บทที่ 343 แตกหักกันในที่ทำงาน
“แล้วยังไงคะ”คิ้วทรงสวยได้รูปของโล่เฟยเอ๋อเลิกขึ้นมาอย่างสงสัย
ผู้จัดการใหญ่คล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้มจ้องมองโล่เฟยเอ๋อแล้วถาม”วาดออกแบบรูป บริษัทเรามีคนที่เป็นมืออาชีพอยู่ ที่สามารถดู เป็นไง ”
“ได้ค่ะ”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า จากนั้นก็หันมาพูดกับคาริน่า “คุณครูคาริน่า รบกวนคุณช่วยเตรียมของให้ฉันด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะ คุณโล่”คาริน่าพยักหน้าด้วยความเคารพ จากนั้นก็รีบออกไปจากห้องทำงานไปเตรียมของ
การที่โล่เฟยเอ๋อตอบรับการวาดออกแบบภาพของผู้จัดการใหญ่อย่างรวดเร็วสำหรับจางเจียเจียนี้ เธอไม่มีค่าควรแก่การ
ในสายตาของเธอ โล่เฟยเอ๋อเป็นเพียงคนที่มาทีหลังเธอในบริษัท ที่สามารถเข้ามาในที่ทำงานได้ เป็นเพราะเธอความสัมพันธ์บางอย่างกับหัวหน้าเย่
เพราะฉะนั้น ตอนนี้เธอเพียงแค่รอดูโล่เฟยเอ๋อหน้าแตกก็เท่านั้น
คาริน่าเอาของที่โล่เฟยเอ๋อต้องการมาอย่างรวดเร็ว ดินสอ กระดาษ กระดานรองวาดพวกนั้น
โล่เฟยเอ๋อมีความลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็เอากระดาษติดที่กระดานรองวาดอย่างว่องไว แล้วจับดินสอวาดออกแบบทันที
เธอลงดินสอวาดอย่างต่อเนื่อง และมีความรวดเร็ว ทุกเส้น ทุกรายละเอียด ทุกอย่างล้วนไม่มีส่วนเกินเลย แม้กระทั่งส่วนที่แก้ไขก็ไม่มีเลย
บริษัทดี้ก้วนเป็นบริษัทที่ออกแบบเกี่ยวกับจิวเวลรี่ คนที่อยู่ในนี้ ไม่พูดว่าใครๆก็เคยเรียนออกแบบจิวเวลรี่มาโดยเฉพาะมาก่อน แต่ใครบ้างที่จะไม่เข้าใจการออกแบบจิวเวลรี่ล่ะ
แค่โล่เฟยเอ๋อเริ่มลงมือว่า ก็รู้ทันทีว่าคนเขามีทักษะที่ดีขนาดไหน
ความสงสัยตั้งแต่เริ่ม จากนั้นก็ตะลึง สุดท้ายก็เกิดความเหลือเชื่อ ในการกระทำนี้รวมไปถึงผู้จัดการใหญ่ด้วย
แต่เย่รู่ไป๋กับคาริน่าแสดงออกนิ่งเฉยเป็นปกติ หนึ่งเพราะพวกเขารู้ว่าโล่เฟยเอ๋อเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ไค่ตี้ เฟยลี่ผู่ ถ้าไม่มีความสามารถจริงคงไม่เข้าตาของไค่ตี้ เฟยลี่ผู่แน่ สองเป็นเพราะพวกเขาเคยเห็นการออกแบบของโล่เฟยเอ๋อแล้ว
ส่วนจางเจียเจีย แววตาที่โมโหแทบจะบีบนัยน์ตาให้ระเบิดอยู่แล้ว
เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าโล่เฟยเอ๋อฉันมีความสามารถเก่งกาจขนาดนี้จริง
แต่ว่า เธอวางแผนมาทำลายโล่เฟยเอ๋ออย่างไม่ง่าย จะไม่ให้โล่เฟยเอ๋อเอาตัวรอดไปได้เด็ดขาด
เมื่อมองไปทางเย่รู่ไป๋ที่อยู่ข้างหลังโล่เฟยเอ๋อแล้ว แววตาจางเจียเจียก็ประกายความชั่วร้ายขึ้นมา
โล่เฟยเอ๋อไม่รู้ความคิดของคนอื่น เธอปรับแต่งขั้นตอนสุดท้ายให้เสร็จอย่างไม่รีบร้อน จากนั่นก็วางดินสอลง
ในใจผู้จัดการใหญ่ก็ยอมรับความสามารถของโล่เฟยเอ๋อแล้ว มองช่วงท้ายที่ว่างเปล่าของกระดาษวาด ก็ถาม “เธอไม่มีนามปากกาในดีไซเนอร์เหรอ”
“มีค่ะ”โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า
ผู้จัดการใหญ่ตอบอือ จากนั้นก็พูด”เซ็นนามปากกาของเธอลงไปในที่ท้ายด้วย”
