บทที่447 ซือจิ้งสวนปรากฏตัวแล้ว
เหซิงโม่เกือบพลิกหาทั้งทั่วเมืองsแล้วก็ยังไม่ได้ข่าวคราวซือจิ้งสวน ตอนนี้เขาหมดหนทางไม่รู้จะทำอะไรต่อ
เขาเสียใจภายหลังอย่างแรงที่เมื่อก่อนตัวเองปฏิบัติต่อซือจิ้งสวนเช่นนั้น นี้อาจจะเป็นเวอร์ชั่นสถานการณ์จริงของละครในตอนแรกไม่สนใจตอนไปก็พยายามตามหาภรรยากลับมาอย่างบ้าคลั่ง
ตอนที่เขากำลังจะหมดสิ้นความหวังนั้น บทสนทนาของสามีภรรยาคู่หนึ่งดึงดูดความสนใจเขาไว้
สองสามีภรรยาแต่งตัวเรียบง่ายดูแล้วก็รู้ทันทีว่าเป็นชาวบ้านทั่วไป โดยผู้หญิงพูดก่อน”ผู้หญิงที่เช่าอยู่ในชุมชนเล็กนั้นของพวกเราคนนั้นน่าสงสารมากเลย ท้องแล้วยังทำงานในตอนกลางคืนทุกวันอีก”
“ก็ใช่นะสิ ผู้หญิงในตอนนี้มีค่าทั้งนั้น ที่สามารถทนความลำบากเหมือนเธอได้น่ะพบได้ไม่เยอะแล้ว”ผู้ชายพูดตอบ
“เฮ้ย ดูจากลักษณะท่าทางของผู้หญิงแล้วไม่เหมือนคนแบบพวกเราเลย ที่บ้านเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า”ผู้หญิงถามขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้ชายเบะปากตอบ “นี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราสามารถทำอะไรได้ เรื่องชาวบ้านแกสอดรู้ให้มันน้อยๆ ใช่แล้ว ซื้อของบำรุงให้ผู้หญิงคนนั้นหน่อยเถอะ ฉันเห็นสภาพของเธอแล้วสงสารเป็นอย่างมาก”
“ได้สิ”
แม้จะเป็นการสนทนากันสั้นๆ เมื่อเหซิงโม่ได้ฟังแล้วกลับรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ทำไมไม่รู้เขามีรู้สึกว่าผู้หญิงคนที่สองสามีคู่นั้นพรรณนาถึงนั้นคือซือจิ้งสวน คิดถึงตรงนี้แล้ว เหซิงโม่หัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง ตัวเองตัวเองคงไม่ใช่ร้อนใจจนเบลอไปแล้ว ซือจิ้งสวนนั้นคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ขาดแค่เอาไปตั้งบูชาแล้ว จะสามารถทนความลำบากเช่นนี้ได้ยังไง
หลายวันนี้เขาได้ตรวจสอบพวกโรงแรมกับหอพักระดับไฮเอนด์หรือระดับกลางมาแล้ว พวกที่เหมือนจะดูเก่าดูโทรมเขาไม่เคยตรวจจริงๆ ด้วย
สถานที่เช่นนี้เขาคัดออกไปก่อน เขาคิดว่าจากนิสัยของซือจิ้งสวน เธอต้องไม่พักสถานที่เช่นนี้แน่นอน
แต่ในใจเหซิงโม่ยิ่งคิดยิ่งทรมาน โดยยืนลังเลอยู่ที่เดิมสักพักจึงจะวิ่งไปตามสองสามีภรรยาคู่นั้น พูดจาสะเปะสะปะเล็กน้อย “ขอถาม….ขอถามทั้งสองท่านหน่อยนะครับ ว่าผู้หญิงที่พวกคุณพูดถึงเมื่อกี้คนนั้นมีลักษณะรูปร่างประมาณยังไงครับ สามารถ…….สามารถบรรยายให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับ”
“เอ่อ……สองสามีภรรยาจ้องตากันแวบหนึ่ง ราวกับกำลังสอบถามความคิดเห็นของอีกฝ่าย
“คุณถามแบบนี้ทำไม”ผู้ชายถามอย่างสงสัย
“ผม……ภรรยาผมหายสาบสูญ ดังนั้น……”เหซิงโม่พูดอย่างยากที่จะบอกออกไป
เมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของเหซิงโม่ สองสามีภรรยาจึงพิจารณาก็ไม่เห็นจะปลอม
“ผู้หญิงคนนั้นผมยาว ตากลมโต ผิวขาวใสสุดๆ หน้าตาสวยดีน่ะ”ผู้หญิงพูดบรรยาย
สิ่งที่บรรยายมาทั้งหมดมันตรงกับซือจิ้งสวนทั้งนั้น จู่ๆ เหซิงโม่ก็เหมือนในความมืดมิดได้จับแสงสว่างหนึ่งไว้ ใช้น้ำเสียงอ้อนวอนพูด “ขอร้องพวกคุณ ขอร้องพวกคุณให้ช่วยพาผมไปหาหน่อยเถอะนะครับ ภรรยาผมหน้าตาเช่นนี้เลยครับ”
สามีภรรยาทั้งสองคนเกิดความลังเลขึ้นอีกครั้ง สำรวจเหซิงโม่แล้ว ดูจากเสื้อผ้าที่เขาใส่ก็คือพวกไฮโซที่ร่ำรวย แถมยังหน้าตาดีไม่เหมือนคนร้ายอะไรเลยสักนิด
“ก็ได้ คุณตามพวกเรามา”
เหซิงโม่เพื่อให้ได้พบซือจิ้งสวนได้ไวขึ้นจึงขับรถพาสองสามีภรรยากลับไปส่ง ไปตามทางที่สองสามีภรรยาชี้จนมาถึงที่เปลี่ยวสุดในทางเหนือของเมืองs
นี่คือชุมชนแออัดที่ทรุดโทรม เหซิงโม่ขมวดคิ้วเขานั้นถูกเลี้ยงราวกับไข่ในหินดูตั้งแต่เล็ก มองดูสถานที่ที่ทรุดโทรมเช่นนี้ก็เริ่มเกิดความสงสัยว่าคนสามารถอยู่ได้เปล่า
พอเข้าไปในชุมชนแออัดก็ได้ยินเสียงคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล่นไผ่นกกระจอก มีพวกการถกเถียงกัน แล้วยังมีพวกที่เป็นเพราะปัญหาของไพ่จึงตะโกนด่ากัน
เป็นบรรยากาศอึมครึมอากาศเต็มไปด้วยมลพิษ
เหซิงโม่ไม่อยากจะอยู่สถานที่นี่สักวินาทีเดียว สองสามีภรรยาพาเหซิงโม่มาถึงข้างใน พูดประตูห้อง504แล้วพูด “โน้น เธอพักอยู่ที่นี่”
“ขอบคุณครับ”เหซิงโม่เอ่ยขอบคุณเบาๆ
สองสามีภรรยารู้สึกว่านี่คือเรื่องของสามีภรรยาหนุ่มสาว ตัวเองไม่ควรจะไปยุ่งวุ่นวายเยอะ ดังนั้นจึงเดินออกไปอย่างเข้าใจสถานการณ์
“ก๊อกก๊อกก๊อก”เหซิงโม่เคาะประตูอย่างหนัก
“ใครคะ”รีบถามอย่างสงสัย
นี่คือเสียงของซือจิ้งสวน ใจเหซิงโม่เกือบเต้นออกแล้ว ในช่วงเวลาที่ซือจิ้งสวนจากไปนั้น เหซิงโม่พิจารณาตัวเองใหม่ พบว่าตัวเองนั้นทำเกินไปจริงๆ แถมซือจิ้งสวนยังค่อยๆ ก้าวเข้าไปในใจของเขา
เหซิงโม่ตื้นตันจนเกือบจะร้องไห้ออกมา เขาไม่พูดอะไร
“คือน้าจางลุงหลี่ใช่ไหมคะ พวกคุณไม่จำเป็นต้องเกรงใจอย่างนี้จริงๆ “ซือจิ้งสวนถามอีกประโยค
ยังไม่ตอบอะไรเช่นเดิม
ผ่านไปสักพัก ซือจิ้งสวนจึงเปิดประตู พอเปิดประตูแล้วในตาเธอก็ช็อกอย่างรุนแรงทันที เธอฝันก็ยังคิดไม่ถึง ว่าผู้ชายคนนี้จะมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้
“เหซิงโม่……”ซือจิ้งสวนเรียกออกไปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
เหซิงโม่รู้สึกลำคอแห้งเล็กน้อย เห็นสภาพเช่นนี้ซือจิ้งสวนของแล้ว การตำหนิตัวเองในใจก็ลึกเข้าไปอีก
เห็นเธอสวมชุดเดรสยาวสีเขียวอ่อนนั้นตอนที่เธอหนีออกจากบ้าน กระโปรงซักจนยับไปหมด หน้าท้องของเธอก็เริ่มนูนขึ้นเล็กน้อย สีหน้าหมองคล้ำนิดๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับการบำรุงผิวอย่างดีในช่วงเวลานี้
พอมองเข้าไปในห้อง ห้องเล็กมากจนน่าเวทนา มืดจนน่าเวทนา แต่เก็บกวาดได้อย่างสะอาดสะอ้าน
ทั้งสองเงียบกันไปสักพัก ซือจิ้งสวนจึงเริ่มพูด”มาแล้ว ก็เข้ามานั่งข้างในสักพักเถอะ”
“ได้……”เหซิงโม่ตอบตกลง
“ตุบ”ไม่ทันระวัง หัวของเหซิงโม่ก็ไปชนเข้ากับขอบประตู ขอบประตูอันนี้มีความต่ำไปหน่อย คนที่สูงยาวอย่างเหซิงโม่จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
“ระวังหน่อย”ซือจิ้งสวนพูดเตือน
หลังจากเข้ามาในห้อง ซือจิ้งสวนเอาเก้าอี้ไม้มาให้เหซิงโม่ เก้าอี้ไม้อันนี้มีความรู้สึกโยกเยกนั่งก็อาจล้มลงมาได้ทุกเวลา
ซือจิ้งสวนพูดออกมาอย่างลำบากใจ “ฐานะมีแค่นี้แหละ คุณก็ทนๆ ไปแป๊บหนึ่งแล้วกัน”
“กลับไปกับฉันเถอะ”เหซิงโม่พูดอย่างเสียงแหบ เขาหลอกตัวเองไม่ได้ ช่วงที่หาเจอซือจิ้งสวนนั้นเขารู้สึกอยากร้องไห้ออกมาจริงๆ
ซือจิ้งสวนสั่นไปทั้งตัว เธอรอประโยคนี้มากี่วันกี่คืนแล้ว เธอรอค่อยให้เหซิงโม่มาหาเธอมากแค่ไหน แต่เธอรู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่การหลอกตัวเองของเธอเท่านั้น
แต่ในตอนเหซิงโม่ปรากฏตัวออกมาต่อหน้าเธอแบบนี้ ซือจิ้งสวนก็รู้สึกว่ามันไม่เป็นความจริงมากๆๆๆๆ
“ที่นี่ก็ดีน่ะ”ซือจิ้งสวนตอบ
ในใจเหซิงโม่ปวดอย่างรุนแรง เขารู้ว่าซือจิ้งสวนยังโกรธเขาอยู่”เมื่อก่อนฉันผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ กลับไปกับฉันได้ไหม”
ซือจิ้งสวนไม่รู้จริงๆ ว่าเหซิงโม่มีความหมายเช่นใดกันแน่
ตอนแรกที่บีบบังคับตัวเองให้ออกมาคือเหซิงโม่ วันนี้ให้ตัวเองกลับไปก็คือเหซิงโม่เช่นกัน หรือว่าเขายังอยากทรมานตัวเองอีกครั้งเหรอ
หญิงมีครรภ์นั้นจะเหนื่อยง่ายเป็นพิเศษ ตอนนี้ซือจิ้งสวนรับการทรมานแบบซ้ำๆ ไม่ไหวจริงๆ
เป็นเพราะเหซิงโม่พูดไว้ ว่าซือจิ้งสวนเป็นเพียงแค่คุณหนูไฮโซที่เติบโตมาอย่างประคบประหงม จึงมองอะไรๆ แค่ระยะสั้นแถมยังน่าสงสารอีก
คำพูดนี้มันทิ่มแทงหัวใจซือจิ้งสวนให้เจ็บอย่างรุนแรง เธอตั้งแต่เด็กจนโตเสื้อผ้าอาหารไม่เคยขาดเลยจริงๆ จะเริ่มต้นตั้งหลักอยู่ในสังคมได้ยากมาก
และยิ่งไปกว่านั้นคือตอนนี้เธอคือสตรีมีครรภ์คนหนึ่งถึงจะเรียนจบมาสูง แต่ก็ไม่มีบริษัทไหนกล้ารับเธอเข้าทำงาน
หลังจากมาที่เมืองนี้พ่อแม่บังเกิดเกล้าก็พยายามติดต่อเธอหลายครั้ง แต่เธอก็ตอบ
เป็นความจริงที่ตัวเองควรที่ออกมาเผชิญกับอุปสรรคและความยากลำบากสักบ้าง เช่นนั้นถึงจะรู้จักโตได้ ถึงตอนที่เหซิงโม่ทำร้ายเธอนั้น ในใจจะได้ไม่เจ็บขนาดนั้น