บทที่ 242 ท่านคือคุณชายรูปวิการ1
ซินเหยาจะปล่อยให้เขาหลบหนีแบบลอยนวลเยี่ยงนี้ได้ที่ใดกัน
วาดฝ่ามือเดียวเอื้อมออกไปปล่อยพลังไฟฟ้าสถิตใส่กล่องพัสดุสี่เหลี่ยมที่ถางเปิ่นขุยสะพายใส่หลังกล่องนั้น…
“หงจู๋! ดักทางหลังของเขาเอาไว้!”
ฮัวโหล่หยูนคำรามเสียงดัง ส่วนตนเองได้ลอยโฉบขึ้นไปรับศึกประจันหน้ากับซินเหยาเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อหงจู๋ได้ยินน้ำคำของฮัวโหล่หยูน ก็กลายร่างเป็นดวงไฟสีแดงลูกหนึ่งและโจมตีด้านหลังของซินเหยา!
ซัดกันนัวเนีย!
ซินเหยาจำต้องเลิกไล่ล่าถางเปิ่นขุยชั่วคราวอย่างเสียมิได้ ดึงสติกลับมา ฝ่ามือสองข้างแยกออก ซัดโจมตีใส่ฮัวโหล่หยูนและหงจู๋สองคนทั้งหน้าและหลังในฝ่ามือเดียว
ซินเหยาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา…
แต่มิอาจปล่อยให้คนชั่วแอบหนีไปอย่างลอยนวลได้!
ดังนั้นฝ่ามือนี้ นางแทบจะใช้กำลังภายในไปหกถึงเจ็ดส่วนเลยทีเดียว
ยามที่นางสู้ศึกใหญ่กับนายใหญ่โจว๋ ก็ใช้กำลังภายในไปเพียงแปดส่วนเท่านั้นโดยที่ไม่พ่ายแพ้ได้
กำลังภายในหกถึงเจ็ดส่วนนี้ เป็นถึงหนึ่งฝ่ามือที่ดุเดือดอย่างมากเชียวนะ!
เดิมนางคิดว่าฝ่ามือนี้จะต้องสั่นคลอนคนทั้งสองจนสูญเสียความต้านทานในการตะลุมบอนไปเป็นแน่แท้…
ทว่า ครั้นฝ่ามือนี้โถมซัดออกไป ทั้งฮัวโหล่หยูนและหงจู๋ต่างต่อต้านซึ่งๆ หน้า ซ้ำใบหน้ายังไม่เปลี่ยนสีอีกด้วย
ซินเหยาตกตะลึง!
วรยุทธ์ของทั้งสองคนนี้สูงถึงขนาดนี้เชียวหรอกหรือ
ฮัวโหล่หยูนและหงจู๋อาจกลัวว่าซินเหยาจะรังควานถางเปิ่นขุย ทั้งสองล้วนตั้งรับพลังฝ่ามือของซินเหยาซึ่งๆ หน้า ไม่ปล่อยให้นางประวิงเวลาหาโอกาส ทั้งคู่ต่างโจมตีอย่างดุดันขึ้น…
ท่วงท่ารุกล้ำของฮัวโหล่หยูนสง่างาม
วิถีกายของหงจู๋น่าอัศจรรย์
ทั้งคู่ดักอยู่หน้าหลัง และตะลุมบอนซินเหยาอย่างเอาตาย!
ถางเปิ่นขุยฉวยโอกาสจากช่องโหว่นี้นำพาทหารมรณะชุดดำสองนายหลบหนีออกจากร้านจี้โม่ไปตั้งนานแล้ว
ซินเหยาคร้านจะไล่ตามโดยปริยายแล้ว ปลดปล่อยสภาพจิตใจอันตึงเครียด เอ่ยกล่าวพลางยิ้มบาง “ไม่ง่ายเลยที่จะเจอคู่ต่อสู้ที่ดีสักสองสามคน ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสี่คนเก่งกาจเยี่ยงนี้ ข้าจะสั่งสอนนักบอดี้การ์ดทั้งสี่ที่ตำนานเล่าขายว่าแต่ไหนแต่ไรไม่เคยพ่ายศึกเลยดูสักตั้ง!”
ทันใดนั้น…
ถางเปิ่นขุยก็ถอยกลับมาอีกครั้ง
สภาพร่างกายซวนเซเหลือแสน
วินาทีที่เขาถอยกลับมานั้น ศพของทหารมรณะสองนายที่เดิมทีอยู่เบื้องหลังถูกคนโยนเข้ามา…
“มาเป็นแขกในร้านจี้โม่ของข้า ไฉนเลยมิให้ตัวข้าได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างดีที่สุดเสียก่อน?”
น้ำเสียงที่อิสระเสรัและพลิ้วไหวดังลอยอ้อยอิ่งเข้ามาจากด้านนอก…
นั่นก็คือโอหยางซิงเฉิน!
โอหยางซิงเฉินมองเห็นซินเหยากับฮัวโหล่หยูนและหงจู๋กำลังต่อสู่กันอย่างเมามัน จึงกล่าวเสียงดัง “พี่น้องอัปลักษณ์ โอ้ ไม่สิ พี่น้องหยาว พลธนูทั้งหมดที่อยู่ด้านนอกถูกข้าน้อยกวาดล้างไปจนเกลี้ยงแล้ว ท่านดวลศึกอย่างจดจ่อเถิด สำหรับภาระอันหนักอึ้งอย่างการรักษาประตูก็ทิ้งให้ข้าน้อยจัดการ ข้าน้อยรับรอง จะไม่มีใครสามารถหลบหนีไปได้แม้แต่คนเดียว!”
