเขาเข้ามาในห้อง จึงถาม “นายจะอาบน้ำไหม? ให้ฉันเปิดน้ำให้ไหม?”
“ฉันทำเอง” เขาเอ่ยอย่างเรียบๆ
“อืม ได้ ฉันจะจัดกระเป๋าเดินทางสักหน่อย” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วเปิดกระเป๋าเดินทาง จากด้านหยิบเสื้อผ้าที่ซูซีมู่จะต้องใส่หลังอาบน้ำขึ้นมาและส่งให้เขา จากนั้นก็เริ่มหยิบของทีละอย่างออกมาจากกระเป๋าเดินทาง
ซูซีมู่มองแผ่นหลังที่จัดกระเป๋าเดินทางอยู่ของเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งแวบหนึ่ง หลังจากนั้นหมุนตัวเข้าไปในห้องน้ำ
พอเขาออกมาจากห้องน้ำ โล่เฟยเอ๋อก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว
ถึงแม้จะคาดเดาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่สายตาของซูซีมู่ก็ยังคงเยียบเย็นเล็กน้อย
เธอบอกว่าจะเริ่มต้นใหม่ เขาก็รับไว้อย่างดีใจ
กลับคิดไม่ถึงว่า สิ่งที่กลับมาเผชิญหน้า ก็ยังคงเป็นห้องที่เยียบเย็น
ตามมาด้วยเสียงผลักประตู แล้วเสียงของโล่เฟยเอ๋อก็ดังขึ้นมา “ซูซีมู่ นายอาบน้ำแล้วเหรอ?”
ซูซีมู่ได้สติกลับมา แล้วตอบ “อาบแล้ว”
“อาบแล้ว พวกเราก็ออกไปจ่ายตลาดกันเถอะ” เธอไปที่ห้องครัวแล้วตั้งใจตรวจสอบเป็นพิเศษ ในตอนที่คนรับใช้กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลซูก็ได้ล้างตู้เย็นแล้ว เธอจึงอยากไปจ่ายตลาดกับซูซีมู่ จากนั้นกลับมาทำอาหารให้ซูซีมู่ทานและทำให้เขาประหลาดใจ
เธอกลับไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของเธอ ทำให้ซูซีมู่นึกถึงตอนที่อยู่วิลล่าหลันถิงในครั้งก่อน ที่เขาทำอาหารเพื่อเธอ ผลปรากฏว่ารอมาสองวันหนึ่งคืน เธอก็ไม่มา
ทันใดนั้นซูซีมู่ก็รู้สึกกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย หลังจากนั้นเอ่ยเรียบๆ ว่า: “เรียกเดลิเวอรี่เถอะ”
ความตื่นเต้นดีใจที่มีอยู่เต็มอกของโล่เฟยเอ๋อ ถูกคำพูด‘เรียกเดลิเวอรี่เถอะ’ของซูซีมู่ทำให้จางหายไป
พวกเขานั่งเครื่องบินมาสิบห้าชั่วโมง เกรงว่าซูซีมู่คงจะเหนื่อยมากแล้วถึงพูดแบบนี้ พอกลับมาคิดทบทวนดูจึงได้วางใจ
“อย่างนั้นฉันโทรเรียกเดลิเวอรี่ก่อน” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าแล้วเดินลงบันไดไป
โล่เฟยเอ๋อโทรสั่งอาหารที่ซูซีมู่ชอบ เมื่อตัดสายโทรศัพท์แล้ว ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นข้อความที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน เธอเปิดดูแวบหนึ่ง ก็พบว่าเป็นการตอบกลับข้อความที่เธอส่งให้โจวเฉิงเมื่อสองวันก่อนนั่นเอง
ตอนนี้เธอเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมโจวเฉิงไว้ที่สวิตเซอร์แลนด์แล้ว ถึงรีบโทรศัพท์ไปหาโจวเฉิง
โจวเฉิงคงกำลังหลับอยู่ เสียงถึงได้ดูสะลึมสะลือ “ฮัลโหล?”
“คุณโจว ฉันเอง” โล่เฟยเอ๋อตอบ
ครั้งนี้เสียงของโจวเฉิงดูชัดเจนขึ้น “คุณนาย มีเรื่องอะไรหรือครับ?”
