บทที่ 438 ซือจิ้งสวนตั้งท้องแล้ว
ซือจิ้งสวนรู้สึกคลื่นไส้และอึดอัดใจ
ตอนแรก เธอยังไม่ได้สังเกตอะไร
แต่วันนั้นที่ทานข้าวกับพวกโล่เฟยเอ๋อ เธอก็อาเจียนอย่างรุนแรง จนทำให้โรคหอบหืดกำเริบ
โล่เฟยเอ๋อและหซิวหชูเฉียวเห็นท่าไม่ดี เลยเอ่ยถาม “จิ้งสวน เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? โรคหืดหอบกำเริบเหรอ?”
“อืม……” ซือจิ้งสวนตอบอย่างหอบ ๆ
โล่เฟยเอ๋อขมวดคิ้ว เอ่ยพูด : “เฉียวเฉียว เธอไปหยิบยาพ่นจากกระเป๋าของจิ้งสวนหน่อยสิ ซูซีมู่ นายโทรหาหมอเฉิงหน่อย”
เดิมทีโล่เฟยเอ๋อคิดว่าให้ซือจิ้งสวนพ่นยาแล้ว รอหมอเฉิงส่งหมอมาตรวจอาการของเธอ
แต่พบว่า เมื่อซือจิ้งสวนใช้ยาพ่นแล้ว ก็ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่นัก
เป็นห่วงว่าถ้ารอต่อไป จะทำให้ซือจิ้งสวนอาการหนักได้ โล่เฟยเอ๋อเลยให้ซูซีมู่ไปส่งซือจิ้งสวนที่โรงพยาบาล
เป็นเพราะโล่เฟยเอ๋อเองไม่สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวกแล้ว ดังนั้น เลยให้หซิวหชูเฉียวกับซูซีมู่ไปด้วยกัน
ตอนที่พวกเขามาถึงโรงพยาบาล หมอเฉิงและหมอเจ้าของไข้ของซือจิ้งสวนได้รออยู่ในห้องรักษาผู้ป่วยแล้ว
หมอเฉิงเห็นซือจิ้งสวนที่ซูซีมู่อุ้มเข้ามามีสีหน้าไม่ดีนัก เลยรีบพูด : “ประธานซู เร็วเข้า รีบพาไปในห้องตรวจเร็ว”
ขณะที่หมอเฉิงกำลังพูดอยู่นั้น หมอเจ้าของไข้ของซือจิ้งสวนก็ได้เปิดประตูห้องตรวจรอไว้แล้ว เพื่อให้ซูซีมู่รีบอุ้มซือจิ้งสวนเข้าไปด้านใน
เดิมทีหซิวหชูเฉียวตามมาไม่ทัน แต่ตอนที่ซูซีมู่ใกล้เข้าไปในห้อง ได้เรียกเธอขึ้นมา
เมื่อเข้าไปในห้องตรวจแล้ว หมอเจ้าของไข้ได้ตรวจไปพลาง เอ่ยถามสภาพร่างกายของซือจิ้งสวนไปพลาง น่าเสียดายที่ซือจิ้งสวนไม่มีแรงตอบคำถาม สายตาก็เลือนรางเหลือเกิน ส่วนซูซีมู่และหซิวหชูเฉียวก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าสภาพร่างกายเธอเป็นยังไง
“นี่คืออะไร?” ขณะสะลึมสะลือ ซือจิ้งสวนก็รู้สึกว่ามีอะไรเย็น ๆ อยู่บนท้อง น้ำเสียงที่แว่วเข้าหูฟังดูเหลือเชื่อและตกใจ
“ขนาดประมาณนี้ น่าจะประมาณห้าสัปดาห์แล้ว”
“อะไรห้าสัปดาห์?”
“ตั้งท้องห้าสัปดาห์แล้ว ครั้งนี้ที่อาการหอบหืดกำเริบ เป็นเพราะปฏิกิริยาระหว่างตั้งท้อง”
“ดังนั้นการที่เธอตั้งท้อง ทำให้ส่งผลกระทบกับโรคหอบหืดของเธออย่างหนัก?”
“ไม่เพียงผลกระทบรุนแรงเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหากับชีวิตของเธอด้วย”
“……”
ซือจิ้งสวนได้ยินว่า “ตั้งท้อง” หัวใจเธอก็เต้นเร็วขึ้นมาก
คำพูดหลังจากนั้น เธอได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่ แล้วเธอก็ได้สลบไป
หลังออกมาจากห้องตรวจ สีหน้าของหซิวหชูเฉียวก็ดูไม่ดีนัก
“ซูซีมู่ นายว่าลูกของจิ้งสวนเป็นลูกของเหซิงโม่หรือเปล่า?”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบคำถามของหซิวหชูเฉียว แต่คำตอบนั้น ใครจะไปรู้ล่ะ
สำหรับความรู้สึกลึกซึ้งที่ซือจิ้งสวนมีต่อเหซิงโม่นั้น นอกจากเหซิงโม่แล้ว เธอจะให้ใครเข้าใกล้เธอได้อีก?
เงียบไปสักครู่ หซิวหชูเฉียวก็ถามขึ้นมาอีก “จะบอกเฟยเอ๋อไหม?”
ซูซีมู่ตอบ “อืม” แล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาครุ่นคิดถึงเรื่องที่ซือจิ้งสวนตั้งท้อง ว่าจะบอกเหซิงโม่ดีไหม
“ให้เธอรู้ไว้ก็ดี เธอจะไม่ต้องเอาแต่กังวลเรื่องนี้” หซิวหชูเฉียวพยักหน้า จากนั้นก็พูดต่อ : “จริงสิ ซูซีมู่ นายรีบกลับไปเถอะ เฟยเอ๋อใกล้คลอดแล้ว ปล่อยเธอไว้คนเดียวไม่ดี ที่นี่มีฉันอยู่ก็พอ”
ซูซีมู่คิดถึงโล่เฟยเอ๋อที่ตอนนี้อยู่บ้านคนเดียวก็รู้สึกเป็นห่วง เลยตอบตกลง “ก็ดี มีอะไรก็โทรมานะ”
“ตกลง……”
ตอนที่ซือจิ้งสวนตื่นขึ้นมา พบว่าเธอนอนอยู่ให้ห้องผู้ป่วย เธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าเธอสลบไป ได้ยินหมอพูดว่า ตั้งท้อง
เธอพยายามลุกขึ้นนั่ง
หซิวหชูเฉียวที่นั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เห็นซือจิ้งสวนลุกขึ้นมา ก็รีบห้าม “อย่าลุกขึ้นนะ”
ซือจิ้งสวนนอนกลับลงไปอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็มองไปที่หซิวหชูเฉียว “คุณหซิว ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินหมอพูดว่า……”
หซิวหชูเฉียวถามด้วยความแปลกใจ “พูดว่าอะไรเหรอ?”
เงียบอยู่สักครู่ ซือจิ้งสวนก็ถามออกมา “หมอพูดว่าตั้งท้อง หมายถึงฉันใช่ไหม?”
“เธอได้ยินแล้วเหรอ?” หซิวหชูเฉียวคิดว่าซือจิ้งสวนได้ยินที่พูดกันทั้งหมด น้ำเสียงเลยฟังดูไม่ค่อยปกตินัก
ซือจิ้งสวนรู้สึกว่าน้ำเสียงของหซิวหชูเฉียวฟังดูแปลก ๆ เธอเงียบ แล้วตอบไปว่า “ฉันได้ยินพอดี หมอพูดว่าตั้งท้องแล้ว หลังจากนั้นก็สลบไป”
ที่แท้เธอไม่ได้ยินทั้งหมดที่พูดกัน หซิวหชูเฉียวจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ถึงแม้ซือจิ้งสวนไม่ว่าจะเร็วหรือช้าก็ต้องรู้ว่าเธอจำเป็นต้องเอาเด็กออก แต่รู้ช้าหน่อยก็น่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ?
เมื่อควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติแล้ว หซิวหชูเฉียวก็ยิ้มแล้วพูดว่า : “นอนหลับไปตั้งนาน เธอคอแห้งไหม เดี๋ยวฉันไปรินน้ำมาให้เธอนะ”
ซือจิ้งสวนอยากดื่มน้ำจริง ๆ นั่นแหละ แต่ไม่ได้คิดจะให้หซิวหชูเฉียวช่วยเธอรินน้ำ “คุณหซิว คุณเรียกพยาบาลมาทำให้ก็ได้ค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
ในห้องผู้ป่วยมีน้ำอยู่แล้ว หซิวหชูเฉียวรินน้ำอย่างรวดเร็วแล้วนำมาวางด้านข้าง จากนั้นก็จัดแจงหมอนที่อยู่บนเตียงให้ดี แล้วพยุงซือจิ้งสวนให้ลุกขึ้นนั่งพิงหมอน จากนั้นถึงจะยกน้ำมาให้เธอ
ซือจิ้งสวนดื่มน้ำเสร็จ ก็วางแก้วไว้ที่โต๊ะข้างเตียง จากนั้นก็นึกถึงซูซีมู่ขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม “คุณซูล่ะคะ?”
