บทที่ 328 ปกป้องภรรยา
เสียงของซูซีมู่ดังมาจากโทรศัพท์ “เฟยเอ๋อ คุณออกมาหรือยัง?”
“พอดีมีธุระนิดหน่อยทำให้ล่าช้า ลงไปเดี๋ยวนี้แหละ” โล่เฟยเอ๋อตอบ
“อืม ผมใกล้ถึงแล้ว อีกไม่กี่นาทีก็ถึง”
โล่เฟยเอ๋อตอบออกมาว่า‘ ได้’แล้ววางสายลง เห็นจางเจียเจียยังยืนอยู่ที่เดิม จึงพูดขึ้นว่า:“เจียเจีย ฉันไปก่อนนะ”
“ออ”เจียเจียพยักหน้า แล้วพูดขึ้นว่า:“ฉันไปพร้อมกับเธอดีกว่า”
“ได้” โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ปฏิเสธ กลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง หยิบกระเป๋าขึ้นมา แล้วออกไปบริษัทพร้อมกับจางเจียเจีย
หลังจากที่ออกมาถึงหน้าบริษัทแล้ว ทั้งสองแยกกันไปคนละทาง โล่เฟยเอ๋อเดินข้ามไปถนนตรงข้าม ส่วนจางเจียเจียไปที่ป้ายรถเมล์ทางด้านขวา
ระยะไม่ห่างไกลกันมาก จางเจียเจียยืนรอที่ป้ายรถเมล์ สามารถมองเห็นโล่เฟยเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างถนน เหมือนกำลังรอใครอยู่
เวลาผ่านไปประมาณสองนาที เธอเห็นรถเบนซ์สีเงินจอดอยู่ตรงหน้าของโล่เฟยเอ๋อ
จากนั้นเธอเห็นโล่เฟยเอ๋อขึ้นไปในรถพร้อมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของจางเจียเจียมืดมนลงทันที เต็มไปด้วยความอิจฉาและความไม่พอใจแฝงอยู่
ถูกต้อง เธออิจฉาโล่เฟยเอ๋อ
ก่อนหน้านี้ตอนที่โล่เฟยเอ๋อเข้ามาทำงานในบริษัท เธอรู้สึกว่าเธอกับโล่เฟยเอ๋อเหมือนกัน รู้สึกว่ามีโชคชะตาที่เหมือนกัน
และตอนที่ถังหซิวฉีใส่ร้ายโล่เฟยเอ๋อนั้น เธอก็ยังช่วยโล่เฟยเอ๋อแก้ต่าง
หลังจากเหตุการณ์นั้น โล่เฟยเอ๋อได้เลี้ยงเธอกินข้าว
และในเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้จางเจียเจียเริ่มอิจฉาในตัวโล่เฟยเอ๋อขึ้นมา
ครั้งนั้น ระหว่างทางโล่เฟยเอ๋อได้เจอกับลู่ยู่กับเหซิงโม่
จางเจียเจียสังเกตได้จากรถที่พวกเขาขับ เสื้อผ้าที่พวกเขาใส่ สามารถรู้ได้เลย พวกเขาต้องไม่ใช่คนรวยธรรมดาแน่นอน
ในเวลานั้นทั้งๆที่เธอยืนอยู่ด้วยกันกับโล่เฟยเอ๋อ แต่โล่เฟยเอ๋อกลับไม่ได้ทำการแนะนำเธอให้พวกเขารู้จักเลย
ยังมีหน้าบอกว่าพวกเธอเป็นเพื่อนกันอีก!ห่วยแตกที่สุด เพื่อนจะดูถูกเพื่อนด้วยกันเหรอ?
เธอไม่น่าช่วยเหลือเธอเลย!
ครั้งนี้เห็นคาริน่าเรียกจางเจียเจียเข้าไปในออฟฟิศทำงาน ทำให้จางเจียเจียยิ่งรู้สึกอิจฉา
เธอไม่รู้ลงทุนไปเท่าไหร่ กว่าจะเข้ามาทำงานในออฟฟิศนี้ได้?
ปรากฏว่าเป็นได้แค่ผู้ช่วยดีไซเนอร์เล็กๆเท่านั้นเอง
และทำไม โล่เฟยเอ๋อที่เคยออกไปจากบริษัทแล้ว เมื่อกลับมาทำงานอีก คาริน่ากลับให้ความสำคัญเธอเป็นอย่างมาก?
และยังเป็นดีไซเนอร์ที่อาจารย์คาริน่าจะฝึกด้วยตัวเองอีกด้วย
แล้วยังจะโกหกเธออีกว่าคาริน่าไม่ได้เป็นครูของเธอ
โล่เฟยเอ๋อคิดว่าเธอโง่มากใช่ไหม?
