บทที่410 โจวเฉิงไปหาซูยุ่นที่เมืองหลวง
โจวเฉิงบินกลับมาถึงในช่วงเที่ยงของวันต่อมา
หลังจากที่มาถึง เขาไม่ได้ไปหาซูยุ่นที่เมืองหลวงทันที แต่กลับมาที่เมืองA เพื่อสอบถามเรื่องราวกับซูซีมู่ก่อน
เรื่องที่แกล้งแต่งงานกับซูยุ่นถูกเปิดเผย ตอนที่โจวเฉิงเจอหน้าซูซีมู่ ในใจก็รู้สึกละอาย “ประธานซู…”
แต่ซูซีมู่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เขาถามเสียงเรียบ “นายจะเอายังไงต่อ?”
“ผมจะไปหาซูยุ่นที่เมืองหลวงครับ” โจวเฉิงตอบ
ซูซีมู่ถามขึ้นอีก “แล้วไงต่อ?”
ไปหาซูยุ่น แล้วยังไงล่ะ?
ก่อนจะมาที่นี่โจวเฉิงลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป เขาคิดแค่อยากจะมาหาซูยุ่นเร็วๆ แต่พอตอนนี้ซูซีมู่ถาม ในสมองของเขาราวกับผุดคำตอบออกมาอยู่แล้ว
เขาจะรับผิดชอบเรื่องการแต่งงานหลอกๆ นี่เองคนเดียว แล้วพาซูยุ่นกลับมา
ใช่ ต้องจีบซูยุ่น
ต่อให้ในใจของซูยุ่นจะมีคุณชายเหซิงแล้วไงล่ะ? คุณชายเหซิงปฏิเสธเธอไปแล้วไม่ใช่หรือไง?
ซูยุ่นเป็นภรรยาของเขา เขามีสิทธิ์ตามกฎหมาย
คิดมาถึงตรงนี้ โจวเฉิงเงยหน้าขึ้นมองซูซีมู่ แล้วพูดขึ้นช้าๆ ชัดๆ “ผมจะจีบซูยุ่น”
เดิมทีโจวเฉิงคิดว่าถ้าเขาพูดแบบนั้น อาจจะทำให้ซูซีมู่ไม่พอใจ เพราะคดีเก่าเรื่องการแต่งงานของหลอกๆ ของเขากับซูยุ่นก็ยังไม่เคลียร์
ไม่คิดว่าซูซีมู่จะส่งเสียง ‘อืม’ แล้วหยิบจดหมายฉบับหนึ่งส่งให้เขา
โจวเฉิงรู้สึกแปลกใจ ไม่รู้ว่าท่านประธานของเขาจะทำอะไร
แต่โล่เฟยเอ๋อที่นั่งอยู่อีกฝั่ง ก็พูดขึ้น “ยังยืนอยู่ทำไมอีก? รีบไปสิ นี่เป็นของคุ้มภัยสำหรับการเข้าบ้านตระกูลซูเชียวนะ”
โจวเฉิงได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูด ก็รีบรับจดหมายจากมือของซูซีมู่อย่างตื้นตัน
“ขอบคุณครับท่านประธาน คุณนาย”
ซูซีมู่ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ส่งเสียงหึ
โล่เฟยเอ๋อพูดขำๆ “ขอบคุณอะไรกัน? รีบไปเมืองหลวงพาซูยุ่นกลับมาเร็ว”
หลังจากที่ออกมา โจวเฉิงก็ตรงไปที่สนามบิน แล้วนั่งไฟล์ทที่เร็วที่สุดไปเมืองหลวง
ตอนที่ถึงเมืองหลวง ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำ
โจวเฉิงไม่แม้แต่จะพักผ่อน เขาเรียกแท็กซี่ตรงไปยังบ้านตระกูลซู
ตำแหน่งบ้านของตระกูลซูตั้งอยู่ในเขตวิลล่าหรูหราชื่อดัง คนเข้าออกต้องได้รับการตรวจค้นอย่างแน่นหนา
ครั้งที่แล้วโจวเฉิงมากับซูยุ่น เรื่องก็เลยง่าย
แต่ครั้งนี้ เขามาคนเดียว ไม่มีคนจากตระกูลซูมาด้วย แน่นอนว่าเข้าไปไม่ได้
โจวเฉิงจึงต้องโทรหาซูยุ่น ให้ซูยุ่นสั่งคนของตระกูลซูเปิดให้เขาเข้าไป
น่าเสียดายที่ ทันทีที่คนในบ้านรู้ว่าเป็นเขา ก็รีบตัดสายทิ้ง
โจวเฉิงหมดปัญญา สุดท้ายจำต้องขอร้องท่านประธาน
ซูซีมู่ได้ฟังเรื่องจนจบ ก็ตอบกลับแค่ ‘รอเดี๋ยว’ แล้ววางสายไป
โจวเฉิงยืนรออยู่หน้าเขตวิลล่าได้สิบกว่านาที รถเล็กซัสรุ่นGTหรูหราก็ขับออกมาจากด้านใน แล้วจอดตรงหน้าโจวเฉิง
เริ่มแรกโจวเฉิงยังรู้สึกแปลกใจ ทำไมรถคันนี้ถึงจอดตรงหน้าเขา
จนกระทั่งเห็นซูยี่เปิดประตูลงมา ถึงเข้าใจว่ารถคันนี้ขับออกมาหาเขา
และก็เป็นเช่นนั้น วินาทีต่อมา ซูยี่พูดขึ้น “พี่ให้ฉันมารับนาย”
“ขอบคุณครับคุณชายยี่” โจวเฉิงเองก็ไม่เสียเวลา เขาขึ้นรถตามซูยี่ไป
ซูยี่สตาร์ทรถ แล้วพูด “นายแน่มาก ที่กล้ามาถึงที่นี่”
“ทำไมผมต้องไม่กล้า? ที่นี่ไม่ใช่ที่ทรมานนักโทษสักหน่อย” โจวเฉิงตอบกลับตามเนื้อเรื่อง
ซูยี่ได้ยินคำตอบของโจวเฉิง ก็หัวเราะ “สมกับเป็นคนที่พี่เห็นแวว ไม่ธรรมดาตามคาด”
“เป็นเพราะประธานซูให้โอกาสก็เท่านั้น” โจวเฉิงตอบถ่อมตัว
ซูยี่ไม่พูดอะไรอีก แต่เขาชื่นชมคนที่ทำผิดแล้วยังกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลซูอยู่ไม่น้อย
แน่นอนว่า ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง คือฐานะของโจวเฉิงที่มีต่อพี่ชายเทวดาในตระกูลซู
ผ่านไปสิบกว่านาที รถของซูยี่จอดลงหน้าประตูบ้านของซูยุ่น
เขาไม่ได้ลงจากรถ แต่หันไปพูดกับโจวเฉิง “ที่ฉันช่วยได้ก็เท่านี้แหละ”
ความหมายของเขาคือ ต่อจากนี้เขาต้องพึ่งตัวเอง
ก่อนจะมาถึงเมืองหลวงโจวเฉิงเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะมีใครช่วยเขา
ซูยี่อุตส่าห์ขับรถออกไปรับเขา ก็นับว่าดีมากแล้ว
“ขอบคุณครับคุณชายยี่” โจวเฉิงพูดเสร็จ ก็เปิดประตูลงจากรถ
เดิมทีโจวเฉิงถูกพ่อแม่ของซูยุ่นขัดขวางไม่ให้เข้าบ้าน แต่ต่อมาพวกเขาได้อ่านจดหมายของซูซีมู่ที่โจวเฉิงพกติดตัวมา ถึงยอมให้เขาเข้า
แต่แม้ว่าโจวเฉิงจะได้รับอนุญาตให้เข้าบ้าน แต่สีหน้าของพ่อแม่ซูยุ่นก็ไม่ได้ดีขึ้นแม้แต่น้อย
มันก็แน่ล่ะ ลูกสาวของเขาแกล้งแต่งงานแล้วหลอกพวกเขาทุกคน ถ้าพวกเขายังมีสีหน้าต้อนรับอีกก็บ้าแล้ว
เมื่อไม่เห็นซูยุ่นอยู่ โจวเฉิงก็รู้สึกกระวนกระวาย
หรือว่าซูยุ่นถูกครอบครัวทำโทษ?
โจวเฉิงทำความเคารพพ่อแม่ของซูยุ่นด้วยจิตใจว้าวุ่น “คุณพ่อ คุณแม่ครับ”
“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ ฉันไม่ใช่พ่อแก” น้ำเสียงของพ่อซูยุ่นโกรธจัด
นัยน์ตาของโจวเฉิงมืดสนิท เขาเปลี่ยนคำพูดใหม่ “คุณลุง คุณป้า”
พ่อของซูยุ่นจ้องหน้าโจวเฉิง แล้วถาม “แกมาทำอะไรที่นี่?”
“คุณลุงครับ ผมมาหาซูยุ่น” โจวเฉิงตอบ
แม่ซูยุ่นเป็นฝ่ายพูดขึ้นเสียงฟึดฟัด “เธอกำลังรอรับโทษที่กล้าโกหกตระกูลซูเรื่องแต่งงาน แกสูบเอาผลประโยชน์จากลูกฉันไปตั้งเยอะแล้ว ยังจะมาหาเธอทำไมอีก?”
โจวเฉิงได้ยินแม่ของซูยุ่นพูดว่าเธอยังไม่ถูกลงโทษ ก้อนหินก้อนใหญ่ในอกก็เหมือนถูกยกออกไป
ส่วนที่แม่ซูยุ่นพูดว่า เขาสูบเอาผลประโยชน์อะไรจากเธอ เขาไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
“คุณลุง คุณป้า เรื่องแต่งงานหลอกๆ เป็นผมเองที่โกหกให้เธอมาแต่งงานด้วย ถ้าตระกูลซูจะลงโทษ ลงโทษผมครับ ซูยุ่นไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย”
พ่อแม่ของซูยุ่นได้ยินโจวเฉิงพูดแบบนั้น ก็นิ่งไป
เรื่องแต่งงานหลอกๆ จากที่พวกเขาฟังจากปากของซูยุ่น เป็นซูยุ่นที่บังคับให้โจวเฉิงแต่งงานด้วย เรื่องนี้โจวเฉิงไม่เกี่ยว
ความจริงของเรื่องเป็นยังไง พวกเขาไม่รู้ แต่ดูจากที่ซูยุ่นปกป้องโจวเฉิง พวกเขาก็รู้ทันทีว่าลูกสาวตัวเองหลงรักผู้ชายคนนี้
แต่ผู้ชายคนนี้ล่ะ? กลับหนีลูกสาวของเขาไป
เพราะแบบนั้นพวกเขาถึงโมโห แล้วพาตัวซูยุ่นกลับ
แต่คิดไม่ถึงว่าโจวเฉิงจะมาที่เมืองหลวง แถมยังขอรับโทษเองทั้งหมด
พร้อมกับคิดไปถึงสิ่งที่ซูซีมู่เขียนในจดหมาย พ่อแม่ของซูยุ่นสบตากัน แล้วถาม “รู้หรือเปล่าว่าจะถูกลงโทษยังไง?”
“ไม่ว่าจะเป็นยังไง ผมพร้อมจะรับเองคนเดียว” โจวเฉิงพูดด้วยสายตาแน่วแน่
พ่อแม่ของซูยุ่นสบตาก่อนอีกครั้ง “คืนนี้นายไปพักเถอะ พรุ่งนี้เช้าเราจะพานายไปคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลซู”
ได้ยินพ่อแม่ของซูยุ่นพูด โจวเฉิงก็โล่งใจในที่สุด
“ขอบคุณครับคุณลุง คุณป้า” พูดจบ โจวเฉิงก็เดินตามคนรับใช้ออกไป
เมื่อโจวเฉิงออกไปแล้ว พ่อซูยุ่นจึงพูดกับแม่ซูยุ่น “ดูท่าทางที่ซูซีมู่พูดจะไม่ผิด โจวเฉิงรู้สึกอะไรกับลูกสาวเรา”
“แถมยังลึกซึ้งมากซะด้วย” แม่ซูยุ่นพยักหน้า
พ่อซูยุ่นถอนหายใจ “คุณไปดูซูยุ่นเถอะ”
“ค่ะ” แม่ซูยุ่นพยักหน้า แล้วเดินขึ้นตึกไป…