บทที่ 376 ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลไป๋กับโล่เฟยเอ๋อ
ครั้งนี้ไม่ใช่ประหลาดใจ แต่เป็นการอุทาน “อะไรนะ หวนหยู่เมื่อกี้แกว่าอะไร”
เขารู้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ถอนหายใจในใจ ไป๋หวนหยู่กล่าวว่า “ภรรยาของประธานซูก็คือลูกสาวของป้าไป๋หนิงโล่เฟยเอ๋อ
ปลายสายมีเสียงลมหายใจเข้าออกถี่ๆ ไม่กี่วินาทีต่อมา จึงพูดขึ้นอีกครั้งว่า “แกแน่ใจนะ”
“ไม่กี่วันก่อนก็ได้ตรวจสอบแล้ว” ไป๋หวนหยู่ตอบ
หลังจากที่ไป๋หวนหยู่พูดจบ ปลายสายก็อาละวาดขึ้นทันที “แกตรวจสอบตั้งแต่หลายวันก่อน ทำไมไม่บอกฉัน ถ้าฉันไม่โทรหาแกวันนี้ แกก็คงไม่คิดจะบอกฉันใช่ไหม”
ไป๋หวนหยู่เหลือกตาขึ้น จากนั้นก็ตอบกลับไปว่า “คุณพ่อ ตอนนี้อาการของโล่เฟยเอ๋อไม่ค่อยดี ไม่ใช่เวลาที่จะพบเธอ อีกทั้งประธานซูก็คงไม่ให้พวกเราพบเธอ”
“พวกเราเป็นญาติของเธอ เขามีสิทธิ์อะไรไม่ให้พวกเราเจอกัน” น้ำเสียงของอีกฝั่งสูงขึ้น เหมือนไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ไป๋หวนหยู่พูดว่า “เขาเป็นสามีเธอ เป็นพ่อของเด็กในท้อง”
ฝั่งนั้นเงียบไปหลายวินาที “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องไปเจอเธอหรือไง”
“รอให้เธอหายดีขึ้นสักนิดก่อนเถอะ” รอสถานการณ์ดีขึ้นสักหน่อย เขาจะหาโอกาสคุยกับโล่เฟยเอ๋อ
“ก็ได้” ฝั่งนั้นถอนหายใจหนึ่งเฮือก แล้วพูดขึ้นว่า “ฉันจะไปบอกพวกลุงๆ อาอาของแก”
“คุณพ่อ อย่ารีบร้อน……” ไป๋หวนหยู่ยังไม่ทันพูดจบ ปลายสายก็มีเสียงวางสายไป
โธ่เอ๊ย……เขารู้อยู่แล้วว่าถ้าพ่อรู้ ก็คงต้องรีบแจ้นไปบอกคนอื่นๆ ถ้าคนอื่นๆ ต่างรู้แล้ว แน่นอนว่าคุณย่าก็ต้องรู้
สำหรับความคิดที่คุณย่ามีต่อคุณป้า ไม่ต้องคิด ขอเพียงแค่รู้ว่าโล่เฟยเอ๋ออยู่ที่ไหน คงต้องรีบตามมาเจอโล่เฟยเอ๋อแน่ๆ
แต่สถานการณ์ของโล่เฟยเอ๋อตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องคิดเลย ซูซีมู่คงไม่ยอมให้พวกเขาเจอกันแน่
โธ่ ……แล้วจะทำยังไงดีละเนี่ย
ขณะที่ไป๋หวนหยู่คิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไรดี ประตูด้านหลังก็เปิดออก ซูซีมู่ออกมาจากข้างใน
“เฟย……” ไป๋หวนหยู่กำลังจะถามว่า ‘เฟยเอ๋อเป็นยังไงบ้าง’ พอคำพูดมาถึงปาก เขาพบว่าระดับความคุ้นเคยระหว่างเขากับโล่เฟยเอ๋อตอนนี้การใช้คำว่า ‘เฟยเอ๋อ’ มันจึงไม่เหมาะสม รีบเปลี่ยนเป็น “ภรรยาคุณเป็นยังไงบ้าง”
สายตาของซูซีมู่เป็นประกาย ตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรแล้ว”
ไป๋หวนหยู่ ‘ออ’ หนึ่งเสียง แล้วก็พูดขึ้นว่า “งั้นก็ดีแล้ว”
“เรื่องวันนี้รบกวนประธานไป๋มากแล้ว หลังภรรยาผมหายดีแล้ว ผมค่อยไปขอบคุณประธานไป๋อีกครั้ง” ซูซีมู่ใช้คำว่าไปขอบคุณกับไป๋หวนหยู่ แต่ที่จริงแฝงด้วยความนัยว่าต้องการส่งแขก
ไป๋หวนหยู่ย่อมฟังออก เขาหันไปยิ้มกับซูซีมู่ “ไม่ต้องขอบคุณแล้ว ผมยังมีธุระ คงต้องไปก่อน”
รอจนไป๋หวนหยู่จากไปแล้ว ซูซีมู่ก็หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า โทรหาโจวเฉิง
“โจวเฉิง นายรีบเช็คให้ฉันที่ว่าบริษัทบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อของตระกูลไป๋กับโล่เฟยเอ๋อมีความเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า”
ใช่แล้ว ซูซีมู่สังเกตเห็นถึงท่าทีแปลกๆ ของไป๋หวนหยู่ที่มีต่อโล่เฟยเอ๋อแล้ว
โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้ที่ไป๋หวนหยู่พูดว่า แม้ว่าทั้งตระกูลไป๋ต้องต่อสู้เพื่อเฟยเอ๋อ ตระกูลไป๋ก็สู้ยิบตา
แม้ว่าขณะนั้นไป๋หวนหยู่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนากะทันหัน แต่ซูซีมู่คิดว่าเขาคงไม่ได้พูดเล่นๆ
มีเพียงเหตุผลเดียวคือบริษัทบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อของตระกูลไป๋กับโล่เฟยเอ๋อมีความเกี่ยวข้องกัน
“ครับ ประธานซู……”
เดิมทีไป๋หวนหยู่คิดว่าเรื่องนี้ยังคงสามารถยืดเวลาได้อีกหลายวัน ขอแค่คุณย่ายังไม่รู้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่คิดไม่ถึงว่า เขายังกลับไม่ถึงบ้าน พ่อของเขากลับโทรหาเขาอีกครั้ง
พ่อของเขาบอกเขาว่า คุณย่ารู้เรื่องของโล่เฟยเอ๋อเข้าอย่างไม่ตั้งใจ
พวกเขาขอร้องไม่สำเร็จ จึงได้แต่ให้พ่อมาหาเขา ให้เขาพาโล่เฟยเอ๋อไปเจอคุณย่า
ให้รีบพาโล่เฟยเอ๋อไปทันที รนหาที่ตายแท้ๆ
วางสายอย่างไร้เรี่ยวแรง ไป๋หวนหยู่สตาร์ทรถขับไปยังบ้านตระกูลไป๋ พอเข้าในบ้าน ก็เห็นว่าทุกคนของตระกูลไป๋ต่างก็อยู่กันถ้วนหน้า
คุณย่าของตระกูลไป๋นั่งอยู่ตรงกลาง พอเห็นไป๋หวนหยู่เดินเข้ามาคนเดียว ถามขึ้นด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจว่า “ทำไมแกกลับมาคนเดียว เฟยเอ๋อล่ะ”
ไป๋หวนหยู่กุมขมับ พูดขึ้นว่า “คุณย่า อย่าตื่นเต้นสิครับ ตอนนี้เฟยเอ๋อยังมาไม่ได้”
“ทำไมเธอจึงมาไม่ได้” คุณย่าของตระกูลไปถามขึ้นอย่างสงสัย
ไป๋หวนหยู่อธิบายอย่างใจเย็นว่า “เฟยเอ๋อตอนนี้เธอต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล”
“พักที่โรงพยาบาล เธอเป็นอะไรไป ฉันจะไปดูเธอที่โรงพยาบาล” พูดแล้วคุณย่าก็จะลุกขึ้นไปโรงพยาบาล
“คุณย่า อย่าใจร้อนสิครับ ฟังผมพูดก่อน ” ไป๋หวนหยู่ห้ามการกระทำของคุณย่า จากนั้นก็พูดถึงอาการของโล่เฟยเอ๋อ
ข้อสรุปสุดท้ายก็คือ โล่เฟยเอ๋อยังไม่รู้เรื่องของตระกูลไป๋ และตอนนี้เขามีภาวะที่เสี่ยงต่อครรภ์ ไม่สามารถรับแดงกดดันได้ ทางที่ดีที่สุดคือให้เธอพักให้หายดีแล้ว ค่อยไปพบเธอ
“แล้วเฟยเอ๋อจะหายดีเมื่อไหร่” คุณย่าถาม
“ไม่แน่ใจครับ แต่ว่าผมรับประกันกับคุณย่าได้เลยว่า รอให้เธอหายดีแล้ว ก็จะให้คุณย่าไปพบเธอ”
“ดี……”
ไป๋หวนหยู่ได้ให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าคุณย่าแล้ว แต่นอนว่าต้องจับตาดูอาการของโล่เฟยเอ๋อเป็นพิเศษ
อีกทั้งยังมีเรื่องการแข่งขันออกแบบจิวเวลรี่ของบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อ ไป๋หวนหยู่ก็ได้ปรึกษากับซูซีมู่เป็นพิเศษแล้ว
หลังจากโล่เฟยเอ๋อออกจากโรงพยาบาลแล้ว ค่อยประกาศผลการตัดสิน
ซูซีมู่รู้สึกซาบซึ้งใจในการกระทำครั้งนี้ของไป๋หวนหยู่มาก
การแข่งขันจิวเวลรี่ระดับโลกครั้งที่แล้ว โล่เฟยเอ๋อต้องล้มเหลวกลางคัน
ครั้งนี้ เขาไม่อยากให้โล่เฟยเอ๋อต้องพลาดอีกครั้ง
แม้ว่าที่ไป๋หวนหยู่ทำเช่นนี้ จะมีจุดประสงค์อื่น
ใช่แล้ว ซูซีมู่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลไป๋กับโล่เฟยเอ๋อแล้ว และรับรู้เรื่องบาดหมางที่ตระกูลไป๋และโล่เฟยเอ๋อมีต่อกันในเวลานั้นด้วย
แม้จะไม่เห็นด้วยกับวิธีการของตระกูลไป๋ แต่ซูซีมู่เข้าใจดีถึงความรู้สึกของโล่เฟยเอ๋อที่มีต่อญาติพี่น้อง
แม้ว่าโล่ชิงไป๋จะทำอย่างนั้นกับเธอ แต่เธอก็ยังคงมีความหวังในตัวเขา
หากตระกูลไป๋ไม่ทำให้เธอผิดหวัง เขายินดีมากที่จะให้โล่เฟยเอ๋อมีญาติพี่น้องมากขึ้นอีกหน่อย
“มีอะไรก็พูดมาเถอะ” ซูซีมู่ใช้สายตามองไปยังร่างของไป๋หวนหยู่ที่ทำท่าราวกับมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูด
ไป๋หวนหยู่พยักหน้า “มี”
“อืม” ซูซีมู่กำลังรอคำพูดต่อไปของไป๋หวนหยู่
ไป๋หวนหยู่มองเขาแล้วมีความรู้สึกว่า เหมือนซูซีมู่จะรู้แล้วว่าเขาต้องการจะพูดอะไร
ขรึมไปหลายวินาที ไป๋หวนหยู่พูดขึ้นว่า “คุณรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลไป๋กับโล่เฟยเอ๋อแล้วใช่ไหม”
“รู้แล้ว” ซูซีมู่พยักหน้า
รู้แล้วจริงๆ ด้วย ไป๋หวนหยู่ถอนหายใจในใจ จากนั้นก็กล่าวขึ้นว่า “คุณยินดีจะให้คนของตระกูลผมพบเธอไหม”
ซูซีมู่ปฏิเสธทันที “ไม่ได้”
“ทำไมจึงไม่ได้ เธอเป็นลูกสาวของคุณป้าผมนะ คนของตระกูลผมต่างก็อยากพบเธอ คุณย่าผมคิดถึงเธอมาก” ไป๋หวนหยู่เอ่ยอย่างเร่งรีบ
“แล้วทำไมตอนนั้นต้องจากเธอไป”
“ตอนนั้นมันไม่มีทางเลือก”
“หลายปีมานี้ทำไมไม่ตามหาเธอ”
“พวกเรากลัวการเผชิญหน้ากับเธอ”
ซูซีมู่จ้องไป๋หวนหยู่ด้วยสายตานิ่งขรึมอยู่หลายวินาที สุดท้ายก็เอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้ผมยังให้พวกคุณพบเธอไม่ได้ รอให้เธอหายดีก่อนค่อยว่ากัน”
“ประธานซู ผมขอร้องคุณให้โอกาสพวกเราสักครั้ง ……” ไป๋หวนหยู่พูดถึงตรงนี้ ก็ได้ยินที่ซูซีมู่พูดขึ้นมากะทันหัน ร้องขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ประธานซู คุณพูดจริงเหรอ”
ซูซีมู่ไม่ตอบเขา มองเขาแวบหนึ่ง แล้วก็หมุนตัวจากไป