บทที่ 455 อวดความรักให้เธอดู
ประสิทธิภาพการเก็บเสียงของโรงพยาบาลถือว่าธรรมดา โล่เฟยเอ๋ออยู่ข้างนอกก็ได้ยินชัดเจน เห็นทั้งสองในที่สุดก็คืนดีกันแล้ว ก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
เธอก็ไม่อยู่รบกวนพวกเขาสองคนที่นี่ต่อ ส่งข้อความบอกซือจิ้งสวนว่าเธอจะกลับไปก่อน หลังจากนั้นก็เดินออกโรงพยาบาล แต่ทางกลับช่างไม่บังเอิญไปเจอซือเหม่ยหยวนเข้า……
ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าซือเหม่ยหยวนตีสนิทกับคนเก่งมาก ยังไงก็จะลากโล่เฟยเอ๋อไปร้านกาแฟให้ได้
โล่เฟยเอ๋อต้านความกระตือรือร้นของเธอไม่ไหวเลยต้องไปด้วยอย่างไม่เต็มใจ
ร้านกาแฟนอร์ธัมไม่ใช่คนธรรมดาที่ไหนก็สามารถมากินได้ ข้างในไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งโดยรวมหรือบรรยากาศก็ล้วนหรูหรามาก
โล่เฟยเอ๋อก็เคยมาที่นี่ แต่เธอไม่ชอบรสชาติกาแฟของที่นี่จริงๆ
“เลือกได้เลยนะคะว่าอยากดื่มอะไร?” ซือเหม่ยหยวนยื่นเมนูให้โล่เฟยเอ๋อ
ตอนนี้โล่เฟยเอ๋อแค่คิดอยากจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เธอลังเลแล้วตอบว่า: “น้ำเปล่าก็ได้แล้วค่ะ”
“ไม่ได้ ฉันเลี้ยงคุณ จะเลี้ยงน้ำเปล่าได้ยังไงกัน! พี่คะ เอาคาปูชิโน่ให้คุณผู้หญิงคนนี้หนึ่งแก้วค่ะ” ซือเหม่ยหยวนพูดอย่างกระตือรือร้นเหมือนเดิม
ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานเสิร์ฟดีมาก ไม่นานก็นำคาปูชิโน่ร้อนๆ มาเสิร์ฟบนโต๊ะแล้วพูดอย่างสุภาพว่า:” ค่อยๆ ดื่มนะครับ”
อันที่จริงร้านนี้ก็แค่มีชื่อเสียงแต่รสชาติแย่มาก โล่เฟยเอ๋อทำเป็นดื่มสองคำก็ไม่ดื่มต่อแล้ว
“คุณโล่ค่ะ ฉันรู้สึกว่าพวกเราถูกชะตากันมากเลย พอดีก็ได้ร่วมมือกับคุณซูอยู่ด้วย ฉันว่าต่อไปนี้พวกเราออกมาเจอกันบ่อยๆ ได้นะคะ” ซือเหม่ยหยวนยิ้มพูด
เธอมีจุดประสงค์อะไรคิดว่าโล่เฟยเอ๋อจะไม่รู้หรอ เธอก็ยิ้มตอบอย่างเสแสร้งว่า:” ฉันไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องงานของสามีฉันค่ะ” ความหมายก็ชัดเจนมากแล้วไม่ใช่หรอ? แปลว่าไม่อยากสานสัมพันธ์กับเธอ
แต่ซือเหม่ยหยวนก็แกล้งโง่ เธอก็ยังคงสภาพหน้ายิ้มไว้แล้วพูดอย่างเกรงใจว่า: “การสานสัมพันธ์ที่จำเป็นก็ขาดไม่ได้นะคะ คุณโล่คุณรู้อะไรมั้ยคะ? ตั้งแต่เจอคุณครั้งแรกฉันก็ชอบคุณมากเลยค่ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเป็นเพื่อนกับคุณได้”
เธอพูดขนาดนี้แล้วโล่เฟยเอ๋อก็ได้แต่พยักหน้าอย่างอึดอัดใจแล้วพูดปฏิเสธทางอ้อมว่า: “ปกติกลุ่มเพื่อนของฉันก็มีมากแล้ว ไม่อยากเพิ่มเพื่อนอีกแล้วค่ะ”
ซือเหม่ยหยวนคิดว่าด้วยเงื่อนไขของตัวเองอยากคบใครเป็นเพื่อนก็จะคบได้หมด แต่คิดไม่ถึงเลยว่าโล่เฟยเอ๋อจะจัดการได้ยากขนาดนี้ ปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เธอมั่นใจว่าต้องเป็นซือจิ้งสวนไปพูดอะไรลับหลังแน่ๆ โล่เฟยเอ๋อถึงได้ระวังตัวเองขนาดนี้
ดูจากทรงแล้วโล่เฟยเอ๋อเหมือนจะเป็นผู้หญิงที่ไม่มีความคิด หลอกล่อได้ง่าย
“เฟยเอ๋อ ฉันตั้งใจมาเป็นเพื่อนกับเธอจริงๆ นะ เธออย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิเสธสิ พวกเราลองมาทำความรู้จักกันก่อนก็ได้ใช่มั้ยล่ะ?” ซือเหม่ยหยวนยังไม่ยอมแพ้
“……”
ความพยายามนี้ก็เรียกให้โล่เฟยเอ๋อรู้สึกนับถือเลยจริงๆ
“ใช่เพราะว่าจิ้งสวนพูดอะไรรึเปล่า ฉันบอกอะไรให้นะตั้งแต่เด็กความสัมพันธ์ของน้องสาวฉันกับฉันก็ไม่ดีอยู่แล้ว เธอหยิ่งทะนงตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะว่าฉันเป็นลูกสาวบุญธรรมเลยไม่ชอบฉัน……ตั้งแต่เด็กฉันก็ปรารถนาที่จะมีเพื่อนแต่ก็โดนจิ้งสวน……ฉันอยากมีเพื่อนจริงๆ นะ……”
เธอพูดด้วยท่าทางน่าสงสาร ผู้ชายเห็นแล้วต้องอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวแน่ๆ
แต่สำหรับโล่เฟยเอ๋อมีแต่ทำให้รู้สึกว่าเธอเหมือนถุงขยะเท่านั้น เสแสร้งเก่งจริงๆ!
แต่ก่อนรอบๆ ตัวเธอก็เจอพวกผู้หญิงแอ๊บใสซื่อมาเยอะ เพราะฉะนั้นซือเหม่ยหยวนคิดจะหลอกโล่เฟยเอ๋อได้สำเร็จนั้นมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ
โล่เฟยเอ๋อก็รู้ดี ที่ซือเหม่ยหยวนอยากเข้าใกล้ตัวเองก็เพราะเพื่อสามีที่หล่อระเบิดของตัวเองใช่มั้ยล่ะ? หลายปีมานี้รอบตัวตัวเองก็มีไม่น้อยเลย!
ถึงแม้ว่าโล่เฟยเอ๋อจะมั่นใจในตัวซูซีมู่ แต่มีผู้หญิงที่อยากได้สามีของเธอขนาดนี้ เธอก็รู้สึกไม่ชอบใจเหมือนกัน
“เอ่อ……แต่เรื่องการคบเพื่อนฉันให้สามีฉันเป็นคนจัดการน่ะ สามีฉันไม่อยากให้ฉันคบเพื่อนมั่วซั่ว” โล่เฟยเอ๋อเริ่มแกล้งโง่ด้วยแล้ว
ถือโอกาสอวดความรักไปด้วยเลย
เป็นอย่างที่คิด ซือเหม่ยหยวนหน้าแข็งทันที เธอยิ้มพูดอย่างผะอือผะอมว่า:” ฉันก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรซะหน่อย เชื่อว่าสามีเธอต้องไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว”
ได้ยินที่โล่เฟยเอ๋อพูด ซือเหม่ยหยวนก็ยิ่งมั่นใจว่านี่คือผู้หญิงใสซื่อที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง แค่จัดการเธอได้ โอกาสที่จะเข้าใกล้ซูซีมู่ได้ก็จะมีมากขึ้น
“ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเรียกสามีฉันมาลองถามเขาดูมั้ยคะ?” โล่เฟยเอ๋อพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงใจ
แค่ได้ยินว่าจะเรียกซูซีมู่มา ซือเหม่ยหยวนก็ควบคุมสีหน้าดีใจของตัวเองไม่ได้แล้ว ตั้งแต่ที่เธอเจอซูซีมู่ครั้งก่อนก็ฝันตลอดว่าอยากจะเจอเขาอีกครั้ง
การทำงานร่วมกันในสองวันนี้ โจวเฉิงเป็นคนจัดการเองทั้งหมด แม้แต่เงาของซูซีมู่ก็ไม่เห็น ในใจของซือเหม่ยหยวนไม่รู้ว่าผิดหวังมากแค่ไหน
เธอพยายามกดความรู้สึกดีใจของตัวเอง ทำเป็นไม่รู้สึกอะไรแล้วพูดว่า: “งานของประธานซูคงยุ่งมากนะคะ เรื่องเล็กๆ แบบนี้อย่ารบกวนเขาเลยดีกว่าค่ะ”
“เธอพูดถูก งานของเขายุ่งมาก ไม่ควรยุ่งเขาเพราะเรื่องเล็กๆ แบบนี้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เรียกแล้วค่ะ” โล่เฟยเอ๋อตั้งใจไม่เล่นไปตามบท เธอรู้ว่าซือเหม่ยหยวนกำลังคิดหาวิธีต่างๆ นานา เพื่อที่จะได้เจอกับซูซีมู่อยู่! ตอนนี้ตัวเองก็มาบอกว่าจะไม่เจอแล้ว เมื่อกี้เธอดีใจมากแค่ไหนตอนนี้ก็คงผิดหวังมากแค่นั้น
พอได้ยินว่าจะไม่เรียกแล้ว ซือเหม่ยหยวนก็รีบเปลี่ยนคำพูดอย่างร้อนรนว่า: “แต่ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอจริงๆ แต่เธอก็ต้องให้สามีตกลงก่อน ถ้าอย่างนั้นก็เรียกมาวันนี้เลยก็ได้ค่ะ เรื่องงานฉันกับประธานซูกำลังร่วมมือกันอยู่ ก็มาคุยเรื่องธุรกิจอะไรกันได้”
ต่อคำพูดได้ดีซะจริงๆ ……โล่เฟยเอ๋ออดไม่ได้ที่จะนับถือเลย
“แต่เธอบอกอย่าเพราะว่าเรื่องแค่นี้ไปรบกวนงานของสามีฉันไม่ใช่หรอคะ?” โล่เฟยเอ๋อแกล้งโง่ต่อ
โอกาสทองแบบนี้ ถ้าพลาดไปเธอต้องไม่ยอมแน่ๆ
แต่ เมื่อกี้ตัวเองก็พูดแบบนั้นจริงๆ
“ฉันคิดว่าในเมื่อตอนนี้บริษัทซือซื่อกับบริษัทซูซื่อกำลังร่วมมือกันอยู่ และฉันก็เป็นคนดูแลความร่วมมือในครั้งนี้ เจอกันหน่อยก็ไม่เสียหาย และยังคุยเรื่องงานกันได้อีกด้วย”
คิดอยู่ครู่หนึ่ง ซือเหม่ยหยวนก็ต่อคำพูดกลับมาได้
ในเมื่อเธออยากเจอขนาดนี้ งั้นก็ทำให้เธอสมใจปรารถนาหน่อยแล้วกัน
“ถ้างั้นก็ได้ค่ะ ในเมื่อเธอพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็จะเรียกสามีของฉันมา”
พูดจบเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาซูซีมู่ทันที
ซูซีมู่รับสายทันทีแล้วถามอย่างเป็นห่วงว่า:” มีอะไรรึเปล่า?”
“ยังจะมีอะไรอีกล่ะ ก็คิดถึงนายน่ะสิ” โล่เฟยเอ๋อตอบด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
ฝั่งของซูซีมู่ก็ชะงักไปแป๊บหนึ่ง โล่เฟยเอ๋อเริ่มขี้อ้อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน!?
“อืม……ฉันก็คิดถึงเธอ” ซูซีมู่ตอบแบบเก้ๆ กังๆ เพราะพวกคำพูดหวานๆ เขาก็พูดไม่ค่อยเป็นอยู่แล้ว
“ที่รัก ตอนนี้ว่างอยู่รึเปล่าคะ?” โล่เฟยเอ๋อยังคงพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ตามเดิม
นี่มันแปลกเกินไป! ซูซีมู่คิดไม่ออกจริงๆ ว่าโล่เฟยเอ๋อกำลังคิดจะทำอะไร
“เธอเกิดอะไรขึ้นที่ข้างนอกรึเปล่า? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอให้บอกฉันนะ ฉันจะได้รีบไปหาตอนนี้เลย” ซูซีมู่รู้สึกไม่ค่อยวางใจจึงถามต่อด้วยความเป็นห่วง