ตอนที่ 751 ตาเฒ่ากล้าขังข้า
ตาเฒ่าพูดไปลูบหนวดไป จ้องมองซินเหยา ราวกับว่ากำลังรอดูสีหน้าที่นิ่งราวน้ำแข็งนั่นจะมีทีท่าเช่นไร
แต่เหมือนว่าเขาจะต้องผิดหวังเสียแล้ว
ซินเหยาไม่ได้ตกใจหรือรู้สึกอาย แต่กลับยิ้ม ขนาดว่าเห็นลักยิ้มนั่นด้วย
“เจ้าพูดถึงสิ่งนี้หรือ”
ซินเหยาพูดไปพร้อมกับหยิบเงินออกมาจากถุงเงิน
ความรู้สึกไวนี่คือสิ่งที่สายลับควรมี การขยับการกระทำแค่นิดเดียวก็ต้องรู้สึกได้ ความเร็ว คือของที่ขาดไม่ได้ ในยุคปัจจุบันคิดอยากจะเอาของ ต้องตาดีมือไวดังนั้นเมื่อครู่ที่เด็กคนนั้นชนตนเองนางรู้หมดทุกอย่างแล้ว นางเองก็รีบเอาของกลับคืนให้เด็กคนนั้น คาดว่าเด็กคนนั้นยังคงวิ่งไปอย่างมีความสุข
ครั้งนี้ทำให้สีหน้าของตาเฒ่าตกใจ คนอยู่ตรงนั้น ตนยังมองไม่เห็นว่านางทำได้อย่างไร เกรงว่าเขาเองก็คงทำได้ไม่เร็วขนาดนี้
“พ่อค้าข้าเอาถังหูลู่”
ซินเหยาเอาเงินให้พ่อค้าจากนั้นก็หยิบถังหูลู่ไปสองอันยื่นให้คนที่กำลังอึ้งอยู่ข้างๆพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ให้เจ้ากินเข้าไปอุดปากที่กำลังอ้าอยู่ของเจ้า”
เอาของยัดเข้าไปในปากของตาเฒ่า ซินเหยาก็จับถังหูลู่ของตนเองแล้วจากไป เสี่ยวจาเห็นไหมว่าโลกนี้สวยขนาดไหนข้ากินถังหูลู่ของเจ้าแล้ว
ซินเหยามองดูท้องฟ้า ไม่รู้ว่ากำลังคิดถึงรอยยิ้มของเสี่ยวจาที่อยู่บนฟ้าหรือกำลังห้ามไม่ให้น้ำตาไหล
ตาเฒ่าตั้งตัวได้ก็รีบตามซินเหยามา “เจ้า เจ้ารอข้าด้วย”
เขาเรียกแบบนี้กลางถนนอย่างไม่อายซินเหยาเองก็ไม่ได้สนใจ นางนิ่งมากเพียงแต่ว่าตนเองเจอกับคนแปลกคนหนึ่งเป็นเฒ่าทารกจริงๆด้วยเหมือนกับจิวแป๊ะทงในนิยายกิมย้งที่ชอบอะไรแปลกๆ
“ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือหรือว่าข้าต้องขอบคุณเจ้า ขอบคุณที่เจ้าเตือนข้า” ซินเหยาทำหน้าไร้เดียงสากินถังหูลู่ถามขึ้น
ตาเฒ่ารู้สึกไม่ดีขึ้นมา “ข้า ข้า เมื่อครู่เจ้าเก่งขนาดนั้น ข้าอยากเรียน”
ตาเฒ่าในตอนนี้เหมือนกับหญิงสาวคนหนึ่งที่บิดตัวไปมา
ซินเหยารับไม่ได้กับท่าทางที่น่ารักเช่นนี้ อ้วกออกมาแล้วก็รีบเดินจากไป
วรยุทธของตาเฒ่าไม่ธรรมดาไหนเลยจะให้ซินเหยาหนีไป
ซินเหยาหยุดแล้วพูดอย่างไม่ค่อยพอใจขึ้นมาว่า “ทำไมข้าต้องสอนเจ้าด้วย”
ตาเฒ่าคนนั้นสะดุ้งครุ่นคิดจากนั้นก็หาอะไรสักอย่างที่ตัวของเขา “ข้ายกน้ำเต้าเหล้านี้ให้เจ้า”
พูดไปแต่สีหน้ายังคงรู้สึกไม่อยากให้
ซินเหยาเห็นว่าตาเฒ่ากำลังหาของที่ตัว และเห็นว่ามีขลุ่ยที่สวยงามโผล่มาแว็ปหนึ่งแววตายิ้ม นางชอบขลุ่ยนั่น
“เอาขลุ่ยนั่นของเจ้าให้ข้า” ซินเหยายื่นมือออกไปไม่รู้ว่าทำไมอยู่กับเฒ่าทารกนี่แล้วทำให้นางมีนิสัยเหมือนเด็กขึ้นมา
ตาเฒ่าขยับตัวรีบเอาขลุ่ยของตนเองซ่อนให้ดี ราวกับกลัวว่าซินเหยาจะแย่งเอาไป “เอาเหล้าไปขลุ่ยนี้คือชีวิตของข้า”
ซินเหยายิ้มเห็นว่าตาเฒ่ารักขลุ่ยยิ่งชีวิต คิดว่าคงเป็นของของคนรักแน่ นี่คงแย่งไม่ได้จึงได้รับน้ำเต้าเหล้ามา นางพูดกับตาเฒ่าว่า “เอาแบบนี้คืนนี้เจ้ากลับไปคิดดูพรุ่งนี้ข้าจะสอนให้เจ้า” ซินเหยาพูดจบก็เดินจากไป พรุ่งนี้คิดได้ดี ครั้งหน้าไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า
ตาเฒ่านั่นดีใจคิดว่าซินเหยาจะสอนให้เขา
เพราะว่าเจอกับตาเฒ่าเลยทำให้นางกลับมาถึงก็ค่ำแล้ว แต่อารมณ์ดีไม่เลวทีเดียว
ซินเหยาอารมณ์ดี ส่วนโอหยางซิงเฉินนั้นรอจนร้อนรนไปหมด เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ส่งคนตามไปด้วย กลัวว่าซินเหยาจะเกิดเรื่องขึ้น
เดิมทีรอนานซินเหยายังไม่กลับมา เขาจึงคิดอยากจะออกไปตามหาซินเหยา แต่ก็กลัวว่าตนเองออกไปแล้วซินเหยาจะกลับมาดังนั้นจึงได้แต่รออยู่ในห้องเดินวนไปวนมาอยู่ตั้งครึ่งวัน
“ซินเหยาเจ้ากลับมาได้เสียที”
พอซินเหยาเดินเข้าประตูใหญ่เหยเสียมา ลูกน้องของโอหยางซิงเฉินก็รีบมารายงาน พวกเขาถึงได้เห็นว่านายท่านของพวกเขาก็มีอาการที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนี้เช่นกัน
ซินเหยาเห็นท่าทีของโอหยางซิงเฉินที่รีบร้อน แต่ก็ดีใจ จึงได้พูดขึ้นด้วยความแปลกใจว่า “เกิดอะไรขึ้นซิงเฉิน” สีหน้าของซินเหยาก็ไม่เลวอารมณ์ดี ดังนั้นเวลาพูดจึงยิ้มให้กับโอหยางซิงเฉิน
โอหยางซิงเฉินถูกรอยยิ้มของซินเหยาทำให้ตาค้างอึ้งไป ได้แต่ส่ายหัวว่าไม่มีอะไร แต่แท้จริงแล้วในใจนั้นมีความตกอกตกใจ แต่เพราะเห็นซินเหยาจึงได้ดีขึ้น
“ข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง วันนี้ข้าเจอคนแปลกคนหนึ่งมีหนาวสีขาวยาวๆแล้วก็มีขลุ่ยเล็กๆที่น่ารัก สีหน้าเหมือนคนโง่ น่ารักมาก” ซินเหยาคุยกับโอหยางซิงเฉินเหมือนคุยกับคนในครอบครัว พูดเรื่องทั่วๆไปที่ตนเองไปเจอมาในวันนี้
โอหยางซิงเฉินถูกรอยยิ้มของซินเหยาเมื่อครู่นี้ทำให้อึ้งอยู่ ปกติซินเหยายิ้มคืออบอุ่นแต่ครั้งนี้เหมือนกับดอกไม้ที่ทำให้ผู้คนหลงใหล ดังนั้นเขาจึงได้เสียการควบคุมตนเองไปครู่หนึ่งได้แต่พยักหน้า แต่กลับไม่ได้ฟังที่ซินเหยาพูดถึงตาเฒ่าหนวดยาวสีขาวแล้วก็ขลุ่ยเลย พลาดเบาะแสที่จะตามหาคำสั่งเซวียนฮยไป
ส่วนตาเฒ่านั่นก็ไม่ใช่ใครคือก้วยตี๋จือนั่นเอง ก้วยตี๋จือแปลกประหลาด ชอบอะไรแปลก
เวลานี้เขากำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าซินเหยาทำได้อย่างไรอยู่ที่หุบเขาของตนเอง ขนาดว่าฮงโต้วเข้ามาเขายังไม่รู้ตัว
“ตาเฒ่าเจ้ากล้าขังข้า ฮื่มๆ เห็นข้าไหม………….”
ฮงโต้วเดิมทีจะจับหนอนแมลงมาแกล้งก้วยตี๋จือ แต่นางพบว่าพอก้วยตี๋จือกลับมาก็ไม่เหมือนเดิม เพราะเขาไม่ได้สังเกตว่ามีตนเองอยู่ด้วยเลย ยิ่งไปกว่านั้นคือมีท่าทีกับการกระทำของตน นี่ทำให้ฮงโต้วแปลกใจยิ่งนัก
เดิมทีนางยังคิดจะหลอกเขาทีนี้มีโอกาสแก้แค้นแล้ว แต่มือถือมาได้ครึ่งทางก็เลือกที่จะยอมแพ้แล้ว ทำไม ตาเฒ่านี่สามารถออกไปเที่ยวเล่นได้ นางเองก็อยากออกไปเล่นอะไรสนุกๆ ทำไมต้องขังนางด้วย ครั้งนี้ก็ถือโอกาสที่เขาไม่ได้ระวังแอบหนีลงเขาไป
คิดมาถึงตรงนี้กงโต้วก็ดีใจแล้วก็แอบหนีลงเขาไป
พอก้วยตี๋จือหลุดออกมาจากเรื่องของตนเองได้ก็พบว่าไม่เจอฮงโต้วแล้ว นี่ทำให้เขารีบและร้อนรันมาก จะให้ไม่รีบร้อนได้ยังไง ตอนนี้ฮงโต้วจำอะไรไม่ได้เลย ออกไปจะไปพักที่ไหนล่ะ
วันต่อมาซินเหยาก็ได้รับข่าวจากลุงเผิง บอกว่าหาจวนให้ได้แล้วไม่เลวเลยทีเดียว
“ซิงเฉินข้าอยากปรึกษากับเจ้าเรื่องหนึ่ง”
ตอนเช้าระหว่างที่ทั้งสองกำลังกินข้าวกัน ทันใดนั้นซินเหยาก็วางตะเกียบลงแล้วมองดูโอหยางซิงเฉิน
โอหยางซิงเฉินก็วางถ้วยและตะเกียบลงอย่างสง่างามหลังจากนั้นก็ยิ้มมองดูซินเหยา รอฟังซินเหยาพูด
ซินเหยากลืนน้ำลาย แววตาที่ไร้เดียงสานี้ ทำร้ายนางยิ่งนัก แต่เรื่องนี้ไม่พูดไม่ได้ ยังไงเสียนางกำลังสร้างอำนาจของตนเองขึ้นมาใหม่ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่สะดวกเท่าไหร่
“ข้าอยากย้ายออกไปอยู่ข้างนอก หาที่ได้แล้ว” ซินเหยาไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้รู้สึกว่าตนเองไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนแรกนางเป็นคนบอกเองว่าที่นี่น่าอยู่ แต่ตอนนี้กลับบอกว่าจะย้ายออก
นั่นไงสีหน้าของโอหยางซิงเฉินเปลี่ยนไปทันที ดูเหมือนรู้สึกน้อยใจ ใบหน้าที่หล่อเหลาเพราะเรื่องที่ไม่ชอบทำให้มีความรู้สึกผิดหวัง
“ทำไมถึงคิดอยากจะย้ายออกไปที่นี่ไม่ดีหรือ” โอหยางซิงเฉินเก็บกดความเจ็บปวดเอาไว้ ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุด เขากลัวว่าถ้าเสียงดังเกินไปจะทำให้ซินเหยาตกใจกลัว
ซินเหยาโบกมือไปมา รีบอธิบาย “ไม่ใช่ไม่ใช่ ข้าแค่มีเรื่องต้องทำที่นี่ไม่สะดวก”
ทันใดนั้นซินเหยาก็รู้สึกว่าตนเองอยากทำอะไรก็ทำทำไมต้องอธิบายอะไรมากมายความคิดนี้ทำให้ดึงความกล้าของนางกลับมา
“ซิงเฉินข้าตัดสินใจแล้วบ้านก็หาได้แล้ว พอเถอะข้าอิ่มแล้วเอาแบบนี้แล้วกัน”
สีหน้าของซินเหยาเปลี่ยนไปนิ่งเหมือนดังแต่ก่อนแล้ว
โอหยางซิงเฉินมองดูหลังของซินเหยา มีอะไรทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด เขาลุกขึ้นทันใดนั้นก็ตะโกนออกไปว่า “ข้าจะย้ายไปด้วย”
