บทที่ 334 เจอเพื่อนเก่า
“ไม่หิว” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า
ซูซีมู่จึงถามความคิดเห็นของเธอ “อย่างนั้นเธอดูทีวีสักพัก รอฉันอ่านเอกสารสองสามฉบับนี้ให้จบก่อนแล้วค่อยไปกินข้าวดีไหม?”
“อืม นายไปทำธุระเถอะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู จากนั้นก็เปิดรายการวาไรตี้ชื่อดังรายการหนึ่งในแท็บเล็ตขึ้นมา
ซูซีมู่จึงหยิบเอกสารไม่กี่ฉบับที่วางไว้บนโต๊ะกาแฟก่อนหน้านี้ขึ้นมาแล้วอ่านอย่างตั้งใจ
โล่เฟยเอ๋อนั่งดูรายการวาไรตี้พอถึงช่วงโฆษณา ซูซีมู่ก็อ่านเอกสารในมือเหล่านั้นเสร็จพอดี
ซูซีมู่รวบรวมเอกสารในมือเหล่านั้นขึ้นมาแล้ววางไว้บนโต๊ะกาแฟ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปหาโล่เฟยเอ๋อ “พวกเราไปกินข้าวกัน”
“อืม” โล่เฟยเอ๋อวางแท็บเล็ตในมือลง แล้ววางมือลงบนฝ่ามือของซูซีมู่ จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกพร้อมกับซูซีมู่
ปรากฏว่าในตอนที่พวกเขากำลังเปิดประตูห้องทำงานอยู่นั้น ก็เห็นโจวเฉิงกำลังเดินมาอย่างรีบร้อน
“ประธานซู คุณกับคุณนายกำลังจะออกไปข้างนอกเหรอครับ?”
“ไปกินข้าวกลางวัน” ซูซีมู่ตอบสั้นๆ ง่ายๆ
โจวเฉิงพูดอย่างลังเลว่า: “แต่ประธานซูครับ เมื่อสักครู่ สถาบันการเงินLMเพิ่งจะโทรศัพท์มาหาเลขาของประธานเย่และตอนนี้ประธานเย่ก็ต้องการที่จะประชุมทางวิดีโอกับคุณ…”
เมื่อได้ยินที่โจวเฉิงบอก ซูซีมู่ขมวดคิ้วขึ้นมา
ส่วนโล่เฟยเอ๋อก็เข้าใจซูซีมู่เป็นอย่างดี “ในเมื่อประธานเย่ต้องการประชุมทางวิดีโอกับนาย นายก็รีบไปเถอะ”
“แต่ว่าอาหารกลางวัน เธอ…” ซูซีมู่ยังไม่ทันพูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็พูดแทรกว่า “ก็กินอาหารพนักงานที่บริษัทนี่แหละ”
ซูซีมู่ยกมือขึ้นจัดทรงผมที่กระจัดกระจายอยู่ข้างแก้มของโล่เฟยเอ๋อแล้วตอบว่า “แต่อาหารที่บริษัทอาจจะไม่ถูกปากเธอ”
“อาหารพนักงานที่บริษัทดี้ก้วนก็ไม่เลวนะ ฉันเชื่อว่าอาหารพนักงานที่บริษัทซูซื่อจะต้องดีกว่าแน่นอน” โล่เฟยเอ๋อตอบ
ซูซีมู่จึงพยักหน้าแล้วหันไปบอกโจวเฉิงว่า: “โจวเฉิงนายไปสั่งข้าวกล่องง่ายๆ ที่โรงอาหารขึ้นมาสองชุด”
“ครับ ประธานซู” โจวเฉิงพยักหน้าและหมุนตัวเตรียมที่จะไปโรงอาหาร แต่กลับถูกโล่เฟยเอ๋อห้ามไว้ “ให้โจวเฉิงไปประชุมกับนายเถอะ ฉันไปสั่งอาหารกลางวันเองได้”
ซูซีมู่เหลือบมองโล่เฟยเอ๋อแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า “อย่างนั้นให้สงเฟยเหวินไปเป็นเพื่อนเธอ”
“ได้…”
พอโล่เฟยเอ๋อออกมาจากห้องทำงานของซูซีมู่แล้วจึงไปหาสงเฟยเหวิน จากนั้นก็ไปที่โรงอาหารกับเธอ
“คุณนายคงมาทานข้าวที่บริษัทครั้งแรกใช่ไหมคะ?” สงเฟยเหวินไปด้วยพร้อมชวนโล่เฟยเอ๋อพูดคุยไปด้วย
“ใช่ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าจากนั้นถาม “ปกติแล้วซูซีมู่จัดการเรื่องอาหารกลางวันอย่างไรเหรอคะ?”
