ตอนที่ 64 หญิงสาวผู้แสนฉลาด(1)
นี่มันค่อนข้างที่จะไม่ถูกต้องตามธรรมเนียม
โจ๋วเส้าหัวพูดว่า “ซินเหยาเจ้ายังไม่รู้ ถึงแม้ว่าแผ่นดินอำนาจนี้เป็นของตระกูลมู่หรงนั่งบนเก้าอี้ราชากอบกุมแผ่นดินอำนาจ ทว่าสามตระกูลก็มีอำนาจบารมีมากมายและยังมีตำนานที่ยาวนานนับร้อยปีที่หยั่งรากลึกสู่ใจของประชาชนไปแล้ว!”
ซินเหยา “จากที่กล่าวมาก็คือผิวเผินแล้วคือตระกูลมู่หรงควบคุมแผ่นดินอำนาจแต่ในความเป็นจริงแล้วคือสามตระกูลใหญ่ก็เป็นเจ้าของและควบคุมแผ่นดินอำนาจเหมือนกันหรือ?”
โจ๋วเส้าหัว “นั้นคือสิ่งที่ข้าหมายถึง!”
ซินเหยาพูดต่อว่า “ทำไมหลายร้อยปีมานี้ทั้งราชวงศ์และสามตระกูลใหญ่ถึงได้รักใคร่กลมเกลียวปรองดองกันนี่เป็นเรื่องที่แปลกมาก”
โจ๋วเส้าหัว “นี่เรียกว่าน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า มันคือการเมืองคือสิ่งที่สามัญชนธรรมดาไม่เข้าใจ”
ซินเหยาถาม “เป็นการเล่นหมากรุกทางอำนาจหรือเปล่าคะ?”
“การเล่นหมากรุกทางอำนาจ?”
“ค่ะ”
“พูดได้ดีมาก!”
“ซินเหยา เจ้านี่เป็นหญิงสาวที่ฉลาดเสียจริง”
“ใช้คำว่าการเล่นหมากรุกทางอำนาจมาอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์และสามตระกูลใหญ่”
โจ๋วเส้าหัวทึ่งในความฉลาดของซินเหยาที่สามารถเปลี่ยนจากประโยคเป็นคำสั้นๆได้
ซินเหยา “เลือกตั้งประธานาธิบดีที่บ้านเกิดโลกของข้า เอ่อ ข้าหมายถึงเลือกหัวหน้าหมู่บ้านก็ทุกที่ไม่ว่าที่ไหนก็มีอำนาจทั้งนั้น”
โจ๋วเส้าหัว “ใช่! ราชวงศ์ก็มีหน้าที่ควบคุมแผ่นดินอำนาจ การมีอยู่ของสามตระกูลใหญ่ก็ส่งผลต่ออำนาจในการปกครองและฐานะของราชวงศ์เป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกัน สามตระกูลใหญ่ก็เพิ่มอำนาจให้กับราชวงศ์เช่นกัน ทำให้แผ่นดินอำนาจนั้นมั่นคงแข็งแกร่งมากขึ้น หลายร้อยปีมานี้ไม่ได้มีอะไรมายืนยันหลักการพวกนี้ ครึ่งหนึ่งของแผ่นดินอำนาจนี้ตกอยู่ในควบคุมของสามตระกูลใหญ่”
ซินเหยาพูดว่า “ได้ยินมาว่าร้อยกว่าปีก่อนหน้านี้สงครามระหว่างแคว้นนั้นมีมากมาย ใช่โจ๋วอี้เฉินที่นำทัพรวมดินแดนและจบสงครามระหว่างแคว้นหรือเปล่าคะ?”
โจ๋วเส้าหัวพยักหน้า “ใช่ การอุทิศของตระกูลโจ๋วไม่สามารถเพิกเฉยได้ ตระกูลป๋ายทางใต้ได้เฝ้าระวังชายแดนทางใต้มาหลายร้อยปี คอยรักษากำแพงแผ่นดินอำนาจราชสำนักทางตอนใต้ อุทิศให้มากมายเหลือเกิน”
ซินเหยาถาม “แล้วตระกูลถางเปิ่นละคะ?”
โจ๋วเส้าหัวตอบไปว่า “ตระกูลถางเปิ่นนั้นควบคุมดูแลการค้าราชสำนักทั้งหมด ได้ยินมาว่าตระกูลถางเป่นนั้นร่ำรวยกว่าราชสำนักเสียอีก ทุกครั้งที่มีการสู้รบหรือว่าทั้งแคว้นกำลังเผชิญภัยพิบัติ ตระกูลถางเปิ่นเป็นตระกูลที่ออกทุนให้มากเป็นอันดับหนึ่ง”
ซินเหยาพยักหน้า “เป็นเช่นนี้นี่เอง ทั้งสามตระกูลใหญ่ต่างก็มีข้อได้เปรียบ”
โจ๋วเส้าหัวพูดต่ออีกว่า “ที่เจ้าพูดนะถูกต้องที่สุด การเล่นหมากรุกทางอำนาจของทั้งสามตระกูล ต่างก็รบราชิงดีชิงเด่นกันเองภายใน ทว่าสุดท้ายก็ไม่มีใครแพ้ใคร”
ซินเหยาพยักหน้าอีกครั้ง “ข้าเข้าใจแล้ว ราชวงศ์ต้องการทั้งสามตระกูลใหญ่เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลแผ่นดินอำนาจ แต่ก็ต้องการให้ทั้งสามตระกูลควบคุมและรักษาสมดุลระหว่างกัน การแก่งแย่งกันเองภายในสามตระกูลทุกอย่างก็ถูกควบคุมด้วยราชวงศ์ ไม่มีทางที่จะให้ตระกูลใดเพียงตระกูลเดียวโดดเด่นขึ้นมา”
โจ๋วเส้าหัวพูดเสริม “นั่นแหละ ดังนั้นบางครั้งที่ต้องการให้ความสัมพันธ์ทางอำนาจนั้นมั่นคงแข็งแกร่ง ราชวงศ์และสามตระกูลจะสร้างความสัมพันธ์อันซับซ้อนผ่านการปรองดองกันด้วยวิธีแต่งงาน ตระกูลป๋ายและตระกูลถางเปิ่นสองปีก่อนได้ส่งลูกสาวไปเป็นนางสนมในวังเรียบร้อยแล้ว ส่วนตระกูลโจ๋วต้องการรออีกสองปีถึงได้ส่องพี่สี่ของเจ้าเข้าวังไป”
“พี่สี่? โจ๋วชิงหยีที่ไปวัดหนานซาน?”
“ที่จริงข้ามีความลับจะบอกเจ้า ชิงหยีไม่ได้ไปวัดหนานซานแต่ไป….”
“ไปไหนคะ?”
“ข้ามเรื่องนี้ไปก่อน อย่างไรก็ตามอีกไม่กี่เดือนเจ้าก็ต้องเข้าวังแล้วยังไงเจ้าก็ต้องไปที่นั่น ตอนนี้พวกเราควยจะปรึกษากันว่าจะขโมยกล่องเซิ้นออกมาได้อย่างไร”
“ลุงสาม ตกลงกล่องเซิ้นนี่มันสำคัญยังไงกันแน่คะ? ตามที่ท่านพูดมา มันไม่ใช่กล่องธรรมดาใช่ไหมคะ?”
“กล่องหรอ? ฮ่าฮ่า เด็กน้อย เจ้าช่างไร้เดียงสาเสียจริงกล่องนี้สำคัญกว่าชีวิตฮ่องเต้เสียอีก”
“จริงหรือ? ทำไมคะ?”
“กล่องนี้ ตามตำนานเล่าว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานให้”
“ศักดิ์สิทธ์? พระเจ้า?”
ซินเหยาแอบหัวเราะเบาๆ มีหลายเรื่องที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายแต่ผู้คนต่างพากันเชื่อมโยงว่าเกี่ยวกับพระเจ้าหรือผี
“ถ้าหากว่าบนโลกนี้มีพระเจ้าและผีสางมากมาย ถ้าอย่างนั้นโลกคงจะเบียดเสียดกันน่าดู”
โจ๋วเส้าฉีพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่พ “สาวน้อย เจ้าน่าจะรู้ เมื่อ130ปีก่อนมีอยู่คืนหนึ่ง กล่องเซิ้นนี้ตกลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับอสนีบาต ตั้งแต่วันนั้นราชวงศ์เทียนส้งบ้านเมืองสงบสุขและประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล อแม้กระทั่งสงครามระระหว่างแคว้นก็สิ้นสุดลง”
“ที่สงครามสิ้นสุดไม่ใช่ฝีมือของโจ๋วอี้เฉินหรือ? ทำไมถึงกลายเป็นเพราะกล่องเซิ้น?”
“โจ๋วอี้เฉินเพียงแค่นำทัพรวบรวมชายแดนสิบแคว้นเข้าด้วยกัน แต่ก็เกิดขึ้นหลังจากการมีของกล่องเซิ้น ดังนั้นพวกพ่อมดจึงทำได้แค่โป้ปดว่ากล่องเซิ้นนั้นคอยปกปักรักษาอยู่ ถึงทำให้โจ๋วอี้เฉินปราบศัตรูและนำความมั่นคงให้แก่แผ่นดินอำนาจ”
“มันช่างโง่เขลาไปเสียหน่อย”