Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi – ตอนที่ 117

ตอนที่ 117

การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง (Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) – ตอนที่ 117
ในช่วงที่อัลกำลังรับบทเป็นเกราว์ในการปกป้องเกลเลส

ลีโอกับคนอื่นๆได้มาถึงวุมเม่, เมืองของดยุคครูเกอร์เร็วกว่าที่กอร์ดอนคาดการเอาไว้

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องขอบคุณเมืองทางใต้ที่ยอมให้พวกเขาผ่านมาจนถึงตอนนี้

“ข้านึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะยอมปล่อยให้พวกเราผ่านมาได้ง่ายขนาดนี้”

ลีโอที่คิดเอาไว้ว่าน่าจะได้เจออุปสรรคบ้างพึมพำในขณะที่เขาเดินผ่านประตูเมืองวุมเม่

ในขณะที่กำลังสังเกตดูพื้นที่รอบๆ, เซบาสที่อยู่ที่นั่นกับลีโอก็ตอบกลับ

“นี่ต้องเป็นเพราะว่ามีแค่ไม่กี่คนที่อยู่ฝั่งของดยุคครูเกอร์จากใจจริงครับ ท่าทีของผู้คนที่ข้าได้เจอมาจนถึงตอนนี้ดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลย ดังนั้นการก่อกบฎในครั้งนี้จึงไม่ใช้ความคิดเอกฉันท์ของผู้คนทางใต้ทุกคนอย่างแน่นอน

“ถ้างั้นการที่พวกเรามาที่นี่ก็มีความหมายจริงๆสินะ”

“แค่มาถึงอย่างเดียวยังไม่มีความหมายอะไรหรอกครับ, องค์ชาย”

ลาสพูดเช่นนั้นหลังจากที่เขาขี่ม้ามาอยู่ถัดจากลีโอ

ทหารระดับสูงของนาร์เบริทเทอร์กำลังคุ้มกันรถม้าของฟีเน่อยู่แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องอยู่กับเธอตลอดเวลา

“เราต้องทำอะไรซักอย่างกับดยุคครูเกอร์ครับ”

“แน่นอน, ข้ารู้เรื่องนั้นดี ท่านพันเอก”

“ถ้างั้นขาขอยืนยันแผนการอีกรอบนะครับ เมื่อพวกเราไปถึงปราสาทของเขาแล้ว, ดยุคครูเกอร์น่าจะออกมาต้อนรับพวกเรา ซึ่งนี่เป็นโอกาสของพวกเรา ถ้าพวกเราปล่อยผ่านไป, เขาจะมีโอกาสเรียกการ์ดของเขาอย่างแน่นอน”

“แต่ถ้าพวกเราฉวยโอกาสนั้น, คุณฟีเน่จะตกอยู่ในอันตรายนะ”

“วางใจได้ครับ ท่านลินเฟียกับข้าจะอยู่ที่นั่นเพื่อคุ้มครองเธอเอง ยิ่งไปกว่านั้น, ถ้าจนมุมเข้าจริงๆ, พวกเราก็ยังมีแผนการลับนั่นอยู่ด้วย”

ในตอนที่พูดเช่นนั้น, เซบาสก็มองไปทางลีโอ

และสำหรับลีโอที่ดูเหมือนอยากจะถามว่ามันจะไม่เป็นอะไรจริงๆหรอ, เซบาสก็ได้พยักหน้ายืนยันกับเขาอย่างเงียบๆ

แม้ว่านาร์เบ ริทเทอร์จะเป็นผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งแค่ไหน, แต่มันก็จะสร้างความระแวงเอาได้ถ้าฟีเน่มีคนคุ้มกันอยู่กับเธอเยอะเกินไปในตอนที่ทำการเจรจาโดยตรงกับดยุคในฐานะผู้ส่งสาร

นี่คือสาเหตุที่ตำแหน่งผู้คุ้มกันของฟีเน่ถูกฝากฝังให้กับคนที่สามารถอยู่ข้างเธอได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนกับเซบาสที่ติดตามมาด้วยในฐานะพ่อบ้านของเธอ

“……โอเค, ท่านพันเอก ข้าขอฝากเรื่องจังหวะเวลากับท่านนะ”

“เข้าใจแล้วครับ แล้วก็ช่วยอยู่ห่างออกมาจากดยุคซักหน่อยนะครับ, องค์ชาย”

“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องของข้าหรอก ข้าดูแลตัวเองได้”

“…..ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน, พวกเราคงกลับไปสู้หน้าองค์ชายอาร์โนลด์ไม่ได้หรอกครับ, องค์ชาย”

“ท่านพันเอก ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อให้คนอื่นมาคอยปกป้อง ข้ามาที่นี่เพื่อจับตัวดยุคครูเกอร์ ถ้าพวกเราล้มเหลว, มันจะเป็นข้าต่างหากหล่ะที่กลับไปสู้หน้าท่านพี่ไม่ได้”

พอเห็นลีโอจ้องตรงมาที่เขา, สายตาของลาสก็ดูตกตะลึงเล็กน้อยแล้วเขาก็ก้มศรีษะเพื่อแสดงความขอโทษ

“โปรดอภัยให้ข้าด้วย, องค์ชาย ดูเหมือนว่าความเป็นห่วงของข้ามันจะไม่จำเป็นสินะครับ”

“พันเอกลาส สิ่งที่องค์ชายพูดเป็นความจริงครับ ไม่เหมือนกับท่านอาร์โนลด์, ท่านลีโอนาร์ดไม่เคยขาดการฝึกฝนเลย”

“แสดงว่าองค์ชายสามารถต่อสู้ด้วยเองได้ใช่ไหม? เซบาส?”

“ครับ, แถมฝีมือน่าจะไม่ค่อยต่างจากพวกเราด้วย การที่ฝาแฝดมีความสามารถทางร่างกายต่างกันขนาดนี้ถือว่าหายากจริงๆ แต่ก็เป็นเพราะอีกคนไม่ขยันฝึกนั่นแหล่ะครับ มันทำให้ข้าค่อนข้างเป็นห่วงเลยหล่ะในตอนที่เขาบ่นเจ็บกล้ามเนื้อกับแค่เพราะถือดาบ”

“ถ้าท่านพี่ค่อยๆฝึกก็คงจะไม่มีปัญหาหรอกแต่เขามักจะชอบเหวี่ยงดาบเต็มแรงทุกครั้ง จริงๆเลยนะ, ท่านพี่เนี่ย”

“เขาคงพยายามทำให้มันออกมาดูดีหล่ะมั้งครับ”

“ข้าเห็นด้วย เขาคงพยายามให้มันดูดีนั่นแหล่ะ และอันที่จริงนี่คงเป็นสาเหตุที่เขาแทงมือซ้ายด้วย ถึงยังไงเขาก็มักจะพยายามทำตัวให้ดูเท่ในแบบของตัวเองอยู่ตลอด”

เมื่อได้ฟังความประทับใจเช่นนี้จากลีโอ, รอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของลาส

ลีโอไม่เคยเพลิดเพลินกับการเข้าร่วมสงครามผู้สืบทอดเลยแต่มีหลายๆสิ่งที่ทำให้เขาดีใจที่ได้เข้าร่วมกับมัน

หนึ่งในนั้นก็คือความจริงที่ว่าผู้คนเริ่มชื่นชมอัล

จอมขี้เกียจอย่างอัลที่พยายามเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้, เริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้นหลังจากเข้าร่วมสงครามผู้สืบทอด การได้เห็นเขาตระเวนไปทั่วแบบนี้, ทำให้ผู้คนเริ่มตระหนักได้ว่าเจ้าชายไร้ค่านั้นจริงๆแล้วมันเป็นแค่เปลือกนอก

มันคือการพัฒนาที่น่าดีใจสำหรับลีโอ

“ท่านดูมีความสุขกับมันมากเลยไม่ใช่หรอครับ?”

“มีสิ ข้าดีใจที่ในที่สุดท่านพี่ก็ได้รับคำชม แล้วก็….ข้าดีใจที่ข้าได้ทำอะไรบางอย่างด้วยกันกับเขา เขาเป็นคนจัดเวทีนี้ให้ข้า เวทีที่ดีที่สุดที่ข้าจะหาได้ ในตอนที่ข้าบอกเขาว่าข้าอยากให้ยอดการสูญเสียน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้, เขาก็ยอมทำตามความเห็นแก่ตัวของข้าและฝืนเตรียมทุกอย่างเพื่อข้า ข้ามีความสุขที่ตอนนี้ได้มายืนอยู่บนเวทีที่เขาจัดเอาไว้ มันทำให้ข้ารู้สึกว่าข้าสามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้”

ในตอนที่พูดเช่นนั้น, ลีโอก็เร่งให้มาไปข้างหน้า

เบื้องหน้าเขาคือประตูหลักของปราสาทดยุคครูเกอร์

“ข้าเจ้าชายลำดับแปดแห่งจักรวรรดิ, ลีโอนาร์ด เลคส์ แอดเลอร์! ข้ามีหน้าที่คุ้มกันขบวนผู้ส่งสารของจักรพรรดิ! จงเปิดประตูซะ!”

ในการตอบรับคำพูดของลีโอ, ประตูหลักได้เปิดออกอย่างช้าๆ

ลีโอขี่ม้านำเข้าไปข้างใน การเข้ามาในที่แห่งนี้คือการเตรียมการส่วนสุดท้าย

ด้วยความเชื่อมั่นที่ว่าเขาจะไม่สามารถออกไปได้จนกว่าเรื่องทุกอย่างจะจบ, ลีโอก็เข้ามาในปราสาท

หลังจากที่ลีโอกับคนอื่นๆลงจากม้า, พวกเขาก็ถูกพวกอัศวินนำทางไป

ตอนนี้, พวกเขากำลังอยู่ใต้ระเบียงของปราสาท

“ที่นี่คือ?”

“อ้าวนั่นมันองค์ชายลีโอนาร์ดไม่ใช่หรอ ไม่ได้เจอกันซักพักนึงแล้วนะครับ”

เมื่อได้ยินเสียงนั้น, ลีโอก็เขม่นตาลงเล็กน้อย

ซึ่งเหตุผลก็เพราะว่าดยุคครูเกอร์ปรากฎตัวขึ้นบนระเบียง

การต้อนรับขบวนของจักรวรรดิแบบนี้มันน่าหยาบคายเกินไป

“ไม่ได้เจอกันซักพักแล้วนี่นะ ดยุคครูเกอร์ แล้วนี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”

“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ, ก็แค่มาตรการความปลอดภัยเล็กๆน้อยๆ มันไม่ใช่ว่าข้าสงสัยท่านหรืออะไรหรอกนะแต่ช่วงนี้ชีวิตของข้าถูกหมายปองอยู่ ได้โปรดช่วยคอยอยู่ที่นั่นแล้วส่งขึ้นมาแค่ผู้ส่งสารของจักรวรรดิด้วยครับ”

นี่มันเหมือนกับการส่งกระต่ายเข้าไปในรังของสัตว์ร้ายเพียงลำพัง

ลีโอขมวดคิ้วให้กับคำขอของเขา

“ทำแบบนี้ไม่คิดว่าหยาบคายไปหน่อยหรอ ช่วยลงมาที่นี่แล้วรับจดหมายจากพวกเราด้วย เนื้อหาในจดหมายน่าจะได้รับการยืนยันจากอัศวินที่เจ้าส่งมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วนะ”

“น่าเสียดายนะครับ, ข้าจะยืนยันเนื้อหาของจดหมายนั่นก็ต่อเมื่อมันขึ้นมาอยู่บนนี้ ถ้าท่านรู้สึกว่ายอมรับข้อตกลงนี้ไม่ได้ก็เชิญกลับไปได้ตามสบายครับ”

“ถ้างั้นข้าขอตามผู้ส่งสารไปด้วย”

“ผู้ส่งสารจักรวรรดิต้องขึ้นมาคนเดียวครับ”

พอได้ฟังดยุค, ลีโอก็เลื่อนมือไปจับดาบโดยไม่รู้ตัว เหตุผลก็เพราะว่าดยุคทำตัวหยาบคายกับพวกเขามากเกินไป

อย่างไรก็ตาม, แผนการจะดำเนินต่อไม่ได้ถ้าดยุคไม่ได้ตรวจสอบเนื้อหาของจดหมาย ซึ่งนี่ก็เพื่อสร้างความถูกต้องให้กับกระทำของพวกเขาด้วยการปฏิเสธของดยุคครูเกอร์ ถ้าพวกเขาเปิดเผยกับดักตรงนี้, พวกเขาก็คงถูกมองไม่ต่างไปจากกลุ่มนักฆ่าที่ปลอมเป็นขบวนผู้ส่งสารของจักรวรรดิ

อย่างไรก็ตาม, ฟีเน่ยอมรับข้อเสนอของดยุค

“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้นข้าขอขึ้นไปแล้วนะคะ”

“คุณฟีเน่…..”

“ไม่เป็นไรค่ะ ดยุคครูเกอร์คงไม่มีวันทำอันตรายกับผู้ส่งสารของจักรพรรดิหรอก, ใช่ไหมคะ?”

“แน่นอนครับ เจ้าหญิงนกนางนวลสีน้ำเงิน”

“แบบนั้นข้าก็สบายใจแล้วค่ะ ภารกิจของข้าคือการส่งจดหมายของจักรพรรดิให้กับดยุคครูเกอร์ ถ้านี่คือสิ่งที่ดยุคครูเกอร์ต้องการ, ข้าก็ยินดีค่ะ”

ในตอนที่พูดจบ, ฟีเน่ก็ส่งสัญญาณให้อัศวินนำทางเธอขึ้นไปด้วยการใช้สายตา

หลังจากได้รับการยินยอมจากพวกเราแล้ว, อัศวินก็เริ่มพาฟีเน่ขึ้นบันไดไป

“หืมม….นี่มันอะไรครับ?”

“เขาเป็นคุณตุ๊กตาที่ข้าชอบพาไปไหนมาไหนด้วยในช่วงนี้ค่ะ น่ารักใช่ไหมหล่ะคะ?”

ในตอนที่พูดเช่นนั้น, ฟีเน่ก็เอาคุณหมีให้อัศวินดู

อัศวินตามความคิดของฟีเน่ไม่ทันแล้วพาเธอไปที่ระเบียงโดยไม่พูดอะไรอีก

“สวัสดีครับ คุณเจ้าหญิงนกนางนวลสีน้ำเงิน พอได้มาเห็นใกล้ๆยิ่งทำให้ความงดงามของท่านดูเปร่งประกายขึ้นไปอีกนะครับ”

“ขอบคุณมากค่ะ ดยุคครูเกอร์ นี่เป็นจดหมายจากองค์จักรพรรดิค่ะ”

“ขออนุญาตนะครับ”

ในตอนที่พูดเช่นนั้น, ครูเกอร์ก็เปิดจดหมายโดยมีอัศวินของเขาห้อมล้อมอยู่

เขาอ่านมันโดยที่หางคิ้วไม่กระตุกเลยด้วยซ้ำ

“เข้าใจหล่ะ นี่คือคำตอบของฝ่าบาทสินะครับ?”

“ค่ะ”

“ช่างเป็นคนที่โหดร้ายจริงๆ ไม่นึกเลยว่าเขาจะส่งท่านออกมาด้วยตัวเองแล้วประกาศสงครามกับข้า”

“น่าเสียดายนะคะ, นี่ไม่ใช่ประกาศสงครามหรอกค่ะ, ดยุคครูเกอร์ ภายใต้ชื่อขององค์จักรพรรดิ, ข้าขอสั่งท่าน จงคุกเข่าแล้วทิ้งอาวุธโดยทันที ถ้าท่านไม่ทำตาม…..ข้าจะเป็นคนออกคำสั่งลงโทษท่าน”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ลงโทษข้าหรอ? อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ท่านจะไปทำอะไรได้? น่าเสียได้นะครับ, คำตอบคือใหม่ ท่านจะกลายเป็นตัวประกันของเราและจากนั้นพวกเราจะเริ่มใหม่อีกครั้ง”

“ท่านคิดจะท้าทายประกาศิตของฝ่าบาทหรอคะ?”

“ฝ่าบาท, ฝ่าบาทอยู่นั่นแหล่ะ, ต่อให้ท่านพูดถึงเขามันก็ไม่ส่งผลกระทบกับข้าหรอกรู้ไหม? แต่เดิมแล้วบ้านครูเกอร์ของข้าเป็นกษัตริยของประเทศตัวเองจนกระทั่งถูกจักรวรรดิยึดไป มันคือราชวงศ์จักรวรรดิต่างหากหล่ะที่บังคับช่วงชิงทุกสิ่งไปจากพวกเราและติดชื่อดยุคให้พวกเราแทน บ้านของข้าไม่เคยลืมความไม่พอใจและความเกลียดชังที่มีมาตั้งแต่ตอนนั้น ข้าไม่เคยคิดที่จะเคารพชายคนนั้นเลยซักครั้ง!”

“งั้นหรอคะ…..ความไม่พอใจที่สั่งสมมาอย่างยาวนานสินะคะ ข้าไม่รู้ว่าเรื่องพวกนั้นมันสั่งสมมามากแค่ไหนแล้วแต่ข้าบอกได้ว่าดินแดนนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของท่านมาก่อน ต่อให้มันถูกจักรวรรดิยึดไป, ประชาชนก็น่าจะยังอยู่ภายใต้ท่าน แต่, ท่านพาผู้คนไปเจอกับความเจ็บปวด ในตอนที่ท่านทำแบบนั้นท่านก็ไม่มีสิทธิเรียกตัวเองว่าเป็นราชาของพวกเขาแล้วค่ะ ไม่สิ….ท่านเรียกตัวเองว่าขุนนางไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

“ข้าจะไม่เถียงกับท่านเกี่ยวกับหน้าที่ของราชวงศ์หรือขุนนางที่นี่หรอก ข้าจะบอกท่านอย่างนึงก็แล้วกัน มีแค่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้ปกครองผู้อื่น”

“ถ้างั้นเจ้าก็ไม่มีความสามารถพอที่จะเป็นพระราชาอย่างแน่นอน พระราชาแข็งแกร่งกว่าที่เจ้าคิดเอาไว้เยอะนะ, พระราชาคือคนที่แบกรับลูกน้องของตัวเองเอาไว้บนบ่า”

ในตอนนั้นเอง, ตุ๊กตาในมือของฟีเน่ก็เริ่มขยับ

จู่ๆมันก็เอาหอกออกมาแล้วจัดการอัศวินที่อยู่รอบตัวฟีเน่

ตามที่คาดเอาไว้, ครูเกอร์ถึงกับไม่เชื่อสายตาของตัวเอง

“เหวอ!?”

“เห้อ, ถ้าเจ้าพล่ามต่ออีกหน่อยข้าก็คงจะได้อิ่มเอมในสวรรค์นานขึ้นอีก…..มันเป็นความผิดของเจ้านะ, ดยุค แต่ก็ต้องขอบใจเจ้า, ข้าก็เลยได้สัมผัสความรู้สึกดีๆแบบนี้, ขอบใจนะ!”

ในตอนที่พูดจบ, ซีก, ตุ๊กตาหมี, ก็วิ่งเข้าใส่พวกอัศวิน

ครูเกอร์หนีไปพร้อมกับอัศวินที่คอยคุ้มกันเขาแต่ลีโอกับลูกน้องของเขาได้บุกเข้ามาในปราสาทจากด้านล่างแล้ว

“เจ้าหนีไปไหนไม่ได้หรอก! ครูเกอร์!”

“หนอย! ฆ่าพวกมันให้หมด!”

พอได้ฟังคำสั่งของครูเกอร์, พวกอัศวินก็มายืนขวางลีโอ

อย่างไรก็ตาม, นาร์เบ ริทเทอร์ที่มีลาสเป็นผู้นำได้จัดการพวกเขาแล้วเปิดทางให้ลีโอ

“คุณฟีเน่!”

“ข้าไม่เป็นไรค่ะ! ลุยหน้าต่อไปได้เลย!”

“โอเคครับ! ระวังตัวด้วย, คุณฟีเน่!”

“ค่ะ! โชคดีนะคะ, ท่านลีโอ! คุณซีก, ช่วยตามไปสนับสนุนท่านลีโอเถอะค่ะ”

“ช่วยไม่ได้ เอาจริงๆข้าอยากคุ้มกันคนสวยมากกว่า แต่, จะให้ข้าปฏิเสธคำขอของคนสวยก็คงจะไม่ได้หล่ะนะ”

ในตอนที่พูดเช่นนั้น, ซีกก็ไล่ตามลีโอไป

ในขณะนั้นเอง, ฟีเน่ก็ออกจากฉากไปด้วยกันกับนาร์เบ ริทเทอร์กลุ่มนึงและลินเฟีย

และด้วยประการฉะนี้, สงครามเล็กๆก็ได้เริ่มขึ้นในปราสาทวุมเม่

Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi

Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi

Status: Ongoing

ชื่อเรื่อง: การต่อสู้ชิงบัลลังก์ในเงามืดของเจ้าชายไร้ค่าสุดแกร่ง ชื่อ ENG: The Strongest Dull Prince Battle For The Throne ชื่อ JPN: 最強出がらし王子の暗躍帝位争い(Saikyou Degarashi Ouji no An’ yaku Teii Arasoi ) ชื่อผู้แต่ง: Tamba ผู้แปล ENG: GRAVEROBBERTL ผู้แปลไทย: HouRen Fanpage ผู้แปลไทย: Hou Ren Fanpage เรื่องย่อ จักวรรดิอาเดรเชียในทวีปโฟเกล ที่นั่นมีการต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ของจักวรรดิ์ที่ครอบครองทั้งกำลังทหารที่แข็งแกร่งและแผ่นดินที่กว้างขวาง   ด้วยความที่ยังไม่มีใครได้รับเลือกเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์, เหล่าบุตรของจักรพรรดิจึงกำลังจ้องที่จะขยายอำนาจของพวกเขา อย่างไรก็ตาม, มีเจ้าชายอยู่องค์นึงที่ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาจะไม่ได้เป็นจักรพรรดิ์อย่างแน่นอน   ซึ่งเจ้าชายองค์นั้นก็คือเจ้าชายลำดับที่เจ็ด, อาร์โนลด์ เลคส์ แอดเลอร์ ชายหนุ่มผู้ที่ด้อยกว่าน้องชายฝาแฝดของเขาในทุกๆด้าน, เจ้าชายไร้ค่า   ไร้ความสามารและเฉื่อยชา, อาร์โนลด์ได้ใช้ชีวิตแต่ละวันไปกับการเที่ยวเล่น อย่างไรก็ตาม, เบื้องหลังนั้น, เขาคือนักผจญภัยที่ชื่อว่า ซิลเวอร์, หนึ่งในนักผจญภัยแรงค์ SS ที่มีอยู่เพียง 5 คนเท่านั้น   พอเห็นความรุนแรงของการต่อสู้ชิงบัลลังก์แล้วเขาก็ตัดสินใจว่า [ฉันไม่อยากตายเพราะงั้นฉันจะทำให้น้องชายของฉันได้เป็นจักพรรดิ….]   นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับการวางแผนบ้าๆบอๆของเจ้าชายผู้ซึ่งไม่สนใจในตำแหน่งจักพรรดิ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท