ตอนที่ 54 ฮ่องเต้!ไม่เป็นอะไรใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ(1)
เรือยอชต์ของเธอก็ระเบิดอยู่กลางทะเลแต่กล่องสายลับของเธอไม่ได้เสียหายเพราะว่ามันถูกทำขึ้นจากวัสดุโลหะผสมไทเทเนียมที่ผ่านกระบวนการด้วยเทคโนโลยีพิเศษสามารถต้านทานไฟที่อุณหภูมิสูงและการระเบิดได้
ไม่ว่าจะอาวุธอะไร น้ำหรือไฟก็ตามนอกจากระเบิดนิวเคลียร์ ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะทำลายกล่องสายลับของเธอได้
ค้วยฮัวมี่ลู่ที่กล่าวถึงในจดหมายลับของโจ๋วอี้เฉินถูกเก็บซ่อนไว้ในกล่องสายลับของเธอ
น่าเสียดาย…
ตอนนี้กล่องสายลับคงจะถูกระเบิดและนอนจมอยู่ที่ทรายใต้ทะเลลึกสักแห่งไปแล้วแน่ๆ
ซินเหยารีบออกจากฉองเทียนโหลว ร้านอาหารที่โออ่าหรูหราที่สุดในเมืองหลวงตอนนี้ได้เสียหายอย่างหนักใกล้พังทลายจากการตอนสู้อันดุเดือดไปเสียแล้ว
ซินเหยาตั้งใจว่าจะกลับไปร้านพักป่ายเหอ ทว่าในหัวเธอกลับฉุกคิดขึ้นมาถึงคำพูดของนายท่านช่ายที่ว่ามียอดฝีมือลึกลับและน่ากลัวกำลังไปจวนอ๋องโจ๋วเพื่อแก้แค้น!
ตอนนี้นายท่านโจ๋วกำลังบาดจ็บสาหัส ถ้าหากศัตรูเข้าไปเพื่อแก้แค้นในเวลานี้ละก็….
ถึงแม้ว่าตระกูลโจ๋วนั้นจะมียอดฝีมืออันดับต้นๆอย่างโจ๋วหยุนถิง โจ๋วเส้ากวางและโจ๋วเส้าฉี และตระกูลโจ๋วก็มีคนจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะไม่มีนายท่านโจ๋วสุดยอดยอดฝีมืออันดับหนึ่ง เพียงแค่กลัวว่าเขาจะไม่กลัวใครหน้าไหนก็ตามที่ทรงพลัง แต่ว่าซินเหยานั้นไม่สามารถวางใจได้…
เกิดความลังเลขึ้นในใจ เธอตัดสินใจที่จะไม่กลับไปร้านพักป่ายเหอแต่มุ่งหน้าไปยังจวนอ๋องโจ๋วโดยไว
“ฮ่องเต้! ทรงไม่เป็นไรนะพ่ะย่ะค่ะ”
นายท่านโจ๋วลากฮ่องเต้อำมหิตออกไปไกลได้สิบลี้ จนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วถึงได้หยุด อ้าปากสูดลมหายใจและพ่นเลือดสีดำออกมา!
ฮ่องเต้อำมหิต “นายท่านโจ๋ว ท่านเป็นอะไรมากไหม!”
นายท่านโจ๋วใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ หายใจเข้าลึกพลางพูดว่า “กระหม่อมไม่ได้เป็นอะไรมากพ่ะย่ะค่ะ เพียงแค่กำลังภายในพลุ่งพล่าน การหมุนเวียนของเลือดได้รับบาดเจ็บจากแรงสั่นสะเทือน พักสักสองสามวันก็ดีขึ้น ฝ่าบาทไม่เป็นอะไร ข้าน้อยก็วางใจแล้ว!”
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าวว่า “ข้าซาบซึ้งในความจงรักภักดีที่ท่านมีข้าและประเทศชาติของท่านมาก นายท่านโจ๋วทำไมไม่กลับวังละข้าจะได้ให้หมอหลวงตรวจและรักษาให้ท่านอย่างสุดความสามารถ…”
นายท่านโจ๋วโบกมือปฏิเสธ “ขอบพระทัยความเมตตาที่ฝ่าบาทมีให้ต่อข้า ข้าบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ข้าเกรงว่าในเดือนนี้ข้าอาจจะใช้กำลังภายในไม่ได้”
ฮ่องเต้อำมหิตกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ดี”
นายท่านโจ๋วมองไปยังใบหน้าสงบนิ่งของฮ่องเต้อำมหิต คิดไปถึงตอนที่อยู่ฉองเทียนโหลวว ช่วงเวลาสำคัญที่ฮ่องเต้ส่งพลังแปลกๆรุนแรงมาให้เขา นายท่านโจ๋วผู้แตกฉานในศาสตร์ศิลปะการต่อสู้แน่นอนว่าเขารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ความเย็นชาในดวงตาของฮ่องเต้อำมหิต
“นายท่านโจ๋วทราบแล้วหรือ” ฮ่องเต้ช่างสังเกตเห็นได้อย่างว่องไวและเฉียบแหลม
“พ่ะย่ะค่ะ” นายท่านโจ๋วพยักหน้า
“ถ้าหากว่านายท่านโจ๋วต้องการที่จะพูดโน้มน้าวข้า ก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดมากหรอก!” เหมือนว่าฮ่องเต้คาดการณ์ได้ถึงสิ่งที่นายท่านโจ๋วอยากจะพูดออกมา
“ฮ่องเต้…”
“อ้ายชิง ท่านควรจะรู้ว่าข้าไม่อยากฟังหรือได้ยินอะไรทั้งนั้น”
“ถึงแม้ว่าฝ่าบาทไม่อยากฟัง แต่กระหม่อมจำเป็นต้องพูดมันออกมา ฝ่าบาท กังฟูที่พระองค์ฝึกฝนมา…
“โจ๋วอ้ายชิง!!” ฮ่องเต้อำมหิตตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
โจ๋วอ้ายชิงส่ายศีรษะอย่างเศร้าใจและพูดว่า “ถ้ามันทำให้ฮ่องเต้ทรงเศร้าใจ กระหม่อมก็จะไม่พูดอีก ถ้าหากว่าในภายภาคหน้าพระองค์มีปัญหาในการฝึกกังฟู ได้โปรดส่งคนมาแจ้งกระหม่อม เผื่อว่าบางทีกระหม่อมอาจจะช่วยพระองค์ได้อย่างเต็มที่”
ฮ่องเต้อำมหิตระงับความโกรธและพูดเบาๆออกไปว่า “ขอบใจในความเป็นห่วง นายท่านโจ๋ว”
นายท่านโจ๋วพูดว่า “กระหม่อมควรที่จะเป็นขอบเจ้าฮ่องเต้เสียมากกว่า คืนนี้ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะฝ่าบาทยื่นมือเข้ามาช่วย กระหม่อมคงต้องตายอยู่ที่แห่งนั้นไปเสียแล้ว”
ฮ่องเต้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ข้าช่วยอ้ายชิงไว้ก็เหมือนช่วยตัวข้าเองด้วย! พวกเรา ราชาและข้าราชบริพารร่วมมือกันถึงจะพอต่อสู้กับกุหลาบดำได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ถ้าหากต่อสู้เพียงคนเดียว พวกเราทั้งคู่ก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
“คนผู้นั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”
นายท่านโจ่วย้อนนึกไปถึงการต่อสู้ที่น่าระทึก หัวใจของเขาฉับพลันก็เร่าร้อนขึ้นมา!
ตอนนี้เขาก็อายุเจ็ดสิบแล้วอยู่ในจุดสูงและมั่นคงดั่งขุนเขามาก็หลายปี เป็นปรมาจารย์ไร้ใครมาเทียบเคียง คืนนี้ประสบกับยอดฝีมือที่แท้จริงก็ทำให้เขานั้นพ่ายแพ้ แต่นายท่านโจ๋วกลับไม่ได้รู้สึกอัปยศอดสูแม้แต่นิด กลับยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเลือดพลุ่งพล่านปลุกเร้าจิตวิญญาณในการต่อสู้ขึ้นมา
“คนผู้นั้นที่จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่ มาจากที่ใด ข้าและนายท่านโจ๋วร่วมมือกันยังไงก็สู้เขาไม่ได้เป็นแน่ ข้ารู้มาว่าในราชวงศ์เทียนส้งมียอดฝีมือน่ากลัวอยู่ แต่ไม่รู้มันจะดีหรือว่าจะร้าย…”
มุมปากของฮ่องเต้อำมหิตเม้มจนเป็นเส้นโค้ง
“ฮ่องเต้ ตอนนี้ก็ช้ามากแล้ว กระหม่อมจะพาฝ่าบาทกลับวัง”
“ไม่เป็นไร ที่นี่ห่างจากพระราชวังไม่ไกลนัก ข้าจะกลับเอง นายท่านโจ๋วบาดเจ็บรีบกลับไปพักจะดีกว่า พรุ่งนี้ข้าจะส่งหมอหลวงไปยังจวนอ๋องโจ๋วรักษานายท่านโจ๋ว” คำพูดของฮ่องเต้อำมหิตไม่ใช่คำขอร้องแต่เป็นคำสั่ง
ในความเย็นชาก็แซงไปด้วยความได้เปรียบ ไม่อาจขัดขืนความเด็ดขาดที่แผ่ออกมาได้
ฮ่องเต้อำมหิตนั้นเหมือนกับกษัตริย์ที่อยู่ท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิดก็ไม่ปาน ฉับพลันเงากายก็หายไปในความมืดมิดทันที
นายท่านโจ๋วไปได้คุ้มกันไปส่งเขารู้ถึงทักษะการต่อสู้ของฮ่องเต้อำมหิต แม้ว่าในโลกนี้จะไม่ใช่ผู้ที่เก่งกล้าขนาดนั้นแต่ก็ไม่มีใครที่จะมีโอกาสสามารถเข้ามาทำร้ายเขาได้