ตอนที่ 574 กลับไปรับโทษ
น้าเมิ่งยิ้ม และไม่ได้อยู่ต่อนาน นางรีบกลับออกไป เรื่องในวันนี้นางเป็นคนปล่อยข่าวเอง แน่นอนว่านางกำลังรอคน
ที่จะร่วมมือกับเว่ยโก๋กงออกมา
เว่ยโก๋กงก็เป็นคนที่ดูใจคนออกพอเห็นน้าเมิ่งไม่อยากอยู่ต่อเขาก็ไม่พูดเยอะ น้าเมิ่งก็ไม่ได้อยู่นานนางออกมาจากจวน
เว่ยเลย
ซินเหยาแอบอยู่บนต้นไม้ข้างๆห้องนั้นก็รีบหลบ เห็นน้าเมิ่งรีบร้อนนางก็รีบตามไปทันที
ยิ่งตามไปซินเหยาก็ยิ่งแปลกใจว่าน้าเมิ่งจะไปที่ไหนกัน
เพราะเป้าหมายของน้าเมิ่งคือล่อคนออกมา ตอนที่นางออกมาจากจวนเว่ยนางก็ได้สังเกตคนรอบๆตัวนางอย่างดี
ไม่นานนางก็รู้ว่ามีคนสะกดรอยตามนาง
ที่จริงซินเหยาไม่ได้อยากจะสะกดรอยตามน้าเมิ่ง เพราะยังไงเสียนางก็ต้องมาคุยกับน้าเมิ่ง
น้าเมิ่งตั้งใจจะล่อซินเหยามาทางกลางภูเขา แบบนี้ถึงจะทำตามแผนของนางได้ง่ายขึ้น
ซินเหยาเดินตามน้าเมิ่งมาเรื่อยในที่สุดก็มาถึงบนภูเขา นี่ทำให้นางไม่เข้าใจเลย
ในที่สุดน้าเมิ่งก็หยุดแล้วพูดขึ้นว่า “ออกมาเถอะ”
ซินเหยาอึ้ง แต่นางก็พอจะเดาได้ว่าน้าเมิ่งคงรู้ว่าตนได้สะกดรอยตามมา ซินเหยาจึงได้ออกมา
“เจ้าตามข้ามาทำไม” น้าเมิ่งถามขึ้นแล้วมองดูนาง
ซินเหยาสะดุ้งมองไปทางน้าเมิ่ง และนึกขึ้นได้ว่าตนแปลงโฉมอยู่ “น้าเมิ่งเจ้าจะสู้กับเว่ยโก๋กง เราคือพวกเดียวกัน ทำไมต้องระวังขนาดนี้ด้วย ถ้าพวกเราเป็นศัตรูกันก็ว่าไปอย่าง”
น้าเมิ่งอึ้ง คิดไม่ถึงว่าคนตรงหน้าจะรู้จักชื่อของตน และยังเรียกอย่างสนิทด้วย ดูท่าแล้วก็ไม่รู้จัก งั้นก็คงไปสืบมาว่านางคือใคร แบบนี้ยิ่งไม่น่าให้รอด น้าเมิ่งคิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนทันที
“เจ้าพูดมาเช่นนี้งั้นก็ดี ข้าก็อยากรู้มาตลอดว่าเจ้าคิดมิตรหรือศัตรู ตอนนี้ดีแล้วรู้จักกันแล้ว” น้าเมิ่งเดินมา ค่อยๆเดนาใกล้ซินเหยา และแปลกใจที่ซินเหยาไม่หลบตนเลย
ซินเหยายิ้มในที่สุดเรื่องก็จบลงด้วยดี แต่ถ้าจบแล้วนางจะไปทางไหนล่ะ
เพราะตรงหน้าคือน้าเมิ่งทำให้ซินเหยาไม่ได้ระวังตัว และไม่ได้สังเกตว่าน้าเมิ่งเข้ามาใกล้ตน
“งั้นพวกเราก็มาร่วมมือกัน” น้าเมิ่งเข้ามาใกล้ซินเหยาแล้วยิ้ม
ซินเหยาหันมามองน้าเมิ่งแล้วรู้สึกว่านางยิ้มแปลกๆ พอซินเหยานึกถึงตรงนี้มีดก็ถูกแทงเข้ามาที่ทรวงอกของซินเหยาแล้ว
ณ เวลานั้น ซินเหยาไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกนั้นยังไงดี มีดในฤดูหนาวที่เย็นเฉียบกว่าสิ่งอื่นใดค่อยๆเข้ามาในตัวของนางแล้วเลือดอุ่นๆค่อยๆไหลออกมา
น้าเมิ่งยิ้มอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร “เจ้าไม่ควรตามข้ามา”
