บทที่ 358 ซูซีมู่ ฉันท้องแล้ว
เกี่ยวกับการตั้งครรภ์ โล่เฟยเอ๋อวางแผนว่าจะบอกซูซีมู่เมื่อเขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ต่อมาเนื่องจากเรื่องความสัมพันธ์ของหซิวหชูเฉียวและลู่ยู่ ทำให้เรื่องนี้ล่าช้าไปมาก
แล้วหลังจากนั้น…อืม เธอลืมเอง
การตั้งครรภ์ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว ครั้งที่แล้วเธออาเจียนแทบเป็นแทบตาย
แต่ครั้งนี้ เธอกินอิ่มนอนหลับสบาย นอกจากอ้วนขึ้นนิดหน่อย นอกจากนั้นก็มองแทบไม่มอง
เวลาทานอาหาร เธอก็กินเหมือนกับหซิวหชูเฉียว
มีเพียงแตกต่างกันที่จำนวน ถึงอย่างไรหซิวหชูเฉียวก็ตั้งครรภ์ได้เกือบหกเดือนและเธอมีอายุครรภ์เพียงแค่หนึ่งเดือนกว่าเท่านั้น
และสำหรับเธอและหซิวหชูเฉียวก็กินเหมือนกัน ซูซีมู่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแค่คิดว่าเธออยากจะเปลี่ยนรสชาติ
ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ร่างกายของซูซีมู่ฟื้นตัวเกือบจะเป็นปกติและเริ่มกลับไปบริษัทเพื่อทำงาน
ตอนที่ซูซีมู่เริ่มทำงาน โล่เฟยเอ๋อก็กลับไปทำงานที่บริษัทดี้ก้วน
วันเสาร์นี้ซูซีมู่ไปทำงานล่วงเวลา เนื่องจากลู่ยู่ก็ออกไปข้างนอก โล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวเบื่อที่จะอยู่ที่บ้านจึงออกไปช้อปปิ้งด้วยกัน
ในเวลาตอนเที่ยง พอดีกับที่เดินเล่นไปแถวๆ บริษัทซูซื่อ โล่เฟยเอ๋อจึงโทรหาซูซีมู่ เพื่อที่จะเรียกเขาให้ออกมากินข้าวด้วยกัน
“เฟยเอ๋อ มีอะไรเหรอ?” เสียงของซูซีมู่ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์
โล่เฟยเอ๋อตอบ “อืม” กลับแล้วถามว่า “คุณกินข้าวแล้วหรือยัง? ฉันกับเฉียวเฉียวกำลังช็อปปิ้งอยู่ใกล้บริษัทของคุณ อยากจะออกมาทานอาหารด้วยกันไหม?”
“อืม จะไปกินที่ไหนดี? ผมจะจองร้านอาหารให้” ซูซีมู่ตอบ
โล่เฟยเอ๋อคิด และตอบว่า “หยู้ผินเซียงก็ได้ค่ะ”
“อืม…”
หลังจากคุยโทรศัพท์กับโล่เฟยเอ๋อเสร็จ ซูซีมู่ก็ลุกขึ้นเดินออกไป แล้วโทรจองห้องและสั่งข้าว
เขาสั่งอาหารที่โล่เฟยเอ๋อชอบมาหลายจาน แล้วเขาก็สั่งอีกสองสามอย่างที่เหมาะสำหรับผู้มีครรภ์
สุดท้ายก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ว่า วันนี้หยู้ผินเซียงมีปูอลาสก้าเข้ามา
ซูซีมู่รู้ว่าปูนั้นไม่เหมาะกับหซิวหชูเฉียวที่กำลังตั้งท้องอยู่ แต่เขารู้ว่าโล่เฟยเอ๋อชอบมันมาก เขาจึงสั่งปูนึ่งโดยไม่ได้คิดอะไรมาก
หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว รถก็มาจอดที่ลานจอดรถ ซูซีมู่วางโทรศัพท์ ขึ้นรถแล้วสตาร์ทรถเพื่อไปรับโล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียว
หลังจากรับพวกเขาแล้ว เขาก็ไปที่หยู้ผินเซียง
หลังจากส่งโล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวเข้าไปในห้องแล้ว ซูซีมู่ก็ไปเข้าห้องน้ำ
เนื่องจากซูซีมู่ได้สั่งอาหารไปก่อนแล้ว บริกรจึงเริ่มเสิร์ฟอาหารหลังจากที่โล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวนั่งไม่นาน
เมื่อพนักงานเสิร์ฟปูนึ่งจานใหญ่มาที่โต๊ะ ใบหน้าของหซิวหชูเฉียวก็แสดงออกถึงความแปลกใจ “เฟยเอ๋อ เธอยังไม่ได้บอกสามีของเธอเรื่องเธอท้องเหรอ?”
ตามที่เธอคุ้นเคยกับซูซีมู่ ถ้าเขารู้ว่าโล่เฟยเอ๋อกำลังตั้งครรภ์อยู่ ปูซึ่งทำให้ผู้ตั้งครรภ์แท้งก็คงไม่ปรากฏบนโต๊ะ
และตอนนี้เมื่อเห็นปูอลาสก้านึ่งตัวอ้วนๆ บนโต๊ะ เห็นได้ชัดว่ามีคนสั่งให้โล่เฟยเอ๋อ
“เออ ลืมไปเลย” โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ขนาดเรื่องแบบนี้ เธอก็ยังลืมไปได้? ฉันล่ะเชื่อเธอเลย” หซิวหชูเฉียวพูดไม่ออก “สามีของเธอสั่งปูอลาสก้านึ่งของโปรดให้เธอ แต่เธอดันกินไม่ได้”
“ฉันรู้” โล่เฟยเอ๋อมองไปที่ปูอลาสก้านึ่งบนโต๊ะ พลางคิดว่าซูซีมู่จะคิดอย่างไร ถ้าเธอปฏิเสธที่จะกิน?
ถ้ารู้แบบนี้ เธอคงบอกซูซีมู่ไปแล้วว่า เธอท้อง
โล่เฟยเอ๋อคิดอย่างหงุดหงิด
ซูซีมู่เข้ามาในห้องอาหาร เมื่อใบหน้าที่หงุดหงิดของเธอ ก็ถามทันทีว่า “เป็นอะไรไป?”
“ไม่มีอะไร รอที่จะกินข้าวกับคุณอยู่” โล่เฟยเอ๋อส่ายหัวและลากที่นั่งข้างตัวออก
ซูซีมู่พยักหน้า เธอนั่งลงข้างๆ จากนั้นหยิบปูอลาสก้านึ่งจากชามมาหนึ่งชิ้นตามปกติ หลังจากนั้นจัดการให้โล่เฟยเอ๋อแล้ว ก็เตรียมที่จะใส่ลงในชามของโล่เฟยเอ๋อ
หซิวหชูเฉียวที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็กล่าวขึ้นมาว่า “คุณซู โล่เฟยเอ๋อไม่สามารถกินอาหารนี้ได้”
“หืม?” ซูซีมู่มองไปที่หซิวหชูเฉียว จากนั้นก็มองไปที่โล่เฟยเอ๋ออย่างสงสัย
“ในช่วงนี้ฉันกินไม่ได้” โล่เฟยเอ๋อพูดหลังจากหยุดชะงักไปชั่วหนึ่ง “สำหรับเหตุผลอะไรนั้น ไว้ฉันจะกลับไปบอกคุณทีหลัง”
ซูซีมู่พยักหน้า “อืม” แล้วจัดการเทปูในถ้วยชามทิ้ง และเรียกบริกรให้นำเอาจากปูอลาสก้าออกจากโต๊ะ
ในเมื่อเฟยเอ๋อกินไม่ได้ ปูตัวนี้จึงไม่จำเป็นที่จะต้องปรากฏอยู่บนโต๊ะอีกต่อไป
หซิวหชูเฉียวเห็นฉากนี้แล้วอิจฉาโล่เฟยเอ๋อที่สามารถได้พบกับผู้ชายที่รักเธอจริงๆ
อาหารมื้อนี้ นอกจากหซิวหชูเฉียว โล่เฟยเอ๋อ และซูซีมู่ต่างก็กินกันอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
โล่เฟยเอ๋อคิดว่าเธอจะกลับไปบอกซูซีมู่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์อย่างไรดี?
นอกจากนี้ ซูซีมู่จะดีใจไหมที่เธอท้อง?
แม้ว่าเธอจะคิดมาอย่างรอบคอบแล้ว แต่เมื่อเรื่องมาอยู่ต่อหน้าเธอ เธอก็รู้สึกกังวลขึ้นมา
แล้วซูซีมู่ก็กำลังคิดว่า ทำไมจู่ๆ โล่เฟยเอ๋อถึงไม่สามารถกินปูได้ล่ะ?
มีปัญหาอะไรกับร่างกายหรือเปล่า?
เมื่อนึกถึงการเปลี่ยนรสชาติการกินอาหารล่าสุดของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ก็เริ่มรู้สึกใจเสียมากขึ้นเรื่อย ๆ
หรือแท้จริงแล้วร่างกายของเฟยเอ๋อมีปัญหาอะไรจริงๆ?
เพราะว่าคอยกังวลเกี่ยวกับร่างกายของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่จึงไม่มีอารมณ์ที่จะกลับไปทำงานอีก หลังทานอาหารเสร็จ เขาก็ขับรถไปส่งโล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวกลับไปที่คฤหาสน์
หซิวหชูเฉียวเห็นในความกระวนกระวายของซูซีมู่ หลังจากเข้าบ้านไปแล้ว เธอก็ยิ้มให้กับโล่เฟยเอ๋ออย่างลึกลับและเดินขึ้นไปชั้นบน
เหลือเพียงโล่เฟยเอ๋อคนเดียว ที่ต้องเผชิญหน้ากับซูซีมู่
เมื่อมองไปหซิวหชูเฉียวที่ดีอกดีใจเกินหน้ากับความโชคร้ายของผู้อื่น ใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อก็แสดงออกมาอย่างหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
ใบหน้าที่ว้าวุ่นของเธอมองไปยังสายตาของซูซีมู่ ซึ่งบอกกับซูซีมู่ว่า ร่างกายของเธอกำลังมีปัญหาจริงๆ
เขาระงับใจในการเรียกหมอเฉิงมาทำการตรวจสุขภาพร่างกายอย่างเต็มรูปแบบให้โล่เฟยเอ๋อ และรอให้โล่เฟยเอ๋อบอกเขาอย่างอดทน
“ซูซีมู่… ” โล่เฟยเอ๋อกลืนน้ำลายแล้วพูดต่อว่า “ฉันมีอะไรจะบอกคุณ”
หัวใจของซูซีมู่แทบจะหยุดเต้นไปชั่วขณะ ใบหน้าของเขาก็ดูเปลี่ยนไปทันที และมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบีบคำออกมาจากปากของเขาได้
“อืม”
โล่เฟยเอ๋อมองไปที่ใบหน้าของซูซีมู่ และใจก็รู้สึกแปลๆ
ซูซีมู่เป็นอะไร? ทำไมสีหน้าถึงแยกขนาดนี้?
“ซูซีมู่คุณเป็นอะไรไป?”
ซูซีมู่บอกกับใจของตัวเองอย่างสุดชีวิตว่า ไม่เป็นไร แม้ว่าร่างกายของเฟยเอ๋อจะมีปัญหา แต่การแพทย์ในปัจจุบันนั้นพัฒนาไปมาก สามารถรักษาให้หายได้
แม้ว่าหัวเซี่ยจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็สามารถไปรักษาที่ต่างประเทศได้เช่นกัน
ซูซีมู่สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ผมไม่เป็นไร…คุณพูด……”
“ไม่ใช่ สีหน้าของคุณไม่โอเค ปวดแผลงั้นเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อถามด้วยความกังวล
“เปล่า” ซูซีมู่ส่ายหัวและพูดว่า “คุณพูดเถอะ ผมสบายดี”
โล่เฟยเอ๋อพูดพร้อมกับมองไปที่หน้าของเขา หลังจากยืนยันว่าเขานั้นไม่เป็นไรจึงพูดออกมาว่า “ซูซีมู่ ฉันมีเรื่องบางอย่างจะบอกกับคุณ แต่ก่อนอื่น คุณห้ามตกใจ”
ร่างกายมีปัญหาแน่ใช่ไหม? ซูซีมู่กำมือและพยักหน้า “อืม ผมจะไม่ตกใจ”
โล่เฟยเอ๋อพูด “อืม” และเอ่ยว่า “ซูซีมู่ ที่ฉันกินปูไม่ได้เพราะฉันท้อง”
ซูซีมู่ที่ตอนแรกคิดมาตลอดว่า โล่เฟยเอ๋อมีปัญหาทางร่างกาย เมื่อได้ยินคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ เขาก็จ้องตรงไปที่โล่เฟยเอ๋ออย่าตรงๆ ท่าทางนิ่งเฉย เหมือนกับถูกกดจุดให้หยุดนิ่ง ไม่สามารถเคลื่อนไหวต่อไปได้