ซินเหยาหยุดเดิน “ได้” จากนั้นก็เดินหน้าต่อไป ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เดิมโอหยางซิงเฉินกังวลว่าซินเหยาจะปฏิเสธตน เขาระวังตลอดเวลา กลัวทุกการตัดสินใจของซินเหยา ตอนนี้เขาพบว่าซินเหยาไม่ได้ผลักไสตนเท่ากับเมื่อก่อนแล้ว เมื่อครู่ที่นางตอบตกลงให้เขาไปด้วยทำให้เขาดีใจยิ่งนัก
แต่ดีใจก็ส่วนดีใจคนจะย้ายไปก็ต้องจัดการเรื่องต่างๆในเหยเสียให้เรียบร้อยก่อนถึงจะสามารถย้ายไปได้ ซินเหยาคงไม่รอให้เขาจัดการธุระเสร็จแล้วค่อยไปแน่ ดังนั้นจึงได้ออกจากเหยเสียไปก่อนแล้ว
แต่ก็ไม่เป็นไร โอหยางซิงเฉินปลอบใจตนเอง ยังไงเสียเดี๋ยวเขาก็ตามไป พอถึงตอนนั้นก็ไปเปิดร้านที่นั่นกับซินเหยา ช่างใช้ชีวิตเหมือนกับสามีภรรยากันเลยจริงๆ คิดมาถึงตรงนี้โอหยางซิงเฉินก็รู้สึกดีใจ
ฮงโต้วลงเขามา แน่นอนว่าไม่มีเงินติดตัว นางถึงได้รู้ว่าตนนั้นโง่แค่ไหน นางไม่เหมือนตาเฒ่านั่นที่หน้าด้านไปขอข้าวเขากินไปทั่ว มองดูกลิ่นหอมที่ลอยไปมานี้นางทำได้เพียงกลืนน้ำลาย
ซินเหยาลงเขามาพอเห็นจวนแล้วก็รู้สึกพอใจไม่น้อย มองดูข้าวของเครื่องใช้ในบ้านล้วนขาด จึงคิดจะออกไปซื้อมา
ไม่รู้ว่าเพราะไม่บังเอิญหรือบังเอิญเกินไป
“ขายถังหูลู่”
ซินเหยาได้ยินว่าขายถังหูลู่ก็นึกถึงวันนั้นที่เจอตาเฒ่าประหลาดนั่น แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เห็นเขาโผล่มาเลย ช่างเป็นเด็กน้อยจริงๆ เดี๋ยวสนใจ เดี๋ยวถูกใจ ซินเหยาคิด แต่กลับถูกหญิงสาวชุดแดงที่ยืนตรงหน้าคนขายถังหูลู่เตะตาเข้า
“ฮงโต้ว………….”
แววตาของซินเหยาเต็มไปด้วยความดีใจ เข้าไปดึงฮงโต้ว ตนส่งคนออกไปตามหาตั้งมากมาย ถังหูลู่เองก็ส่งคนออกไปตามหาแต่กลับไม่ได้ข่าวของฮงโต้วเลย เวลานี้กลับยืนอยู่ตรงหน้านาง ไม่ว่าจะตรงไหนซินเหยาก็ดีใจ
ซินเหยาที่ดึงตนเองไปนั้น ฮงโต้วที่สูญเสียความทรงจำไปสีหน้ากลัว แต่เพราะรู้สึกซินเหยาเหมือนคนใจดีเลยไม่ได้มีท่าทีที่ต่อต้านมากนัก
“แม่นางคนนี้พวกเรารู้จักกันหรือ” ฮงโต้วจำไม่ได้ว่าตนเองกับหญิงสาวตรงหน้ามีเป็นอะไรกัน ในหัวของนางขาวไปหมดไม่มีอะไรเลย นางพยายามคิด แค่รู้สึกว่าในหัวของนางสับสนไปหมด
ซินเหยาเห็นว่าฮงโต้วกำลังสับสนมือจับไปที่หัวของตนเอง ราวกับจะทุบตียังไงอย่างนั้น
ซินเหยารีบจับมือของฮงโต้ว จับชีพจร เป็นไปตามที่นางคาดไว้ไม่ผิดฮงโต้วคงได้รับบาดเจ็บที่หัว คงมีเลือดไปทับเส้นประสาทเอาไว้ ถึงได้ทำให้ฮงโต้วสูญเสียความทรงจำ
“พวกเรารู้จักกันแต่ข้าดูท่าเจ้าคงสูญเสียความทรงจำลืมข้าไปหมดแล้ว” ซินเหยาไม่ได้โกหกพูดอย่างตรงไปตรงมา นางกับฮงโต้วเคยเจอกันมาก่อนรู้จักกันพักหนึ่ง รู้นิสัยของฮงโต้ว เป็นคนกล้า ไม่ค่อยระวัง มีอะไรก็พูดตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าจะสูญเสียความทรงจำ แต่นิสัยก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน