บทที่ 390 ความรู้สึกของโจวเฉิง ที่มีต่อซูยุ่น
“คุณเกลียด คุณเกลียดจริงๆ ” ซูยุ่นที่เมาแล้ว ไม่มีเหตุผลเล็กน้อย
โจวเฉิงกุมขมับ “คุณซู ฉันส่งคุณกลับไปดีไหม? ”
“ไม่ดี” ปฏิเสธโดยตรง
โจวเฉิงถามอย่างจำนนต่อชะตากรรม “แล้วคุณอยากทำยังไง? ”
“ฉันจะให้คุณจูบฉัน” ซูยุ่นพูด
เมื่อได้ยินคำต้องการของซูยุ่น โจวเฉิงสีหน้าบูดบึ้ง “ไม่ได้”
เมื่อได้ยินโจวเฉิงพูดว่าไม่ได้ ซูยุ่นก็บ่นกับโจวเฉิงด้วยความน้อยอกน้อยใจ “คุณไม่ยอม? คุณเกลียดฉัน ……”
โจวเฉิงรู้สึกว่าตัวเองสติไม่ได้แล้ว ถึงได้ไปใช้เหตุผลกับคนเมา?
คนเมาแล้ว รู้สึกว่าตัวเองมีเหตุผลเท่านั้น เขาจะพูดรู้เรื่องกับเธอหรือ?
วิธีเดียวก็คือ เอาซูยุ่นกลับไปในตอนนี้ ทันทีเลย แต่ซูยุ่นไม่ยอมกลับไป เขาก็ไม่รู้ด้วยว่า ซูยุ่นอาศัยอยู่ที่ไหน?
เดิมทีอยากจะโทรหาซูซีมู่ เมื่อคิดดูแล้ว โจวเฉิงก็ล้มเลิกไป
สุดท้าย โจวเฉิงก็ตัดสินใจพาซูยุ่นไปที่โรงแรมโดยตรง
โจวเฉิงเรียกแท็กซี่คันหนึ่ง พาซูยุ่นเข้าไป
ในตอนแรกนั้น ซูยุ่นไม่ให้ความร่วมมือมากนัก พูดในขณะที่ดิ้นรน “ฉันไม่กลับไป”
โจวเฉิงจับตัวเธอไว้ “ฉันไม่ส่งคุณกลับไป เราไปที่โรงแรม”
“คุณอย่าโกหกฉัน ฉันไม่ได้เมานะ” ซูยุ่นหยุดดิ้นรนมองไปที่โจวเฉิงด้วยสีหน้า ‘จริงจัง’ ดูเหมือนว่าจะไม่เมาเลยสักนิด
แน่นอนว่า ถ้าแววตาของเธอไม่งงงวยเช่นนี้ โจวเฉิงก็จะเชื่อมากขึ้น
น่าเสียดาย……
โจวเฉิงพูดโกหก ‘ขัดต่อจิตสำนึก’ “คุณไม่เมา ฉันไม่กล้าโกหกคุณ”
ซูยุ่นส่งเสียง ‘อืม’ ด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็จับหน้าของโจวเฉิงไว้ ในตอนที่โจวเฉิงยังไม่ทันตั้งตัว จูบลงที่ใบหน้าของเขา “ให้รางวัลคุณ”
โจวเฉิงกระตุกมุมปาก ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร
คนขับแท็กซี่ยิ้มพูดว่า “แฟนคุณใจกว้างจังเลยนะ”
“เธอ……เธอไม่ใช่แฟนของฉัน” โจวเฉิงตอบ
ปฏิกิริยาของซูยุ่นรวดเร็วมาก ทันทีที่เสียงของโจวเฉิงสิ้นลง เธอก็มองไปที่โจวเฉิงด้วย ‘ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา’ ‘คุณไม่เอาฉันแล้วเหรอ? ”
โจวเฉิงจำใจ “เอ่อ……”
“พ่อหนุ่ม น้องผู้หญิงชอบคุณมากขนาดนี้ คุณไม่เอาน้องเขา ไม่จริงใจเลยนะ” คนขับแท็กซี่ออกหน้าช่วยเหลือซูยุ่น
ไม่จริงใจกับผีสิ! โจวเฉิงแอบด่าในใจ แล้วก็พูดกับซูยุ่น “ฉันไม่ได้ไม่เอาคุณ”
ซูยุ่นกอดคอของโจวเฉิงไว้ด้วยความดีใจ “ฉันรู้อยู่แล้ว ว่าคุณชอบฉัน……เฮ่อๆ ……”
ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องเสียคำอธิบายแล้ว ฐานะแฟนของเขา ได้ถูกยืนยันเป็นจริงอย่างสมบูรณ์
โจวเฉิงกุมขมับไว้เงียบๆ ส่วนคนขับแท็กซี่คนนั้น ก็จอดรถที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว
คนขับรถพูดว่า “นี่คือโรงแรมที่ใกล้ที่สุดแล้ว ฉันเห็นว่าพวกคุณกำลังรีบ ก็เอาที่นี่แล้วกันนะ”
รีบแม่งนะสิ รีบ!
โจวเฉิงแอบด่าในใจ จากนั้นก็เอาเงินจากกระเป๋าเสื้อ จ่ายค่าโดยสาร แล้วทั้งกอดและพยุง พาซูยุ่นลงจากรถ
“ฉันไม่กลับไป” ซูยุ่นนึกว่าโจวเฉิงจะพาเธอกลับไป ไม่ยอมลงจากรถ
“ไม่ใช่จะกลับไป คือไปที่โรงแรม” คำตอบของโจวเฉิงทำให้ซูยุ่นสงบลง เธอปล่อยให้โจวเฉิงอุ้มเธอเข้าโรงแรมอย่างเชื่อฟัง
โจวเฉิงจองห้องสวีทที่ดีที่สุดในโรงแรม แล้วพาซูยุ่น
เข้าไปในห้อง
เขาวางเธอลงบนเตียง คลุมผ้าห่มให้เธอ อยากจะออกไป
ในตอนนี้ ซูยุ่นก็อาเจียนออกมากะทันหัน
ไม่เพียงแค่ทำให้เตียงสกปรกเท่านั้น แต่ยังอาเจียนเปื้อนทั้งตัว
โจวเฉิงจึงต้องเรียกพนักงานเข้ามา ให้พนักงานอาบน้ำให้ซูยุ่น แล้วจัดเตียงใหม่
หลังจากที่โจวเฉิงส่งพนักงานไปแล้ว ก็เป็นเวลาตีสองแล้ว
มองซูยุ่นที่นอนอยู่บนเตียง กำลังนอนหลับสนิท โจวเฉิงก็อดใจไม่ไหว ที่จะจ้องมองจนใจลอย หลังจากที่เขาดึงสติกลับมาได้ มือของเขาก็ลูบสัมผัสที่แก้มของซูยุ่นแล้ว
เขาดึงมือกลับมา ราวกับถูกไฟลวก จากนั้นก็ลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนก เตรียมจะออกไป
ทันใดนั้นซูยุ่นก็ร้องไห้เสียงดัง โจวเฉิงถึงกับผงะไปชั่วขณะ จากนั้นก็เริ่มลุกลี้ลุกลน ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
สุดท้ายเขาก็ได้เลียนแบบน้ำเสียงของท่านประธานของเขา ที่พูดปลอบโยนคุณนาย ในขณะที่ตบหลังซูยุ่น ก็พูดปลอบด้วยเสียงอ่อนโยน “อย่าร้องไห้…… เด็กดี……”
เดิมทีโจวเฉิงแค่คิดจะลองดูเท่านั้น แต่ไม่คิดว่า วิธีนี้จะได้ผลจริงๆ
ซูยุ่นไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว แต่ก็เริ่มพูดพึมพำ เสียงเบาเกินไป ได้ยินไม่ชัด ว่ากำลังพูดอะไร แต่ดูเหมือนจะเศร้าเสียใจมาก
โจวเฉิงลังเลอยู่สองสามวินาที แล้วโน้มตัวเข้าไป
ได้ยินซูยุ่นพูดอย่างแผ่วเบา “ทำไมไม่ชอบเธอ…… ทำไมไม่ชายตามองเธอ……”
มีความเจ็บปวดเล็กน้อยจากก้นบึ้งของหัวใจ ทำให้แววตาของโจวเฉิง ประกายด้วยความงุนงง
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ฟื้นฟูสู่ความสว่าง เขาก็เข้าใจอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง
จ้องมองซูยุ่นที่ยังคงพึมพำอยู่ตลอด ด้วยสายตาที่ซับซ้อน สุดท้ายก็ตบหลังเธออย่างเงียบๆ ปลอบโยนเธอ……
ซูยุ่นตื่นขึ้นจากอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เธอนวดที่ขมับ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง
ทันใดนั้นรู้สึกร่างกายหนาวเล็กน้อย เธอก้มหน้าลง ก็ได้เห็นตัวเองสวมชุดนอนอยู่
นี่ไม่ใช่ชุดนอนของเธอเอง……
ซูยุ่นร้องอุทานออกมาโดยอัตโนมัติ
จากนั้นร่างหนึ่ง เดินเข้ามาจากระเบียง
เมื่อซูยุ่นเห็นอีกฝ่าย ก็ชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นก็รีบจับชุดนอนบนตัวไว้แน่น “คุณ……คุณ……ทำไมถึงอยู่ที่นี่?”
