ตอนที่ 58 มาพนันกัน(1)
นักกระบี่โหมถูกยั่วให้เกิดโทสะ “เจ้าคนชั่ว! ข้าคือหนึ่งในสี่ปรมาจารย์! วิทยายุทธเป็นที่หนึ่งจะมาที่แปดที่เก้าอะไร เจ้านี่พูดจาซี้ซั้ว!”
ซินเหยายิ้มออกมาเล็กน้อย “สี่สุดยอดปรมาจารย์? ฟังดูน่าเกรงขาม แต่ยังไงก็ดูไม่ใช่อยู่ดี!”
“เจ้านี่บังอาจมากนัก! ข้าเป็นปรมาจารย์ จะมาพูดคุยโวได้เยี่ยงไร?”
“ไม่ได้โม้หรอ? ฮะฮะ! ข้าอายุยี่สิบแล้วฝึกศิลปะป้องกันตัวมาแล้วก็หลายเดือน ไม่ได้เป็นปรมาจารย์แต่ก็จัดการตาแก่แบบท่านได้สบาย!”
“เหอะ! ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะอายุยี่สิบจริงๆ!”
“ถ้าอย่างนั้นท่านดูละข้าอายุเท่าไรละ?”
“น่าจะยี่สิบ….ไม่! เสียงนั้นปลอมได้ง่าย ใครจะรู้หน้าตาภายใต้หน้ากากน่าเกลียดนี่ อาจจะเป็นหญิงแก่หน้าตาน่าเกลียดทำให้คนอื่นตกใจกว่าข้าก็ได้ หญิงสาวอายุยี่สิบไม่น่าจะมีพลังมากมายมหาศาลเช่นนี้!”
“ท่านแน่ใจหรือ?”
“ข้ามั่นใจ!”
“ตาแก่ ท่านบอกว่าท่านเป็นปรมาจารย์อะไรสักอย่างใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นกล้ามาพนันกับข้าไหมละ?”
“แล้วทำไมข้าจะไม่กล้า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี! งั้นเรามาเดิมพันกัน!”
“แล้วทำไมข้าต้องมาเดิมพันกับเจ้าด้วย!”
“ท่านไม่กล้าหรอ เมื่อกี้เพิ่งจะพูดเองว่าอะไรก็กล้าทำไม่ใช่หรือ?”
“ก็….พนันก็พนัน!”
นักกระบี่โหมรู้สึกอับอายและแค้นใจ เขาพบว่าเขานั้นถูกหลอกและตกหลุมพรางจากการสนทนาในครั้งนี้
ซินเหยาแกล้งพูดแบบไม่จริงจัง “ดีเลย! นายท่านโจ๋วเป็นพยาน พวกเราจะพนันกัน!”
นักกระบี่โหมจำนนต่อสถานการณ์จึงต้องเดินตามหลุงพรางที่ตกลงไป “จะพนันอะไรละ”
“มาพนันกันว่าที่จริงแล้วข้าอายุเท่าไร! ข้าให้โอกาสท่านหนึ่งครั้งทายมาว่าข้าอายุเท่าไร ถ้าเกิดว่าทายถูกท่านก็ชนะไปเลย!”
“นี่ไม่ยุติธรรมเลย! ถ้าหากว่าข้าทายว่าเจ้าอายุสี่สิบ แล้วเจ้าโกหกข้าว่าอายุสี่สิบเอ็ด ข้าก็ไม่มีวิธีอะไรมายืนยันได้!”
“ที่พูดมาก็ถูก!”
ซินเหยาหัวเราะพลางพูดออกมา “ท่านนี่ช่างเป็นคนที่รอบคอบเสียจริง! ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้หมละ แค่ทายมาว่าข้าอายุเท่าไร แค่ช่วงอายุเท่านั้นก็พอ ดีไหม? นี่พอจะยุติธรรมขึ้นมาหรือยัง?”
นักกระบี่โหมคิดสักครู่จึงพูดออกมาว่า “ยุติธรรมแล้ว!”
แค่ทายช่วงอายุแค่นี้มันก็ไม่ได้ยากมากมายเท่าไรนักหรอก!
ถ้าหากว่าเขาทายว่าอายสี่สิบปี งั้นอายุสามสิบก็พูดได้ว่าดูเหมือนอายุสี่สิบ ถ้าอายุห้าสิบก็บอกได้ว่าเหมือนอายุสี่สิบ
ซินเหยาพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นท่านก็ทายมาเลยว่าข้าอายุเท่าไร!”
นักกระบี่โหมถามต่อว่า “เดิมพันคืออะไร?”
ซินเหยาคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าหากว่าท่านชนะข้าจะไปจากที่นี่ทันที นักกระบี่ระดับหนึ่งข้าก็จะไม่แข่งด้วย พวกท่านจะฆ่าจะแกงอะไรข้าก็ไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่ถ้าเกิดว่าข้าชนะละก็….”
“เจ้าจะทำอะไร?”
“ท่านต้องยอมรับว่าข้าคือนักกระบี่ระดับหนึ่ง แล้วก็เรียกข้าว่าพี่สาวด้วย!”
“ตกลง!”
“แน่ใจแล้วนะ?”
“ข้าแน่ใจ!”
“ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ?”
“ไร้สาระ! ข้าเป็นถึงหนึ่งในสี่สุดยอดปรมาจารย์ ข้าพูดคำไหนคำนั้นW
ซินเหยามองไปที่นายท่านโจ๋วพลางพูดว่า “เชิญนายท่านโจ๋วมาเป็นพยาน ถ้าหากว่าตาแก่ตัวเหม็นนี่กลับคำพูด ขอให้นายท่านโจ๋วและวีรบุรุษตระกูลโจ๋วทั้งหลายป่าวประกาศให้ทั่วว่า นักกระบี่ตัวเหม็นสี่สุดยอดปรมาจารย์นั้นเป็นคนชั่วช้าไม่รักษาคำพูด!”
นายท่านโจ๋วรับรู้จุดประสงค์ที่เธอนั้นมาก่อความวุ่นวาย ทว่าเขานั้นก็อยากดูเหตุการณ์จึงพยักหน้ายอมที่จะเป็นพยานในการพนันครั้งนี้
ซินเหยา “ขอบพระเจ้านายท่านโจ๋วมากW
นักกระบี่โหมพูดออกมาเสียงดังว่า “ถอดหน้าของเจาออกซะ!”
ซินเหยาตอบกลับไปว่า “ท่านยังไม่ได้ทายอายุข้าเลยว่าข้าอายุเท่าไร”
นักกระบี่โหมคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบออกไปว่า “หกสิบ! ไม่! ไม่! เจ็ดสิบ!”
เดิมทีเขานั้นอยากจะทายว่าหกสิบทว่าตระหนักได้ว่าซินเหยานั้นมีกำลังภายในที่แข็งแกร่งมากมาย เขาเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าการมีกำลังภายในและพละกำลังที่ลึกซึ้งขนาดนี้ไม่มีทางที่จะฝึกเพียงแค่หกสิบหรือเจ็ดสิบปีแน่!
ในใจเขาคิดว่าซินเหยาต้องอายุแปดสิบหรือเก้าสิบปีแน่ๆ แต่เพื่อหลีกเลี่ยงเขาจงใจลดอายุลงมานิดหน่อย
ถึงอย่างไรก็ตามน่าจะไม่เกินไปจากช่วงหกสิบถึงแปดสิบยังไงเขาก็ชนะ
ซินเหยายิ้มอย่างมีเลศนัย “ตาแก่ตัวเหม็น ท่านแน่ใจแล้วใช่หรือไม่ เปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ”
นักกระบี่โหมตอบกลับไปว่า “ข้าไม่เปลี่ยนใจ! ถอดหน้ากากของเจ้าออกซะ!”
“ท่านรอเรียกข้าว่าพี่สาวได้เลย!”
ซินเหยายิ้มออกมาพลางพยักหน้าจากนั้นก็มองไปทางนายท่านโจ๋ว “นายท่านโจ๋ว รบกวนท่านและเหล่าวีรบุรุษทั้งหลายหันหลังไปได้หรือไม่?”
“ได้!”
นายท่านโจ๋วพูดขึ้นมาเสียงดัง “ลูกศิษย์ทั้งหมดของตระกูลโจ๋วกลับหลังหัน ห้ามแอบดูโดยเด็ดขาด!”
โจ๋วเส้าฉีแย้งขึ้นมาว่า “ท่านพ่อ! แบบนี้มันไม่ถูกต้อง ถ้าหากว่าพวกมันแอบโจมตีจะทำอย่างไร?”
นายท่านโจ๋วต่อว่ากลับไป “เจ้าโง่! นักกระบี่โหมจะโจมตีจากด้านหลังอย่างนั้นหรือ กุหลาบดำจะพาลโดนลูกหลงไปด้วย!”
ซินเหยาหัวเราะออกมา “หึหึ ขอบเจ้านายท่านโจ๋วที่ไว้ใจข้า กรุณารอสักครู่