บทที่394 ไปดูที่ตี้กว้าน
แม้ว่าการปรากฏตัวของโล่ชิงไป๋จะทำให้โล่เฟยเอ๋อคิดถึงเรื่องราวในอดีต แต่เพราะมีซูซีมู่อยู่ ไม่นานเธอก็โยนเรื่องพวกนั้นออกจากสมอง
และกลับมาทำตามแผนเดิม คือพวกเขาไปซื้อของใช้สำหรับเด็กที่ห้างก่อน
และไม่ต่างอะไรกับพ่อแม่มือใหม่ทั่วไป ทันทีที่เข้ามาในร้านเด็กอ่อน พวกเขาเห็นอะไรก็ตื่นเต้นไปหมด
เสื้อผ้าตัวเล็กๆ รองเท้าคู่เล็กๆ หมวกใบเล็กๆ ไหนจะของเล็กๆ จิ๋วๆ อีกมากมาย
“ซูซีมู่ ดูนี่สิ น่ารักไหม? ” โล่เฟยเอ๋อชูหมวกเล็กๆ ใบนึงขึ้นแล้วถามซูซีมู่
ซูซีมู่พยักหน้า “น่ารัก”
“งั้นเอาอันนี้” โล่เฟยเอ๋อพูดพร้อมยกยิ้มมุมปาก
ซูซีมู่ส่งเสียง ‘อืม’ คำนึง ก่อนจะสั่งกับผู้จัดการร้าน เอาทุกอย่างที่ซูซีมู่หยิบขึ้นมาดู
และก็เป็นแบบนี้ ซูซีมู่กับโล่เฟยเอ๋อเดินเลือกสินค้าอยู่ข้างหน้า ห้อยท้ายด้วยพนักงานในหลายร้านสองสามคนที่คอยหยิบสินค้าตามที่พวกเขาเลือก เป็นภาพที่ไม่ได้น่าตื่นตาอะไรนัก
เลือกมาตลอดทั้งช่วงเช้า โล่เฟยเอ๋อเหนื่อยจนหมดแรง แต่ก็รู้สึกเหมือนยังซื้อไม่ครบ
ซูซีมู่สงสารภรรยา “ส่วนที่เหลือเดี๋ยวให้เจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ไปซื้อก็ได้”
“ก็ได้” เธอไม่ยอมก็ต้องยอมแล้วล่ะ เพราะเดินช็อปจนเหนื่อยขนาดนี้ อีกอย่างให้เจ้าหน้าที่ไปเป็นคนซื้อน่าจะครบถ้วนกว่านี้
ซูซีมู่ลูบศีรษะโล่เฟยเอ๋อเบาๆ แล้วถามอย่างรักใคร่ “หิวหรือเปล่า? กินอะไรหน่อยไหม? ”
“ไม่ต้องแล้ว กลับบริษัทเถอะ” โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า
ซูซีมู่ไม่ได้คัดค้านอะไร แต่ระหว่างทางกลับบริษัท เขาเลี้ยวเข้าตึกอวิ๋นเหซียง แวะซื้อทิรามิสุให้โล่เฟยเอ๋อ
กำลังจะมาถึงบริษัท ซูซีมู่เข้าประชุม ส่วนโล่เฟยเอ๋อพักอยู่ในห้องทำงานของเขา ระหว่างรอก็นั่งกินทิรามิสุไปด้วย
สิบเอ็ดโมงครึ่ง ซูซีมู่ประชุมเสร็จก็กลับมากินข้าวเที่ยงกับโล่เฟยเอ๋อ ซึ่งเป็นอาหารบำรุงที่ส่งมาจากที่บ้าน
ตอนบ่ายซูซีมู่ต้องไปเข้าประชุมที่ตี้กว้าน ตอนแรกเขาตั้งใจจะให้คนขับรถพาโล่เฟยเอ๋อกลับบ้านไปก่อน
แต่โล่เฟยเอ๋ออยากไปเยี่ยมคาริน่าที่ตี้กว้าน จึงนั่งรถไปกับเขา
ตอนที่ลงจากรถ ซูซีมู่กำชับเรื่องที่ต้องระวังกับโล่เฟยเอ๋ออยู่หลายครั้ง ขนาดให้สงเฟยเหวินมาอยู่เป็นเพื่อนเธอก็แล้ว เขาก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี
“เฟยเอ๋อ เธอต้องระวังให้มาก ถ้ามีอะไรก็สั่งสงเฟยเหวิน…” ขณะที่ซูซีมู่กำลังจะเดินออกไปอยู่รอมร่อ เขาก็ยังไม่วายกำชับประโยคซ้ำๆ ให้ฟัง จนโล่เฟยเอ๋อหันหน้าหนีอย่างเอือมระอา
“คุณยังจะเข้าประชุมอยู่อีกไหม? ”
“เข้าสิ” ซูซีมู่หัวเราะเบาๆ เขาเดินเข้าไปทางประตูที่มีกลุ่มผู้บริหารระดับสูงของตี้กว้านยืนต้อนรับอยู่ พร้อมกับเลขาอีกคนหนึ่ง
โล่เฟยเอ๋อนั่งอยู่ในรถ เธอมองตามซูซีมู่เดินเข้าไปในตี้กว้านพร้อมกับคนเหล่านั้น แล้วจึงเรียกให้สงเฟยเหวินลงรถไปกับเธอ
“พวกเขาเข้าไปแล้ว พวกเราลงกันเถอะ”
สงเฟยเหวินเอ่ยถามแปลกใจ “ทำไมคุณนายถึงไม่เข้าไปพร้อมกับประธานซูล่ะคะ? ”
“ถ้าเข้าไปพร้อมซูซีมู่ ต่อไปฉันมาทำงานที่ตี้กว้านคงลำบากน่าดู” ส่วนที่ว่าลำบากอะไร โล่เฟยเอ๋อไม่ได้พูดต่อ แต่สงเฟยเหวินเข้าใจดี
ถ้าเทียบกับใครหลายๆ คนที่อยากจะป่าวประกาศสถานะของตัวเองให้โลกรู้แล้วล่ะก็ สงเฟยเหวินรู้สึกว่าคุณนายของท่านประธานนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
สมกับเป็นผู้หญิงที่ท่านประธานหลงรัก!
โล่เฟยเอ๋อลากสงเฟยเหวินไปยังห้องทำงานเพื่อเจอคาริน่า
แต่ยังไม่ทันจะถึงห้องทำงานของคาริน่า คนอื่นๆ ในออฟฟิศดันสังเกตเห็นเธอเข้าซะก่อน
“คุณโล่มาแล้วหรอครับ? ”
“ไม่เจอกันนานเลยนะคะคุณโล่! ”
“ช่วงนี้คุณโล่หายหน้าหายตาไปไหนมาครับ? ทำไมไม่เข้ามาที่บริษัท? ”
……
ต่างพากันกรูเข้ามาล้อมโล่เฟยเอ๋อพร้อมกับพูดไม่หยุด
สงเฟยเหวินกังวลว่าคนมากมายล้อมโล่เฟยเอ๋อไว้แบบนี้ อาจจะเกิดปัญหา จึงเข้าไปยืนขวางด้านหน้าโล่เฟยเอ๋อ “รบกวนทุกคนอย่าเข้าใกล้คุณนายมากเกินไปค่ะ”
บรรยากาศคึกคักในตอนแรก ก็เปลี่ยนเป็นอึดอัดเพราะคำพูดของสงเฟยเหวิน
โล่เฟยเอ๋อเห็นดังนั้น จึงรีบอธิบาย “ร่างกายฉันไม่ค่อยแข็งแรง ห้ามอยู่ท่ามกลางคนล้อมรอบเยอะๆ น่ะ”
พอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็มีท่าทีรู้สึกผิด
โล่เฟยเอ๋อยืนคุยกับทุกคนอยู่ไม่นาน ก็เดินไปหาคาริน่าพร้อมกับสงเฟยเหวิน
ทันทีที่เธอเดินออกไป คนมาใหม่ในออฟฟิศก็เริ่มส่งเสียงพูดคุยกัน “เธอเป็นใครกัน? เห็นที่ทำงานเราเป็นอะไร? ”
“ก็นั่นน่ะสิ มีการบอกร่างกายไม่แข็งแรง ห้ามให้คนรุมล้อม คิดว่าตัวเองเป็นดาราหรือไง? ”
……
คนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงพูดคุยของพนักงานใหม่ ก็พากันก่นด่าเหล่าคนโง่เขลาอยู่ในใจ
คุณโล่มีสถานะอะไร? แล้วมันเป็นธุระกงการของพวกพนักงานที่เพิ่งมาใหม่?