ซินเหยาไม่เข้าใจน้าเมิ่งที่มีท่าทางเช่นนี้กับนาง อะไรคือการที่ไม่ควรตามมา ทางนี้นางเป็นคนเลือกเอง นางไม่สามารถหันกลับไปได้
แต่ทำไมน้าเมิ่งถึงมีสีหน้าเช่นนั้นล่ะ
ความเจ็บปวดค่อยๆกระจายไปทั่วร่างของซินเหยา ซินเหยาค่อยๆหลับตาลง ให้ความเจ็บปวดครั้งเดียวพอ บางทีแบบนี้นางอาจจะเจ็บน้อยกว่า
ในหัวของนางมีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้น ความทรงจำของนางค่อยๆกลับมา นางเห็นตนเองยืนอยู่ตรงหน้าผา มองดูลูกของตนเองที่กำลังร้องไห้ ในวินาทีที่นางหลับตาลงนั้นมีเสียงเรียกชื่อของนาง แต่ทุกอย่างสลัวไปหมด
“พ่า” คนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาแล้วซัดฝ่ามือไปที่ไหล่ของน้าเมิ่ง
น้าเมิ่งเจ็บจึงได้ทิ้งมีดที่อยู่ในมือที่กำลังแทงซินเหยาอยู่ ทำให้ซินเหยาล้มลงไปกับพื้น
คนนั้นขมวดคิ้มแล้วตรงไปที่ร่างของซินเหยา ทันใดนั้นก็มีคนอีกคนโผล่มา
คนนั้นเห็นมีคนมาจึงได้เอาร่างของซินเหยาโยนไปทางคนที่พึ่งมาถึงจากนั้นก็เหาะหนีไป
หานรับร่างซินเหยามามองดูบาดแผลที่มีเลือดไหล เขาหันมาทางน้าเมิ่ง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “กลับไปรับโทษ”
จากนั้นก็อุ้มร่างของซินเหยาจากไป
ที่หารมาเร็วขนาดนี้ก็เพราะวันนั้นที่โจว๋หยูนถิงเรียกหานเข้าไปในห้อง
“เจ้าไปสืบมาให้ข้าหน่อยว่าช่วงนี้น้าเมิ่งทำอะไรอยู่ ข้ารู้สึกแปลกๆ” โจว๋หยูนถิงพูดด้วยความจริงจัง
หานดูเจ้านายท่าทางเช่นนี้ก็ไม่อาจรอช้ารีบไปสืบทันที
แต่สืบไปสืบมากลับพบว่าน้าเมิ่งใช้เงินเยอะมาก และยังไม่เข้าใกล้ซินเหยาเลย ทั้งที่ตนกำลังจะใช้เงินของซินเหยา นี่ทำให้เขาแปลกใจมาก
หานรีบรายงานโจว๋หยูนถิงทันที “เจ้ารีบไปตามน้าเมิ่งกลับมา”
พอหานหาน้าเมิ่งเจอก็พบกับสภาพเช่นนี้แล้ว
“นายท่านไม่ดีแล้ว” หานอุ้มซินเหยาเข้ามาในจวนก็มีเลือดไหลเต็มไปหมด
โจว๋หยูนถิงออกมาจากในห้องมองดูซินเหยาที่เต็มไปด้วยเลือด
“เร็วไปเรียกหมอมา” โจว๋หยูนถิงอุ้มซินเหยาเอาไว้มือเขายังคงสั่นไม่หยุดราวกับว่าจะสูญเสียซินเหยาไป
“เจ้า..” ในความสลืมสเลือนซินเหยารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของอ้อมกอด นางเงยหน้ามองดูโจว๋หยูนถิง หลังจากนั้นก็สลบไป
ยิ่งทำให้โจว๋หยูนถิงร้อนรนใจ “ซินเหยา ซินเหยาเจ้าต้องอดทนเอาไว้นะพี่อยู่นี่แล้ว เจ้า………….” เสียงถูกกลืนลงคอไป ตอนนี้ใจเขาตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
น้าเมิ่งเข้ามาพร้อมกับหาน และพอดีกับที่ได้ยินโจว๋หยูนถิงพูดว่าพี่ นางอึ้งไปทันที นางพอจะรู้จักกับคุณหนูน้อยอยู่ แต่เพราะซินเหยาแปลงโฉมจึงทำให้นางดูไม่ออกและเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
นางมองดูมือของตนเองที่เต็มไปด้วยเลือด เลือดสีแดง
“นายท่าน” น้าเมิ่งคุกเข่าลงกับพื้นร้องไห้พูดไม่เป็นภาษาออกมา
“ออกไป” โจว๋หยูนถิงไม่แม้แต่จะมองดูนาง ดังนั้นเขาจึงโกรธมาก และนี่คือครั้งแรกที่เขาดุขนาดนี้กับน้าเมิ่ง
น้าเมิ่งไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ก้มหัวให้กับโจว๋หยูนถิงจากนั้นก็เดินออกมา
ในห้องวุ่นวายไปหมด ทุกคนดูนายท่านโกรธขนาดนี้ ไหนเลยจะกล้าชักช้า
“จัดการเรียบร้อยแล้ว คนล่ะ” เวลานี้น้าเมิ่งโกรธมาก ถึงจะเผชิญหน้ากับชายชุดดำก็เถอะ
คนนั้นมองดูน้าเมิ่งอยู่บนที่สูง “คนยังไม่ตาย”
วินาทีนั้น น้าเมิ่งรู้สึกว่าเหมือนตนเองได้เห็นปีศาจ ปีศาจที่มีชีวิต
ถ้าหากไม่รู้นางก็อาจจะลงมือได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา นั่นคือลูกสาวของคุณหนู นางจะลงมือได้อย่างไร
คนนั้นเห็นน้าเมิ่งเช่นนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขา ในโลกนี้คนที่น่าสงสารมีมากมาย เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้นถ้าหากอยากที่จะไม่มีจุดอ่อนก็ต้องไร้ความรู้สึก
“ของสิ่งนี้เจ้ารู้จักใช่ไหม” ชายคนนั้นโยนของสิ่งนั้นไปให้น้าเมิ่ง น้าเมิ่งรับไว้แล้วดู นางอึ้ง
“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น” มือของนางสั่นไปหมด เลือดบนนี้เป็นของใครกัน พวกเขารับปากนางไว้ว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ นี่มันคืออะไรกัน
ชายคนนั้นพูดขึ้น “เรื่องที่รับปากเอาไว้ เจ้ารับปากเอาไว้ว่าจะให้ผู้หญิงคนนั้นไปพบกับยมทูต ตอนนี้นางยังไม่ตาย จำไว้ว่าต้องแลกด้วยอะไร” ชายคนนั้นพูดกับน้าเมิ่งจบ จากนั้นก็หมุนตัวจากไป แต่ชายคนนั้นไม่ทันได้สังเกตว่าหลังจากที่เขาจากไปได้มีคนสะกดรอยตามเขาไปด้วย
“ไทเฮา” ชายคนนั้นตรงไปหาไทเฮา เขาคิดว่าแค่นี้หน้าที่ของเขาก็จบแล้ว และสามารถช่วยคนรักของตนได้แล้ว แต่มีของหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดเอาไว้
“อืม จัดการเรียบร้อยแล้วหรือ” ไทเฮาเงยหน้าขึ้นมอง สายตาของนางมองไปที่เขา
เขาเองก็รู้ว่าไทเฮาเป็นคนเช่นไร แต่ตนเองก็ถือว่าได้ทำงานเสร็จแล้ว “พ่ะย่ะค่ะ” เขาก้มหัวและหวังว่าไทเฮาจะเข้าใจความหมายของเขา
ไทเฮายิ้ม เหมือนว่าจะพอใจ แล้วมองไปทางเขา “ทำได้ดี แน่นอนว่าต้องมีรางวัล แต่…….” ไทเฮาไม่ได้พูดต่อเพราะนางเห็นเงาคนสะท้อนอยู่ในแก้วในห้องของนาง
ไทเฮาถือโอกาสที่เขายังคงก้มหน้าอยู่ส่งสายตาให้คนของนางเข้ามาใกล้ตัวเขา
“แต่ไม่เพียงแต่ทำไม่ดี แต่กลับหาเรื่องมาอีก งั้นก็เกรงว่าคงจะต้องรับโทษเสียแล้ว” พอพูดจบคำสุดท้ายคนคนนั้นก็สั่น เรื่องราวทั้งหมดเร็วเกินไป ไทเฮาก็คือไทเฮา คนที่สามารถทำเช่นนี้ได้ก็คงจะมีแต่ไทเฮาคนเดียว
ณ ขณะที่คนนั้นล้มลง ไทเฮาก็ไม่เห็นเงานั่นอีก นางผุดยิ้มขึ้นที่มุมปาก อยากจะเล่น งั้นก็ดูว่าใครจะแน่กว่ากัน นางต้องการให้คนคนนั้นเดา และมุ่งมาที่นางสำหรับซินเหยาถึงจะยังไม่ตาย ก็เกรงว่าจะอยู่ได้ไม่นาน ฮ่องเต้จะไปหานางจากที่ไหน
พอคิดถึงแผนการของตนเอง ในที่สุดไทเฮาก็หัวเราะออกมา
“ท่านหมอนางเป็นอย่างไรบ้าง” ในที่สุดโจว๋หยูนถิงได้ดึงสติกลับมาได้และหันไปมองหมอที่สีหน้าในตอนนี้นั้นไม่ค่อยดีเลย พร้อมกับถามขึ้น
คนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองโจว๋หยูนถิง “เรียนนายท่าน แม่นางท่านนี้เสียเลือดไปมาก เกรงว่าคงจะต้องรอดูคืนนี้ว่านางจะทนผ่านคืนนี้ไปได้หรือไม่ และดูที่ว่านางอยากจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกหรือเปล่า” พูดจบหมอก็หยิบกล่องยาขึ้นมาสะพายแล้วกลับออกไป
โจว๋หยูนถิงอ่อนแรงทันที คำพูดเมื่อครู่ของหมอยังคงวนอยู่ในหูของเขา เวลานี้บอกให้เขารู้ว่าซินเหยากำลังตกอยู่ในอันตราย
หานกลับมาจากข้างนอก ก็เห็นสีหน้าแววตาที่ไม่มีทิศทางราวกับใบไม้ที่ถูกลมพัดอยู่กลางอากาศ และไม่รู้ว่าจะถูกพัดไปทางไหน
หานขมวดคิ้ว “นายท่าน แม่นางซินเหยาจะต้องปลอดภัย นางเป็นผู้หญิงที่แข็งเเกร่งคนหนึ่ง นางจะต้องอดทนได้” ตอนที่หานพูดประโยคนี้เขาเองก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่นอกจากประโยคนี้แล้วเขาเอาก็ไม่รู้จะพูดปลอบใจโจว๋หยูนถิงได้อย่างไรในเวลาเช่นนี้ เขายังมีเรื่องสำคัญที่จะต้องรายงานโจว๋หยูนถิงอีก
โจว๋หยูนถิงค่อยเงยหน้าขึ้นมามองหาน แววตานั่นเหมือนได้ตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้ว มันดูแปลกๆทำให้หานมีความรู้สึกแปลกๆ
“หานสืบได้อะไรมาบ้าง เจ้าปล่อยเรื่องนั้นไปก่อนแล้วรีบมาดูแลซินเหยา ข้าต้องออกไปทำเรื่องหนึ่ง” คำพูดของโจว๋หยูนถิงเต็มไปด้วยความกล้าหาญ เขาไม่มีทางอื่นอีกแล้ว ถ้าหากออกไปไม่ว่ายังไงเขาต้องกลับมา เรื่องนี้ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
สำหรับคำพูดของโจว๋หยูนถิงทำให้หานคิดไม่ตกเลยจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ราวกับว่าในสายตาของเขา การตัดสินใจของนายท่านนั้นถูกเสมอ
แต่หานก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้น เขาอึ้ง เขาต้องบอกเรื่องนี้กับโจว๋หยูนถิงไหม แต่คิดอีกที ในเมื่อให้เขาดูแลซินเหยางั้นเขาก็ต้องทำให้ดีที่สุด