บทที่464 สู้กับฉัน เธอยังอ่อนไปหน่อย
เมื่อพูดอ้อมค้อมมายาวขนาดนี้ ซูยุ่นถึงจะเข้าใจ คาดว่าเมื่อกี้น่าจะเป็นซือเหม่ยหยวนที่เป็นคนส่งข้อมูล ดังนั้นโจวเฉิงถึงพูดแบบนี้
“ไอหยา คุณเข้าใจผิดแล้วเรื่องราวมันเป็นแบบนี้……”
ต่อมาซูยุ่น เล่าเรื่องราวที่มาที่ไปทั้งหมดให้โจวเฉิงฟังอย่างครบถ้วน
โจวเฉิงถึงจะเข้าใจทันที ถาม “งั้นทำไมเรื่องนี้ไม่บอกตามตรงกับประธานซูจะได้จัดการได้ง่ายล่ะ”
“ถ้าบอกตามตรงกับพี่ชายฉันแล้ว คุณคิดว่าซือเหม่ยหยวนยังสามารถพบดวงอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้ได้ไหม พี่เฟยเอ๋อเธอมีความคิดเป็นของตัวเองแหละ ดังนั้นเราแค่ค่อยช่วยเหลือก็เพียงพอแล้ว อีกอย่าง ฉันรับปากพี่เฟยเอ๋อแล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครทั้งสิ้น ตอนนี้ฉันผิดสัญญาแล้ว คุณต้องเก็บเป็นความลับให้ดีนะ”ซูยุ่นสั่ง
เรื่องที่ซูยุ่นมอบหมายให้นั้นโจวเฉิงไม่กล้าละเลยอยู่แล้ว จึงรีบพยักหน้าพูด”ฉันรับประกันว่าจะไม่บอกใครทั้งนั้น”
หลังจากที่ซูยุ่นได้เห็นข้อความที่ซือเหม่ยหยวนส่งมาแล้วก็ไม่สนใจคนประเภทนี้ไปตลอดชีวิตเลยจริงๆ เหมือนกับคนโรคจิต นอกจากยุแยงตะแคงรั่วก็คือยุแยงตะแคงรั่ว ชีวิตของคนอื่นไม่ใช่เรื่องเธอสักหน่อย
แต่เพื่อโล่เฟยเอ๋อเธอตอบอย่างทำได้เพียงแสดงใบหน้ายิ้มแย้มแต่ในใจกลับด่าแม่มึงขายตัว” ผู้หญิงคนนี้คือฉันเอง ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณสำหรับความห่วงใยของเธอนะ”
“คือเธอเหรอ งั้นฉันก็วางใจแล้ว ฉันก็ว่าฉันเห็นโจวเฉิงเป็นคนซื่อๆ ไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องเช่นนั้นได้ วันนี้เธอเห็นฉันรึเปล่า เฮ้ย น่าเสียดายจัง ฉันไม่ได้นั่งคุยดีๆ กับเธอเลย เธอดูสิว่าเรามีพรหมลิขิตกันใช่รึเปล่า”
ได้ประโยชน์แล้วยังเสแสร้งอีก……
ซูยุ่นแสดงออกว่าไม่อยากสนใจ เมื่อไม่มีทางเลือกใดๆ เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากโล่เฟยเอ๋อ แล้วเธอก็เอาประวัติการแชทส่งไปด้วย แล้วพูดนินทา”พี่เฟยเอ๋อฉันไม่อยากให้คนแบบนี้มากวนฉันอีกแล้วจริงๆ ……
โล่เฟยเอ๋อเมื่อได้รับข้อความแล้วคิดทบทวนดูก็รู้สึกว่าจริง เพราะนี่เป็นเรื่องของตัวเอง
“เอาแบบนี้ เธอบอกเขาว่าเรื่องนี้โจวเฉิงทราบแล้ว เขาโกรธมาก ดังนั้นจึงต้องลบเธอชั่วคราวจากนั้นให้เธอเพิ่มอันที่เป็นสำรองของเธอ”
กำลังพูดอยู่ โล่เฟยเอ๋อก็ส่งหมายเลขบัญชีไปให้แล้วพูด”จากนั้นก็ให้เธอเพิ่มฉัน ต่อไปเรื่องนี้เธอไม่ต้องเหนื่อยใจอีกแล้วนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่เฟยเอ๋อ”ตอนนี้ซูยุ่นรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก
เธอส่งข้อความให้ซือเหม่ยหยวนตามที่โล่เฟยเอ๋อบอก ซือเหม่ยหยวนก็ไม่สงสัย เพราะสิ่งที่เธอส่งอันนั้นมันอาจทำให้เกิดความร้าวฉานกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนอย่างรุนแรง ดังนั้นใครเห็นแล้วก็ต้องโกรธทั้งนั้น
การทำเช่นนี้ทำให้ซือเหม่ยหยวนแอบดีใจ คิดว่าความสัมพันธ์ตัวเองกับซูยุ่นดีจนซูยุ่นสามารถติดต่อกับตัวเองต่อลับหลังโจวเฉิงได้
ไม่นาน ซือเหม่ยหยวนก็เพิ่งเป็นเพื่อนบัญชีอีกอันทันที เห็นได้ชัดว่าเป็นบัญชีอันใหม่ ซือเหม่ยหยวนยังหน้าไม่อายคิดว่านี่คือบัญชีใหม่ที่ซูยุ่นเปิดขึ้นมาเพื่อตัวเอง
เพิ่งเพิ่มได้ในตอนแรก เธอก็เริ่มเสแสร้งแล้ว”ต้องขอโทษจริงไปนะ ที่ฉันส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอสองคน ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือเธอ ถ้าฉันรู้ว่าเป็นเธอ ฉันจะไม่ส่งเนื้อหาแบบนี้ไปให้เธอเด็ดขาด ฉันหวังดีกับความสัมพันธ์ของพวกเธอนะ”
“ฉันรู้ ฉันรู้ฉันไม่ได้โทษเธอ เธอเป็นเพราะหวังดีกับเราสองคน ฉันเชื่อว่าเขาต้องเข้าใจ”ทางด้านโล่เฟยเอ๋อทำหน้าเย็นชาตอบข้อความ
“ก็ดี งั้นฉันจะได้วางใจ เรื่องนั้นของเธอบอกกับพี่ชายเธอแล้วหรือยัง”วนไปวนมาก็ยังวนมาถึงจุดที่ซือเหม่ยหยวนสนใจที่สุด
โล่เฟยเอ๋อกระตุกยิ้มเย็นชามุมปาก ตอบ”ฉันบอกไปแล้ว พี่ชายโกรธมากแล้วยังไปถามพี่สะใภ้อีก”
“จริงเหรอ งั้นต่อจากนั้นล่ะ”ซือเหม่ยหยวนได้ฟังข่าวดีนี้ ก็รีบถามต่อไปทันที
“ต่อจากนั้นยังสามารถเป็นอะไรได้อีกล่ะ ทั้งสองเล่นสงครามประสาทกันน่ะสิ แต่ว่าฉันคิดว่านี่เป็นการที่เธอทำเองก็ต้องรับผลกรรมเอง พี่ชายฉันดีขนาดนี้ เธอก็ยังไปยั่วผู้ชายคนอื่นที่ข้างนอกอีก ไร้ยางอายสุดๆ ไปเลย”
คำพูดโล่เฟยเอ๋อแต่ละคำมันพูดโดนใจซือเหม่ยหยวนอย่างมาก เธอรู้สึกว่าเธอมีความหวัง
เธอคิดว่าแค่ประจบน้องสาวของเธอให้ดี งั้นต่อไปทำเรื่องอะไรต้องราบรื่นอย่างแน่นอน ถ้าได้เป็นภรรยาซูซีมู่จริง งั้นรอบข้างจะขาดการประจบประแจงได้เหรอ
“เธอก็พูดแบบนี้ไม่ได้ แม้เรื่องนี้พี่สะใภ้ของเธอจะมีความผิด แต่ก็เป็นผู้หญิงที่ประธานซูเลือกแล้ว”เธอยังแกล้งร้องขอความเมตตาให้โล่เฟยเอ๋อ
โล่เฟยเอ๋อมองบนอย่างพูดไม่ออก คาดว่าเวลานี้ในใจซือเหม่ยหยวนคงจะดีใจจนเบ่งบานเป็นดอกไม้แล้วมั้ง ในเมื่อเธอดีใจขนาดนี้ งั้นก็ให้เธอดีใจเพิ่มอีกหน่อยแล้วกัน”ผู้หญิงที่พี่เลือกแล้วยังไง กิริยาไม่สำรวมก็ไม่สามารถเข้าประตูบ้านซูมได้ ตอนนี้พวกเขากำลังฝืนทนกันอยู่ ไม่แน่ผ่านไปสักระยะก็หย่ากันแล้ว”
เมื่อได้เห็นคำว่าหย่าที่เขียนมานั้น ซือเหม่ยหยวนก็ดีใจเป็นอย่างมาก ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าความพยายามทั้งหมดในก่อนหน้านี้ไม่สูญเปล่าเลยสักนิด “อุ๊ย เรื่องนี้ฉันก็พูดอะไรมากไม่ได้ ถ้าให้คนรู้เข้า ต้องคิดว่าเป็นฉันตัวกลางที่ยุแยงตะแคงรั่วในความสัมพันธ์ของสามีภรรยาคนอื่น”
ความหมายของคำพูดนี้ของเธอคือให้ซูยุ่นเป็นเก็บไว้เป็นความลับ ไม่ต้องบอกคนอื่น ว่าเรื่องนี้เธอคือคนที่เผยแพร่มันออกไป
โล่เฟยเอ๋อไม่ใช่คนโง่สักหน่อย จึงเข้าใจความหมายจากคำพูดของเธออย่างแน่นอน เลยพูดออกไป”วางใจได้ เรื่องนี้ฉันจะไม่บอกคนอื่นแน่นอน ยังไงซะฉันก็ต้องขอบคุณเธอ”
“เธอไม่ต้องขอบคุณฉันเลย ฉันแค่เป็นคนส่งข้อมูลนี้ให้เท่านั้น ไม่มีความหมายอื่นเลย”
“ได้ ฉันรู้แล้ว ดึกแล้ว พักผ่อนเร็วๆ เถอะ ราตรีสวัสดิ์”โล่เฟยเอ๋อกล่าวลาเสร็จก็ออกมาจากบัญชีสำรองทันที
ในตอนนี้เอง เธอขบฟันแน่นด้วยความโกรธ “ซือเหม่ยหยวนคนนี้”เธอเอ่ยชื่อนี้ด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
ทันเวลาที่ซูซีมู่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำพอดี เห็นสีหน้าโล่เฟยเอ๋อผิดปกติ ก็ถามด้วยความเป็นห่วงมากๆ “เป็นอะไรไป มีเรื่องอะไร ช่วงนี้กดดันมากเกินไปใช่ไหม”
สามคำถามที่คร่าชีวิตถามติดต่อกันทำให้โล่เฟยเอ๋อไม่รู้จะตอบยังไง สิ่งที่ซูยุ่นพูดมันไม่เวอร์เกินไปเลยสักนิด หากให้ซูซีมู่รู้เรื่องนี้เข้า งั้นซือเหม่ยหยวนคงไม่ได้พบพระอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้แน่
โล่เฟยเอ๋อไม่อยากจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาดขนาดนั้น เพียงแค่อยากสั่งสอนซือเหม่ยหยวนให้ได้บทเรียนเท่านั้น
“ฉิงฉิงหลับแล้วเหรอ”ซูซีมู่เข้ามาในผ้าห่มถาม
“โดนฉันกล่อมจนหลับไปแล้ว ช่วงหลายวันนี้เธอเป็นเด็กดีเป็นพิเศษเลย”โล่เฟยเอ๋อยิ้มพูด
“งั้นก็ดี เธออย่าเหนื่อยเกินไปล่ะ มีเรื่องอะไรก็ให้แม่นมไปทำก็พอแล้ว”
โล่เฟยเอ๋อยิ้มตอบ”ไม่ใช่ฉันไม่ไว้ใจป้าจาง เพียงแค่ลูกตัวเองก็อยากดูแลด้วยตัวเอง บอกเหนื่อย เป็นคุณที่เหนื่อยกว่าอีก พูดว่าลางานก็ยังทำงานที่บ้านแทบตายอีก”พูดอยู่เธอก็เอียงศีรษะมาซบอกซูซีมู่
“ฉันไม่เหนื่อย โจวเฉิงเหนื่อยกว่าอีก”ซูซีมู่พูดอย่างเคร่งขรึม
กำลังพูดอยู่ ทั้งสองคนก็ยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ในเวลานี้โจวเฉิงที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟากับซูยุ่นก็จามออกมาอย่างอธิบายสาเหตุไม่ได้