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ โล่เฟยเอ๋อเข้ามาทำงานในบริษัทยังไม่ถึงครึ่งเดือนเลย ก็ได้ภาพออกแบบของลูกค้าที่ส่งมาจากแผนกการตลาดแล้ว และมีสิทธิที่จะช่วยลูกค้าออกแบบภาพด้วย
นี่คือสิ่งที่จางเจียเจียยอมรับไม่ได้ที่สุด
ดังนั้นเธอจึงใช้ประโยชน์จากความอิจฉาของยี่ขื่อเว่ย ที่มีต่อโล่เฟยเอ๋อ และจงใจเปิดเผยให้ยี่ขื่อเว่ยรู้ ว่าโล่เฟยเอ๋อมีภาพออกแบบของลูกค้าที่ส่งมาจากแผนกการตลาด
เป็นไปตามอย่างที่เธอคิด ยี่ขื่อเว่ยได้ไปหาเรื่องโล่เฟยเอ๋อ และยังทำให้ผู้อำนวยการรับรู้ถึงเรื่องนี้อีก
เมื่อเห็นตอนที่โล่เฟยเอ๋อถกเถียงกับผู้อำนวยการนั้น เธอรู้สึกดีใจมาก คิดว่าครั้งนี้ผู้อำนวยการคงไม่ปล่อยให้เธอทำงานต่ออีกแน่นอน
แต่ทำไม โล่เฟยเอ๋อถึงไม่เป็นไรเลย?
ต้องเป็นอาจารย์คาริน่าปกป้องเธอไว้แน่! ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!
จางเจียเจียมองไปตรงข้ามถนนที่โล่เฟยเอ๋อยืนอยู่เมื่อกี้ ดวงตาได้ฉายแสงความเกลียดชังออกมา
ครั้งนี้เธอรอด หวังว่าครั้งต่อไปก็จะรอดพ้นได้เหมือนครั้งนี้เหมือนกัน……
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ ว่าจางเจียเจียที่เธอนับเป็นเพื่อนด้วยจะเกลียดเธอเพราะความอิจฉา เวลานี้เธอและซูซีมู่กำลังอยู่บนถนนหยู้ผินเซียง
เมื่อกี้ก่อนจะขึ้นรถ ส้ายหลินน่าได้โทรศัพท์หาซูซีมู่
บอกว่าพรุ่งนี้เธอจะกลับฝรั่งเศสแล้ว อยากเลี้ยงเขากับโล่เฟยเอ๋อกินข้าวก่อนกลับ
ดังนั้นพวกเขาจึงเลี้ยวรถกลับ เพื่อไปซินหยูจู
โล่เฟยเอ๋อที่นั่งข้างคนขับพูดขึ้นอย่างเกรงใจว่า:“ ให้ฉันกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ดีกว่าไหม ”
“ไม่ต้อง” ซูซีมู่เอียงหน้ามองมา แล้วตอบ
“อะไรไม่ต้อง?ฉันแต่งตัวแบบนี้ไม่เหมาะสม ”โล่เฟยเอ๋อก้มมองเสื้อผ้าตัวเอง ขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา
เมื่อก่อนเธอเป็นภรรยาแค่ในนามของซูซีมู่เท่านั้น ไม่ได้คิดว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งนั้นจริงๆ ดังนั้นเธอจึงทำตัวตามสบาย
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เธอได้กลายเป็นภรรยาที่แท้จริงของซูซีมู่แล้ว
เธอสนใจว่าคนอื่นมองเธอยังไง และก็สนใจว่าคนอื่น จะมองซูซีมู่ยังไงเหมือนกัน
“ดีมาก” ซูซีมู่ยังคงตอบออกมาสั้นๆเช่นเคย
แต่โล่เฟยเอ๋อกลับไม่พอใจ เธอถามออกมาอย่างขุ่นเคือง“ฉันแต่งตัวอย่างกับขอทาน ไปกินข้าวกับเพื่อนคุณจะดีเหรอ?คุณไม่กลัวฉันจะทำให้คุณขายหน้าต่อหน้าเพื่อนคุณเหรอ?”