เวลานี้เองเย่รู่ไป๋ก็รีบร้อนกลับเข้ามาจากข้างนอก
ทันทีที่เข้ามาข้างใน ก็รีบเอ่ยถาม “คุณโล่อยู่ไหน? ”
“หัวหน้า คุณโล่ไปห้องทำงานของผู้อำนวยการแล้วค่ะ”
“งั้นฉันต้องรีบไปหาคาริน่า ไม่งั้นเธอคง” เย่รู่ไป๋ตอบกลับ ‘อ้อ’ แล้วเร่งฝีเท้าไปยังห้องทำงานของคาริน่า
ท่าทางเร่งร้อนเข้ามา แล้วเร่งร้อนเดินจากไปของหัวหน้าแผนกออกแบบ ไม่ว่าโล่เฟยเอ๋อจะมีสถานะอะไร มันก็มากพอจะตบหน้าพวกดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ได้อย่างเจ็บแสบ
พวกเธอเพิ่งรู้ตัวว่าสายตาของคนรอบข้างที่มองมาเต็มไปด้วยสายตาจิกกัด จากนั้นแต่ละคนก็พากันเบือนหน้าหนี…
เย่รู่ไป๋ไม่รู้ตัวเลยว่า การปรากฏตัวของตัวเอง จะทำให้เกิดดราม่ามากขนาดนี้ เขาเร่งฝีเท้าเดินไปที่ห้องทำงานของคาริน่า
“คาริน่า คุณนายอยู่ที่นี่ใช่ไหม? ”
โล่เฟยเอ๋อลุกขึ้นทักทายเย่รู่ไป๋ “หัวหน้าเย่”
“คุณนายมาที่นี่จริงด้วย” เย่รู่ไป๋ตรงเข้าไปหาโล่เฟยเอ๋อด้วยความตื่นเต้น สงเฟยเหวินเข้ามาขวางด้วยความไวกว่า
เย่รู่ไป๋ชะงักฝีเท้า เขามองสงเฟยเหวินด้วยความตกใจ “ทำอะไรของเธอเนี่ย? ”
“จะพูดก็พูด ไม่ต้องเข้ามาใกล้” น้ำเสียงของสงเฟยเหวินไม่ค่อยเป็นมิตร
เย่รู่ไป๋หน้าเสียทรงเล็กน้อย แล้วพูด “เกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบ? ”
เห็นทั้งสองคนกำลังจะทะเลาะกัน โล่เฟยเอ๋อจึงรีบพูดขึ้น “หัวหน้าเย่ มีธุระอะไรหรือเปล่า? ”
เย่รู่ไป๋ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาว่า “ตอนนี้บริษัทเราเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัทบริษัทจิวเวลรี่นานาชาติไป๋ซื่อแล้วครับ จำเป็นต้องออกสินค้าเซ็ทใหม่ คุณนายช่วยมาเป็นแนวหน้าให้ด้วยครับ”
โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า “ขอโทษทีหัวหน้าเย่ แต่ฉันคงทำไม่ได้”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อตอบว่าไม่ได้ เย่รู่ไป๋จึงเข้าใจว่าเพราะเรื่องครั้งก่อนที่เคปทาวน์ ทำให้ซูซีมู่ไม่อนุญาตให้เธอร่วมออกแบบอีก “คุณนายช่วยพูดโน้มน้าวประธานซูให้หน่อยนะครับ”
“หัวหน้าเย่เข้าใจผิดแล้วค่ะ” โล่เฟยเอ๋อหุบยิ้มแล้วส่ายหน้า “ฉันมีเหตุผลบางอย่าง ทำให้ช่วงนี้ไม่มีแรงมาทำงาน”
“คุณ…” เย่รู่ไป๋อยากพูดอะไรต่อ
โล่เฟยเอ๋อพูดอีก “รอสักระยะหนึ่งนะคะ ถึงเวลานั้นฉันเตรียมจะออกซีรี่ส์ใหม่”
“จริงหรอครับ? ” เย่รู่ไป๋ตาโต
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า “จริงแน่นอนค่ะ”
หลังได้รับสัญญาจากโล่เฟยเอ๋อ เย่รู่ไป๋ก็ดีใจจนหุบยิ้มไม่อยู่ แล้วเอ่ยปากชวนเธอกินข้าวไม่หยุด
แต่อาหารสามมื้อของโล่เฟยเอ๋อต้องเป็นอาหารบำรุงเฉพาะเท่านั้น จะให้ไปกินข้าวกับเย่รู่ไป๋ได้ยังไง? จึงต้องใช้ซูซีมู่มาเป็นข้ออ้างปฏิเสธเย่รู่ไป๋