บทที่ 446 จะต้องมีความลับอะไรแน่ๆ1
ซินเหยาตะลึงงัน แล้วถามว่า “เจ้าจะไม่เสียใจภายหลังใช่ไหมที่ช่วยข้า? เจ้าก็รู้ดีนี่ว่าข้าหลอกเจ้า!”
ฮ่องเต้อำมหิตพูดคำต่อคำว่า “ถ้าให้เลือกระหว่างถูกเจ้าหลอกกับให้เจ้าตาย ข้ายอมให้เจ้าหลอกดีกว่า!”
“เจ้า…”
หางตาของซินเหยา ก็เริ่มเลือนอีกครั้งแล้ว…
“ตกลงว่าเจ้าเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่?”
“ทำไมเจ้าถึงอยากจะทำร้ายข้า?”
“แล้วทำไมเจ้าถึงอยากจะดีกับข้าอีก?”
ซินเหยาร้องไห้สะอึกสะอื้นขึ้นมา
“ทำไมทุกครั้งที่ข้ารู้สึกสิ้นหวังจนจะหักใจจากเจ้าในที่สุด เจ้ามักจะต้องทำเรื่องที่ทำให้คนรำคาญใจอย่างนี้ตลอดเลยล่ะ?”ทันใดนั้นเสียงของฮ่องเต้อำมหิตก็เปลี่ยนเป็นเสียงที่อ่อนโยนขึ้นมาว่า “น้องหญิง อย่าร้องไห้เลยนะ เจ้าอยู่ที่นี่แหล่ะ อย่าออกไปเลย ผ่านพ้นคืนนี้ไปได้แล้ว ไม่ว่าเจ้าอยากจะไปที่ไหน อยากทำอะไร ข้าก็จะไม่ห้ามเจ้าทั้งนั้น! ข้าเป็นฮ่องเต้ผู้ปกครองแผ่นดิน ฮ่องเต้ตรัสแล้วไม่สามารถคิดเสียใจในภายหลังได้หรอกนะ!”
“ทำไมคืนนี้เจ้าถึงไม่ให้ข้าออกไปล่ะ?”
ซินเหยารู้สึกว่าภายในใจของฮ่องเต้อำมหิตจะต้องมีความลับอะไรอยู่แน่ๆ!
“ถึงอย่างไรก็ตาม…เจ้าอย่าออกไปก็พอแล้ว นี่ก็เพื่อความปลอดภัยของเจ้านะ”
“ถ้าหากเจ้าไม่พูด เช่นนั้นข้าจะไปแล้วนะ!”
“อย่านะ!”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็พูดความจริงมาสิ!”
ซินเหยาเกือบใช้น้ำเสียงที่ข่มขู่คุกคามออกมา
ตอนนี้ฮ่องเต้ถูกสกัดจุดจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
สิทธิอำนาจในการเป็นฝ่ายกระทำจึงตกไปอยู่ในมือของนาง
แน่นอนว่าจะต้องขึ้นอยู่นาง!
ฮ่องเต้อำมหิตลังเลสักพัก แล้วจึงพูดว่า “ได้! ข้าจะบอกเจ้า! เจ้ารู้ไหมว่าทำไมเมื่อสักครู่นี้ข้าถึงได้ธาตุไฟเข้าแทรก?”
“ไม่รู้”
ซินเหยาส่ายศีรษะไปมา
ฮ่องเต้อำมหิตพูดว่า “ฉันกำลังฝึกโหมกงพิเศษประเภทหนึ่งอยู่น่ะ ความจริงแล้วเมื่อสักครู่นี้มันดูเหมือนกับธาตุไฟเข้าแทรกก็จริง แต่กลับไม่ใช่ธาตุไฟเข้าแทรกที่สมบูรณ์ แต่เป็นเพราะว่าคืนนี้มี…ปาฏิหาริย์ที่พิเศษบางอย่างเกิดขึ้น ปราณปีศาจที่อยู่ในร่างกายของข้าได้รับปราณอันชั่วร้ายที่รุกล้ำเข้ามาในร่างกาย ทำให้เกิดความชั่วร้ายที่สะสมอยู่ภายในร่างกาย นี่จึงทำให้สูญเสียความเป็นมนุษย์ไป และทำให้นิสัยเลือดเย็นโหดร้ายที่อยู่ภายในจิตใจขยายใหญ่ขึ้น ข้าก็เลยสามารถทำเรื่องที่ปกติไม่กล้าทำเหล่านั้นออกมาได้”
“คำอธิบายนี้ก็นับว่าสมเหตุสมผลอยู่นะ แต่ ปาฏิหาริย์ที่เจ้าพูดถึง…คืออะไรหรอ? มันเกี่ยวอะไรกับข้าหรือ?”
ซินเหยากำลังวิเคราะห์อย่างจริงจังมาก
ฮ่องเต้อำมหิตมีความลังเลใจอยู่เล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็พูดออกมาว่า “พอดีว่าคืนนี้…เป็นคืนที่สี่ดวงดาวบีบบังคับให้ข้าสละราชบัลลังก์ จึงทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น”
“สี่ดวงดาวบีบบังคับให้สละราชบัลลังก์คืออะไรเหรอ?”
“ผ่านยามจื่อไปเจ้าก็จะรู้เองนั่นแหล่ะ! สรุปก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ห้องลับนี้เป็นห้องที่สร้างอยู่ใต้ห้องหนังสือหลวง ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ และปลอดภัยมาก รอจนฟ้าสว่างแล้ว เจ้าก็จะสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย”
“ที่แท้ ช่องลับที่ข้าพบในห้องหนังสือหลวงเมื่อวาน ก็คือที่เปิดปิดที่นำไปสู่ห้องลับห้องนี้นี่เองใช่หรือไม่?”
ซินเหยานึกขึ้นมาได้ ว่าเมื่อวานตอนที่นางเข้าไปในห้องหนังสือหลวงนางได้พบกับช่องลับแปลกๆช่องหนี่งที่อยู่บนชั้นวางหนังสือ
“ถูกต้อง!”
ฮ่องเต้อำมหิตพยักหน้า และยอมรับอย่างนิ่งเฉย
ซินเหยาพูดว่า “ที่นี่คือที่ที่เจ้ามักจะมาฝึกวรยุทธ์เป็นประจำหรอ?”
ฮ่องเต้อำมหิตพยักหน้า แล้วสักพักก็พูดขึ้นมาว่า “ใกล้จะถึงยามจื่อแล้ว เจ้า…อย่าร้อนใจไป อยู่ที่นี่อีกสักพักนึงเถอะนะ!”
เอ๊ะ? ยามจื่องั้นเหรอ?
แย่แล้ว!
แล้วเสี่ยวป๋านล่ะ?
ซินเหยาตกใจมาก!
จะออกไปจากวังตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว!
ไม่มีวิธีที่จะพาเสี่ยวป๋านไปด้วยกันแล้ว!
ไอ้คนระยำคนนี้!
“ไอ้คนชั่วช้า! ข้าจะเกลียดเจ้าไปตลอดชีวิต!”
ซินเหยาไม่มีกะจิตกะใจไปถามเรื่องปาฏิหาริย์อะไรกับฮ่องเต้อำมหิตให้มากความอีกต่อไป นางรีบวิ่งออกไปอย่างใจร้อน
ฮ่องเต้อำมหิตจึงตะโกนอยู่ข้างหลังว่า “ยัยบ้า! รีบกลับมา! รีบกลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”
เขาออกแรงตะโกนไปพลาง พร้อมทั้งใช้กำลังภายในทะลวงจุดที่สกัดเอาไว้อย่างรีบร้อนมาก
ซินเหยาสูญเสียกำลังภายในไปแล้ว พลังในการจี้จุดจึงมีไม่มากนัก
เพียงแค่พยายามเคลื่อนย้ายลมปราณอย่างจริงจัง ใช้เวลาไม่นานมาก ก็สามารถทะลวงจุดที่สกัดเอาไว้ได้แล้ว!
ซินเหยาวิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วเหมือนกับกระต่าย ก่อนไป นางได้หยุดฝีเท้า หันมาประจันหน้ากับฮ่องเต้อำมหิตที่กำลังเร่งรีบอยู่ แล้วพูดคำพูดที่ไม่แยแสและจริงจังมากขึ้นมาหนึ่งประโยคว่า “ถ้าหาก…ข้ากลับไป ข้าจะเกลียดเจ้าไปจนวันตายอย่างแน่นอน!”
พูดจบ
นางก็หันหลังกลับแล้วกระโดดออกไปโดยไม่ลังเลอีกต่อไป
“ยัยบ้าเจ้าพูดอะไรของเจ้าน่ะ? ทำไมเจ้าถึงพูดเหมือนว่าจะจากไปตลอดกาลอย่างนั้นล่ะ?”
ในใจของฮ่องเต้อำมหิตรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
แต่ทว่า
ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาตื่นตะลึงอะไรแล้ว
เขารู้ว่า คืนนี้เป็นคืนมหัศจรรย์ที่สำคัญที่สุดที่ก่วยกุเซียนอาจารย์ของเขารอมาร้อยกว่าปีแล้ว…
คืนนี้…
ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้
และทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!
แม้กระทั่งฮ่องเต้อำมหิตเองก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง!
เขารู้แค่เพียงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ จะต้องน่ากลัวมากๆอย่างแน่นอน!
ในตอนนั้นก่วยกุเซียนได้บอกกับฮ่องเต้อำมหิตว่า
ผลลัพธ์สุดท้ายที่เลวร้ายที่สุดในคืนนี้
สามารถใช้คำอธิบายได้โดยง่ายว่า
ประชาชนจะเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า!
ถึงแม้ว่าก่วยกุเซียนจะบอกแค่เพียงว่านี่อาจจะเป็นผลลัพธ์ที่ร้ายแรงที่สุด…
แต่…
ฮ่องเต้อำมหิตจะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงที่โง่เขลาคนนี้ซึ่งไม่รู้สถานการณ์ภายในออกไปเที่ยวเตร่ได้อย่างเด็ดขาด
การซ่อนตัวอยู่ในห้องลับ แน่นอนว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
ดังนั้น
เขาไม่มีทางปล่อยให้ยัยบ้านั่นออกไปข้างนอกคนเดียวในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดอย่างเด็ดขาด
เขาจึงจำเป็นต้องทะลวงจุดที่สกัดเอาไว้ให้ได้ในทันที แล้วออกไปนำตัวนางกลับมา!
ซินเหยาออกไปไกลแล้ว
ฮ่องเต้อำมหิตก็ไม่พูดอะไรอีก
ทำได้แค่ขมวดคิ้วแน่น แสดงสีหน้าที่จริงจังและเมินเฉย แล้วพยายามออกแรงทะลวงจุดที่ถูกสกัดไว้…
ซินเหยาวิ่งไปพลาง ในปากก็พูดแช่งชักหักกระดูกไปพลางว่า
“ไอ้คนสาระเลวคนนี้นี่!”
“ฮ่องเต้อำมหิต!”
“ฮ่องเต้ไม่เอาไหน!”
“ไม่สิ!”
“ต้องเรียกว่าฮ่องเต้บ้ากามสิถึงจะถูก!”
“ทำให้ข้าทำการใหญ่และทะลุมิติล่าช้าไปอีก”
“เสี่ยวป๋านของข้า