บทที่463 เข้าใจผิดแล้ว
“เอ๊ะ เธอคุยกับใคร ทำไมอารมณ์ดีขนาดนี้”โจวเฉิงพูดจาเต็มไปด้วยความคลุมเครือ เขาไม่กล้าแสดงความหึงออกมาโดยตรงกลัวซูยุ่นจะรำคาญ
“ไม่มีใครนี่”ซูยุ่นไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองสักนิดยังคงใช้นิ้วจิ้มแป้นพิมพ์บนมือถือ พูดอย่างไม่ใส่ใจ
การกระทำเช่นนี้ของซูยุ่นยิ่งทำให้จิตใจโจวเฉิงว้าวุ่นเข้าไปอีก ขับรถไปครึ่งทางในที่สุดเขาก็อดหยุดไม่ได้
คำว่าหึงเขียนอยู่เต็มใบหน้า เขาพูดอย่างน้อยใจเล็กน้อย “บอกมาเร็ว เธอคุยกับผู้ชายคนไหน”
เมื่อเห็นท่าทางที่น่ารักเช่นนี้ของโจวเฉิงแล้ว ในใจซูยุ่นก็แทบโดนความน่ารักทำละลายไปเลย “มีคุณแล้วฉันยังอยากคุยกับผู้ชายคนไหนได้อีกคะ คุณดูในกลุ่มกับวีแชทโมเมนต์ของตัวเองสิ”
เมื่อฟังจบ โจวเฉิงจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดดูวีแชทโมเมนต์กับการเคลื่อนไหวแล้วเขาอึ้งไปทันที นี่มันเกิดอะไรขึ้น ในพริบตาเดียวเขาเหมือนพลาดทั้งโลกไปหมด
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่างอื่นอาจจะพูดง่าย แต่ว่าซูซีมู่ ซูซีมู่กลับโพสต์รูปในวีแชทโมเมนต์ยังไม่น่าเชื่อ แถมยังถ่ายรูปคู่กับโล่เฟยเอ๋ออีก พูดจริงนะ เขาคนที่มีคู่เห็นแล้วยังรู้สึกว่าการโชว์ความหวานนี้มันช่างรุนแรงเหลือเกิน
เมื่อเลื่อนดูกลุ่มแชทเขาจึงเริ่มเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ แล้ว รู้ว่าเข้าใจซูยุ่นผิดไป เขาจึงรีบกล่าวขอโทษอย่างจริงใจ”คือว่า……ขอโทษนะ……ฉันไม่รู้ว่าเป็นสถานการณ์อย่างนี้……”
“ระหว่างเราสองคนยังจำเป็นต้องขอโทษกันอีกเหรอ จะพูดไป เมื่อกี้ตอนที่คุณหึงนั้น น่ารักมากเลยนะ”ซูยุ่นชอบโจวเฉิงแทบจะตายแล้วจริงๆ
“งั้นพูดตกลงกันเลยนะ ว่านี่คือครั้งแรก และจะเป็นครั้งสุดท้าย เธออย่าทำฉันหึงอีกนะ”โจวเฉิงแกล้งทำน่ารักไปถึงที่สุด
หญิงคนไหนสามารถรับที่ผู้ชายพูดเช่นนี้ได้ แต่ซูยุ่นพูดอย่างทะนงตน”ก็ได้ งั้นก็ขึ้นอยู่กับการประพฤติตัวของคุณแล้วสิ ถ้าคุณกล้าคุยกับสาวอื่น เพื่อนฉันจะหาผู้ชายสิบคนจากข้างนอกมายั่วโมโหคุณแน่”
“ไม่หรอก ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันไม่หาผู้หญิงคนอื่นอย่างแน่นอน และฉันก็เชื่อเธอ ว่าจะไม่หาผู้ชายคนอื่นแน่นอน……”โจวเฉิงยิ้มอย่างซื่อบื้อ พูด
“โน โน โน อันนั้นไม่แน่นอนหรอก ไม่แน่วันไหน……”
ยังพูดไม่จบ ริมฝีปากอุ่นประกบลงบนปากซูยุ่น ซูยุ่นในตอนนี้มีความมึนเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกได้ว่าโจวเฉิงกำลังสั่น
ซูยุ่นกอดเขาไว้ทันที ริมฝีปากของทั้งสองคนประกบเข้าหากัน จูบกันอย่างเนิ่นนาน
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน โจวเฉิงผละริมฝีปากออก พูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่”ฉันไม่อนุญาต”
เมื่อเปรียบลูกหมาตัวน้อยแล้วทุกคนต้องชอบหมาป่ามากกว่าแน่นอน
ซูยุ่นถูกหยอดหนักๆ ไปทีหนึ่ง พูด “ได้ ฉันรับปากคุณ”
ตอนนี้กำลังอยู่ในบรรยากาศที่คลุมเครืออย่างยิ่ง ในตาของทั้งสองเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
แต่ว่าอยู่บนถนนในยามราตรีแบบนี้มันไม่ค่อยจะดี โจวเฉิงจึงตัดสินใจขับรถกลับบ้านแล้วค่อย……
ซูยุ่นเป็นผู้หญิง แน่นอนต้องผู้หญิงเริ่มก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นยกห้องน้ำให้เธอไปอาบน้ำก่อน
โจวเฉิงนอนบนโซฟาอย่างสบายใจ คิดถึงจูบนั่น
เวลานี้ เสียงแจ้งเตือนวีแชทของซูยุ่นก็ดังขึ้นมา ตอนแรกโจวเฉิงก็ไม่ได้สนใจ แต่มันดังขึ้นเรื่อยๆ อีกหลายครั้งโจวเฉิงไม่อาจต้านความอยากรู้อยากเห็นในใจไว้ได้จริงๆ และยังพูดปลอบใจตัวเอง “ยุ่นเอ๋อ ฉันไม่ได้ไม่ไว้ใจเธอนะ ฉันแค่เปิดดูเฉยๆ เอง”
เมื่อดูแล้วเป็นข้อความซือเหม่ยหยวนที่แสดงบนด้าน โจวเฉิงจึงเกิดความสงสัยเล็กน้อย ซูยุ่นไม่ชอบซือเหม่ยหยวนไม่ใช่เหรอ ทำไมยังติดต่อกับเธออยู่อีกล่ะ
แม้ว่าตอนนี้ทั้งสองจะเป็นแฟนกันแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องให้พื้นที่ส่วนตัวให้อีกฝ่าย
“ยุ่นเอ๋อมีคนส่งข้อความมาให้เธอ ฉันสามารถดูได้ไหม”โจวเฉิงตะโกนใส่ห้องอาบน้ำ
ซูยุ่นที่อยู่ด้านในอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ยังพูดอีกว่าตัวเองไม่ดึงไว้ใจได้นี่ ตอนนี้เริ่มกังวลขึ้นมาอีก
แต่ว่าปกตินอกจากเพื่อนในมหาวิทยาลัยพวกนั้นของเธอที่ยังติดต่อกันอยู่แล้ว ก็ไม่มีใครส่งข้อความให้เธอ ซูยุ่นจึงพูดอย่างใจกว้าง”โอเค คุณดูเถอะ”
หลังจากได้อนุญาตจากซูยุ่นแล้ว โจวเฉิงปลดล็อคโทรศัพท์ ทั้งสองคนรู้รหัสผ่านโทรศัพท์ซึ่งกันและกัน ดังนั้นโจวเฉิงจึงเปิดออกได้อย่างง่ายๆ
ซือเหม่ยหยวนส่งสองสามข้อความให้ซูยุ่น บอกว่าวันนี้เห็นโจวเฉิง อยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง
และยังบอกอีกว่าเธอคิดว่านี่คือเวลางาน ต้องไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวอย่างแน่นอน แต่เวลานี้กับอยู่กับผู้หญิงมันน่าสงสัยมาก ยังเสแสร้งถามว่าใช่ซูยุ่นรึเปล่า ถ้าไม่ใช่ยังจะเตือนเธอให้ระวังอีก
พร้อมกับรูปภาพสองสามใบ
โจวเฉิงเห็นข้อความนี้ก็โมโหจนสั่นไปทั้งตัว ผู้หญิงคนนี้ความสามารถในการยุแยงตะแคงรั่วนั้นช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ
เขาโกรธจนอยากด่ากลับไป แต่คุณสมบัติผู้ดีที่ดีเลิศในหลายปีที่ผ่านมานี้บอกให้เขาอย่าด่าคนง่ายๆ เด็ดขาด
ดังนั้นโจวเฉิงเลือกที่จะไม่สนใจวันนั้นจึงเตรียมจะลบประวัติการแชทออก เพื่อจะได้ไม่ให้มีผลกระทบต่ออารมณ์ที่ดีของซูยุ่น
แต่พอเลื่อนดูประวัติการแชทที่ทั้งสองก็คุยกันเยอะมาก เหมือนจะถูกชะตากันมาก
โจวเฉิงมองเหมือนตั้งใจและเหมือนไม่ตั้งใจ สุดท้ายพอได้เห็นเนื้อหาเขาก็ตาโตด้วยความตะลึงทันที
เนื้อหาหลักเกี่ยวข้องกับโล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ทั้งหมด
คำพูดที่ซือเหม่ยหยวนที่เอ่ยมานั้นเพียงแค่มีสมองหน่อยก็สามารถฟังออกเท่านั้น
ที่เธอทำนั้นคือการยุแยงตะแคงรั่วดีๆ นั้นเอง
แต่ว่า……เหมือนซูยุ่นจะเชื่อซือเหม่ยหยวนมาก แถมยังรับของขวัญที่เธอมอบให้อีก ทั้งสองคนก็คุยกันถูกคอมาก ยังวางแผนว่าถ้ามีเวลาจะพบหน้ากัน
ที่สำคัญสุดคือโดยปกติความสัมพันธ์ของโล่เฟยเอ๋อกับซูยุ่นทั้งสองก็ดูไม่เลวเลยทีเดียว แต่ลับหลังซูยุ่นกลับไม่เชื่อใจโล่เฟยเอ๋อ
โจวเฉิงพอคิดดีๆ แล้วรู้สึกน่ากลัวมาก
สำหรับเรื่องนั้นที่ซือเหม่ยหยวนกล่าวถึงนั้น ที่จริงแล้วซูซีมู่ทราบตั้งนานแล้ว และเพราะเรื่องนี้ยังเตือนกู้ชิงหลันโดยเฉพาะให้ออกห่างโล่เฟยเอ๋อไกลๆ
เขาติดตามซูซีมู่มานานหลายปี เขาต้องรู้ละเอียดกว่ามากในหลายๆ เรื่องอย่างแน่นอน
ไม่ได้ เขาตัดสินใจแล้วว่าจะให้ซูยุ่นเห็นชัดธาตุแท้ที่แท้จริงของซือเหม่ยหยวนให้ได้
รอจนซูยุ่นอาบน้ำออกมาแล้ว เธอกำลังใช้ผ้าขนหนูแห้งเช็ดผมเดินมาตรงหน้าโจวเฉิง
โจวเฉิงทบทวนสักพักแล้วจึงพูด “คือว่า…..ยุ่นเอ๋อ ที่รัก ช่วงเวลานี้ที่ได้ทำความรู้จักกัน เธอรู้สึกว่าคุณนายเป็นยังไงบ้าง”
“คุณนายเหรอ ที่คุณพูดคือพี่เฟยเอ๋อใช่ไหม ฉันคิดว่าเธอเป็นคนนิสัยดีมากนี่ ทำไมเหรอ จู่ๆ ทำไมคุณถึงคำถามนี้”ซูยุ่นขมวดคิ้ว ถามอย่างไม่เข้าใจเล็กน้อย
โจวเฉิงยิ่งมึนงงเข้าไปอีก คำพูดทั้งหมดที่ซูยุ่นพูดมาในตอนนี้กับคำพูดในโทรศัพท์มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”อืมมมมม……ยุ่นเอ๋อฉันคิดว่าเธอควรพูดความจริงกับฉันนะ ถ้าเธอมีอคติอะไรกับคุณนาย ก็พูดออกมาไม่ต้องปิดฉันหรอก……”
“พี่เฟยเอ๋อดีมากนี่ ฉันไม่มีความคิดเห็นอะไรกับเธอ คุณเป็นอะไรกันแน่”ซูยุ่นถูกโจวเฉิงอ้อมค้อมจนมึนหัว ไม่รู้จริงว่าเขาพูดอะไร
“ที่จริงฉันจะพูดตามจริงกับเธอนะว่าเรื่องนั้นประธานซูรู้ตั้งนานแล้ว ว่าคือกู้ชิงหลันต่ำช้านั้นเป็นคนทิ้งคุณนายเอง ไม่เหมือนที่ซือเหม่ยหยวนพูดเช่นนั้น เธอกับคุณนายรู้จักกันมาไม่นานดังนั้นจึงเชื่อเธอ”โจวเฉิงรีบร้อนอธิบายเล็กน้อย