ตอนที่ 528 นี่คืองานของเจ้า
ฮูหยินรองที่อยู่ตรงหน้าเหมือนจะเห็นไม่ค่อยชัดแล้ว
“ฮ่าๆนี่คือผลของการเลือกของเจ้า” ฮูหยินรองพูดขึ้นพร้อมกับจะแทงเข้าไปอีกหนึ่งครั้ง
“พ่า” มีอะไรที่บินมาตีที่มือของฮูหยินรอง ทำให้นางรีบมองดูรอบๆพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ใครแน่จริงก็ออกมาสิ”
เสี่ยวชุ่ยกลัวจนนั่งอยู่ที่นั่นพูดพึมพำ ส่วนความรับรู้ของซินเหยานั้นยิ่งเลือนรางเข้าไปอีก
ในความเลือนรางนางเห็นเงาคนคนหนึ่งเข้ามาล้อมรอบแล้วอุ้มนางเข้าไปไว้ในอ้อมกอดหลังจากนั้นนางก็ไม่ได้สติอีกเลย
“ฮื่มใครกันแต่โดนยาพิษของข้าเข้าไปแล้ว ไม่มีทางรอดแน่” ฮูหยินรองยิ้มอย่างบ้าคลั่งแล้วหันมามองเสี่ยวชุ่ย อย่างไม่ไยดี
“ซินเหยาข้าไม่มีทางเลือกจริงๆเจ้าอย่าเป็นอะไรเลยนะ” เสี่ยวชุ่ยมองดูงูที่ถูกตัดจนขาดนั่นพร้อมกับน้ำตาไหลพลั่งพลูออกมา
นางไม่ใช่คนโง่ สุดท้ายซินเหยาก็ยังช่วยชีวิตนางเอาไว้ งูพิษนั่นถ้าหากนางถูกกัดเข้าทั้งนางและลูกในท้องก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอด
ถึงแม้ซินเหยาจะพูดว่าทั้งสองนั้นขาดกัน แต่ก็ยังไม่อยากให้ตนนั้นได้รับบาดเจ็บ
“เป็นอย่างไรบ้าง พิษนี่” หญิงสาวทั้งสองกำลังยุ่งกับการทำแผลและใส่ยาให้ซินเหยาในขณะที่นางยังคงสลบอยู่ แล้วจับชีพจร เลือดนั่นกว่าจะหยุดได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หญิงสาวคนหนึ่งที่ดูจะมีประสบการณ์มากกว่าขมวดคิ้วขึ้นแล้วหันมาคุยกับอีกคนว่า “ปัญหานี้เกรงว่าคงจะต้องรายงานให้นายท่านทราบเสียแล้ว ไม่เช่นนั้นหญิงสาวคนนี้เกรงว่าจะ………”
“นี่มันงานของข้ายังไม่เสร็จสิ้นดีนะ” คนใบ้มองหญิงสาวที่แก่กว่าด้วยสายตาที่เป็นห่วงแล้วสายตาก็หันไปมองซินเหยาที่นอนอยู่บนเตียง
“นี่ก็คืองานของเจ้า” หญิงสาวที่ดูแก่กว่าคนนั้นมองไปที่คนที่นอนอยู่บนเตียง แล้วหันมามองคนใบ้ “เรื่องนี้ข้าจะไปรายงานนายท่านก่อน ยานี้จะทำให้ไม่เป็นอะไรได้ชั่วคราว รอข้ากลับมา”
“พ่า”หญิงสาวคนนั้นพูดไปพลางยื่นขวดยาให้กับคนใบ้ คนใบ้ยื่นมือเข้าไปรับแล้วเอาไว้ในอกเสื้อย่างระวัง
หญิงสาวคนนั้นเห็นคนใบ้ไปนั่งข้างๆซินเหยานางเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วจากไป
คนใบ้มองดูใบหน้าที่ขาวซีดของซินเหยา แต่ก็ไม่อาจปกปิดใบหน้าที่สวยงามราวกับดอกบัวนั่นได้ แล้วก็ถอนหายใจ “เจ้า ตอนฉลาดก็ฉลาดจริงๆตอนจะโง่ก็โง่จริงๆ เจ้าดีกับเสี่ยวชุ่ยขนาดนั้น จนข้าเองก็ไม่รู้จะพูดยังไงเจ้า ก็เจ้ามีนิสัยแบบนี้ถึงทำให้นายท่านคอยคิดถึงเป็นห่วงอยู่” คนใบ้มองออกไปทางเหนือที่อยู่ไกลแสนไกล คิดอะไรอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน
“น้ำน้ำ” เสียงที่แหบแห้งเบาแต่กลับหนักแน่น ทำให้คนใบ้หันกลับมามอง
มองดูซินเหยาที่ปากแห้งแล้วก็เสียงที่แหบนั่นอีก คนใบ้รีบไปหยิบน้ำมาแล้วค่อยๆให้นางดื่ม
คนใบ้มองดูมือของซินเหยาที่อยู่นอกผ้าห่มนั่น สงสารจับใจจนเอาเข้าไปไว้ในผ้าห่มแต่กลับเห็นนางกำมือแน่นราวกับว่าในกำมือนั้นมีอะไรอยู่
คนใบ้อยากจะเอามือของซินเหยาเข้าไปไว้ใต้ผ้าห่ม แต่กลับพบว่าซินเหยาพลักมือออก คนใบ้สงสัยมากว่าของอะไรกันสำคัญกับนางมากเลยหรือ ถึงได้ไม่ยอมให้ตนเข้าไปแตะมือนั่นเลย
ในความงัวเงียซินเหยาเห็นของแปลกประหลาดนั่น แล้วก็ผู้ชายที่อยู่ข้างสองคนนั้นอีก พวกเขาเรียกชื่อนางพร้อมกันยื่นมือมาอยากให้นางเข้าไปจับ
แต่ก็ยังคงเลือนรางซินเหยามองเห็นได้ไม่ชัดว่านั่นมันคือใครกันแน่นอกจากรูปร่างแล้วก็มีแค่ท่าทางที่ดูสง่างาม แต่มองยังไงก็มองเห็นได้ไม่ชัด
“แม่นางซินเหยา แม่นางซินเหยา” ในความสะลึมสะลือ เสียงเรียกนี้เรียนนางไม่หยุด เสียงนั่นไม่คุ้นเลยแต่กลับเหมือนกับแสงแห่งความช่วยเหลือทำให้นางเดินไปตามเสียงเรียกนั่นแล้วค่อยๆเห็นแสงสว่าง
แสงที่สว่างจ้าทำให้นางแสบตา นางอยากจะลืมตาขึ้นแต่กลับแสบตาลืมไม่ขึ้น
กะพริบตาไปมาในที่สุดก็เห็นเงาคนชัดเจนแล้ว
“คนใบ้เป็นเจ้า เคะเคะ” ซินเหยาตื่นเต้นนิดหน่อย คนนี้คือคนที่นางเป็นห่วงมาตลอด ตอนนี้มาอยู่ต่อหน้านางอย่างนี้จะไม่ให้นางดีใจได้อย่างไร
คนใบ้พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แล้วยังยิ้มให้นางอีก พร้อมกับลูบหลังให้นางเบาๆอย่างระมัดระวัง
ซินเหยาถึงได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ท้องของตนเองนางกัดฟันแล้วนั่งลง
“ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่” ซินเหยาถามคนใบ้ด้วยความสงสัย นางจับต้นชนปลายไม่ถูกไปชั่วขณะ สายตามองไปที่บาดแผลของคนใบ้ที่เคยได้รับบาดเจ็บ
คนใบ้มองตามสายตาของซินเหยาที่กำลังดูตน ก็เข้าใจความสงสัยของซินเหยาทันที แล้วทำมือว่าตัวเองไม่เป็นไรแล้ว
ซินเหยามองดูคนใบ้ที่ไม่สามารถอธิบายความหมายให้นางได้ นางเองก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้คนใบ้เอายามาวางไว้ตรงหน้าซินเหยาหนึ่งเม็ด ซินเหยารับไปแล้วกินทันที พอกินเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ข้างในทำให้นางรู้สึกดีขึ้น
หลังจากที่กินยานั่นไปแล้วคนใบ้ให้ซินเหยาพักผ่อนเยอะๆ ถึงแม้ซินเหยาจะรู้สึกกังวลกลัวว่าฮูหยินใหญ่จะตามหานางไม่เจอ แต่นางก็รู้ดีว่าจะให้รีบไปก็คงรีบไปไม่ได้ จึงได้นอนลงพักผ่อน
เวลานี้ในจวนเว่ยจุดโคมไฟสว่างทั่วจวน มีคนไม่น้อยเลยที่คิดว่านี่คือการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
“ยังหาไม่เจออีกหรือ” ฮูหยินใหญ่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่สายตาจดจ้องไปที่ทุกคนพร้อมกับถามเวรยาม
“เรียนนายหญิงหาจนทั่วแล้วแต่ยังไม่เจอแม่นางซินเหยาเลย” หนึ่งในทหารเวรยามตอบ
“เพี๊ยะ” ฮูหยินใหญ่ตบโต๊ะด้วยความโมโหโกรธ “พวกเจ้าเฝ้าเวรยามกันยังไงจวนเว่ยใหญ่ขนาดนี้กลับปล่อยให้มีคนเข้ามาได้ พวกเจ้ายังไม่รีบไปหาต่ออีก”
ทหารเฝ้าเวรยามได้ฟังฮูหยินใหญ่พูดเช่นนั้นก็รีบออกไปตามหาต่อ กลัวว่าฮูหยินใหญ่จะไม่พอใจแล้วเอาชีวิตพวกเขา
พวกเขารีบออกไปราวกับกำลังหนีรอดเอาชีวิต ฮูหยินใหญ่มองไปทางฮูหยินรอง พร้อมกับพูดว่า “ฮูหยินรองเจ้าแน่ใจนะว่าซินเหยาถูกคนชุดดำจับตัวไป” ฮูหยินใหญ่ทำหน้าไม่เชื่อ ถึงแม้น้ำเสียงจะฟังดูอบอุ่น แต่ความหมายในคำพูดนั้นแสดงออกมาชัดเจน
ทำให้ทุกคนสะดุ้งไปตามๆกัน ซินเหยามีความสำคัญกับฮูหยินใหญ่มาก
ฮูหยินรองโกรธอยู่ในใจนี่เท่ากับว่าฮูหยินใหญ่ไม่เชื่อคำพูดของตนเอง และซินเหยาเองก็เป็นเพียงแค่สาวใช้คนหนึ่ง ทำแบบนี้เท่ากับไม่ไว้หน้านาง แต่นางก็รู้สึกดีใจเพราะได้จัดการกับก้อนหินที่ขวางทางนาง
“พี่หญิงคะ ถ้าพี่ไม่เชื่อถามเสี่ยวชุ่ยด้วยก็ได้ตอนนั้นเสี่ยวชุ่ยเองก็อยู่ในเหตุการณ์ อาจจะเพราะซินเหยามีรูปร่างที่สวยงามถึงได้มีคนมาลักพาตัวนางไป” ฮูหยินรองมองไปที่เสี่ยวชุ่ย
เสี่ยวชุ่ยรีบเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าฮูหยินใหญ่ พูดขึ้นทั้งที่ตัวสั่นว่า “ข้าเห็น แต่ว่าคนคนนั้นเร็วเกินไปทำให้ข้าเห็นไม่ชัด ดูอีกทีก็ไม่เห็นซินเหยาแล้ว”
ฮูหยินใหญ่ได้ฟังเสี่ยวชุ่ยพูดเช่นนี้ก็มองไปที่ฮูหยินรอง รู้ว่าถามไปก็ไม่ได้อะไร ดูท่าคงจะต้องตามหากันเอาเองเสียแล้ว เพราะไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว
“งั้นพวกเจ้าก็ออกไปเถอะ เรื่องนี้จะปล่อยให้ผ่านเลยไปไม่ได้เด็ดขาด นี่จะทำให้จวนเว่ยเสียชื่อเสียง ห้ามพูดออกไปว่าการรักษาเวรยามของจวนเว่ยทละหลวมเช่นนี้ พวกคนชั่วคิดอยากจะมาก็มาอยากจะไปก็ไปมิหน้ำซ้ำยังลักพาตัวคนในจวนเว่ยไปอีก” ฮูหยินใหญ่สั่ง
ทุกคนน้อมรับคำสั่งจากนั้นก็ถอยออกไป
ฮูหยินใหญ่เห็นว่าในห้องโถงว่างเปล่าไม่มีคนแล้ว นางไม่รู้จะทำอย่างไร รู้สึกเหนื่อยไปหมดทั้งตัว จึงได้กลับเข้าไปในห้อง แล้วโบกมือไปมา ทันใดนั้นก็มีคนชุดดำคนหนึ่งโผล่มาที่ห้องของเขา
“เฝ้าดูความเคลื่อนไหวของฮูหยินรองให้ข้าหน่อย ดูท่าแล้วเรื่องนี้คงไม่ง่ายแบบนี้หรอก”
คนชุดดำรับคำสั่งของฮูหยินใหญ่แล้วหายตัวไปทันที ราวกับว่าในห้องนี้ไม่มีมีคนเข้ามาเลย
“เสี่ยวชุ่ยเมื่อกี้เจ้าทำได้ดีมาก ดูท่าคุณชายหมิงเช่อเลือกคนไม่ผิดจริงๆ” พอกลับมาถึงเรือนของตนเอง สีหน้าของฮูหยินรองก็ดูเหมือนจะพอใจมากกับเรื่องนี้
เสี่ยวชุ่ยไม่ได้รู้สึกดีใจกับคำชมของฮูหยินรองเลย สำหรับนางแล้วทั้งหมดคือนางไม่มีทางเลือก ที่จริงแล้วนางไม่อยากทำร้ายซินเหยาเลย แต่นางไม่มีทางเลือกจริงๆ
ฮูหยินรองเห็นหน้าเสี่ยวชุ่ยที่ร้องไห้ราวกับมีคนตายทำให้นางไม่ค่อยพอใจถึงขั้นพูดประชดเสี่ยวชุ่ยว่า “เจ้าคงกำลังรู้สึกผิดกับซินเหยาใช่ไหม ข้าจะบอกเจ้าให้นะ ถ้าไม่ใช่เจ้ากับลูกในท้องของเจ้าตายก็คือนางที่ต้องตาย จะว่าไปนางคนเดียวแลกกับพวกเจ้าสองชีวิตก็คุ้มดีนะ”
เสี่ยวชุ่ยมองดูฮูหยินรองอย่างนึกไม่ถึงว่านางจะรู้ว่าตนท้องลูกของหมิงเช่อ และพูดราวกับว่าไม่มีอะไรเลย ดูแล้วฮูหยินรองคงฆ่าคนอย่างเลือดเย็นเช่นนี้ ถ้าตนเป็นศัตรูกับนางคงจะไม่มีทางรอดแน่ ทันใดนั้นจึงได้พูดขึ้นด้วยความเคารพว่า “ฮูหยินรองพูดถูก ข้าเข้าใจแล้ว ข้ารู้สึกเหนื่อยขอตัวกลับไปพักผ่อนก่อนหวังว่าฮูหยินรองจะ
อนุญาต”
“เข้าใจก็ดีแล้ว ใช่คนท้องเหนื่อยง่าย” ฮูหยินรองได้ยินเสี่ยวชุ่ยตอบมาเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วให้เสี่ยวชุ่ยกลับไป
สงบลงแล้วทุกอย่างสงบลงอีกแล้ว ฮูหยินรองสั่งคนให้ไปเอาน้ำมา นางอยากจะอาบน้ำ นี่คือความเคยชินของนาง ทุกครั้งหลังจากฆ่าคนนางจะใช้วิธีนี้ในการชำระล้างจิตใจ นางรู้ว่าที่ทำอยู่นี้มันผิด แต่นางไม่อยากเห็นคนที่เคยทำร้ายนางและคนของเขา และไม่อยากปล่อยเอาไว้ด้วย
ในห้องอาบน้ำ ฮูหยินรองขัดถูตัวอย่างแรง ราวกับว่าบนร่างของนางได้เปื้อนเลือดแล้วนางอยากจะล้างออก แบบนี้บางทีอาจจะทำให้นางกลับมาสะอาดเหมือนคนเดิม
“ซินเหยา เจ้าบีบบังคับข้าเอง เจ้าไม่ควรรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้ ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่ทำเช่นนี้กับเจ้าหรอก ที่น่าเสียดายยิ่งกว่าคือเจ้าเลือกนายผิดคน เจ้าไม่ควรเลือกศัตรูหมายเลขหนึ่งของข้า” ฮูหยินรองขัดตัวไปพลางคิดไป
นานมากแล้ว ซินเหยารู้สึกเหมือนว่ามีโลกที่ยาวนานขนาดนั้น ในที่สุดนางก็รู้สึกตัวและลืมตาขึ้นมา พอตื่นขึ้นมาถึงได้พบว่าบาดแผลหายดีเกือบหมดแล้ว หันมามองดูรอบๆตัวแต่กลับไม่พบใครเลย
รู้สึกเสียดายที่ตนไม่รู้อะไรเลย คนใบ้ไปแล้ว แต่จะว่าไปไม่ใช่ตนช่วยคนใบ้แต่เป็นคนใบ้ต่างหากที่ช่วยตนเอาไว้