บทที่ 459 พูดยุแยง
“ชิ~คุณคิดว่าฉันเป็นอะไร?คุณไม่ใช่เด็กสามขวบสักหน่อย การยุแยงที่ชัดเจนขนาดนั้น,ฉันจะดูไม่ออกเหรอ?แต่ว่ายังไงฉันก็จะทำความรู้จักผู้หญิงคนนั้นดูสักหน่อย ฉันจะดูว่าเธอมีแผนอะไรอยู่กันแน่!เธอตรงไปตรงมาสักขนาดนั้น ฉันจะทำให้เธอต้องผิดหวังได้ยังไง ใช่ไหม?”
พูดแล้ว, บนใบหน้าของซูยุ่นก็ยิ้มขึ้นอย่างสวยงาม
แล้วเธอก็เพิ่มวีแชทของซือเหม่ยหยวนไปตามเบอร์นั้นจริงๆ
เมื่อเห็นคำขอเป็นเพื่อนเตือนขึ้นซือเหม่ยหยวนรู้สึกได้ใจเป็นอย่างมาก คำพูดที่พูดกับซูซีมู่ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นบอกน้องสาวอย่างเธอจะก็ทำให้เรื่องราวดูน่าเชื่อถือขึ้น
เธอตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของซูยุ่นอย่างรวดเร็ว
และซูยุ่นก็พูดอย่างไม่อ้อมค้อม: “คุณบอกว่าคุณรู้เรื่องบางอย่างของพี่สะใภ้ฉันคือเรื่องอะไร?”
เมื่อได้ยินซูยุ่นถาม,ซือเหม่ยหยวนยิ่งรู้สึกได้ใจเป็นอย่างมากแล้วพูดว่า: “เรื่องนั้น~คนนอกอย่างฉันพูดไปแล้ว,คุณก็ไม่มีทางเชื่อเหรอ!”
นี้เธอกำลังหยั่งเชิงความสัมพันธ์ของซูยุ่นกับโล่เฟยเอ๋ออยู่
ซูยุ่นเม้มปากอย่างหงุดหงิด แล้วพูดตอบ: “คุณไม่พูดจะรู้ได้ยังไง อีกอย่าง ความจริงฉันก็ไม่ชอบพี่สะใภ้คนนี้ของฉันอยู่แล้ว รู้มากขึ้น ก็จับผิดเธอได้ง่าย จริงไหม?”
ซูยุ่นตอบไปแบบนั้น และมันก็ตรงใจซือเหม่ยหยวนมาก
ที่แท้ความสัมพันธ์ของเธอกับโล่เฟยเอ๋อก็แย่แบบนี้นี่เอง!
เมื่อคุยถึงจุดนี้ ซูยุ่นก็เริ่มแคปรูป หลังจากนั้นก็เปิดหน้าสนทนาของโล่เฟยเอ๋อขึ้น แล้วส่งรูปที่แคปหน้าจอไปให้กับเธอ
และยังไม่ลืมที่จะพูดเสริมประโยคหนึ่ง: “ที่ฉันส่งรูปพวกนี้มาให้พี่ ก็หมายความว่าฉันเชื่อพี่ เนื้อหาที่อยู่บนนั้นก็แค่พูดหลอกเธอเท่านั้น ”
โล่เฟยเอ๋อมองที่รูป ในใจเต็มไปด้วยความโมโห คิดไม่ถึงว่าซือเหม่ยหยวนคนนี้จะร้ายถึงขั้นไปพูดยุแยงกับซูยุ่น
“พี่รู้ยุ่นเอ๋อ เธอค่อยคุยกับหล่อนไปเรื่อยๆ พี่จะดูว่าหล่อนรู้ความลับอะไรของพี่!” โล่เฟยเอ่อตอบกลับอย่างโมโห
หลังจากที่ซูยุ่นได้รับข้อความก็ตอบไปว่า “ได้ ”
แล้วกดกลับไปที่หน้าสนทนาของซือเหม่ยหยวน เห็นข้อความที่เธอส่งมา “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะบอกกับคุณ จะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจคุณ ที่จริงตอนที่พี่สะใภ้คุณเรียนอยู่มหาลัย,ชีวิตส่วนตัวเละเทะเป็นอย่างมาก เคยคบกับผู้ชายมากมาย แต่เรื่องที่ว่าเคยมีอะไรกันไหมฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ”
หล่อนพูดแบบนี้เป็นการพูดเป็นนัยๆ กับซูยุ่น ว่าโล่เฟยเอ๋อเคยทำเรื่องแบบนั้นไม่ใช่เหรอ?
ซูยุ่นก็ให้ความร่วมมือกับหล่อนเป็นอย่างมากส่งเนื้อหาที่แสดงถึงความตกใจ ว่า: “คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้จะมีอดีตแบบนี้ด้วย คุณพูดต่อสิ ฉันเชื่อคุณ!”
เมื่อเห็นว่าซูยุ่นติดกับแล้ว ซือเหม่ยหยวนก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และยังคงพูดอย่างจริงจัง: “ที่ฉันพูดกับคุณเยอะขนาดนี้ ไม่ได้คิดที่จะยุแยงอะไร ฉันเคยเจอประธานซูอยู่หลายครั้ง,ก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนดีมาก เลยไม่อยากให้เขาโดนหลอกอยู่แบบนี้ ”
“อ๋อ~ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ก็ว่าล่ะทำไมเมื่อกี้คุณถึงได้รีบร้อนขอช่องทางติดต่อของประธานซูกับแฟนฉันแบบนั้น ที่แท้ก็หวังดีกับเขานี่เอง เมื่อกี้ฉันยังเข้าใจคุณผิดอีก นึกว่าคุณคิดไม่ซื่อกับพี่ชายฉัน ฉันต้องขอโทษคุณจริงๆ ”
ซูยุ่นพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา ที่จริงหลังจากนี้ตั้งหากที่ซือเหม่ยหยวนจะแสดงจุดประสงค์ที่แท้จริงออกมา
“ไม่เป็นไร ได้ยินมาว่าพี่สะใภ้คุณพัวพันอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งไม่เลิก!เคยชอบพอกันตอนเรียนอยู่มหาลัย ตอนนี้ต่างก็มีครอบครัว แต่ยังคงติดต่อกันอยู่!ถ้าพูดอย่างไม่น่าฟังหน่อย,นี้ก็ถือว่าเป็นการนอกใจระหว่างที่แต่งงานอยู่ไม่ใช่เหรอ!” เมื่อซือเหม่ยหยวนเห็นว่าซูยุ่นหลอกง่ายเลยพูดให้เรื่องราวฟังดูรุนแรงขึ้นเล็กน้อย
“เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่!คุณมีหลักฐานหรือเปล่า?ถ้าคุณใส่ร้ายพี่สะใภ้โดยไม่มีหลักฐานแบบนี้ จากนิสัยของพี่ชายต้องไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”
ซูยุ่นตั้งใจถามว่ามีหลักฐานหรือเปล่า เพราะถ้าไม่มีมูลเรื่องที่น่าเชื่อถือสักเรื่องสองเรื่องล่ะก็ ยังไงซือเหม่ยหยวนก็คงจะไม่กล้าพูดแบบนี้
“เรื่องหลักฐาน ฉันก็ต้องมีอยู่แล้ว!คุณให้พี่ชายคุณเปิดวีแชทของพี่สะใภ้คุณดู ต้องเจอบันทึกการสนทนาของเธอกับผู้ชายคนนั้นแน่!” ซือเหม่ยหยวนตอบกลับอย่างมั่นใจ
เธอรู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าช่วงนี้กู้ชิงหลันต้องตามต่อแยโล่เฟยเอ๋ออยู่แน่ และคงพูดถ้อยคำที่ลึกซึ้งออกไปมากมายแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นนี้ก็เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด!
“ได้ ฉันรู้แล้ว แต่ว่าฉันมีคำถามหนึ่งที่อยากถาม คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?” ซูยุ่นถามขึ้น
“เรื่องเป็นแบบนี้ เพื่อนสนิทของฉันคนหนึ่งเป็นภรรยาของคนที่โล่เฟยเอ๋อชอบพออยู่ตอนนี้ เรื่องทั้งหมดนี้เธอเป็นคนบอกฉันเอง เธอนิสัยดี อยากจะทนๆ ไป แต่ฉันที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ ต้องทำให้พวกคุณเห็นตัวตนที่แท้จริงของโล่เฟยเอ๋อให้ได้!”
เธอยังคงใช้น้ำเสียงที่จริงจัง……
ทางด้านซูยุ่นก็กลอกตาจนอย่างเอือมระอา โจวเฉินบอกว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือผู้หญิงที่เจอตอนที่ไปเดินตลาดกลางคืนครั้งก่อน เธอไม่ได้มีความจำที่ดีต่อหล่อนเลย
ผู้หญิงที่ปกติคนหนึ่ง จะทำเรื่องแบบนั้นในที่สาธารณะได้ยังไง?แล้วยังใส่เสื้อผ้าโป๊ขนาดมากนั้น
“ขอบคุณ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับพี่ชายฉัน ” ซูยุ่นตอบกลับ
เมื่อได้ยินว่าซูยุ่นจะไปบอกพี่ชายของเธอ ซือเหม่ยหยวนรู้สึกดีใจมาก แล้วคิดไปว่าในที่สุดแผนก็สำเร็จแล้ว!
“ได้ ฉันรู้สึกว่าเราสองคนก็ถือว่าวาสนาต่อกัน ไว้วันหลังเรานัดดื่มชายามบ่ายกันเถอะ!” ซือเหม่ยหยวนเริ่มเชื่อมความสัมพันธ์อีกแล้ว
ซูยุ่นเลยหัวเราะออกมาอย่างหงุดหงิด คนอย่างหล่อนมีสิทธิ์อะไรมีดื่มชายามบ่ายกับตัวเอง?
แต่ว่าเธอก็ตอบรับแบบผิวเผินทีหนึ่ง เพื่อไม่ให้ซือเหม่ยหยวนสงสัย
“ได้ ”
จากนั้นซือเหม่ยหยวนก็ไม่ได้ตอบกลับมาอีก
แล้วซูยุ่นก็แคปรูปส่งไปให้โล่เฟยเอ๋ออีกครั้ง และถามขึ้น: “พี่สะใภ้ตอนนี้จะทำยังไง?”
หลังจากโล่เฟยเอ๋อดูบันทึกการสนทนาพวกนั้นก็โกรธจนตัวสั่น ซือเหม่ยหยวนคนนี้ถึงกับหน้าด้านได้ถึงขั้นนี้!
“ต่อจากนี้ เธอก็บอกหล่อนว่า เธอได้บอกเรื่องนี้กับซูซีมู่แล้ว บอกว่าเขาโกรธมาก ความสัมพันธ์พวกเราเกิดการร้าวฉาน พี่จะดูว่าหล่อนจะทำยังไง!”
โล่เฟยเอ๋อพูดประโยคนี้จนจบอย่างตัวสั่น
เธอกับซือเหม่ยหยวนคนนี้ก็แค่เคยเจอกันไม่กี่ครั้ง ก่อนหน้านั้นฟังที่ซือจิ้งสวนเปรียบเทียบถึงเธอ รู้สึกแค่ว่าเธอคนนี้น่ากลัวเกินไป ไม่เคยคิดที่จะข้องแวะด้วยในภายหลัง
แต่ว่าหล่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง ถึงกับใส่ร้ายคนคนหนึ่งแบบนี้ มันน่ารังเกียจจริงๆ ……
“ได้……แต่ว่าพี่สะใภ้เรื่องนี้จะบอกพี่ชายไหม?” ซูยุ่นถามอย่างกังวลเล็กน้อย
“ไม่ต้อง เรื่องนี้ฉันจัดการเองก็พอ ” โล่เฟยเอ๋อตอบอย่างไม่คิดเลยสักนิด
ถ้าให้ซูซีมู่รู้ล่ะก็ จากนิสัยของเขาซือเหม่ยหยวนคงจะอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้แน่
และเธอก็ไม่อยากใช้ชีวิตภายใต้การปกป้องของซูซีมู่แบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะต้องเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองให้ได้
หลังจากที่คุยรายละเอียดของเรื่องกับซูยุ่นเสร็จ เธอก็เริ่มติดตามซือเหม่ยหยวน
ก็พบว่าหล่อนได้ปิดการเข้าถึงโพสต์ของเธอไว้!เพราะทำเรื่องไม่ดีจริงด้วย ถึงไม่กล้าให้ตัวเองดู
เธอเลยถามกับซูยุ่น ที่ซูยุ่นสามารถดูได้
ในโพตส์ของซือเหม่ยหยวนเต็มไปภาพถ่ายฟิตเนสออกกำลังเชิงบวกและภาพทำการกุศล ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเธอสวยงามและบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก