บทที่ 378 อันดับหนึ่ง
หลังจากนั้นสองวันโล่เฟยเอ๋อก็ออกจากโรงพยาบาล ในวันนั้นเองบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อได้ออกประกาศ ได้ประกาศผลการแข่งขันในวันที่สอง
วันนั้นโล่เฟยเอ๋อเดินทางไปบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อพร้อมกับพวกของคาริน่า
หลังจากนั่งเรียบร้อยแล้ว นักออกแบบอีกสองคนที่อยู่กับคาริน่าก็ถามขึ้นถึงเรื่องที่โล่เฟยเอ๋อเข้าโรงพยาบาล
“คุณโล่ ได้ยินหัวหน้าเย่บอกว่า ไม่กี่วันมานี้คุณต้องเข้าโรงพยาบาลเหรอ”
“อืม ไม่สบายนิดหน่อยค่ะ” โล่เฟยเอ๋อตอบ
“อย่างนั้นก็ดีแล้ว เดิมทีพวกเราคิดจะไปเยี่ยมคุณที่โรงพยาบาล แต่คุณครูคาริน่าบอกว่าคนป่วยต้องการพักผ่อนอย่างสงบ บอกให้พวกเราอย่าไปรบกวนคุณ” นักออกแบบทั้งสองคนนั้นผลักภาระให้กับคาริน่า
โล่เฟยเอ๋อรู้ว่าที่คาริน่าห้ามไม่ให้พวกเขาไม่เยี่ยมเธอ นั่นก็เพราะว่าได้รับการบอกกล่าวจากเย่รู่ไป๋ แน่นอนว่าคงไม่กล้าขัดคำสั่ง เธอพยักหน้าบอกว่า “อืม ฉันต้องการพักผ่อนเงียบๆ จริงๆ ”
“อย่างนั้นเหรอ……” นักออกแบบทั้งสองคนคิดอยากจะทำให้โล่เฟยเอ๋อและคาริน่ามีช่องว่างระหว่างกัน คิดไม่ถึงว่าโล่เฟยเอ๋อจะออกตัวแทนคาริน่า รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
โล่เฟยเอ๋อมองไปยังคาริน่า จากนั้นก็กล่าวกับนักออกแบบอีกสองคนว่า “ว่างแล้วค่อยคุยเถอะ จะเริ่มงานแล้ว”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดตัดบทอย่างชัดเจนเช่นนี้ แม้ว่านักออกแบบทั้งสองจะยังมีคำพูดอีกมากมายอยากพูด แต่ก็ได้แต่ปิดปากเงียบไป
ไม่กี่นาทีต่อมา การแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
พนักงานยืนอยู่ด้านหน้า ชูไมค์ขึ้น กล่าวเปิดพิธีด้วยน้ำเสียงเสนาะหู จากนั้นก็เชิญตัวแทนของบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อขึ้นกล่าวบนเวที
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อคิดว่าคงเป็นแค่ผู้นำระดับสูงคนใดคนหนึ่งของบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อที่ขึ้นเวทีเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าคนที่ขึ้นเวทีจะเป็นไป๋หวนหยู่
ไป๋หวนหยู่ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่จะขึ้นกล่าวในงานแข่งขันเช่นนี้ด้วยตนเอง
เธอไม่รู้เลยว่าที่ไป๋หวนหยู่ขึ้นกล่าวบนเวทีด้วยตนเองนั้น เป็นเพราะเธอ
“ทำไมเขาต้องขึ้นเองด้วย” โล่เฟยเอ๋อพึมพำด้วยความสงสัย
คาริน่าที่อยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “คุณโล่ คุณว่าอะไรนะคะ”
“ไม่มีอะไรค่ะ” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า สายตาจดจ่ออยู่ที่ไป๋หวนหยู่