“เฟยเอ๋ออยู่บ้านคนเดียว ฉันเลยให้เขากลับไปแล้วน่ะ” หซิวหชูเฉียวตอบกลับ
“ค่ะ คุณนายใกล้คลอดแล้ว ต้องระวังสักหน่อย” ซือจิ้งสวนพยักหน้า จากนั้นก็พูด : “เรื่องวันนี้ รบกวนพวกคุณจังเลย”
“พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ รบกวนอะไรกันล่ะ?” หซิวหชูเฉียวเพิ่งพูดจบ โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น
เธอหันไปยิ้มให้ซือจิ้งสวน จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร แต่หซิวหชูเฉียวพูดออกมาว่า “ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ” จากนั้นก็วางสายไป
ซือจิ้งสวนเห็นหซิวหชูเฉียวสีหน้าไม่ดี เลยถามด้วยความเป็นห่วง “คุณหซิว เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?”
“ลูกชายฉันป่วยน่ะ……” เงียบไปครู่หนึ่ง หซิวหชูเฉียวก็พูดกับซือจิ้งสวนด้วยสีหน้าขอโทษ : “ขอโทษนะจิ้งสวน ฉันต้องกลับไปก่อน”
ซือจิ้งสวนส่ายหน้าแล้วตอบ “ไม่เป็นไรค่ะ คุณรีบกลับไปดูแลลูกเถอะค่ะ”
“งั้นฉันกลับก่อนนะ เธอมีอะไรก็เรียกหมอกับพยาบาลนะ” หซิวหชูเฉียวพูดจบ ก็รีบกลับไปทันที
ซือจิ้งสวนมองตามหลังที่รีบร้อนของเธอจนลับตาไป แล้วยกมือขึ้นมาลูบที่ท้องของตัวเอง
หรือเป็นเพราะว่าเธอมีสัญชาตญาณของความเป็นแม่แล้ว เธอถึงได้มีความรู้สึกเป็นห่วงเหมือนกับหซิวหชูเฉียว
ซือจิ้งสวนยิ้มออกมา เปิดผ้าห่มออกแล้วลงจากเตียง
เธอตั้งใจจะไปถามหมอเจ้าของไข้ของเธอ ว่าต่อไปนี้เธอควรระวังเรื่องการใช้ยาและอาหารยังไงบ้าง
ซือจิ้งสวนในตอนนี้เต็มไปด้วยความคาดหวังเรื่องลูกในท้องของเธอ เธอคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่าเมื่อเธอไปถึงห้องทำงานของหมอ จะได้ยินข่าวร้ายเกี่ยวกับลูกของเธอ
ตอนที่ซือจิ้งสวนมาถึงห้องทำงานของหมอเจ้าของไข้ พบว่าประตูห้องทำงานเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง ด้านในมีเสียงหมอเจ้าของไข้กับอีกคนหนึ่งเล็ดลอดออกมา
ตอนแรกเธอตั้งใจจะถอยกลับไป อีกสักพักค่อยมาหาใหม่
แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อเธอหมุนตัวจะกลับ ก็ได้ยินหมอเจ้าของไข้พูดถึงชื่อของเธอขึ้นมา
“ผอ. สภาพของคุณซือไม่เหมาะกับการตั้งครรภ์ คุณได้บอกประธานซูไปหรือยัง?”
“บอกไปแล้ว”
“แล้วประธานซูได้บอกไหมว่าเมื่อไหร่ถึงจะให้คุณซือผ่าตัด?”
“ประธานซูบอกว่า ยังไม่ได้ถามความเห็นของคุณซือ ไว้รอสักกี่วัน……”
คำพูดที่เหลือ ซือจิ้งสวนทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว
ในหัวของเธอ มีเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น คือเธอไม่เหมาะกับการตั้งท้อง จำเป็นต้องผ่าตัดเอาเด็กออก…