บทที่446 เรียบง่ายถึงจะเป็นเรื่องจริง
เมื่อกี้กำลังดูอย่างตั้งใจ เลยไม่สังเกตเห็นซูยุ่น
โจวเฉิงเลิกมอง พูดอย่างขออภัย” พอดีเจอคนที่เคยพบในเมื่อก่อน ดังนั้น……”
“คนที่เคยเจอในเมื่อก่อนเหรอคะ”ซูยุ่นมองโจวเฉิงอย่างสงสัย ต้องรู้ว่าเวลาผู้หญิงหึงขึ้นมานั้นมันน่ากลัวมากแค่ไหน
“คือผู้หญิงที่มาคุยธุรกิจจะร่วมงานกันในวันนี้……”โจวเฉิงเกลียดตัวเองที่ทำไมถึงต้องมองผู้หญิงคนนั้นมากด้วย ซูยุ่นนี้ไม่ใช่คนที่หลอกง่ายขนาดนั้นสักด้วย
“ผู้หญิงที่พวกคุณคุยงานกันเปิดเผยดีนะคะ…….”ซูยุ่นพูดอย่างมีนัยแฝง
เธอพูดไม่ผิดหรอก เสื้อผ้าที่ซือเหม่ยหยวนใส่มัน……
เสื้อคอลึกอันนั้นเกือบจะโชว์ออกมาทั้งหมดให้ทุกคนเห็น
โจวเฉิงเช็ดเหงื่อ พูดอธิบาย”ฉันสาบาน เสื้อที่เธอใส่มาคุยการร่วมงานในวันนี้ไม่ใช่แบบนี้แน่นอน
เห็นท่าทางประหม่าของโจวเฉิงแล้ว ซูยุ่นจึงพูดพลางยิ้มออกมา “โอเค ฉันแค่อยากแกล้งคุณเล่นเท่านั้น ฉันเชื่อคุณ”
คำว่าฉันเชื่อคุณร่วมไปด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม ซูยุ่นมอบใจทั้งดวงให้กับโจวเฉิงแล้วจริงๆ
เดิมทีฐานะของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก อันที่จริงโจวเฉิงก็รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับซูยุ่น แค่ทั้งสองผ่านอะไรมาด้วยกันมามากมายจนให้ความสำคัญแก่กันและกันเป็นอย่างมากตั้งแต่แรก จึงไม่มีอะไรคู่ควรหรือคู่ควร
หลังจากนั่งพักผ่อนกันไปสักพักแล้วโจวเฉิงจึงพาซูยุ่นออกไปจากร้านอาหาร เริ่มต้นไปเดินช็อปปิ้งที่ร้านเสื้อผ้า ผู้หญิงชอบช็อปปิ้งกันไม่ใช่เหรอ
และเมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้า ซูยุ่นก็เผยธาตุแท้ออกมา
เริ่ม”ซื้อซื้อซื้อ”คนที่น่าสงสารคือโจวเฉิง ต้องถือของแทนเธอ
แต่เขาก็เต็มใจเป็นอย่างมาก
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงสี่ทุ่มกว่า ทั้งสองก็ควรกลับแล้ว
พกพาความสุขเต็มเปี่ยมจากการช็อปปิ้ง กลับมาถึงบ้านของทั้งสอง
โจวเฉิงไม่ได้ซื้ออะไร เขาเป็นคนไม่ค่อยพิถีพิถันเรื่องเสื้อผ้า ดังนั้นจึงอยู่เป็นเพื่อนซูยุ่นตลอด
ที่จริงแล้วซูยุ่นได้แอบซื้อของขวัญให้โจวเฉิง เพราะวันเกิดของเขาจะถึงแล้ว
นายนี่ทำงานจนหัวปั่นไปหมด จนหลงลืมวันเกิดตัวเอง ถึงตอนนั้นซูยุ่นจะเตรียมเซอร์ไพรส์อันใหญ่ไว้ให้เขา
ทางด้านวิลล่าซูซีมู่ โล่เฟยเอ๋อได้กล่อมฉิงฉิงหลับไปแล้ว ตอนนี้มีแม่นมป้าจางกำลังเฝ้าดูอยู่
ถึงแม้ตอนนี้ซูซีมู่เหมือนกับเป็นเจ้านายที่ทิ้งงานให้ลูกน้องแล้วไม่สนใจอะไรเลย แต่ความเป็นจริงแล้วเรื่องบริษัทเขาก็ยังต้องคอยถามคอยดูแลอยู่ดี
บริษัทซือซื่อนั้นเคารพกฎระเบียบมาตลอด แต่ทำได้ใหญ่โตมาก หลายปีนี้ไม่เคยมีประวัติเสียอะไรด้วย
ซือเจิ้งหัวเป็นคนมีเมตตา แถมยังทำเรื่องสาธารณประโยชน์อีก การร่วมงานกันในครั้งนี้จึงไร้ซึ่งปัญหา
หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ซูซีมู่จึงปิดคอมลง นวดคลึงหัวคิ้วเบาๆ อย่างเหนื่อยล้าเล็กน้อย
“ดื่มน้ำชาหน่อยนะ”โล่เฟยเอ๋อรินชามะลิแก้วหนึ่งให้ซูซีมู่ ซึ่งเพิ่งชงมาใหม่
กลิ่นหอมของชาขัดไล่ความเหนื่อยล้าของซูซีมู่ไปได้ครึ่ง เขาพูดพลางยิ้มเม้มปาก”ขอบคุณครับคุณภรรยา”
“ยังจะเกรงใจอะไรกับฉันอีก แต่ว่า คุณมอบงานทั้งหมอให้โจวเฉิงแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมยังยุ่งอีกล่ะ”โล่เฟยเอ๋อเอ่ยถาม
“ถ้าหากฉันทิ้งงานทั้งหมดให้ลูกน้องจริงๆ แล้วไม่สนใจมันจะรังแกคนอื่นไปหน่อยเหรอ ต้องปูทางให้โจวเฉิงสักหน่อย”ซูซีมู่ยิ้มตอบ
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า มันเป็นความจริงถ้าหากซูซีมู่ไม่ทำอะไรเลย งั้นบริษัทซูซื่อก็คงไม่ใหญ่ตาได้ขนาดนี้
“การร่วมงานกันในครั้งนี้คือตระกูลซือ ลูกสาวท่านประธานบริษัทซือซื่อก็คือซือจิ้งสวนนั่นแหละ”ซูซีมู่พูด
ได้ฟังเช่นนี้ โล่เฟยเอ๋อก็ตะลึงทันที เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าการร่วมมือร่วมงานกันในครั้งนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับซือจิ้งสวนได้
พูดไปแล้ว ตอนนี้ซือจิ้งสวนในเมืองsหายตัวไปยังไม่ได้ข่าวคราว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหซิงโม่จะหาเธอเจอไหม
พอเอ่ยถึงซือจิ้งสวน โล่เฟยเอ๋อก็เผยสีหน้ากังวลออกมา
ซูซีมู่รู้ดีว่าในใจของเธอกำลังกังวลอะไรอยู่ จึงพูดปลอบใจพร้อมกับยิ้มแล้วจับมือเธอไว้แล้ว “เธอไม่ต้องกังวลมากไปหรอก ต้องรู้สิว่าเหซิงโม่นั้นมีความสามารถ อย่ามองว่าแค่ความสุภาพเรียบร้อยในภายนอกของเขา ถ้าเขาโหดขึ้นมาจริงๆ ก็น่ากลัวมากเลยทีเดียว ที่จริงหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาไม่แย่งไม่ชิงอะไรมาเสมอ แต่ เขาจะเป็นคนตรงกันข้ามสุดๆ เช่นเมื่อต้องเผชิญกับเรื่องซูยุ่น และต้องเผชิญกับซือจิ้งสวน ให้เวลาเขาหน่อยแล้วกันนะ”
สมกับเป็นเพื่อนซี้ที่รู้จักกันมานานจริงๆ ถึงได้เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันเช่นนี้
เมื่อฟังจบ โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า เธอรู้ว่าเรื่องนี้ เขาเธอถึงกังวลยังไงก็ไร้ประโยชน์ ต้องดูเหซิงโม่กับซือจิ้งสวนด้วย
หลังจากทั้งสองต่างคนต่างอาบน้ำเสร็จ โล่เฟยเอ๋อคลอเคลียอกของซูซีมู่แล้วเอ่ยขึ่น”ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
“ตรงไหนไม่เหมือนเดิม”ซูซีมู่ก้มหน้าถาม
“ฉันรู้สึกว่า……ตั้งแต่มีฉิงฉิงแล้ว ยิ่งเหมือนครอบครัวหนึ่งมากขึ้นแล้ว ซีมู่ คุณเคยคิดบ้างไหม ว่าพวกเราจะใช้ชีวิตเรียบๆ ง่ายๆ “โล่เฟยเอ๋อลองถามดู
ชีวิตที่เรียบง่ายของเธอคือเธออยู่บ้านค่อยช่วยสามีสอนลูก และซูซีมู่ไปทำงานแต่ไม่ได้งานยุ่งขนาดนั้น
ซูซีมู่ยุ่งมากไปจริงๆ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูก ดังนั้นซูซีมู่จึงค่อยอยู่เป็นเพื่อนเธอ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วตัวเองก็ไม่สามารถรั้งให้ซูซีมู่อยู่ไปได้ตลอดชีวิต เขาก็ยังต้องไปทำงานอยู่ดี
อาจจะถึงขั้นสิบวันครึ่งเดือนก็ไม่ได้พบครั้งหนึ่ง
“ฉันรับปากเธอ ว่าต้องได้ รอฉันอีกไม่กี่ปีได้ไหม”ซูซีมู่พูดอย่างรู้สิ่งที่โล่เฟยเอ๋อคิด กอดเธอไว้
แน่นอนโล่เฟยเอ๋อไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผลขนาดนั้น เธอยิ้มพูด “ได้ ฉันรับปากคุณ”
อันที่จริงให้ทิ้งบริษัทในตอนนี้แล้วมาอยู่กับโล่เฟยเอ๋อกับฉิงฉิงก็ไม่ใช่จะไม่ได้
ค่ำคืนอันเงียบสงบผ่านไปอย่างเต็มอิ่ม วันรุ่งขึ้น พอโล่เฟยเอ๋อลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นซูซีมู่กำลังมีสมาธิอยู่อยู่กับการพิมพ์งานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ถ้าหากเป็นในเมื่อก่อน เวลานี้เขาก็คงไปล่ะ
“ซีมู่ ทำงานอยู่เหรอ”โล่เฟยเอ๋อถาม
“ใช่ เธออย่าเพิ่งสนใจฉันเลย นอนพักอีกหน่อย”ซูซีมู่มอบหมาย
เฮ้อ ซูซีมู่เป็นแบบนี้คงลำบากน่าดู
ในใจโล่เฟยเอ๋อนั้นเป็นห่วงอย่างมาก
“งั้นให้ฉันลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าให้คุณเถอะ”โล่เฟยเอ๋อพูดพร้อมกับเตรียมตัวจะลุกขึ้น
ซูซีมู่พูดขวางเธอไว้ทันทีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตอนนี้เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แค่อยู่เดือนดีๆ ก็พอ อาหารให้แม่บ้านทำก็พอแล้ว”
สีหน้าเคร่งขรึมของเขาให้ความรู้สึกไม่สามารถต่อรองอะไรได้ โล่เฟยเอ๋อจึงกลับมานอนในเตียงอย่างว่านอนสอนง่าย พูดพลางมองซูซีมู่ด้วยเป็นห่วงอย่างมาก “คุณลำบากเกินไป ถ้าฉันสามารถช่วยคุณแบ่งเบาภาระหน่อยก็คงจะดี”
ซูซีมู่รู้ว่าในใจโล่เฟยเอ๋อกำลังเป็นห่วงอะไรอยู่ จึงได้พูด “ไม่เป็นไร เดิมทีก็เป็นฉันที่ควรหาเงินมาเลี้ยงเธอกับลูกอยู่แล้ว”
เพราะตอนนี้บริษัทได้ร่วมงานกับบริษัทซือซื่อถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งได้มอบหมายทั้งหมดให้โจวเฉิงไปทำแล้ว แต่ตอนนี้ซูซีมู่เพียงแค่ต้องการจัดการเรื่องเล็กน้อยอยู่ในบ้านก็พอแล้ว
แถมยังมีเวลาอยู่กับโล่เฟยเอ๋อกับฉิงฉิง
นอกจากเวลาที่จำเป็นต้องทำงานจริงๆ ซูซีมู่ได้เอาเวลาทั้งหมดมาอยู่เป็นเพื่อนโล่เฟยเอ๋อกับฉิงฉิง
ในช่วงเวลาที่ผู้หญิงกำลังอยู่เดือนจะรู้สึกไม่วางใจเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องคอยอยู่เป็นเพื่อนอย่างดีๆ
ฉิงฉิงเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย งอแงน้อยมาก คุณท่านมาเยี่ยมเกือบทุกวัน เขายังพูดเลยว่าฉิงฉิงเหมือนซูซีมู่ตอนเด็ก มีความรู้สึกหยิ่งยโส งอแงน้อยมาก