“เรื่องอาหารกลางวันของประธานซู นอกจากงานเลี้ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะทานอาหารพนักงานที่บริษัทค่ะ” สงเฟยเหวินตอบตามความเป็นจริง
“อย่างนี้นี่เอง!” ถึงแม้โล่เฟยเอ๋อจะมีสีหน้าที่สงบนิ่ง แต่ในใจกลับรู้สึกหวานละมุน
ที่แท้ในเวลาปกติตัวเขาเองก็ทานอาหารพนักงาน แต่กลับกังวลว่าอาหารพนักงานจะไม่ถูกปากเธอ
หลังจากนั้น โล่เฟยเอ๋อก็ยังถามสงเฟยเหวินเกี่ยวกับเรื่องในบริษัทที่ซูซีมู่ทำในเวลาปกติ แล้วก็ทำให้เธอพบว่า ตัวเธอยังไม่รู้ความลับของซูซีมู่อีกมาก
ยกตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้เวลาที่ซูซีมู่จะเข้าประชุมหรือออกไปพบลูกค้า จะไม่พกโทรศัพท์มือถืออย่างแน่นอน แต่พอมาตอนนี้โทรศัพท์มือถือกลับไม่เคยห่างจากตัว
ยังมีอีก เมื่อก่อนซูซีมู่ดื่มแค่กาแฟไม่ดื่มนม แต่ตอนนี้ดื่มแค่นมไม่ดื่มกาแฟ
……
ในสายตาของสงเฟยเหวินซูซีมู่อาจจะดูเปลี่ยนไป แต่สำหรับโล่เฟยเอ๋อแล้ว เธอกลับรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอรู้ดีว่าซูซีมู่ทำแบบนี้ก็เพื่อเธอ
เมื่อถึงโรงอาหารของพนักงานแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็สั่งอาหารให้ตนเองและซูซีมู่
สงเฟยเหวินที่ได้ยินโล่เฟยเอ๋อสั่งอาหารก็ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ “คุณนาย คุณไม่สั่งอาหารที่ตนเองชอบเหรอคะ?”
“มีส่วนหนึ่งที่เป็นของที่ฉันชอบนะ” โล่เฟยเอ๋อตอบ
สงเฟยเหวินจึงเอ่ยว่า: “อ้อ ที่แท้คุณนายกับประธานซูก็ชอบรสชาติเหมือนกันนี่เอง”
รสชาติเหมือนกัน? โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปสักพัก หลังจากได้สติกลับมา ก็รู้ได้เลยว่าซูซีมู่คงจะสั่งของชอบของเธอที่บริษัทบ่อยๆ
โล่เฟยเอ๋อเม้มริมฝีปากแล้วเอ่ยแค่เพียง‘อืม’ จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อ “คุณรู้ไหมว่าคุณโจวชอบรสชาติแบบไหน?”
“ผู้ช่วยพิเศษโจวเหรอคะ? รู้ค่ะ” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
โล่เฟยเอ๋อ “ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณช่วยสั่งให้คุณโจวสักหนึ่งชุดเถอะค่ะ”
สงเฟยเหวินชี้ไปทางช่องสั่งอาหารที่อยู่ไม่ไกลแล้วเอ่ยว่า: “ผู้ช่วยพิเศษโจวชอบทานอาหารที่นั่น คุณนายรอฉันตรงนี้สักครู่นะคะ”
“ได้ค่ะ…”
พอสงเฟยเหวินจากไปได้ไม่นาน โล่เฟยเอ๋อก็เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันมานาน
“เฟยเอ๋อ?” อาจเป็นเพราะคนที่เรียกเธอก็รู้สึกไม่แน่ใจเล็กน้อย น้ำเสียงนั้นจึงลังเลอย่างเห็นได้ชัด
จู่ๆ ได้ยินเสียงคนเรียกตนเอง โล่เฟยเอ๋อจึงหันกลับไปมองตามสัญชาตญาณ
เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นกู้ชิงหลันที่ไม่ได้พบกันเสียนานพร้อมกับหนุ่มๆ สาวๆ กลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาในโรงอาหาร
“เฟยเอ๋อ ใช่เธอจริงๆ ด้วย ฉันยังนึกว่าฉันจำผิดไปแล้วเสียอีก?” กู้ชิงหลันเดินเข้ามาอย่างดีใจ
“ไม่เจอกันนานเลยนะ” เวลาผ่านไปนานกว่าครึ่งปี เมื่อได้พบกู้ชิงหลันอีกครั้ง แต่ในใจของโล่เฟยเอ๋อกลับรู้สึกสงบมาก
เมื่อก่อนเธอเคยแอบรักกู้ชิงหลันมานานถึงสี่ปี แต่สุดท้ายเพื่ออนาคตแล้วกู้ชิงหลันก็ได้เลือกถังหซิวฉี
แน่นอนว่าในเวลานั้นเธอโกรธแค้นเขา แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
เทียบกับโล่เฟยเอ๋อที่มีสีหน้าเรียบเฉยแล้ว กู้ชิงหลันดูจะตื่นเต้นกว่ามากและยังคอยถามไถ่โล่เฟยเอ๋ออยู่สองสามคำถาม “เฟยเอ๋อ เธอก็ทำงานที่บริษัทซูซื่อเหรอ? ทำงานอยู่แผนกอะไรล่ะ? แล้วสบายดีไหม?”