โจวเฉิงไม่ใช่คนโง่ เห็นเธอท่าทางแบบนี้ ก็รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
แววตาประกายเล็กน้อย จากนั้นก็พูดอย่างเรียบเฉย “เมื่อคืนคุณอาเจียน ฉันให้พนักงานในโรงแรม ช่วยอาบน้ำให้คุณ”
หลังจากได้ยินคำพูดของโจวเฉิง ซูยุ่นถึงได้โล่งอก เธอถอนหายใจยาวๆ “งั้นก็ดี”
โจวเฉิงหันมองไปทางอื่น แล้วก็พูดต่อ “เสื้อผ้าชุดใหม่ได้เตรียมไว้แล้ว อยู่ที่โซฟา อาหารเช้าก็ให้โรงแรมจัดเตรียมไว้แล้ว คุณกดสายด่วน ก็จะถูกส่งขึ้นมา”
สมเป็นผู้ช่วยของพี่ชายจริงๆ จัดเตรียมไว้อย่างเหลือล้น
ซูยุ่นแอบพึมพำในใจ แล้วพยักหน้า “อ้อ โอเค”
“ฉันยังมีธุระ ดังนั้นจึงไม่ส่งคุณซูกลับไปแล้ว” โจวเฉิงโค้งคำนับให้ซูยุ่นอย่างเคารพ จากนั้นก็หันออกไป
เมื่อมองคนที่เดินออกไป ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ซูยุ่นมีอารมณ์ชั่ววูบ ที่อยากจะเรียกหยุดเขา
และเธอก็ทำอย่างนี้จริงๆ “เดี๋ยวก่อน”
โจวเฉิงหยุดก้าวเดิน หันกลับมา ถามด้วยน้ำเสียงอย่างเป็นทางการ “คุณซู ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือ? ”
เมื่อซูซีมู่ฟังคำพูดของโจวเฉิง ในใจรู้สึกอึดอัดมาก สุดท้ายก็หลบสายตาออก พูดอย่างเย็นชา “คุณช่วยฝากคำขอบคุณให้พี่ชายฉันด้วย”
“ครับ คุณซู” โจวเฉิงพยักหน้า ออกจากห้องไป
ซูยุ่นอยู่บนเตียงอย่างมึนงง หลังจากที่รักษาท่าทางที่โจวเฉิงออกไป เป็นเวลาสิบนาทีเต็มๆ ถึงได้ดึงผ้าห่มลุกจากเตียง
เธอเดินตรงไปที่โซฟา จ้องมองเสื้อผ้าบนโซฟา ที่โจวเฉิงเตรียมไว้ให้เธออยู่สักพัก ถึงได้ยื่นมือไปหยิบ แล้วเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว
ต้องพูดว่า โจวเฉิงมีรสนิยมมาก เสื้อผ้าเหมาะกับซูยุ่น
มองตัวเองในกระจกอยู่สักพักหนึ่งอย่างเงียบๆ ซูยุ่นเชิดหน้าเดินออกไปจากห้องแต่งตัวเหมือนดั่งปกติ
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ยังเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลซู ที่หยิ่งยโสในเมื่อก่อน
แต่เธอไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจริงๆ เหรอ? อาจมีตัวเธอเท่านั้นที่รู้เอง