โล่เฟยเอ๋อลังเลอยู่สักพัก แล้วจากนั้นในที่ท้ายของกระดาษวาด ก็เซ็นนามปากกาโล่เป็นภาษาอังกฤษในดีไซเนอร์ของตัวเองลงไป
“LUOเหรอ”หลังจากเซ็นชื่อนี้ลงไป เย่รู่ไป๋กับคาริน่าก็ร้องตกใจออกมา
ไม่โทษที่เย่รู่ไป๋กับคาริน่าจะมีการตอบสนองที่เกินเลยเช่นนี้ ในช่วงนี้ที่ผ่านมาได้เกิดนักออกแบบที่เก่งกาจจากภายใต้สังกัดของAL ชื่อของดีไซเนอร์คนนี้คือLUO ไม่มีใครรู้มาก่อนLUOว่าเป็นใคร มีแต่ข่าวที่เล่าลือกันว่าเธอคือลูกศิษย์ของนักออกแบบจิวเวลรี่ท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก
ตอนนี้เย่รู่ไป๋กับคาริน่ารู้แล้ว ว่าคนๆนี้คือโล่เฟยเอ๋อ
“เป็นอะไรไป”ผู้จัดการใหญ่จ้องมองเย่รู่ไป๋กับคาริน่า
เย่รู่ไป๋กับคาริน่าหันไปมองโล่เฟยเอ๋อแวบหนึ่ง แล้วส่ายหัวพร้อมเพรียงกัน”ไม่มีอะไร”
ผู้จัดการใหญ่หันไปมองพวกเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอาผลงานการออกแบบของโล่เฟยเอ๋อขึ้นมา ส่งให้คนอื่นดูต่อ
รอทุกคนดูเสร็จ เย่รู่ไป๋ถึงจะพูด” ผู้จัดการใหญ่ คุณเห็นแล้วใช่ไหม จากความสามารถของคุณโล่ ไม่จำเป็นต้องขโมยผลงานของนักออกแบบที่ไม่ได้เก่งกาจเช่นนี้
ผู้จัดการใหญ่ยังไม่ทันได้เอ่ยพูดอะไร ในตอนนี้ จางเจียเจียที่นั่งเยี่ยมมาตลอดก็พูดแทรกขึ้นมา”หัวหน้าเย่ ฉันรู้ว่าคุณกับโล่เฟยเอ๋อมีความสัมพันธ์ที่มากกว่าคนร่วมทำงานทั่วไป เพื่อเธอถึงกับต้องไล่ผู้อำนวยการของพวกเราออก คุณใส่ร้ายฉัน ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วหนิ แต่ฉันเชื่อว่าผู้จัดการใหญ่จะคืนความยุติธรรมให้กับฉัน”
จางเจียเจียเห็นว่าโล่เฟยเอ๋อจะสามารถเอาตัวรอดได้แล้ว ก็ยอมไม่ได้ จึงแกล้งพูดให้ความสัมพันธ์ระหว่างเย่รู่ไป๋กับโล่เฟยเอ๋อดูเหมือนกิ๊กกั๊กกันอยู่ ให้ทุกคนเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเย่รู่ไป๋กับโล่เฟยเอ๋อไป
เพราะมี ความคิดที่จะดึงโล่เฟยเอ๋อให้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากอีกครั้ง
และ เป็นจริงอย่างที่คิดไว้ เมื่อเสียงของเธอจบลง ทุกคนต่างก็จ้องมองเย่รู่ไป๋กับโล่เฟยเอ๋อดูสายตาที่แตกต่างไปทันที
ที่แท้ที่หัวหน้าเย่ช่วยโล่เฟยเอ๋อพูดมาตลอด เป็นเพราะของพวกเขามีความกิ๊กกั๊กกันนั้นเอง
หัวหน้าเย่ถึงกับใช้ประโยชน์จากตำแหน่งของตัวเองมาทำเพื่อโล่เฟยเอ๋อคนนี้ โดยการไล่ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบออก
สีหน้าของผู้จัดการใหญ่ตึงขึ้นมาทันที แล้วถามเย่รู่ไป๋ด้วยความโกรธ “หัวหน้าเย่ ที่เธอพูด คุณทำเพื่อผู้หญิงคนนี้ไล่ผู้อำนวยการในที่ทำงานของพวกเธอออกเหรอ”
เย่รู่ไป๋รู้สึกว่าตัวเองโดนปรักปรำเข้าแล้ว เถ้าแก่เนี้ยของบริษัทจะไล่คนออก เขาที่เป็นแค่หัวหน้าเย่ตัวน้อยๆจะไม่ฟังคำสั่งได้ยังไง ได้ยิ่งไปกว่านั้นคือในตอนนั้นเถ้าแก่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ส่วนเรื่องที่มีความสัมพันธ์กิ๊กกั๊กกับโล่เฟยเอ๋อนั้น เขายิ่งถูกปรักปรำเข้าไปใหญ่ เขาจะกล้าเหรอนั่นคือคุณนายท่านประธานเลยนะ