ไป๋หวนหยู่เดินขึ้นเวทีพร้อมเสียงปรบมือ รับไมค์จากพนักงาน เปิดปากพูดขึ้นว่า “ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมการแข่งขันนักออกแบบของบริษัทบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อ เป็นเพราะเหตุผลบางประการ ทำให้การแข่งขันต้องเลื่อนเวลาไปหนึ่งสัปดาห์ ผมจึงขอเป็นตัวแทนของบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อกล่าวขออภัยต่อทุกท่าน……”
หลังจากที่ไป๋หวนหยู่พูดจบ พนักงานก็เริ่มประกาศผลการแข่งขัน
พูดตามความจริง หากเป็นเมื่อสัปดาห์ก่อน โล่เฟยเอ๋อคงต้องตื่นเต้นกับผลการแข่งขันเป็นแน่
แต่ตอนนี้ เธอไม่มีความรู้สึกเลยสักนิด เธอแค่อยากให้จบลงโดยเร็ว แล้วรีบกลับโรงแรมไปเจอซูซีมู่
เพราะนี่เกี่ยวพันถึงความร่วมมือระหว่างบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อกับบริษัทออกแบบจิวเวลรี่อื่นๆ ฉะนั้นอันดับในการแข่งขันจึงจัดเป็นห้าอันดับ
ตอนที่พนักงานประกาศผลการแข่งขัน ก่อนอื่นได้ทำการเปิดภาพวาดที่ออกแบบบนหน้าจอเวที อีกทั้งยังเปิดคอมเมนต์ของคณะกรรมการที่มีต่อผลงานออกแบบด้วย
ประกาศผลรางวัลอันดับที่ห้าและที่สี่ก่อน แบ่งเป็นบริษัทคาดิลล่าของประเทศMในผลงานออกแบบชื่อ ‘รักไม่ลืม’ และนักออกแบบที่มีชื่อเสียงอยู่บ้างเล็กน้อยของบริษัทเวินซากรุ้ปในชื่อผลงาน ‘รักในม่านเมฆ’
ตอนนี้เองพนักงานเริ่มประกาศอันดับที่สามแล้ว เป็นนักออกแบบตัวเต็งอันดับต้นๆ ของแบรด์ALไต้เหวยในผลงานที่ชื่อว่า ‘อย่ารัก’
เดิมทีที่ได้ยินชื่อไต้เหวยนั้น โล่เฟยเอ๋อรู้สึกคุ้นหูมาก รอจนไต้เหวยขึ้นเวที เธอจึงได้รู้ว่าไต้เหวยคนนี้เป็นลูกศิษย์ของคุณไล๋เหมิง ตอนที่แข่งขันจิวเวลรี่ระดับโลกไต๋เหวยได้อันดับที่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้เขาจะได้แค่อันดับที่สาม โล่เฟยเอ๋อถอนหายใจอย่างเงียบๆ ในใจ
หลังจากไต้เหวยขึ้นเวทีรับรางวัล พนักงานก็ประกาศชื่ออันดับที่สอง เป็นผลงานการออกแบบของนักออกแบบคือรุ่ยจากบริษัทเวินซากรุ้ปในชื่อผลงาน ‘ผ่านแสงยามเช้าร่วมกัน’
โล่เฟยเอ๋อรีบหยิบมือถือขึ้นมา ส่งข้อความบอกเรื่องนี้กับซูซีมู่
ซูซีมู่ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า 【สุดท้ายจะประกาศอันดับที่หนึ่ง ตื่นเต้นหรือเปล่า 】
โล่เฟยเอ๋อยิ้มตื้นๆ ตอบกลับว่า ,【ไม่ตื่นเต้นเลย เพราะฉันไม่เคยคิดว่าจะเป็นตัวเอง】
【แต่ผมเชื่อว่าต้องเป็นคุณ】
มองข้อความบนมือถือ ‘แต่ผมเชื่อว่าเป็นคุณ’ มุมปากของโล่เฟยเอ๋อก็หยักขึ้น จากนั้นก็พิมพ์ข้อความ
【ถ้าเป็นฉันจริง คุณอย่าลืมให้รางวัลฉันนะ】
【ได้】
โล่เฟยเอ๋อเห็นซูซีมู่ตอบกลับเธอมาด้วยคำว่า ‘ได้’ ก็ได้ยินพนักงานบนเวทีประกาศว่า “อันดับที่หนึ่ง นักออกแบบโล่เฟยเอ๋อจากบริษัทออกแบบจิวเวลรี่ หัวเซี่ยตี้หวงในชื่อผลงาน ‘ศรเดียวปักใจ’ !”
ตอนที่โล่เฟยเอ๋อได้ยินชื่อของตัวเอง ยังคิดว่าได้ยินผิดไป ตอนที่เธอเงยหน้าขึ้น เห็นว่าหน้าจอบนเวทีฉายภาพของเธอขณะกำลังออกแบบภาพวาด เธอนิ่งอึ้งไป
ตอนที่พนักงานเรียกให้เธอขึ้นไปรับรางวัลบนเวที เธอยังคงไม่ตอบสนอง
“คุณโล่คุณได้อันดับที่หนึ่ง รีบขึ้นเวทีรับรางวัล……” จนกระทั่งพวกของคาริน่าต้องเตือนเธอ โล่เฟยเอ๋อจึงได้สติกลับมา ลุกขึ้นเดินไปบนเวที
วันนี้เป็นวันตัดสินการแข่งขันของโล่เฟยเอ๋อ แม้ว่าซูซีมู่จะคาดเดาผลการแข่งขันในใจได้แล้ว แต่เขาก็ยังมากอยู่ดี
แต่เป็นการมาที่ปิดบังโล่เฟยเอ๋อเอาไว้ เพราะก่อนที่โล่เฟยเอ๋อจะมาที่บริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อ ได้ย้ำนักย้ำหนากับเขาว่าให้เขารออยู่ที่โรงแรม
มีประสบการณ์การหายตัวไปครั้งที่แล้วของโล่เฟยเอ๋อ ซูซีมู่จะยอมให้เธอออกมาคนเดียวได้อย่างไร
ซูซีมู่มาดูแลโล่เฟยเอ๋อโดยเฉพาะ ไม่ได้สนใจการประกาศรางวัลตรงนักเลยสักนิด พอนั่งลง ก็ก้มลงเล่นมือถือ
เย่รู่ไป๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับตื่นเต้นเอามากๆ ตอนที่พนักงานประกาศอันดับที่ห้า เขาภาวนาให้เป็นโล่เฟยเอ๋อ
ตอนที่ประกาศอันดับที่สี่ เขาก็ภาวนาให้โล่เฟยเอ๋อเป็นอันดับที่สี่
ตอนที่ประกาศอันดับที่สาม อันดับที่สอง เขาก็ทำเหมือนกัน
ที่จริงซูซีมู่รำคาญมากที่มีคนมาคอยรบกวนอยู่ข้างๆ แต่เห็นแก่เย่รู่ไป๋ที่ตื่นเต้นแทนโล่เฟยเอ๋อ ครั้งนี้เขาไม่ได้สั่งให้เย่รู่ไป๋หุบปาก
ตอนที่ได้รับข้อความจากโล่เฟยเอ๋อว่าอันดับที่สองคือรุ่ยแฟนของส้ายหลินน่า ซูซีมู่เงยหน้าขึ้นมองไปบนเวทีแวบหนึ่ง
จากนั้นก็ก้มหน้าเริ่มตอบข้อความโล่เฟยเอ๋อ
ตอนที่พนักงานบนเวทีประกาศอันดับที่หนึ่งคือโล่เฟยเอ๋อ เย่รู่ไป๋ตื่นเต้นจนลุกยืนขึ้น “ประธานซู คุณได้ยินหรือเปล่า อันดับที่หนึ่งคือคุณผู้หญิง”
ฉันทายถูกตั้งนานแล้ว ในใจของซูซีมู่ตอบกลับหนึ่งคำ สายตาอยู่ที่ทางขึ้นเวที
ไม่เสียแรงที่เป็นประธานซู ช่างเย็นชาเสียจริง เย่รู่ไป๋ตอบกลับในใจ จากนั้นก็หันไปตะโกนทางเวทีว่า “อันดับที่หนึ่ง คุณผู้หญิงสุดยอด”
หลังจากโล่เฟยเอ๋อขึ้นเวที พนักงานกล่าวยินดีกับเธอ “คุณโล่ ยินดีด้วยที่ได้รับรางวัลที่หนึ่ง”
“ขอบคุณค่ะ” โล่เฟยเอ๋อกล่าวขอบคุณต่อพนักงาน จากนั้นก็พูดอย่างช้าๆ ต่อผู้คนด้านล่างเวที “ที่จริงฉันคิดไม่ถึงเลยว่า ฉันจะได้อันดับที่หนึ่ง พูดจริงๆ นะคะ ฉันคิดไม่ถึงเลย”
“คุณโล่ถ่อมตัวเกินไปแล้ว ภาพ ‘ศรเดียวปักใจ’ ของคุณ ยังได้รับคำชมด้วยนะคะ” พนักงานยิ้ม จากนั้นก็ถามว่า “คุณโล่คิดอย่างไรที่วาดรูปนี้ขึ้นมาคะ”
โล่เฟยเอ๋อตอบว่า “ฉันพูดได้เพียงว่า ภาพนี้มาจากความรู้สึกของฉันจริงๆ”
“ความรู้สึกที่แท้จริงของคุณโล่หรือคะ” พนักงานทำหน้าเหมือนสนใจเสียเต็มประดา ถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าคุณโล่จะสามารถแบ่งปันให้พวกเราฟังได้ไหมคะ”
โล่เฟยเอ๋อเงียบไปหลายวินาที จากนั้นก็พยักหน้า “ได้ค่ะ”