บทที่ 338 ซูซีมู่รู้เท่าทันแผนร้ายของซูยุ่น
พอคิดได้แบบนี้ ซูยุ่นก็เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว
เธอเห็นว่าโล่เฟยเอ๋อกำลังคุยกับเหซิงถิงอยู่โดยที่ไม่ได้สนใจเธอ
เธอจึงแอบหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องที่เธอส่งรูปภาพให้ซูซีมู่ก่อนหน้านี้ออกมา
จากนั้นเปิดเครื่อง แล้วกดแทบข้อความ จากนั้นพิมพ์ข้อความลงบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว: รูปพวกนี้ฉันเพิ่งถ่ายเองเมื่อกี้ ถ้าหากคุณไม่เชื่อล่ะก็ ฉันยังมีอีกหลายรูป
หลังจากที่ส่งข้อความเสร็จ ซูยุ่นก็ได้ยินเสียงติ๊งต๊องดังขึ้นแล้วก็เห็นซูซีมู่ที่กำลังคุยอยู่กับเหซิงโม่คว้าโทรศัพท์มือถือออกมา
เธอถึงได้วางใจแล้วปิดโทรศัพท์มือถือใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วเอาโทรศัพท์มือถือใส่ลงในกระเป๋า
แต่เธอไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าตอนที่เธอก้มหน้าวางโทรศัพท์มือถืออยู่นั้น ซูซีมู่เหลือบมองไปทางเธอแวบหนึ่ง
ซูซีมู่เก็บสายตากลับไปแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็พูดกับเหซิงโม่ที่อยู่ตรงหน้าว่า: “ตอนนี้ฉันมีธุระสำคัญ พรุ่งนี้นายมาหาฉันที่สำนักงานแล้วพวกเราค่อยคุยกันใหม่”
เหซิงโม่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามชะงักไปสักพักแล้วพยักหน้า “ได้ พรุ่งนี้ฉันจะไปหานาย”
ซูซีมู่ตอบแค่ ‘อืม’ หนึ่งคำก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงหน้าโล่เฟยเอ๋อ “เฟยเอ๋อ ไปกันเถอะ”
โล่เฟยเอ๋อที่กำลังพูดคุยอยู่กับเหซิงถิงก็หันมามองเขา “คุยเสร็จแล้วเหรอ?”
“มีธุระน่ะ พวกเราต้องกลับก่อนแล้ว” ซูซีมู่ตอบอย่างเรียบๆ
โล่เฟยเอ๋อร้อง ‘อ้อ’ คำหนึ่งจากนั้นบอกกับเหซิงถิงและซูยุ่นว่า: “อย่างนั้นพวกเรากลับก่อนแล้ว ไว้คราวหน้าค่อยเจอกันใหม่”
“ไว้เจอกันอีก” เหซิงถิงพยักหน้าอย่างมีความสุข
ส่วนซูยุ่นที่กำลังกินปูนร้อนท้องอยู่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ตอบ ‘อืม’
ทางด้านโล่เฟยเอ๋อก็ไม่ได้สังเกตว่าเธอผิดปกติ ลุกขึ้นจากนั้นก็ตามซูซีมู่ออกไป
พอออกมาจากร้านกาแฟแล้ว ซูซีมู่ก็พาโล่เฟยเอ๋อกลับวิลล่า
ในตอนที่กำลังเดินเข้าบ้าน คนรับใช้ก็กำลังเตรียมทำอาหารเย็นพอดี
ซูซีมู่ถอดเสื้อนอกออก จากนั้นพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินเข้าห้องครัวไป
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อคิดที่จะเข้าห้องครัวไปช่วยเขา แต่ก็โดนซูซีมู่ไล่ให้ออกไป
วันนี้ซูซีมู่ทำอาหารจานโปรดของโล่เฟยเอ๋อไว้เต็มโต๊ะ จากนั้นทั้งสองก็นั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุข
พอทานอาหารเสร็จ ซูซีมู่ก็มานั่งดูทีวีเป็นเพื่อนโล่เฟยเอ๋อที่ห้องรับแขก
อาจจะเป็นเพราะวันนี้เดินเที่ยวเล่นจนเหนื่อย โล่เฟยเอ๋อดูทีวีได้สักพักก็นอนหลับไปแล้ว
ซูซีมู่จึงอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพาขึ้นไปไว้ที่เตียงบนห้อง จากนั้นเขาก็เปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนชุดและออกไปจากห้อง
พอมาถึงที่ชั้นล่าง ก็เห็นคนรับใช้อยู่ที่ห้องรับแขกพอดี เขาจึงสั่งกำชับคนรับใช้เล็กน้อย ก่อนจะออกจากวิลล่าไปอย่างรีบร้อน
ตกดึกหลังจากที่รอให้โล่เฟยเอ๋อหลับไปแล้ว ซูซีมู่ที่นอนอยู่ในตอนแรกก็เปิดผ้าห่มออกจากนั้นลุกขึ้น
หลังจากที่ซูซีมู่ขับรถออกมาจากวิลล่า เขาก็ตรงดิ่งมาที่โรงแรมบั้นเต๋า
ในตอนที่ไปถึง โจวเฉิงก็กำลังรอเขาอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม
“ประธานซู คุณมาแล้ว”
ซูซีมู่ตอบแค่ ‘อืม’ จากนั้นก็เป็นฝ่ายเดินเข้าโรงแรมก่อนอย่างเปิดเผย
ส่วนโจวเฉิงก็รีบก้าวตามไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่กดลิฟต์ให้ซูซีมู่แล้วก็ถอยกลับมาอยู่ข้างหลังซูซีมู่
เมื่อลิฟต์เปิดออก ซูซีมู่ก็ก้าวเข้าไปโดยมีโจวเฉิงก้าวตามและลิฟต์ก็ปิดลง
จากนั้นก็ขึ้นไปและหยุดลงที่ห้องเพรสซิเดนเชียล สวีทบนชั้นสูงสุด
โจวเฉิงพาซูซีมู่เดินเลี้ยวไปสักพัก จากนั้นก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง 1001
“ประธานซู ที่นี่แหละครับ”
ซูซีมู่ตอบอย่างราบเรียบ: “เคาะประตู”
โจวเฉิงพยักหน้าก่อนจะเคาะประตูสองครั้ง
ที่ด้านในมีเสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา จากนั้นประตูห้องก็เปิดออก
ซูยุ่นชะงักไปสักพักเมื่อเห็นพี่ซีมู่และผู้ช่วยของเขายืนอยู่ที่หน้าประตู
“พี่…พี่ซีมู่ ดึกขนาดนี้แล้ว พี่มาทำอะไรคะ?”
ซูซีมู่ไม่ตอบแต่หันกลับไปบอกโจวเฉิงแค่ว่า ‘รอฉันอยู่ข้างนอก’ จากนั้นก็เดินตรงเข้าประตูไป
ซูยุ่นปิดประตูอย่างกระวนกระวายใจ จากนั้นก็เอ่ยทักทายซูซีมู่พร้อมกับนั่งลง: “พี่คะ พี่นั่งก่อนสิ อยากดื่มอะไรไหม? ฉันจะได้ให้พนักงานเอาขึ้นมาส่ง”
“ไม่ต้อง” ซูซีมู่พูดออกมาอย่างเย็นชาแค่สองคำ จากนั้นคว้าโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมาแล้วเปิดรูปของโล่เฟยเอ๋อกับเหซิงโม่ จากนั้นวางมันไว้ที่บนโต๊ะ
ซูยุ่นมีสีหน้าซีดเผือดลงทันทีที่ได้เห็นรูปในโทรศัพท์มือถือ
พี่เอารูปพวกนี้มาให้เธอดูทำไม? หรือว่าพี่จะรู้แล้วว่าเธอเป็นคนส่งรูปพวกนี้?
ทันทีที่ความคิดนี้วาบผ่านเข้ามาในหัวของซูยุ่นก็ถูกเธอปัดตกไป
ไม่ ไม่มีทาง
พี่คงจะแค่มาถามเธอถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
พอปลอบใจตัวเองตัวเองแบบนี้ ก็ทำให้ซูยุ่นใจเย็นลง
จากนั้นก็แสร้งทำเป็นถามอย่างตื่นตระหนกมากว่า “พี่ซีมู่ พี่…พี่…ทำไมถึงมีรูปพวกนี้ได้?”
ซูซีมู่ไม่ตอบคำถามเธอ เพียงแค่ถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ทำไมถึงต้องถ่ายรูปพวกนี้?”
พอได้ยินคำพูดของเขา ซูยุ่นก็ร่างสั่นเทาอย่างรุนแรง แต่ก็ยังคงยิ้มเล็กน้อยและถามว่า: “พี่พูดอะไรน่ะ? ฉันไม่เข้าใจ?”
ซูซีมู่ตอบอย่างเรียบเฉย “ฉันให้คนสืบมาแล้ว นี่เป็นเบอร์ที่เธอทำขึ้นอย่างลับๆ ”
พอได้ยินซูซีมู่พูดอย่างนี้ ซูยุ่นก็เข้าใจแล้ว ที่ซูซีมู่มาหาเธอก็เพราะว่าเขามีหลักฐานเพียงพอ เธอจึงยอมรับไปเลยว่า: “ฉันยอมรับว่าฉันเป็นคนถ่ายรูปและก็เป็นคนส่งให้พี่ แต่ที่พี่มาหาฉันก็เพราะคิดว่าฉันจงใจสร้างเรื่องขึ้นใช่ไหม?”
ซูซีมู่ไม่ตอบเธอแล้วหันหลังเดินจากไป
ซูยุ่นที่พยายามทำทุกวิถีทาง คิดไม่ถึงเลยว่าซูซีมู่จะมีท่าทีแบบนี้
เธอจะให้พี่จากไปแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เธอวางแผนทั้งหมดก็จะเปล่าประโยชน์
พอคิดถึงตรงนี้ซูยุ่นก็รีบเข้าไปขวางซูซีมู่ไว้แล้วพูดเสียงดังว่า: “พี่เชื่อเพื่อนของพี่กับภรรยาพี่ขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่สงสัยสักนิดเลยหรือไงว่าเรื่องระหว่างพวกเขามันดูคลุมเครือน่ะ…”
ซูยุ่นยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ๆ ซูซีมู่ก็ยื่นมือออกมาแล้วบีบลำคอที่เล็กบอบบางของเธอไว้แล้วพูดอย่างโมโหว่า: “เธอไม่มีสิทธิ์มาพูดเรื่องของเฟยเอ๋อ”
ซูยุ่นดิ้นรนไปด้วยพร้อมเอ่ย: “พี่คะ…ฉันผิดไปแล้ว ฉันแค่อิจฉา…อิจฉาที่สายตาของเหซิงโม่มักจะมองไปที่พี่สะใภ้อยู่เสมอ…แค่กแค่ก…ฉันไม่กล้าอีกแล้ว…ไม่กล้าแล้ว”
“อย่าดึงโล่เฟยเอ๋อเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องระหว่างเธอและเหซิงโม่อีก ไม่อย่างนั้น เธอคงจะรู้ผลลัพธ์ที่ตามมา ” น้ำเสียงของซูซีมู่ทั้งเย็นชาละไร้อารมณ์
“ได้…ได้ค่ะ…” ซูยุ่นพยักหน้าอย่างอ่อนแรง
ซูซีมู่พอเห็นเธอพยักหน้าแล้วจึงปล่อยมือที่บีบลำคอของเธอออก จากนั้นเดินออกไปโดยไม่มองซูยุ่นเลยสักนิด
ซูยุ่นถูกซูซีมู่ทำเอาตกใจกลัวเข้าให้แล้ว พอคิดถึงเรื่องน่าหวาดกลัวอีกเรื่องหนึ่งและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวซึ่งอาจทำให้เธอยิ่งน่าเวทนาไปกันใหญ่
จากนั้นก็ไม่สนใจอาการเจ็บที่ลำคอของตนเองเลยสักนิด เธอไอไปด้วยพร้อมตะโกนไล่หลังซูซีมู่ไปด้วย: “พี่คะ ฉันยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกพี่…”
ฝีเท้าของซูซีมู่ชะงักไปแต่ไม่ได้หันกลับมา “เรื่องอะไร?”
“ไม่รู้ว่าพี่สะใภ้ไปรู้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่พี่อายุสิบขวบในคืนนั้นมาจากไหน วันนี้เธอถามฉัน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหน เลยไม่กล้าปิดบังเธอแล้วบอกความจริงกับเธอไปแล้ว” เธอใช้มือขวากุมลำคอแล้วตอบ
ตอนแรกเธอนึกว่าซูซีมู่จะบันดาลโทสะอีกรอบ แต่สุดท้ายเขาก็แค่เดินจากไป
ซูยุ่นมองประตูห้องที่ปิดลงพร้อมยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
เธอวางแผนใส่ร้ายเหซิงโม่คนที่เธอชอบ แล้วยังวางแผนใส่ร้ายพี่สะใภ้ผู้ที่ดีต่อเธออีก แต่กลับลืมประเมินความรักที่พี่ซีมู่มีให้พี่สะใภ้อย่างไม่จำกัด.