ซูซีมู่ตะลึงไปสักครู่ แล้วยื่นมือข้างหนึ่งออกมา ลูบไล้ผมของโล่เฟยเอ๋อเบาๆ จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า:“เฟยเอ๋อ ไม่ว่าคุณจะแต่งตัวเหมือนขอทานหรือไม่ ถึงแม้จะเป็นขอทานจริงๆ ผมพาคุณไป ผมก็ไม่รู้สึกขายหน้าหรอก”
ได้ยินคำพูดนี้ของซูซีมู่แล้ว ความโกรธของโล่เฟยเอ๋อหายสาบสูญไปทันที เหลือแต่ความนุ่มละมุนในใจ
“ซูซีมู่ ขอโทษด้วย ฉันไม่ควรอารมณ์เสียใส่คุณ ”
“ไม่เป็นไร คุณทำตัวสบายๆเมื่ออยู่ต่อหน้าผม”ซูซีมู่ตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
โล่เฟยเอ๋อตอบกลับเสียงเบา ‘อืม’จากนั้นเอาหน้าไปอิงไว้ที่ไหล่ของซูซีมู่
ซูซีมู่ก้มหน้ามองไปที่เธอ สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็ถึงหยู้ผินเซียง
หลังจากที่เข้าไปในห้องแล้ว ปรากฏว่าในห้องนอกจากส้ายหลินน่าแล้วยังมีผู้ชายอีกคนที่แต่งตัวภูมิฐานนั่งอยู่ด้วย
เมื่อส้ายหลินน่าเห็นพวกเขา รีบดึงชายหนุ่มให้ยืนขึ้น ทักทายกับพวกเขาทันที
“ซู พวกคุณมาแล้ว”
ซูซีมู่พยักหน้า ถือว่าตอบรับ ส่วนโล่เฟยเอ๋อตอบกลับอย่างมีมารยาท “คุณส้ายหลินน่า”
ส้ายหลินน่าพยักหน้า จากนั้นชี้ไปที่ชายหนุ่ม แล้วแนะนำตัวกับโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อ ขอแนะนำตัวก่อน คนนี้เป็นแฟนฉันเอง ชื่อคือรุ่ย”
ส้ายหลินน่าได้เน้นเสียงหนักเป็นพิเศษกับคำว่า แฟน ซึ่งทำให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกเขินอายเล็กน้อย
“หวัดดีค่ะคุณคือรุ่ย”
ส้ายหลินน่าหัวเราะออกมา แล้วพูดกับซูซีมู่ว่า:“ฮาฮา ซู ฉันคิดว่าเฟยเอ๋อของคุณจะแสดงความเป็นเจ้าของในตัวคุณออกมาอย่างเต็มที่เสียอีก?คิดไม่ถึงว่าจะน่ารักขนาดนี้ ”
เมื่อได้ยินคำพูดของส้ายหลินน่า ใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อแดงก่ำขึ้นทันที เมื่อโล่เฟยเอ๋อนึกถึงตอนที่เธอไปหาส้ายหลินน่าเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของของซูซีมู่ครั้งนั้น
แน่นอนซูซีมู่ต้องปกป้องโล่เฟยเอ๋ออยู่แล้ว มองไปที่ส้ายหลินน่าด้วยสายตาเฉยชา “ส้ายหลินน่า หรือว่าจะให้พูด เรื่องที่คุณเคยทำในอดีต ออกมา?”
“ซู ถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน คุณข่มขู่ฉันอย่างนี้ฉันรู้สึกเสียใจมาก” ส้ายหลินน่าทำสีหน้าเหมือนคนที่ใจแตกสลาย
โล่เฟยเอ๋อคิดไม่ถึงเมื่อกี้ส้ายหลินน่ายังทำตัวเป็นสาวแกร่งอยู่เลยจู่ๆก็กลายเป็นเด็กน้อยขึ้นมา ทำให้เธอปรับอารมณ์ไม่ทันจริงๆ
ซูซีมู่ไม่ได้ให้ความสนใจส้ายหลินน่า ดึงโล่เฟยเอ๋อที่ยังอยู่ในอาการตะลึง ให้นั่งลงข้างเขา “อย่าไปสนใจเธอ”
เมื่อส้ายหลินน่าเรียกความสนใจจากซูซีมู่ไม่ได้ จึงต้องไปเรียกความสนใจจากแฟนตัวเอง “ที่รัก คุณดูสิ ซูรังแกฉันอีกแล้ว”
“เด็กดี คุณยังมีผม” คือรุ่ยกอดส้ายหลินน่าและเกลี้ยกล่อมเธอ
ส้ายหลินน่าจูบลงไปที่ปากของคือรุ่ย แล้วเอามือจับลงไปที่ใบหน้าของเขาแล้วพูดขึ้นว่า:“ ที่รักของฉันดีที่สุดเลย”
มองไปที่ส้ายหลินน่ากับคือรุ่ยที่จูบกันโดยไม่ต้องแคร์คนรอบข้าง ทำให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
ดูเหมือนเธอกับซูซีมู่จะไม่เคยแสดงความรักแบบนี้กันมาก่อนเลย และอีกอย่างเธอกับซูซีมู่ก็ไม่มีชื่อเรียกที่ใกล้ชิดกันแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน