บทที่465 หน้าแตกกลางงาน (1)
แม้จะมีการช่วยเหลือกัน แต่โจวเฉิงก็ไม่เรื่องง่ายที่ต้องติดต่อกับคนของบริษัทซือซื่อทุกวัน
ซือเหม่ยหยวนเป็นคนที่ชี้สั่งอย่างเดียวแต่ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น นั่นคงทำให้ผู้ช่วยคนนั้นที่พ่อซือส่งมาหาเธอเกิดความลำบาก วันๆ ยุ่งจนหัวฟู
วันต่อมา ดวงอาทิตย์คงขึ้นจากทางทิศตะวันตกแน่เมื่อซือเหม่ยหยวนมาที่บริษัทอย่างคาดไม่ถึง เธอแต่งหน้าแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ ทำให้คนรู้สึกตะลึง
เพราะเธอได้ข้อมูลจากทางบริษัทซูซื่อ อย่างไม่ง่ายดาย วันนี้ซูซีมู่จะมาคุยการประชุมด้วยตัวเอง ดังนั้นเธอจึงต้องรีบมาอย่างรอไม่ไหว
ผู้ช่วยตัวน้อยของเธอนั้นกลับไม่ดีใจเลยสักนิด คิดว่าเธอไม่ทำอะไรเลยแท้ๆ แต่พอตอนที่รับรางวัลตัวเองกลับมา นี่ไม่ใช่การแย่งผลงานกับตัวเองอย่างเห็นได้ชัดเหรอ
ครั้งนี้เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในการร่วมงานกันครั้งนี้ ดังนั้นจึงสำคัญมาก พ่อซือก็มาด้วย
ตอนนี้คนยังไม่มาครบ ซือเหม่ยหยวน ก็รู้วันถึงความสำคัญของกิจกรรมในครั้งนี้ กล่าวอย่างหยิ่งผยองกับผู้ช่วยร่างเล็กนั้น “กิจกรรมครั้งนี้มีเนื้อหาอะไรบ้าง เธอกล่าวคร่าวๆ ให้ฉันฟังหน่อย”
เธอก็กลัวว่าถึงตอนนั้นตัวเองไม่เข้าใจอะไรเลยมันจะอับอายน่ะสิ
ฟังจากความหมายของคำพูดนี้คือตอนนี้ คุณงามความดีทั้งหมดที่ทำมาคือของฉัน เธอเพียงแค่ต้องรายงานคุณงามความดีให้ฉันก็พอ
แม้ภายในใจจะโกรธเคืองมากแค่ไหน แต่ผู้ช่วยตัวน้อยก็ไม่กล้าพูดความโกรธออกไป จึงรายงานไปทางความจริงทั้งหมดให้ซือเหม่ยหยวน
พอพูดไปครึ่งทาง ซือเหม่ยหยวนก็หงุดหงิดเล็กน้อย โบกมือพูด”พอแล้วๆ เธอไม่ต้องพูดแล้ว พูดเยอะขนาดนี้ฉันก็จำไม่ได้ ถึงตอนนั้นมีคนถามฉันเธอก็แอบเตือนฉันอยู่ข้างหลังแล้วกัน”
ความรู้สึกส่วนตัวของผู้ช่วยตัวน้อยคือไม่อยากเตือน เธอก้มหน้าไม่พูดอะไร
ซือเหม่ยหยวนหงุดหงิดเล็กน้อยเลยพูดอย่างโมโห”ฉันว่าเธอหูหนวกรึเปล่า ที่ฉันพูดเธอฟังในเข้าใจเหรอ แม่งเอ๊ยทราบรึเปล่า”
เธอใช้วาจาด่าอย่างไม่พอ ถึงขั้นใช้มือตีผู้ช่วยตัวน้อยด้วย
คนรอบข้างทนดูกันต่อไม่ไหว แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
เพราะถ้าใครกล้าพูดช่วยเหลือผู้ชายคนนี้ งั้นจุดจบของเธอต้องแย่มากแน่นอน
แม้ในใจจะมีความโกรธเคืองมากแค่ไหนก็ต้องกดมันไว้ให้ได้ ผู้ช่วยตัวน้อยพยักหน้า แสดงความตกลง
เห็นเธออ่อนให้แล้ว ซือเหม่ยหยวนถึงจะพยักหน้าอย่างพอใจ เพิ่งถึงจะข่มขู่ต่ออีกสักสองสามคำ แต่พ่อซือก็มาพอดี
ซือเหม่ยหยวนราวกับสีหน้าได้เช่นนั้น เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่อ่อนโยนเป็นมิตรไปต้อนรับพ่อซือ “คุณพ่อ คุณพ่อทำไมมาเช้าขนาดนี้ ก็ไม่บอกฉันคะ หนูจะได้ไปรับคุณพ่อ”
“พ่อก็มาดูๆ ได้ยินมาว่าครั้งนี้เธอจัดการได้ไม่เลวเลยทีเดียว”พ่อซือมองซือเหม่ยหยวนอย่างพอใจพูดพลางยิ้มออกมา
เธอได้รับผลประโยชน์ก็เริ่มแสดงเสแสร้งทำเป็นไม่ใช่อีก พูด”นี่ไม่ใช่คุณงามความดีของหนูคนเดียว แต่เป็นคุณงามความดีของพนักงานทุกคนในบริษัททั้งหมดเลยค่ะ”
พ่อซือชอบท่าทีถ่อมตัวของซือเหม่ยหยวนเช่นนี้แหละ พูดอย่างพอใจ”เฮ้ย มันคงจะดีถ้าจิ้งสวนทำให้หมดห่วงเหมือนอย่างเธอได้”
“คุณพ่อ คุณพ่ออย่าพูดแบบนี้เลยค่ะ ตั้งแต่เล็กจิ้งสวนก็อิจฉาที่คุณพ่อดูแลฉันมากกว่าเธอ เพราะฉะนั้นในใจจึงรู้สึกไม่ได้ความยุติธรรมอย่างหลีกเลี่ยงกันไม่ได้ ได้ยินมาว่ากิจกรรมในวันนี้จิ้งสวนกับเหซิงโม่สามีของเธอก็จะมาร่วมด้วย”ซือเหม่ยหยวนเริ่มคิดแผนชั่วร้ายอีกแล้ว
เมื่อได้ฟังข่าวนี้คิ้วพ่อซือขมวดเข้าหากันอย่างแน่นหนาแล้วพูด “เธอไม่พูดอันนี้พ่อยังไม่โกรธ เธอดูสิตอนนั้นเขาจะอยู่กับเหซิงโม่คนนั้นให้ได้ สุดท้ายหลังแต่งงานกลายเป็นสภาพในตอนนี้ ขายหน้าจริงๆ ”
อันที่จริงข้อมูลของพวกเขาไม่มีประสิทธิภาพมากพอ จึงยังไม่รู้ว่าเหซิงโม่ในตอนนี้กับซือจิ้งสวนมีความสุขเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ซือเหม่ยหยวนหวังให้ซูซีมู่รีบมาไวๆ เธอตั้งใจแต่งหน้าทำผมขนาดนี้ก็เพื่อการพบหน้ากันในครั้งนี้
ผู้คนทยอยมากันครบแล้ว โจวเฉิงมาพร้อมกับพวกเหซิงโม่ลู่ยู่ เพราะนี่คือการร่วมงานกันระหว่างตระกูลซือกับตระกูลซู ดังนั้นซือจิ้งสวนก็มาด้วย
เธอถูกเหซิงโม่จูงมือไว้แน่น ความสัมพันธ์ไม่คลุมเครือเลย ทั้งสองคนค่อยมองกันอย่างหวานซึ้งตลอดเวลา ทำให้คนอื่นเห็นแล้วก็อิจฉาจริงๆ
“เอ๊ะ ไม่ใช่ได้ยินมาจากข่าวลือว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนแย่มากเลยไม่ใช่เหรอ”
“เธอดูสิก็พูดว่าคือข่าวลือ ตอนนี้ทั้งสองคนรักกันเป็นอย่างมาก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข่าวลือนี้ใครเป็นคนพูด”
“……”
ไม่ช้าก็มีคนเริ่มซุบซิบนินทากัน เพราะในเมื่อวานซือเหม่ยหยวนกล่าวในกลุ่มบริษัททั้งในที่แจ้งและในที่ลับว่าซือจิ้งสวนกับเหซิงโม่นั้นมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกัน
ผู้คนในตอนนี้มีนิสัยพฤติกรรมเดียวกันหมด นั่นก็คือชอบเผือกเรื่องชาวบ้านมาก เห็นตรงไหนมีเรื่องหน่อยก็อยากไปแจมด้วยแทบขาดใจ
ตอนนี้ความเผือกที่คาดหวังไม่เป็นเช่นนั้น ในใจต้องรู้สึกไม่สบายอย่างแน่นอน จึงเริ่มพูดถึงคนที่สร้างเล่าลือนี้ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ
สีหนาซือเหม่ยหยวนดูไม่ดีมาก เธอรู้สึกว่าที่พวกเขาทำแบบนี้แสดงออกมากันทั้งนั้น เพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นตอนที่เหซิงโม่พูดไม่ดีกับซือจิ้งสวนด้วย ตอนนั้นในใจเธอรู้สึกดีใจอย่างมาก
“จะทักทายกับคุณพ่อพวกเราไหม”เหซิงโม่ถามซือจิ้งสวน
เพราะซือจิ้งสวนกับพ่อซือมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดี ลังเลสักครู่จึงพูด”ไปทักทายหน่อยเถอะ ความสัมพันธ์นี้ต้องคลี่คลายในไม่ช้าก็เร็วอยู่ดี”
เมื่อได้ฟังที่ซือจิ้งสวนพูด เหซิงโม่ก็จูงมือซือจิ้งสวนมาอยู่ตรงหน้าพ่อซือแล้วพูด “คุณพ่อ”
“คุณพ่อ……”ซือจิ้งสวนเรียกอย่างเกร็งๆ ทำตัวไม่ถูก
เดิมทีพ่อซือไม่คาดหวังอยู่แล้วว่าทั้งสองคนจะมาทักทาย คิดว่าความสัมพันธ์ทั้งสองแย่มาก ไม่ทะเลาะกันอย่างไม่มีเหตุผลกลางงานนี้ ก็ขอบคุณฟ้าดินอย่างมาก
มาตอนนี้ทั้งสองคนจับมือกันแน่ สนิทสนมกันอย่างมาก ไม่เหมือนมีท่าทีที่ความสัมพันธ์ไม่ดีเลยสักนิด แถมความสัมพันธ์สนิทสนมนี้ไม่เหมือนแสดงออกมาเลยแม่แต่น้อย
“อือ”พ่อซือเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงนี้ จึงปรับตัวไม่ได้เล็กน้อยในความกะทันหันนี้เลยรีบตอบออกไปอย่างสั้นๆ
“คุณพ่อ ผมต้องขอโทษอย่างเป็นทางการกับคุณพ่อ ณ ตอนนี้ด้วยนะครับ เพราะการกระทำที่ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรของผมเมื่อก่อนมันทำร้ายจิตใจจิ้งสวน และทำร้ายจิตใจของพวกท่านทั้งสองด้วย”ขณะที่พูดนั้นเขาก็โค้งคำนับเก้าสิบองศา ขอโทษอย่างจริงใจ
“คุณพ่อ หนูก็ต้องขอโทษคุณพ่อด้วยที่เมื่อก่อนหนูเถียงคําไม่ตกฟากคุณพ่อมาเสมอ อันที่จริงตอนที่ทะเลาะกับคุณพ่อ หนูก็รู้ว่าผิดแล้วค่ะ แต่ตั้งแต่เล็กจนโตนิสัยของหนูพ่อก็รู้……
ขอโทษค่ะ หนูผิดไปแล้วจริงๆ ได้โปรดให้อภัยความดื้อรั้นของลูกสาวด้วยนะคะ”ซือจิ้งสวนโค้งคำนับด้วยเช่นกัน
พ่อซือซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ออกมา เขากลับลูกสาวแท้ๆ คนนี้ของเขาเป็นดั่งน้ำกับไฟ ทุกครั้งที่เจอหน้ากันก็ทะเลาะกันไม่อยู่
เขาอายุก็มากแล้ว จึงรับไม่ไหวที่ต้องไม่มีเรื่องจะหาเรื่องแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อันที่จริงมีพ่อคนไหนไม่รักลูกสาวตัวเองล่ะ
“พอแล้ว จากนี้ไปก็ใช้ชีวิตกันดีๆ อย่าก่อเรื่องอะไรอีกก็พอ”
พ่อซือแอบเช็ดน้ำตาออก ในใจก็ปลื้มใจอย่างมาก เหซิงโม่ปรบมือ พูด”ทุกท่านครับ ผมต้องชี้แจงในที่นี่เรื่องหนึ่ง ความสัมพันธ์ของผมกับจิ้งสวนถูกทุกคนเอามานินทาตลอด ก็เป็นไปตามที่หลายคนเคยเห็น ว่าเมื่อก่อนผมมันเลวแค่ไหน เป็นผมที่ไม่รู้อะไรไม่ดีเลยทำจิ้งสวนเสียใจ แต่ผมรู้ซึ้งความผิดแล้วครับ และได้รับการให้อภัยจากจิ้งสวนแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงจะชี้แจงตรงนี้สักหน่อย แต่ว่าถ้าหากหลังจากนี้ให้ผมได้ยินว่ามีคนนินทาลับหลังเรื่องนี้อีก งั้นก็อย่าโทษที่ผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ”