บทที่475 ซ่งหมิ่นหมิ่นมีวิธีเด็ดๆ
เมื่อได้ยินว่าเป็นซ่งหมิ่นหมิ่น หน้าของซือเหม่ยหยวนก็นิ่งไป ก่อนหน้านี้เธอเก็บซ่งหมิ่นหมิ่นเอาไว้ไม่ให้พ่อซือรู้มาตลอด ถ้าเกิดว่าครั้งนี้เธอทำเรื่องการร่วมมือกับตระกูลเหซิงสำเร็จ หลังจากนั้นจะต่อจากนี้จะต้องราบรื่นอย่างแน่นอน
“พ่อ หมิ่นหมิ่นเป็นผู้ช่วยของฉัน ปกติไม่ค่อยกล้าสักเท่าไหร่ ฉันว่าเปลี่ยนคนเถอะ” ซือเหม่ยหยวนรีบพูดโน้มน้าว
ยังไม่ทันจะรอให้พ่อซือเปิดปากพูด เหซิงโม่เลยตอบไป: “ในเมื่อเป็นผู้ช่วยของพี่สาวก็ต้องยิ่งเป็นเธอมากขึ้นไปอีก เพราะถึงอย่างไรการทำงานของพี่สาวนั้นเก่งกาจเสียขนาดนั้น ผู้ช่วยเองก็คงจะไม่น้อยหน้าเลยล่ะ”
เมื่อพูดแบบนี้ทำให้ซือเหม่ยหยวนโต้กลับไม่ได้ ตัวเองไม่อยากทำแถมยังไม่ให้ลูกน้องไปทำอีก มันจะมีเหตุผลอะไรได้อีกนะ?
ไม่มีทางเลือก ซือเหม่ยหยวนเลยต้องยิ้มพลางตอบตกลงไป
เธอกลับมาที่บริษัทอย่างแรกที่ต้องทำก็คือหาซ่งหมิ่นหมิ่น เรื่องที่ทำให้กิจกรรมเสียหายนั้นเธอยังไม่ได้มาคิดบัญชีกับซ่งหมิ่นหมิ่นเลย!
ข่าวมันแพร่ไปเร็วมาก ตอนนี้ทางบริษัทเองก็เพิ่งจะได้รับแจ้ง
คนมากมายต่างล้อมรอบซ่งหมิ่นหมิ่นพลางร่วมยินดีกับเธอ
คนพวกนี้เป็นพวกที่ทำได้แค่อวยเท่านั้น ก่อนหน้านี้ไม่เคยแม้แต่จะสนใจซ่งหมิ่นหมิ่น
“พี่หมิ่นหมิ่นน่าอิจฉาจังเลย!ได้รับงานใหญ่ขนาดนั้น ถ้าทำได้ดีอีกไม่นานก็อาจจะได้เป็นผู้จัดการเลยล่ะ!”
“งั้นเหรอ!การทำงานของหมิ่นหมิ่นนั้นก็อยู่ในสายตาของพวกเรา หมิ่นหมิ่นอย่าลืมพวกเราก็แล้วกัน!”
“……”
คำพูดประจบนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในใจของซ่งหมิ่นหมิ่นก็หุบยิ้มไม่ได้เลย ความรู้สึกของการถูกคนอื่นล้อมรอบนี้มันทำให้ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
“ไม่อยากจะทำแล้วเหรอ?เวลางานห้ามคุยกันพวกคุณลืมไปแล้วเหรอ?” ซือเหม่ยหยวนเห็นแบบนั้นก็อึดอัดใจ
เมื่อได้ยินคำดุด่าของซือเหม่ยหยวน พวกพนักงานก็กลับไปทำงานของตัวเอง อันที่จริงในใจกลับด่าซือเหม่ยหยวนอยู่ไม่น้อยเลย
“หมิ่นหมิ่น ดีใจด้วยนะ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณจะเก่งขนาดนี้เลย” ซือเหม่ยหยวนยิ้มอย่างมีนัยยะ ก่อนจะจับมือของซ่งหมิ่นหมิ่น แววตามีความเกลียดชัง
ซ่งหมิ่นหมิ่นดึงมือกลับไป พลางพูดด้วยความเคารพ: “เจ้านาย ฉันยังมีงานต้องทำอีกมาก ดังนั้นขอไปทำงานก่อนนะ……”
“อย่ารีบไปนะ คุณว่าพวกเราไม่ได้คุยกันนานแค่ไหนแล้ว?พวกเราเจอกันที่เดิมนะ~” ซือเหม่ยหยวนยังคงยิ้มเหมือนเดิม เลยทำให้รู้สึกน่าขนลุก
ไม่ได้คุยกันดีๆ มานานอะไรกัน ก็แค่หาที่เพื่อมาสั่งสอนซ่งหมิ่นหมิ่นเท่านั้นเอง
สองปีมานี้ซ่งหมิ่นหมิ่นถูกซือเหม่ยหยวนบังคับขู่เข็ยมาโดยตลอด ไม่มีโอกาสได้เติบโตเลย แต่ว่าเธอไม่กลับไม่ไป ทำได้เพียงไปหาซือเหม่ยหยวน “ที่เดิม” หลังเลิกงาน
เมื่อซ่งหมิ่นหมิ่นไปที่ดาดฟ้าของบริษัทซือซื่อ ซือเหม่ยหยวนก็รออยู่ที่นั่นอยู่แล้ว
เธอกล้ำกลืนพลางปรับอารมณ์ของตัวเองก่อนจะพูดด้วยความยินดี: “พี่เหม่ยหยวน คุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
ถ้าเกิดว่าพูดด้วยสีหน้าเสียใจ เกรงว่าจะถูกซือเหม่ยหยวนแกล้งมากกว่าเดิม
ซือเหม่ยหยวนหันมา พลางยิ้มมุมปากออกมา “มาแล้ว เข้ามาใกล้ๆ หน่อย”
ซ่งหมิ่นหมิ่นไม่รู้ว่าเธอหมายความว่าอย่างไร แต่ก็เข้าไปใกล้ๆ อย่างกล้าหาญ
“พี่เหม่ยหยวน……”
ยังไม่ทันพูดจบ ซือเหม่ยหยวนก็ตบหน้าของซ่งหมิ่นหมิ่นอย่างเต็มแรง จากนั้นเธอจึงพูดด้วยความเกลียดชัง: “เก่งจริงๆ เลยนะ ซ่งหมิ่นหมิ่น คุณมีวิธีดีๆ จริงๆ เลยล่ะ!”
“พี่เหม่ยหยวน……” ซ่งหมิ่นหมิ่นเอามือจับหน้า พลางมีน้ำตาคลอด้วยความน้อยใจ
เมื่อเห็นเธอแบบนี้ ซือเหม่ยหยวนก็รู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก เลยตบไปอีกที “อย่ามาทำเป็นน่าสนสารต่อหน้าฉัน คุณหน้าตาไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่เรื่องบนเตียงคงเก่งไม่น้อยเลย!รีบบอกมา ว่าคุณไปพูดอะไรกับโจวเฉิง!”
ตอนนี้ซือเหม่ยหยวนอยากจะรู้ว่าซ่งหมิ่นหมิ่นพูดอะไรกับโจวเฉิง ถึงได้โอกาสในการทำการร่วมมือของบริษัทเหซิงซื่อกรุ้ปในครั้งนี้
“ผู้ช่วยโจว……ฉันเปล่า……ฉันกับผู้ช่วยโจวน่ะ นอกจากงานก็ไม่เคยคุยอะไรกันแล้ว……” ซ่งหมิ่นหมิ่นส่ายหัวปฏิเสธ
“ฉันไม่สนว่าคุณจ้ะวิธีไหนนะ คุณเอางานในครั้งนี้มาให้ฉัน!” ซือเหม่ยหยวนพูดด้วยน้ำเสียงอย่างแน่วแน่
ถึงแม้ว่าตัวเองจะไม่สามารถขัดขวางไม่ให้พ่อซือเอางานนี้ให้ซ่งหมิ่นหมิ่นได้ แต่ถ้าเกิดว่าซ่งหมิ่นหมิ่นไม่อยากทำพ่อซือก็ห้ามอะไรไม่ได้
เมื่อได้ยินว่าให้เอางานนี้ให้คนอื่น ซ่งหมิ่นหมิ่นก็มีสีหน้าดูไม่ได้ เธออยู่ในบริษัทมาสองปีถึงได้งานนี้มา ถ้าจะให้ปล่อยไปง่ายๆ มันก็รู้สึกไม่ดี
“ไม่ได้……พี่เหม่ยหยวนคุณขอเรื่องอื่นได้ไหม งานในครั้งนี้มันสำคัญสำหรับฉันมาก ฉันขอร้องคุณ……ขอร้องคุณอย่าให้ฉันผลักงานนี้ไปให้คนอื่นเลย……”
เมื่อครู่ตอนที่ซือเหม่ยหยวนตบซ่งหมิ่นหมิ่นนั้นเธอยังกลั้นน้ำตาไว้ได้ แต่ว่าเมื่อซือเหม่ยหยวนบอกว่าจะให้ปฏิเสธงาน เธอน้อยใจจนต้องร้องไห้ออกมา
ถ้าเกิดว่าพลาดโอกาสครั้งนี้ไป ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะได้โอกาสอีกครั้ง
“เหอะ ไม่ยอมงั้นเหรอ?คุณอยากจะเก่งกว่าฉันงั้นเหรอ?” ซือเหม่ยหยวนถาม
ซ่งหมิ่นหมิ่นรีบส่ายหัวปฏิเสธ: “ไม่…หมิ่นหมิ่นจะจำบุญคุณของคุณไปตลอด ขอแค่ให้โอกาสฉันครั้งหนึ่งเถอะ!”
“ครั้งที่แล้วที่คุณทำให้งานของฉันเกิดเรื่องฉันยังไม่ได้มาคิดบัญชีกับคุณเลยนะ ครั้งนี้คุณถอนตัวออกมา รีบถอนตัวออกมาเร็ว!ความอดทนของฉันมีขีดจำกัดนะ!” ซือเหม่ยหยวนตบไหล่ของซ่งหมิ่นหมิ่น พลางพูดข่มขู่
เมื่อพูดจบเธอก็ออกไปจากดาดฟ้า
ซ่งหมิ่นหมิ่นอึ้งอยู่ที่ดาดฟ้าคนเดียว ความสุขอยู่กับตัวเองเพียงไม่นานก็หายไปแล้ว เธอรอโอกาสนี้มานานแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาพังอยู่ในมือของตัวเอง
เธออยู่ที่ดาดฟ้าอยู่นาน จนถึงเวลาเลิกงานถึงจะลงไป เธอไม่อยากให้ทุกคนเห็นท่าทีโซเซของเธอ
ตอนที่กำลังจะเก็บของกลับบ้าน โจวเฉิงก็มาหา
“เห้อ ทำไมเสี่ยวซ่งยังไม่ไปอีกล่ะ?” โจวเฉิงเห็นซ่งหมิ่นหมิ่นก็ทักทายก่อนเลย
ซ่งหมิ่นหมิ่นรีบเช็ดน้ำตา พลางก้มหัวแล้วพูด: “ห๊ะ……ฉัน……”
“เป็นอย่างไรบ้าง?ดีใจไหม ครั้งนี้คุณได้รับงานแล้ว ตอนนี้คุณจะได้เฉิดฉายแล้ว” โจวเฉิงพูดด้วยความยิ้มแย้ม
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซ่งหมิ่นหมิ่นก็ทนไม่ไหว จนน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง
“ฉัน……ฉันคิดว่าฉันทำไม่ได้ ช่างมันเถอะ ต้องของคุณด้วยนะ ที่สู้เพื่อโอกาสนี้เพื่อฉัน……” ซ่งหมิ่นหมิ่นกัดปาก พลางพยายามไม่ให้โจวเฉิงได้ยินอารมณ์ไม่ดีของเธอ
โจวเฉิงขมวดคิ้วเป็นปม เมื่อได้คุยกันในครั้งก่อนโจวเฉิงก็พบว่าซ่งหมิ่นหมิ่นอยากจะพิสูจน์ตัวเอง แต่ทำไมถึงได้มาเปลี่ยนคำพูดตอนนี้นะ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?” โจวเฉิงเข้ามาใกล้ซ่งหมิ่นหมิ่น พลางถามด้วยความเป็นห่วง
แต่ว่าในฐานะชายที่มีภรรยาแล้วอย่างเขาก็ต้องรักษาระยะห่างหน่อย
ในตอนนั้น ซือเหม่ยหยวนปรากฏตัวพอดี ก็เห็นโจวเฉิงกับซ่งหมิ่นหมิ่นกำลังคุยอะไรสักอย่างกันอยู่
เธอกลอกตา พลางพูดด้วยความแค้น: “ซ่งหมิ่นหมิ่นนี่มันมีวิธีดีๆ จริงๆ เลย