ไอ้หนุ่มคนนี้!
ถึงขนาดเรียกว่าพี่น้องอัปลักษณ์?
นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการหลอกด่าทางอ้อมหรอกหรือ?
ซินเหยาหัวเราะเบาๆ ก่อนเอ่ยตอบ “เช่นนั้นท่านก็เฝ้าประตูเถิด ร้านจี้โม่อันโอฬารแห่งนี้ของท่านเกือบถูกคนทำพังยับเยินอยู่แล้ว ถ้าหากแม้แต่ประตูยังรักษาไว้ไม่ได้ เจ้าของร้านอย่างท่านก็กลับบ้านไปทำไร่นามือเปล่าแล้ว!”
โต้กลับอย่างสวยงาม!
โอหยางซิงเฉินยิ้มเหยเก
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของคุณชายรูปวิลาศหล่อเหลาที่ดูอิสรเสรีอย่างถึงที่สุด ทันใดนั้นกิริยาท่าทางของถางเปิ่นขุยก็ดูสง่างามและถ่อมตน พลางกล่าวเสียงขรึม “เจ้าเป็นผู้ใดกัน”
โอหยางซิงเฉินเอ่ย “เจ้าของร้านจี้โม่!”
ถางเปิ่นขุยกล่าวอย่างหวาดเกรง “อะไรนะ? เจ้า…เจ้าคือคุณชายรูปวิการ?”
“ใช่แล้ว!”
“เช่นนั้นคุณชายรูปวิการเมื่อครู่คนนั้นคือใครกันเล่า?”
คุณชายรูปวิการตัวปลอมที่แขนด้วนไปข้างหนึงเห็นเจ้านายตัวจริงมาถึง ก็เอ่ยเสียงสนั่น “ข้าชื่อเล๋ยหู่! เป็นเพียงแต่ผู้ติดตามของเจ้านายเท่านั้น แหกตาสุนัขของเจ้าดูให้ชัด นี่ก็คือเจ้าของร้านจี้โม่ตัวจริง! เจ้ามีชีวิตระส่ำระส่ายแล้ว กล้ามาหาเรื่องถึงร้านจี้โม่เชียว! เฮอะ!”
เขาแขนขาดไปหนึ่งข้าง แต่กลับยังคงองอาจและยิ่งใหญ่!
โอหยางซิงเฉินกล่าว “เล๋ยหู่ เถ้าแก่จิน พวกเจ้าสองคนรีบไปรักษาคนเจ็บเร็วเข้า”
“ขอรับ! เจ้านาย!”
ถึงแม้เล๋ยหู่และเถ้าแก่จินจะได้รับพิษและบาดเจ็บ แต่ว่ากลับไม่ถึงขึ้นเป็นอันตรายแก่ชีวิต การมาถึงของเจ้านายในคราวนี้ทำให้พวกเขาเปี่ยมด้วยความหวังในบัดดล!
พวกเรารู้ดี…
ขอเพียงเจ้านายอยู่ที่นี่!
ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับปรมาจารย์มา ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย!
ทั่วใต้หล้ามีเพียงพวกเขาสองคนที่รู้ คุณชายรูปวิการตัวจริงนั้นน่ากลัวมากเพียงใด!
และมีเพียงพวกเขาสองคนที่รู้ ว่าทำไมคุณชายรูปวิการถูกเรียกว่าคุณชายรูปวิการ!
ครั้นเหล่าคนชั่วช้ากระทำผิดเหล่านี้รู้ถึงที่มาของชื่อคุณชายรูปวิการ พวกเขาจะต้องนึกเสียใจภายหลังเป็นอย่างมากแน่นอน ที่ทำเรื่องผิดพลาดที่สุดในชีวิต!
ชั้นบนมีผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงลึกลับขัดขวางแม่ทัพใหญ่หลี่จางสองท่าน ชั้นล่างก็มีชายผอมน่าเกลียดลึกลับปะมือกับนักบอดี้การ์ด ตอนนี้ยังมีคุณชายรูปงามที่เป็นคุณชายรูปวิการตัวจริงโผล่มาอีกหนึ่ง สถานการณ์คับขัน ถางเปิ่นขุยเสมือนว่าตกสู่สถานภาพที่มีศัตรูรายล้อมไปหมดเป็นที่เรียบร้อย…
และดูเหมือนว่าผู้มีฝีมือขั้นสูงชั้นบนนั้นยากจะรับมืออย่างถึงที่สุด มีศพของทหารมรณะชุดดำถูกโยนลงมาไม่ขาดสาย…
ยามนนี้ ถางเปิ่นขุยทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับนักบอดี้การ์ดทั้งสี่แล้ว!
ตำนานกล่าวว่านักบอดี้การ์ดทั้งสี่ไม่เคยพ่ายศึกเลยสักครั้ง!
ถางเปิ่นขุยย่อมรู้ดีว่าวรยุทธ์ของนักบอดี้การ์ดทั้งสี่นั้นน่ากลัวมากเพียงใด เขาถึงได้แอบติดสินบนนักบอดี้การ์ดทั้งสี่อย่างบากบั่นในคราแรก!