บทที่457 กู้ชิงหลันที่ตอแยไม่เลิก
เพราะเรื่องของซูยุ่นเมื่อครั้งที่แล้ว ซูซีมู่ต่อยเหซิงโม่ไปทีหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็เลยซับซ้อนขึ้นมา
แต่จากความเป็นเพื่อนที่มีมาหลายปี ในใจของทั้งคู่ต่างก็ยังมีกันและกัน ดังนั้นซูซีมู่ก็ยังคงเป็นหวังเขาอยู่เสมอ
“ถ้าอย่างนั้นผมจะหาเวลาไปเยี่ยมเขาหน่อยก็แล้วกัน ” ซูซีมู่พูดอย่างเย็นชา ช่วงที่เหซิงโม่อยู่ที่โรงพยาบาล ซูซีมู่ก็ไม่มีท่าทีอะไร พวกเขาสนิทกันมากขนาดนั้นซูซีมู่ไม่ไปเยี่ยมก็ดูน่าเกลียดไป
“ไม่ต้องแล้ว,อีกไม่นานเหซิงโม่ก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้มีจิ้งสวนคอยอยู่เป็นเพื่อนเขาที่โรงพยาบาล เขาจะไม่หายเร็วได้ยังไง?” โล่เฟยเอ๋อพูดตอบด้วยรอยยิ้ม
“อืม……” ซูซีมู่ตอบคำหนึ่ง และไม่พูดอะไรอีก
“ดิงดอง”
เป็นเสียงเตือนของวีแชท โล่เฟยเอ๋อเปิดออกกวาดตามองไปแวบหนึ่ง ก็พบว่ามีคนเพิ่มตัวเองเป็นเพื่อนอีกแล้ว
เธอขมวดคิ้วแล้วกดเข้าไป กู้ชิงหลันอีกแล้ว เขานี้ตอแยไม่เลิกเลยจริงๆ ……
โล่เฟยเอ๋อสีหน้าโมโหเล็กน้อย แล้วกดลบคำขอเป็นเพื่อนของกู้ชิงหลันออก และรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
ซูซีมู่สังเหตุเห็นความเปลี่ยนแปลงของโล่เฟยเอ๋อ เลยถามขึ้น: “เป็นอะไร?”
“ไม่มีอะไร……”
โล่เฟยเอ๋อไม่กล้าที่จะบอกความจริงกับซูซีมู่ อารมณ์หึงนั้นเขาคงจะต้องจัดการกู้ชิงหลันเป็นแน่
แน่นอนว่า ซูซีมู่ก็ไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น เขาพูดขึ้น: “มีเรื่องอะไรที่จัดการไม่ได้ก็บอกผม ผมจะจัดการให้คุณเอง ”
คุณจัดการ……กู้ชิงหลันจะรอดเหรอ?
ที่จริงช่วงนี้กู้ชิงหลันพยายามติดต่อหาโล่เฟยเอ๋อมาตลอด แต่ตอนหลังโล่เฟยเอ๋อรู้สึกรำคาญ ก็เลยบล็อกเขาไป แต่ว่าเขาเปิดเบอร์มาใหม่ ……
แล้วก็พยายามติดต่อไม่เลิก……
เมื่อกลับถึงบ้าน โล่เฟยเอ๋อก็ตรงดูลูกสาวเลย แม่บ้านกล่อมเธอจนนอนหลับไปแล้ว มองดูใบหน้าที่หลับสนิทของลูกสาว ทันใดนั้นโล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกโล่งใจ
ตอนนั้นเอง ซูซีมู่ก็ได้เดินเข้ามา ภาพที่มีความสุขของทั้งสามคนพ่อแม่ลูกชั่งสวยงามมาก
ตอนค่ำ หลังกินมื้อเย็นเสร็จซูซีมู่ก็ตรงเข้าไปในห้องหนังสือเพื่อจัดการเรื่องงาน
ถึงแม้ว่าตอนนี้โล่เฟยเอ๋อกำลังอยู่ในช่วงอยู่เดือน ทำงานอะไรไม่ได้ แต่ว่าเธอก็ยังคงออกแบบจิวรี่อยู่ ไม่ว่ายังไงนี้ก็เป็นสิ่งที่ชอบ
“ดิงดองดิงดอง……”
เสียงเตือนจากวีแชทดังขึ้นอีกครั้ง
เปิดดูก็พบว่าเป็นกู้ชิงหลันอีกแล้ว……
โล่เฟยเอ๋อทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอกับกู้ชิงหลันเคยชอบกันอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ทั้งสองคนไม่เคยมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
แต่อดีตมันก็ได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ในใจของโล่เฟยเอ๋อไม่ได้มีกู้ชิงหลันอยู่แล้วแม้แต่น้อย
ถ้อยคำที่เพิ่มอยู่บนข้อความก็เป็นคำที่ระลึกถึงความหลังอีกเหมือนเคย
พูดตามตรง ถ้ารู้ว่าต้องเป็นแบบนี้แล้วตอนนั้นจะทำไปทำไม?ถ้าตอนนั้นเขาไม่นอกใจโล่เฟยเอ๋อ ถ้าเป็นแบบนั้นโล่เฟยเอ๋อก็คงจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต โชคชะตามักเล่นตลกกับคน
เหมือนในทุกครั้ง โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ตอบกลับ แล้วก็บล็อกเขาไป
ตอนนี้กู้ชิงหลันที่เช่าอพาร์ตเมนต์เล็กๆ อยู่กำลังรอการตอบกลับของโล่เฟยเอ๋ออย่างร้อนรุ่ม สองวันมานี้เขาไม่เป็นอันกินอันนอน จนดูยิ่งทรุดโทรมและผอมแห้ง
ทางด้านเขาพยายามติดต่อโล่เฟยเอ๋ออย่างนึกเสียดาย แต่โจวซวงซวงที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็อ่อนข้อให้แล้ว พูดดีด้วยมากมาย อยากให้กู้ชิงหลันรีบกลับมา
แต่ว่ากู้ชิงหลันทนกับการตอแยของโจวซวงซวงไม่ไหวแล้ว เธอยิ่งทำแบบนี้ กู้ชิงหลันยิ่งมีความคิดที่อยากจะหนีมากขึ้น
มองดูข้อความมากมายที่โจวซวงซวงส่งมาในกล่องข้อความ กู้ชิงหลันรู้สึกรำคาญเป็นอย่างมาก
เขากดปิดเครื่อง แล้วนอนอยู่บนโซฟา ย้อนคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ในอดีต ย้อนคิดถึงความดีของโล่เฟยเอ๋อ
สองวันมานี้โจวซวงซวงก็ไม่เป็นอันกินอันนอน เธอติดต่อกู้ชิงหลันไม่ได้ แล้วก็ไม่กล้าบอกคนที่บ้าน
เพราะตอนนั้นเธอดึงดันที่แต่งงานกู้ชิงหลันเอง พ่อแม่ต่างคันค้าน เพราะในตอนนั้นบริษัทกู้ซื่อก็ไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนแต่ก่อนแล้ว ถ้าแต่งงานไปฝ่ายที่ต้องเสียเปรียบก็คือบ้านโจวของพวกเขา
แต่โจวซวงซวงตัดสินใจแล้วว่า เป็นตายร้ายดียังไงก็จะแต่งงานกับกู้ชิงหลันให้ได้
ตอนนี้มีจุดจบแบบนี้ ถ้าจะว่าเธอทำตัวเองก็ไม่ถือว่าเกินไป เพราะรักที่ได้มาจากการบังคับมักไม่สวยงาม
เพราะไม่มีวิธีอื่น เธอเลยต้องโทรไปหาซือเหม่ยหยวนให้ช่วยคิดหาวิธี
ตอนนี้ซือเหม่ยหยวนรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก พอนึกถึงภาพที่ซูซีมู่สวีทกับโล่เฟยเอ๋อเธอก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก
ขณะที่เธอเขวี้ยงของอย่างบ้าคลั่งเพื่อระบายความโกรธ ทันใดนั้นมือถือก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นโจวซวงซวง กำลังคิดจะตัดสายไปแต่พอย้อนคิดดู ในที่สุดก็รับสายขึ้น
เธอปรับน้ำเสียงเป็นปกติทันที แล้วพูด: “ซวงซวงเหรอ,โทรมาหาฉันมีเรื่องอะไรไหม?”