แน่นอนว่าเขาไม่เอาเรื่องพวกนี้พูดออกไปอยู่แล้ว หันไปจ้องเขม็งจางเจียเจียทีหนึ่ง เย่รู่ไป๋ได้ตอบ “เรื่องที่ไล่พนักงานออก หลังจากเสร็จเรื่องนี้ ผมจะเป็นคนแจ้งรายละเอียดให้ผู้จัดการใหญ่เองครับ”
ผู้จัดการใหญ่ก็เข้าใจว่าตอนนี้ไม่ใช่โอกาสที่เหมาะที่จะจัดการเรื่องนี้ จึงจ้องเขม็งเย่รู่ไป๋ไปทีหนึ่ง”ถึงตอนนั้นคุณต้องให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลให้กับผม ไม่งั้น ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นคนที่บริษัทเชิญเข้ามาเหรอ ผมก็จะจัดการเหมือนกัน”
“ผมทราบครับ ผู้จัดการใหญ่”เย่รู่ไป๋พยักหน้า
ผู้จัดการใหญ่พักเรื่องที่ถูกเปิดเผยว่าเย่รู่ไป๋ไล่พนักงานออกก่อน เรื่องนี้จะทำให้จางเจียเจียที่คิดจะดึงโล่เฟยเอ๋อมาซวยด้วยพอใจได้ยังไงล่ะ
และในตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ ก็คือกัดเรื่องที่โล่เฟยเอ๋อขโมยผลงานเธอไม่ปล่อย “ผู้จัดการใหญ่ โล่เฟยเอ๋อสามารถออกแบบได้แล้วยังไงคะ แต่ฉันมีหลักฐานมายืนยันว่าเธอขโมยผลงานออกแบบของฉันนะคะ”
เย่รู่ไป๋คิดไม่ถึงเลยว่าจางเจียเจียคนนี้จะมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังเป็นคนไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาอีก เขายิ้มเยาะพลางถาม”ขโมยผลงานของเธอเหรอ เธอคิดว่าเธอเป็นใครกัน มีค่าพอให้ดีไซเนอร์ตัวท็อปของภายใต้สังกัดของALมาขโมยผลงานของเธองั้นเหรอ”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเย่รู่ไป๋ ผู้จัดการใหญ่ก็อึ้งไปทันที “นักออกแบบตัวท็อปของภายใต้สังกัดของALเหรอ”เย่รู่ไป๋รู้ว่าตัวเองทำอะไรบุ่มบ่ามไปไม่ทันคิด หลุดความลับของโล่เฟยเอ๋อออกมา เขาจึงแอบมองไปทางโล่เฟยเอ๋อ รอคำสั่งจากโล่โฟนเอ๋อ
ทีแรกโล่เฟยเอ๋อคิดว่าอยากอยู่ที่บริษัทดี้ก้วนอย่างเงียบๆไม่เป็นที่สนใจหน่อย แต่ว่าหลังกลับมาทำงานที่บริษัทดี้ก้วนแล้ว ก็เกิดเรื่องไม่เว้นวัน ให้เธอปวดหัวจนแทบจะรับไม่ไหวแล้ว
แล้วยังมี เรื่องในวันนี้อีกถ้าหากลอยไปถึงหูซูซีมู่แล้ว กลัวว่าเหตุการณ์มันจะยุ่งยากไปกว่าเดิมอีก
ตอนนี้ในเมื่อเย่รู่ไป๋พูดมันออกไปแล้ว ก็ให้เขาพูดไปตามตรงเถอะ
ถอนหายใจไปทีหนึ่ง โล่เฟยเอ๋อก็พยักหน้าให้กับเย่รู่ไป๋
เมื่อได้การอนุมัติจากโล่เฟยเอ๋อแล้ว เย่รู่ไป๋ยืดอกขึ้นมา แล้วแนะนำโล่เฟยเอ๋อ “คุณโล่เฟยเอ๋อ คือลูกศิษย์ของอาจารย์ไค่ตี้ เฟยลี่ผู่นักออกแบบจิวเวลรี่ระดับโลก ตอนนี้ที่กำลังโด่งดังจากการเป็นนักออกแบบLUOตัวท็อปภายใต้สังกัดของALครับ”
เมื่อคำพูดนี้ของเย่รู่ไป๋พูดออกไป คนในห้องที่มาประชุมทั้งหมดก็อึ้งไปทันที
ไม่ว่าจะเป็นไค่ตี้ เฟยลี่ผู่ หรือแบรนด์AL นั้นเป็นอยู่อย่างชื่นชมและเป้าหมายที่จะเป็นของออกแบบจิวเวลรี่ทั้งนั้น
แต่โล่เฟยเอ๋อครอบครองมันไว้ทั้งสองอย่าง ยิ่งนักเหลือเชื่อไปกว่านั้น คือคนแบบเธอนั้น กลับมาเป็นนักออกแบบตัวน้อยๆที่บริษัทดี้ก้วน
แถมยังโดนใส่ร้ายว่าขโมยผลงานของเพื่อนร่วมงานอีก
นี่คือการตบ ฟาดหน้าของทุกคนอย่างแรงเลยทีเดียว
ตอนนี้โล่เฟยเอ๋อไม่มีเวลามาสนใจมาดูสีหน้าของทุกคนหรอก เพราะเสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นมา