โล่เฟยเอ๋อเอ่ยอย่างดีใจ “คุณโจว ฉันกับซูซีมู่ดีกันแล้ว…”
“อย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับคุณนายด้วยครับ” น้ำเสียงของโจวเฉิงเต็มไปด้วยความสุข
“ขอบคุณค่ะ” โล่เฟยเอ๋อเอ่ยขอบคุณ หลังจากนั้นบอก: “วันนี้พวกเรากลับประเทศแล้ว ตอนคุณกลับมา ช่วยเอากระเป๋าเดินทางของฉันกลับมาให้หน่อยนะ”
ทางด้านโจวเฉิงเงียบไปสักพักแล้วเอ่ย “คุณนาย กระเป๋าเดินทางของคุณ ผมสามารถส่งกลับมาให้คุณได้”
“ส่งกลับมา? คุณเอากลับมาด้วยก็ได้นี่? กระเป๋าเดินทางของฉันไม่เยอะ…” พอพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ โล่เฟยเอ๋อก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
วันนั้นที่เธอวิ่งออกมาจากการแข่งขัน จึงได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดกับซูซีมู่พอดี บอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องอยู่ข้างกายซูซีมู่แล้ว
เธอรู้ เพราะว่าซูซีมู่โกรธที่โจวเฉิงช่วยเหลือเธอ ถึงได้พูดแบบนั้น
ทันใดนั้นก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย “คุณโจว คุณกลับมาเถอะ เรื่องนี้ต้องโทษฉัน ฉันจะพูดกับซูซีมู่ให้ชัดเจน…”
โล่เฟยเอ๋อไม่ทันพูดจบ โจวเฉิงก็ขัดจังหวะเธอ
“คุณนาย คุณอย่าพูดกับประธานซูเลย ผมเป็นคนของประธานซู แต่ไม่ปฏิบัติตามฐานะเดิมของผม ประธานซูไม่ต้องการผม ก็สมควรแล้ว”
“คุณโจว คุณอย่าพูดแบบนี้ ฉันจะคุยกับเขาให้รู้เรื่อง” พอพูดประโยคนี้เสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็ไม่รอให้โจวเฉิงตอบและวางสายโทรศัพท์ไป
ในช่วงเวลาอาหารเย็น โล่เฟยเอ๋อไม่รู้จะเอ่ยปากอย่างไร
“ซูซีมู่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
ซูซีมู่หยุดกินข้าวไปสักพักแล้วถาม “เรื่องอะไร?”
“คือว่า…คือว่าคุณโจว…” โล่เฟยเอ๋อหยุดไปสักพักแล้วพูดต่อ: “ก่อนหน้านี้ที่เขาช่วยฉัน เป็นเพราะฉันบังคับเขา…”
โล่เฟยเอ๋อยังไม่ทันพูดจบ ซูซีมู่ก็พูด‘อืม’ออกมาคำหนึ่ง
“อะไร?” โล่เฟยเอ๋อยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ
“ฉันจะโทรศัพท์ให้เขากลับมา” ซูซีมู่เอ่ยอย่างราบเรียบ
“จริงเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อดวงตาเปล่งประกาย หลังจากนั้นพูดอย่างดีใจว่า: “ซูซีมู่ ขอบคุณนะ”
ซูซีมู่เงยหน้า มองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นตอบ‘อืม’หนึ่งคำ แล้วกินข้าวต่อ
หลังจากทานอาหารเสร็จ โล่เฟยเอ๋อก็จัดการเก็บกวาดห้องครัว แล้วจึงกลับไปอาบน้ำที่ห้องตนเอง
ช่วยไม่ได้ เสื้อผ้าที่ตนเองย้ายมาไว้ในห้องของซูซีมู่เหล่านั้น ล้วนเอาติดตัวไปที่ฝรั่งเศสหมดแล้ว
ในห้องของซูซีมู่ไม่มีเสื้อผ้าของตนเองแล้ว เธอทำได้เพียงกลับไปอาบน้ำที่ห้องของตนเอง
เธอกลับไม่รู้ว่า เพราะความบังเอิญนี้ ได้ทำให้ใจของซูซีมู่ยิ่งหนาวเหน็บ
หลังจากที่รอเธออาบน้ำเสร็จ ตอนที่ไปหาซูซีมู่นั้น ซูซีมู่ก็ได้หลับไปแล้ว
โล่เฟยเอ๋อคิดว่าซูซีมู่เพียงแค่เหนื่อยเกินไปแล้ว จึงไม่ได้คิดอะไรแล้วนอนลงข้างกายเขาโดยดี
นอนได้สักพัก ก็ลุกขึ้นมานั่ง มองซูซีมู่แวบหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยิ้มมุมปากและเปิดผ้าห่มของซูซีมู่ออก แล้วเข้าไปนอนใกล้ๆ ร่างของซูซีมู่และหลับตาใหม่อีกครั้ง
ตั้งแต่กลับมาจากสวิตเซอร์แลนด์จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้พักเลยสักนิด ไม่นานโล่เฟยเอ๋อก็หลับลึกไป
ซูซีมู่รอจนกว่าเธอจะหายใจยืดยาว แล้วจึงก้มหน้าลงเล็กน้อย อาศัยแสงไฟยามค่ำคืนภายในห้อง มองใบหน้าที่หลับใหลอยู่ของเธอและยื่นมือออกมาสัมผัสใบหน้าของเธอ แล้วก็พบว่าสัมผัสนั้นเป็นของจริง จากนั้นก็เบนสายตาไปที่เพดาน จ้องมองสักพัก แล้วเปิดผ้าห่มออกและลุกจากเตียงเงียบๆ สวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกจากห้องนอนไป…