บทที่472 มหากาพย์แห่งความวุ่นวาย
เมื่อเห็นว่าคนรอบๆ เริ่มมองมากขึ้นเรื่อยๆ โล่เฟยเอ๋อก็มีความโกรธเกิดขึ้นมา เธอคิดว่าวันนี้ต้องเป็นพวกที่ถูกพามาจัดฉากแน่เลย
หซิวหชูเฉียวปกป้องโดยให้โล่เฟยเอ๋ออยู่ด้านหลัง ตอนนี้เธอยังอยู่ในช่วงอยู่ไฟตอนไนจะให้เธอมาได้รับบาดเจ็บไม่ได้
โจวซวงซวงเองก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เธอพูดให้ทุกคนได้ยินว่าเมียน้อยต่างๆ นานา
แต่โล่เฟยเอ๋อรู้สึกว่าโจวซวงซวงนั้นดูคุ้นๆ แต่กลับคิดไม่ออกว่าเป็นใครกันแน่
“เห้ย!ถ้าคุณยังแหกปากแบบนี้อยู่พวกเราจะแจ้งความแล้วนะ!” หซิวหชูเฉียวพูดจริงจัง พลางพูดด้วยความข่มขู่
เมื่อได้ยินว่าจะแจ้งความโจวซวงซวงก็หัวเราะขึ้นมา “ฮ่าๆ ……แจ้งความงั้นเหรอ?ให้ตำรวจมาดูหน้าเมียน้อยด้วยกันเหรอ?คุณยังปกป้องเธอ ไม่แน่อาจจะไปล่อลวงผู้ชายของคนอื่นเหมือนกันก็ได้ ถึงอย่างไรก็น่าจะเป็นเหมือนๆ กัน”
ตอนนี้เธอเหมือนกับหมาบ้าที่เริ่มกัดคนไปเรื่อยแล้ว
ว่าตัวเองเป็นอะไรก็ได้โล่เฟยเอ๋อยังพอทนได้ แต่โจวซวงซวงเริ่มว่าเพื่อนของตัวเอง โล่เฟยเอ๋อทนไม่ได้แน่นอน เลยถามออกไปว่า: “คุณมาตะโกนว่าฉันเป็นเมียน้อยแบบนี้ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสามีคุณเป็นใคร!ถ้าเกิดว่าคุณมาพูดมั่วๆ แบบนี้อีก อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจนะ!”
“จนถึงตอนนี้ยังแกล้งทำโง่อีก สามีของฉันก็คือกู้ชิงหลัน!กู้ชิงหลันน่ะคุณไม่คุ้นหน่อยเหรอ?”
เมื่อพูดถึงกู้ชิงหลัน โล่เฟยเอ๋อก็ร้อนรนขึ้นมา ไม่น่าล่ะทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้คุ้นตามากขนาดนั้น ที่แท้ก่อนหน้านี้ตอนที่เจอกู้ชิงหลันก็ได้เจอเธอเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าตอนนี้กู้ชิงหลันจะเอาแต่ซ่อนตัว แต่ว่าโล่เฟยเอ๋อไม่มีเหตุผลอะไรเลย โจวซวงซวงยังมาว่าตัวเองเป็นเมียน้อยต่อหน้าคนอื่นๆ อีกงั้นเหรอ?
“ฉันกับกู้ชิงหลันไม่ได้เบอร์ติดต่อกันด้วยซ้ำ จะมาล่อลวงอะไรกัน?แถมยังบอกว่าเป็นเมียน้อยอีก พูดอีกอย่าง ฉันมีสามีแล้ว สามีของฉันไม่รู้ว่าดีกว่ากู้ชิงหลันตั้งกี่เท่า ฉันบ้าเหรอ ถึงได้จะไปเอากู้ชิงหลันน่ะ?”
เมื่อเจอคำถามของโล่เฟยเอ๋อที่ถามอย่างมีเหตุผลแบบนี้ โจวซวงซวงก็มีสีหน้านิ่งไป เธอเริ่มพูดขึ้นอีก “คุณอย่ามาหาข้ออ้างนะ คุณอย่าคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าชีวิตของคุณมันวุ่นวายขนาดไหน คุณไม่พอใจในชายคนเดียวเลยต้องมาหาเศษหาเลย!คุณยังกล้ามาพูดอีก ว่าคุณมีสามีแล้ว น่ารังเกียจ!”
คนที่อยู่รอบๆ เมื่อได้ยินขนาดนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็สนใจขึ้นมา ทุกคนเอาแต่จับจ้องไปที่สามคนนั้น ดูสิว่าเดี๋ยวจะมีการตบตีกันไหม
“คุณเห็นเองกับตาเลยเหรอว่าชีวิตของฉันมันไม่ปกติน่ะ?ก่อนหน้านี้พวกเราเหมือนจะไม่เคยเจอกันด้วยซ้ำ คุณเชื่อคำพูดของคนอื่นแล้วมาหาเรื่องฉันแบบนี้ คุณไม่สนใจเลยเหรอ?” โล่เฟยเอ๋อไม่ได้ร้อนรน พลางถามออกไป
โจวซวงซวงคิดว่าตัวเองมีเหตุผล วันนี้จะต้องด่าโล่เฟยเอ๋อจนกว่าจะกระอักเลือดให้ได้ แต่มันกลับไม่เป็นแบบนั้น กลับกลายเป็นว่าโล่เฟยเอ๋อเอาแต่กดเธอลงต่ำ
เมื่อพูดไม่ได้ก็อยากจะเข้าไปทำร้าย แรงของเธอไม่มากตัวก็ไม่สูง เลยถูกหซิวหชูเฉียวขวางเอาไว้ พลางพูดอย่างดุดันว่า: “คุณดูถูกต่อหน้าคนอื่นแถมยังจะลงมืออีก คุณไม่อยากมีชีวิตดีๆ ต่อแล้วหรือไง?”
โจวซวงซวงตรงนี้ที่เหมือนจะไม่มีทางพูดดีๆ ได้แล้วรีบพูดขอความช่วยเหลือจากคนรอบๆ อย่างบ้าคลั่ง “พวกคุณรีบมาช่วยฉันเร็ว หรือว่าอยากจะให้เมียน้อยมันอวดเก็งแบบนี้เหรอ?”
คนที่อยู่รอบๆ นั้น รู้สึกไม่อยากติดตาม จนกลับไปต่อแถวแล้ว
พยาบาลมองด้วยสายตาเยือกเย็น ในวันหยุดคนเยอะอยู่แล้ว จะให้มาสนใจเรื่องชาวบ้านได้อีกได้อย่างไร
“คุณว่าผู้หญิงคนนี้เหมือนเมียน้อยเหรอ?”
“ฉันว่าไม่เหมือนนะ หน้าตาสวยขนาดนี้ จะหาชายคนไหนไม่ได้จนต้องไปเป็นเมียน้อยคนอื่นเหรอ?”
“ก็เพราะว่าสวยมาไงเลยเป็นเมียน้อยได้ไง ฉันว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่าจะโกหกนะ”
“……”
ทุกคนถกเถียงกันจนไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงใครกันแน่
หซิวหชูเฉียวเริ่มทนไม่ไหวแล้ว ถึงได้พูดขึ้น: “คุณอย่ามาปิดบังพวกเรา กู้ชิงหลันที่คุณพูดน่ะ ไม่เหมาะแม้แต่จะเป็นคนถือรองเท้าให้เฟยเอ๋อของพวกเราด้วย!”
“คุณ……” โจวซวงซวงหัวร้อนเป็นอย่างมาก จนพูดไม่ออก
“คุณอะไรอีก หรือไม่ใช่เหรอไง?อะไรทำให้คุณคิดว่าเฟยเอ๋อของพวกเรายังจะไปหากู้ชิงหลันที่ไม่มีอะไรดีเลยเหรอ?” หซิวหชูเฉียวพูดเพิ่มเติม
เมื่อพูดจบเธอก็จูงมือโล่เฟยเอ๋อไป โล่เฟยเอ๋อเดินไปหยุดอยู่หน้าโจวซวงซวงพลางพูดว่า: “อย่าถูกคนยั่วนิดหน่อยก็หาเรื่องแล้ว เสียหน้าจริงๆ เลย แต่คุณทำแบบนี้ก็ไม่มีทางมัดใจชายได้”
โจวซวงซวงยืนเหม่อ พลางมองพวกโล่เฟยเอ๋อเดินออกไปไกลอย่างทำอะไรไม่ถูก
คนที่อยู่ตรงนั้นซุบซิบ ก่อนจะแยกย้ายกันไป พวกเขาเพียงแต่ทำเหมือนมันเป็นเพียงละครฉากหนึ่ง
กู้ชิงหลันที่อยู่ที่บ้านไม่ได้รอโจวซวงซวง เขาร้อนใจเล็กน้อย เพียงไม่นานก็ถึงเวลาเที่ยงแล้ว ท้องของเขาก็ร้องขึ้นมา
ถึงแม้ว่าโจวซวงซวงจะหาเรื่องอย่างไร้เหตุผลมากไปหน่อย แต่ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ยอมบอกว่าตัวเองหิว อะไรอร่อยๆ ก็รีบให้ตัวเองหมด
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้กู้ชิงหลันก็คิดถึงวันเวลาดีๆ ที่มีกับโจวซวงซวง
เขาพยายามติดต่อโล่เฟยเอ๋อแล้วแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ เขาคิดออกแล้ว จากนั้นก็ปล่อยวางไปแล้ว
ท่าทีจนๆ ของตัวเองแบบนั้น จะไปคู่ควรกับเธอ……
อยู่แบบดีๆ เหมือนเดิมดีกว่า……
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ในบ้านดังขึ้น กู้ชิงหลันเลยรีบไปรับสาย
ปลายสายคือซือเหม่ยหยวน เธอพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง: “ซวงซวง ฉันโทรหาโทรศัพท์ของคุณแล้วคุณไม่รับ เลยต้องโทรมาหาโทรศัพท์บ้าน จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?”
ฟังจากน้ำเสียงของซือเหม่ยหยวนมันดูสนใจไม่น้อยเลย
จริงๆ แล้วกู้ชิงหลันไม่ได้รู้สึกดีกับซือเหม่ยหยวนเลย เขารู้สึกแต่เพียงว่าซือเหม่ยหยวนกำลังหลอกล่อเขาอยู่ อีกอย่างตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาก็มองออกว่าซือเหม่ยหยวนจะหลอกใช้โจวซวงซวง
ในใจของเขายังส่งเสริมอยู่ ขอแค่เรื่องมันไม่มากเกินไป จะหลอกใช้อะไรก็ใช้เถอะ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับโจวซวงซวง
“คุณพูดเรื่องอะไร?โจวซวงซวงไปไหนแล้ว?” กู้ชิงหลันขมวดคิ้วถาม
คนที่รับสายคือกู้ชิงหลัน ซือเหม่ยหยวนรู้สึกเกินคาด เธอคิดๆ ไป กู้ชิงหลันมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับโล่เฟยเอ๋อ อีกอย่างไม่ได้รู้สึกอะไรกับโจวซวงซวงด้วย ถ้าเกิดว่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับกู้ชิงหลัน กู้ชิงหลันโทษโจวซวงซวง ปัญหาของทั้งสองคนนั้นมันมีมากกว่าเดิม แล้วสุดท้ายโจวซวงซวงก็จะร้ายกับโล่เฟยเอ๋อมากขึ้นไปอีก และก็จะคิดวิธีไปกำจัดโล่เฟยเอ๋อ ถึงเวลาตัวเองก็จะไม่ต้องลงมือแล้ว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ซือเหม่ยหยวนยิ้มร้ายๆ ออกมา ก่อนจะพูดด้วยความไร้เดียงสา: “ชิงหลันเหรอ!คุณกลับามแล้ว คุณไม่รู้เลยว่าช่วงหลายวันมานี้ทั้งสองฝ่ายเป็นห่วงขนาดไหน ฉันพูดตรงๆ กับคุณสักหน่อยเถอะ อันที่จริงเธอรู้แล้วว่าคุณกับโล่เฟยเอ๋อมีความสัมพันธ์คลุมเครือ ตอนนี้เธอไปหาโล่เฟยเอ๋อแล้ว”
“อะไรนะ!?โจวซวงซวงไปหาเฟยเอ๋อเหรอ!” กู้ชิงหลันได้ยินดังนั้นก็ถามด้วยความไม่เชื่อ