บทที่ 364 จุดจบของโล่หยิวชิว
เมื่อได้ยินคำตอบของโล่หยิวชิว สีหน้าของซูซีมู่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ เพียงแค่ถามอย่างเรียบเฉย “ถ้าไม่ล่ะ? ”
“ถ้าไม่……ฉันก็จะฆ่าเธอทิ้ง” นัยน์ตาของโล่หยิวชิวประกายความอำมหิต แรงที่จับมีดไว้ เพิ่มกำลังอีก บาดคอของโล่เฟยเอ๋อเป็นแผล
แผลที่เล็กมาก เลือดออกแค่นิดเดียว แต่ทำให้สีหน้าของซูซีมู่เปลี่ยนไปอย่างมาก
“หยุด”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูซีมู่ สีหน้าของโล่หยิวชิวก็เริ่มโหดร้ายขึ้นมา “คุณไม่สามารถทนเห็นเธอบาดเจ็บได้แม้แต่นิดเดียวเลยเหรอ? ”
“ใช่” สายตาของซูซีมู่ จ้องมองโล่หยิวชิวไม่กะพริบตาเลยสักนิด เพราะกลัวว่าโล่หยิวชิวจะทำร้ายโล่เฟยเอ๋ออีกครั้ง
คำตอบของซูซีมู่ ทำให้โล่หยิวชิวโกรธแค้นยิ่งนัก “ในเมื่อคุณไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บ ถ้าอย่างนั้นคุณก็บาดเจ็บแทนเธอแล้วกัน”
“ได้” ซูซีมู่พยักหน้าโดยไม่คิดเลย
เมื่อได้ยินซูซีมู่พูดคำว่า ‘ได้’ โล่เฟยเอ๋อก็เริ่มดิ้นรนอย่างหนัก “ซูซีมู่ คุณอย่าฟังที่เธอพูด……”
โล่หยิวชิวยกมือขึ้น ตบที่หน้าของโล่เฟยเอ๋อโดยตรง “แกหุบปาก! ”
เมื่อเห็นใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อมีรอยฝ่ามือเพิ่มขึ้น สีหน้าของซูซีมู่ก็เคร่งขรึมอย่างน่ากลัว
ในวินาทีต่อมา ร่างกายของเขาก็ได้พุ่งไปทางโล่หยิวชิวแล้ว
เมื่อโล่หยิวชิวเห็นว่าซูซีมู่เข้ามา ก็ยกมีดในมือขึ้นมา แล้วแทง ไปที่โล่เฟยเอ๋อด้วยจิตใต้สำนึก
โล่เฟยเอ๋อถูกมากมือมัดเท้าไว้ ไม่สามารถขยับได้เลย
หากต้องการช่วยเหลือตัวเอง เธอทำได้เพียงทิ้งน้ำหนักตัวล้มลงไปกับพื้น ถึงสามารถหลบได้
แต่ถ้าเธอล้มลงกับพื้น ก็ต้องแท้งลูกแน่นอน
โล่เฟยเอ๋อจะทำให้ตัวเองแท้งลูกได้อย่างไร? ดังนั้นเธอจึงหลับตาลง เตรียมที่จะรับมีดที่โล่หยิวชิวแทงเข้ามา
แต่ความเจ็บปวดที่คาดไว้ ไม่ได้มีอาการ กลับตกอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่น
ซูซีมู่คาดการณ์ถึงเหตุการณ์แบบนี้มาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเขาจึงพุ่งไปหาโล่หยิวชิว ที่จริงเป็นภาพลวงตา ความตั้งใจที่แท้จริงของเขา คือเตะไปที่โล่หยิวชิว
ซูซีมู่คือใคร? การเตะที่โกรธแค้นของเขา คือสิ่งที่โล่หยิวชิว สามารถทนรับได้หรือ?
โล่หยิวชิวถูกเขาเตะออกไปหลายเมตร ชนเข้ากับกำแพง จากนั้นก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรง ในปากเลือดไหลไม่หยุด
ซูซีมู่ไม่แม้แต่จะชายตามองอีกฝ่าย รีบวิ่งพุ่งเข้าไปกอดโล่เฟยเอ๋อไว้
“เฟยเอ๋อ คุณเป็นยังไงบ้าง? ”
เสียงของซูซีมู่ดังขึ้นข้างหู โล่เฟยเอ๋อลืมตาขึ้น ก็ได้เห็นซูซีมู่มองเธออย่างเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นไร” โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว จากนั้นก็รู้สึกหน้ามืด แล้วเป็นลมหมดสติ
ก่อนที่จะหมดสติ เธอได้ยินซูซีมู่ตะโกนร้อง “เรียกหมอเข้ามา……”
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อฟื้นขึ้นมา ซูซีมู่กำลังเฝ้าอยู่ข้างเตียง
เมื่อเห็นเธอฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็ถามทันทีว่า “คุณฟื้นแล้ว? มีตรงไหนที่ไม่สบายหรือเปล่า? ”
โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว จากนั้นก็จับมือของซูซีมู่ไว้แน่น แล้วพูดว่า “ซูซีมู่ โชคดีที่ฉันไม่เป็นอะไร”
ในตอนที่มีดของโล่หยิวชิว แทงเข้ามาหาเธอ เธอเสียใจภายหลังจริงๆ เสียใจที่ทำไมเธอต้องเอาตัวไปเสี่ยงกับพ่อที่ไม่สนใจเธอเลย
โชคดีที่ซูซีมู่ช่วยเธอไว้
ซูซีมู่พยักหน้า กอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขน “อืม คุณไม่เป็นไร”
“ซูซีมู่ ขอโทษ ฉันไม่ได้ฟังคำพูดของคุณ” โล่เฟยเอ๋อพูดอย่างเศร้าสร้อยในอ้อมกอดของซูซีมู่
“เด็กโง่……” คำว่าเด็กโง่ ประกอบไปด้วยความรักและความเอ็นดูอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของซูซีมู่
โล่เฟยเอ๋อยกมุมปาก เผยรอยยิ้มที่มีความสุข
หลังจากนั้นเนิ่นนาน โล่เฟยเอ๋อเหมือนว่านึกอะไรขึ้นกะทันหัน เงยหน้าขึ้น มองซูซีมู่แล้วถามว่า “เธอเป็นอย่างไรบ้าง? ”
แม้ว่าโล่เฟยเอ๋อจะไม่ได้บอกว่า ‘เธอ’ คนนั้นเป็นใคร แต่ซูซีมู่ก็รู้ว่า ที่เธอพูดถึงคือโล่หยิวชิว
ไม่คิดว่าโล่เฟยเอ๋อยังคงคิดถึงผู้หญิงคนนั้นอยู่ ซูซีมู่ไม่พอใจยิ่งนัก เม้มปากไว้อย่างแรง ไม่พูดอะไร
โล่เฟยเอ๋อชะงักอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เข้าใจถึงความหมายของซูซีมู่ แล้วหลุดหัวเราะออกมา
“คุณคงไม่คิดว่า ฉันยังเป็นห่วงเธอเหรอนะ? ”
“ไม่ใช่เหรอ? ” ซูซีมู่ขมวดคิ้ว
โล่เฟยเอ๋อยกมือขึ้น ลูบใบหน้าของเขาเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันแค่อยากถามว่า เธอเป็นอย่างไรบ้าง ฉันไม่ได้อยากให้อภัยเธอ จริงๆ นะ”
ราวกับว่ากลัวซูซีมู่จะไม่เชื่อ โล่เฟยเอ๋อก็พูดเสริมอีกคำหนึ่ง “ฉันไม่ใช่แม่พระเสียหน่อย เธอต้องการฆ่าฉันแล้ว ฉันยังสามารถยกโทษให้เธอได้อีก”
ริมฝีปากที่เม้มไว้แน่นของซูซีมู่ ถึงได้ปล่อยออก “เธอมีปัญหาทางจิต ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลจิตเวชแล้ว”
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอมีปัญหาทางจิต ซูซีมู่จะไม่ปล่อยเธอไปอย่างนี้แน่นอน
แน่นอนว่า แม้โล่หยิวชิวจะเข้าไปในโรงพยาบาลจิตเวช ซูซีมู่ก็จะไม่ปล่อยให้เธออยู่อย่างสบาย เพราะเธอได้ทำร้ายโล่เฟยเอ๋อจริงๆ
มีปัญหาทางจิต มิน่าล่ะ……” แววตาของโล่เฟยเอ๋อมึนงงเล็กน้อย
ซูซีมู่เลิกคิ้วขึ้น ถามว่า “มีอะไร? ”
โล่เฟยเอ๋อได้บอกสิ่งที่เธอพูดคุยกับโล่หยิวชิวในก่อนหน้านี้ ให้ซูซีมู่ฟัง
สุดท้ายโล่เฟยเอ๋อเหมือนนึกอะไรออก แล้วถามขึ้นกะทันหัน “ใช่แล้ว คุณหาเจอฉันได้ยังไง? ”
“ในโทรศัพท์ของคุณ ติดตั้งระบบติดตามไว้ เราได้ไล่ตามมา จากสัญญาณโทรศัพท์ของคุณ” ตอนที่ซูซีมู่พูดประโยคนี้ เขามองไปที่โล่เฟยเอ๋อด้วยความระมัดระวัง เพราะกลัวว่าเธอจะโกรธที่เขาติดตั้งระบบติดตามในโทรศัพท์ของเธอ
แต่คิดไม่ถึงว่า โล่เฟยเอ๋อเพียงแค่ส่งเสียง ‘อ๋อ’ เบาๆ แล้วถามว่า “โทรศัพท์ของฉัน ดูเหมือนจะทำหล่นหายในรถของคนที่ลักพาตัวฉันทั้งสองคนนั้น พวกคุณหาเจอบ้านหลังนั้นได้อย่างไร? ”
“อืม เราไล่ตามสองคนนั้น ได้รู้ว่าคุณอยู่ในบ้านหลังนั้น จากปากของสองคนนั้น จากนั้นก็ได้ตามไปอีก”
ถ้าไม่ใช่เพราะอย่างนี้ เขาคงไม่ไปสายมากขนาดนั้น
เกือบจะทำให้โล่เฟยเอ๋อเกิดเรื่องขึ้นในมือของโล่หยิวชิวแล้ว……
ซูซีมู่มาคิดในตอนนี้ ยังรู้สึกกลัวทีหลังเล็กน้อย
เหมือนดูออกความคิดในใจของเขา โล่เฟยเอ๋อเอื้อมมือไปกอดซูซีมู่ไว้ แล้วปลอบโยนเขา “เคราะห์หามยามร้ายแบบนี้ ใครก็คาดคิดไม่ถึงหรอก และคุณก็มาได้เร็วมากแล้ว”
ซูซีมู่กอดเธอไว้แน่น แล้วพูดเบาๆ “โชคดีที่คุณไม่เป็นไร”
“แน่นอนว่าฉันจะต้องไม่เป็นไร เพราะฉันรู้ว่า คุณจะต้องมาช่วยฉันแน่นอน” ถ้าไม่ใช่เพราะเชื่อในตัวซูซีมู่ เธอจะกล้าตัวไปเสี่ยง ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีอันตรายได้อย่างไร?
แต่คิดไม่ถึงว่า เธอเอาตัวเองไปเสี่ยง เพื่อที่ช่วยพ่อของตัวเอง
และความจริงในตอนสุดท้ายกลับกลายเป็นว่า พ่อของเธอ ต้องการจับตัวเธอ
หลับตาลง น้ำตาของโล่เฟยเอ๋อก็ไหลออกมา “ฉันไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า เขาถึงกับอยากจะลักพาตัวฉัน เอามาแลกเห้อจิ้นเหยากับคุณ……”
หลังจากที่รู้ความจริงเบื้องหลังของการลักพาตัวในครั้งนี้ ซูซีมู่ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เขารู้มาตลอดว่าโล่ชิงไป๋ไม่ชอบโล่เฟยเอ๋อ ทำไม่ดีกับโล่เฟยเอ๋อ
แต่อย่างไรก็ตาม โล่ชิงไป๋ก็เป็นพ่อของโล่เฟยเอ๋อ ดังนั้นเขาจึงไว้หน้าเขามาโดยตลอด
เดิมทีเขาคิดว่า เพียงแค่โล่ชิงไป๋สามารถสงบเสงี่ยมหน่อย เขาก็สามารถตอบสนองกับความละโมบโลภมากของเขาได้
แต่คาดไม่ถึงว่า โล่ชิงไป๋ถึงกับคิดต้องการลักพาตัวโล่เฟยเอ๋อ เพื่อตั้งใจที่จะเปลี่ยนตัวเห้อจิ้นเหยา
นัยน์ตาของซูซีมู่พาดผ่านไอเยือกเย็น ยกมือขึ้น เช็ดน้ำตาบนใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว “อย่าร้องไห้ คุณยังมีฉันและลูก”
“อืม มีคุณกับลูก ก็พอแล้ว……”