โล่เฟยเอ๋อเลือกตอบแค่คำถามสุดท้าย “ที่ผ่านมาฉันสบายดีมาก”
“อย่างนั้นก็ดี” กู้ชิงหลันพยักหน้า แต่จู่ๆ ก็เหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้: “เรื่องครั้งก่อนที่เธอถูกลักพาตัวไปที่จริงแล้วฉันอยากจะขอโทษเธอมาโดยตลอด เพียงแต่ฉันตามหาเธอไม่เจอ”
โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปสักพัก กว่าจะได้สติกลับมาแล้วคิดขึ้นได้ว่ากู้ชิงหลันกำลังพูดถึงเรื่องในครั้งก่อนที่เธอถูกลักพาตัวที่ริมถนน
เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอรู้ว่ากู้ชิงหลันเป็นคนทำ แต่ตอนนี้หัวใจของเธอมีแต่ซูซีมู่ ไม่ได้มีความรู้สึกโกรธอะไรกู้ชิงหลันอีกแล้ว เพียงแค่รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยก็เท่านั้นเอง
อีกทั้งเธอยังได้รู้จากโจวเฉิงว่าเรื่องนี้ถังหซิวฉีเป็นคนทำและกู้ชิงหลันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องมากมายขนาดนั้น
“เรื่องมันผ่านไปนานขนาดนั้น ฉันลืมไปตั้งนานแล้ว แล้วอีกอย่างเรื่องนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวกับนาย”
ตอนแรกกู้ชิงหลันเตรียมตัวที่จะมาขอโทษโล่เฟยเอ๋อดีๆ แต่ปรากฏว่าโล่เฟยเอ๋อกลับบอกว่า ‘เรื่องมันผ่านมานานขนาดนั้น ฉันลืมไปตั้งนานแล้ว’
เขาอ้าปากอยากที่จะชวนโล่เฟยเอ๋อคุยเรื่องอื่น แต่ในขณะนั้นเอง สงเฟยเหวินก็เดินเข้ามา “คุณนาย”
โล่เฟยเอ๋อหันกลับไป ก็เห็นว่าเป็นสงเฟยเหวินเลยถามว่า “สั่งอาหารเสร็จแล้วเหรอ?”
“เสร็จแล้วค่ะ” สงเฟยเหวินพยักหน้า
“อย่างนั้นพวกเรากลับไปที่ห้องทำงานกันเถอะ” โล่เฟยเอ๋อพูดจบก็หันกลับไปบอกกู้ชิงหลันว่า: “ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อนนะ โอกาสหน้าค่อยคุยกันใหม่”
กู้ชิงหลันยังคงไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดหลังจากที่ได้ยินสงเฟยเหวินเรียกโล่เฟยเอ๋อว่า ‘คุณนาย’ เขาได้แต่ยืนเหม่อมองโล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าให้เขาโดยที่ไม่รอให้กู้ชิงหลันได้ตอบกลับ จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับสงเฟยเหวิน
หลังจากที่รอให้พวกเธอจากไป คนอื่นๆ ที่มาด้วยกันกับกู้ชิงหลันในตอนแรกก็รีบเข้ามารุมล้อมกู้ชิงหลัน “กู้ชิงหลัน นายรู้จักเลขาสงด้วยเหรอ?”
กู้ชิงหลันที่นิ่งอึ้งไปชั่วขณะก็เพิ่งจะได้สติกลับมา “อะไร?”
“ก็ผู้หญิงสวมชุดสูทที่เดินเข้ามาทีหลังคนนั้นไง สงเฟยเหวินเธอเป็นผู้ช่วยพิเศษเลขาหญิงเพียงหนึ่งเดียวของท่านประธาน ถ้านายไม่รู้จักเธอ แล้วจะคุยกับเธอได้อย่างไร?”
“ไม่รู้จัก” พอพูดสามคำนี้จบกู้ชิงหลันก็หันหลังเดินจากไป
เธอเคยมอบหัวใจวางไว้ตรงหน้าเขาอย่างจริงใจ แต่เพื่ออนาคตแล้วเขากลับเลือกถังหซิวฉี
ตอนแรกเขาคิดว่าการได้เจอกันในบริษัทซูซื่อครั้งนี้ เขาคงมีโอกาสอย่างมากที่จะดึงเธอให้กลับมา
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เธอจะแต่งงานแล้วและได้กลายเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว
ถ้าหากตอนนั้นเขาไม่ได้เลือกถังหซิวฉีเพื่ออนาคต แล้วเลือกเธอ สภาพตอนนี้จะเป็นแบบไหนกัน?
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีคำว่าถ้าหาก…….