“พี่เหม่ยหยวน……ฉันพยายามติดต่อกู้ชิงหลัน แต่ว่าเขาไม่ยอมสนใจฉันเลย?ฉันควรจะทำยังไงดี?” โจวซวงซวงร้องไห้แล้วพูดอย่างหมดหนทาง
ซือเหม่ยหยวนเบ้ปากอย่างเยาะเย้ย,คิดในใจ: “ใครบอกให้เธอเพศยาแบบนั้นล่ะ?ที่หน้าด้านตามตอแยคนเขาไม่รู้จบ ”
ที่จริงขณะเดียวกันกับที่เธอกำลังเยาะเย้ยโจวซวงซวงอยู่ ก็คิดไปว่าตัวเองก็เป็นคนแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?
ยังไงเธอก็มีเวลาที่ต้องได้ใช้โจวซวงซวงอยู่ ยังคงต้องแกล้งทำเป็นดีกับเธอและปลอดใจเธอ
“เอาล่ะ~ไม่เป็นไร ชิงหลันแค่กำลังโมโหอยู่เธอก็อย่ากังวนมากไปเลย ”
“ฉันจะไม่กังวนได้ยังไง?ตอนนี้ฉันยังไม่เลยว่าเขาอยู่ที่ไหน ฉันพยายามติดต่อเขามาสองวันแล้ว แต่ว่าเขาไม่ตอบกลับฉันเลยสักคำ ” โจวซวงซวงร้องไห้แล้วพูดระบายอย่างเสียใจ
ตอนนั้นเองซือเหม่ยหยวนก็รู้สึกรำคาญขึ้นมา แล้วคิดไปว่าตัวเองยังมีเรื่องมากมายที่ยังไม่ได้จัดการเลย แล้วยังต้องมาปลอบใจเธอ……
“ซวงซวง พี่ว่าเธอก็อย่าเอาแต่ยึดติดจมปักอยู่กับผู้ชายคนเดียวเลย ยังไงก็ต้องหัดมองและยอมรับความจริงให้ได้ ”
น้ำเสียงของซือเหม่ยหยวนเย็นชาลง ความหมายของหล่อนคือเพราะว่าเธอไม่สวย ดังนั้นถึงหมัดใจผู้ชายเอาไว้ไม่ได้
แต่ว่าโจวซวงซวงที่กำลังเสียใจอย่างหนักก็ไม่เข้าใจที่เธอพูด เธอเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น: “มันหมายถึงอะไร?”
“……” ซือเหม่ยหยวนกลอกตา ถ้อยคำที่มีระดับแบบนี้ เธอโจวซวงซวงก็ไม่มีทางเข้าใจหรอก เลยพูดอย่างอ่อนโยน: “แล้วเธอรู้ไหมว่าเพราะอะไรครั้งนี้เขาถึงหนี้ออกจากบ้าน?”
“เพราะว่า……ดูเหมือนจะเป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ……” โจวซวงซวงปรับอารมณ์ตัวเองแล้วพูดขึ้น
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ซือเหม่ยหยวนก็เกือบจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา คิดไปว่ากู้ชิงหลันก็หน้าตาดี นี้มันเหมือนดอกไม้ที่ปักอยู่บนขี้วัวเลยแล้วเขาจะยอมได้ยังไง?ก็ต้องออกไปปลดปล่อยหาความสุขอยู่แล้ว!
จากนั้นซือเหม่ยหยวนก็พูดเชิงหลอกถาม: “แล้วเธอรู้ไหมว่ามันเรื่องอะไร?เธอก็ต้องรู้เรื่องทั้งหมดสิใช่ไหม?”
“ดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนที่มหาลัยของชิงหลัน หน้าตาสวยมาก ถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่เคยคบกัน แต่ก็ชอบกันอยู่ช่วงหนึ่ง ” โจวซวงซวงตอบไปตามความเป็นจริง
ซือเหม่ยหยวนติดอยู่ที่คำว่า “สวย” คำนั้น,สวยมาก คือสวยขนาดไหน สวยกว่าเธองั้นเหรอ?
“แล้วเธอรู้หรือเปล่าว่าหล่อนชื่ออะไร?เธอไปหาผู้หญิงคนนั้นเลยไม่ดีกว่าเหรอ?ทำไมต้องมาร้องไห้เสียใจอยู่ตรงนี้?” ซือเหม่ยหยวนถามอย่างคาดคั้น
“ดูเหมือนจะชื่อว่าโล่เฟยเอ๋อ แต่ว่าคนเขาแต่งงานไปแล้ว มันเป็นการคิดเองไปฝ่ายเดียวของกู้ชิงหลัน…