ตอนที่ 53
หลังปาณีพูดจบ ธามนิธิก็ออกมาจากข้างในพอดี เขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตหลวมๆ นั่งอยู่บนรถเข็น มองไปยังทั้ง สองคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่ เปิดปากพูดเสียงเบาว่า “ไว ยาตย์”
น้ำเสียงเรียบนิ่งมาก แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ กำลังกดขี่อีกฝ่ายอยู่
ไวยาตย์รีบเดินไปหาเขา “คุณธามนิธิ”
ธามนิธิพูดว่า “ปาณี เธอไปก่อน พวกเรามีเรื่องที่ ต้องคุยกันนิดหน่อย”
“ค่ะ”
ปาณีเป็นคนที่รู้กาลเทศะมาโดยตลอด และไม่ได้ มีความอยากรู้อยากเห็นเลยว่าพวกเขากำลังจะคุยเรื่อง อะไรกัน
แต่ว่า ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เธอรู้สึกอยู่ตลอดเวลา เลยว่าวันนี้ธามนิธิกับไวยาตย์จริงจังเป็นพิเศษ
คงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรที่เธอไม่รู้สินะ?
หลังจากเห็นว่าปาณีเดินไปแล้ว ไวยาตย์มองไป ยังธามนิธิ “คุณธามนิธิครับ คุณไม่ได้คุยเรื่องนั้นกับ ปาณีหรอครับ?”
“เรื่องอะไร?”
“เรื่องที่ติรยาพูด” ไวยาตย์พูดว่า “ไม่ว่ายังไง คุณ ก็น่าจะถามหน่อยนะครับ!”
“ฉันลืมแล้ว” ธามนิธิพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ไวยาตย์ “.”
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาลืมได้ยังไงกัน?
ไวยาตย์พูดอย่างจนปัญญาว่า “ผมว่าคุณไม่ได้ ใส่ใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ”
“เรื่องที่ไม่สำคัญ จำเป็นต้องเก็บไว้ในใจด้วย หรอ?”
“ทำไมจะไม่ าคัญล่ะครับ” ไวยาตย์ร้อนใจมาก “ถ้าเกิดว่าปาณีเป็นอย่างที่ติรยาพูด คุณไม่กลัวว่าเธอจะ เป็นนลินคนต่อไปหรอครับ”
ธามนิธิจ้องหน้าไวยาตย์ นัยน์ตาที่เรียบนิ่งดำ สนิทคู่นั้น จู่ๆก็แฝงไปด้วยความเย็นชา
ถึงขั้นเอาปาณีไปเปรียบเทียบกับนลินเลยหรอ? ธามนิธิไม่ได้พูดอะไร และแล้ว ไวยาตย์ก็รู้สึกได้ ถึงความไม่พอใจของเขา
ไวยาตย์ก้มหน้าลง พูดด้วยความใจเย็นว่า “ผม แค่เป็นห่วงคุณ ตอนแรกที่คุณจะแต่งงานกับปาณีก็ ประมาทมากแล้ว พวกเราไม่รู้เลยว่าเธอเป็นคนอย่างไร คุณก็ตัดสินใจอย่างประมาทแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น นายรู้จักติรยาดีแล้วหรอ?” ธามนิธิ มองไปยังไวยาตย์ “คำพูดที่เขาพูด นายถึงเชื่อขนาดนี้? นายไม่กลัวว่าจะโดนเขาหลอกใช้รีไง?”
ไม่ว่าปาณีจะเป็นคนแบบไหน เขาจะใช้ดวงตา ของตัวเองมอง
ไม่ใช่ว่าสงสัยปาณีเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของ ติรยา
เช้าวันจันทร์ เมืองชยุตฝนตกหนักมาก ปาณีตื่น ขึ้นมาก็พบว่าธามนิธิกับไวยาตย์ได้ออกไปแล้ว
แต่เดิมพวกเขาตั้งใจจะพักที่นี่เฉพาะวันเสาร์และ วันอาทิตย์ แต่ว่าเมื่อคืนอยู่ดึกเกินไปเลยไม่ได้กลับ จึง นอนพักที่นี่อีกหนึ่งคืน
เสียงของลำมุงดังมาจากหน้าห้อง “คุณหนูปาณี น้าทำอาหารเช้าไว้ให้แล้วค่ะ คุณหนูตื่นมาทานก่อนแล้ว ค่อยนอนต่อดีไหมคะ”
ปาณีตอบไปว่า “ค่ะ”
เป็นเพราะว่าประจำเดือนมา เธอจึงตื่นสายกว่า ปกติ
เธอมองดูนาฬิกา เกือบจะ 10 โมงเช้าแล้ว เธอรีบ ล้างหน้าแปรงฟันแล้วออกมาจากห้องนอน พอถึงห้อง อาหารด้านล่าง ก็เห็น เวทัสนั่งอยู่คนเดียว ลำมุงกำลัง ดูแลเขาในการทานอาหารเช้า “เกลือพอไหมคะ?”
เวทัสพยักหน้า
ปาณีไม่รู้ว่าเขามาได้ยังไง ในห้องอาหารมีเพียงเขากับลำโมง เธอยืนอยู่หน้าประตู กำลังลังเลว่าจะ เข้าไปดีหรือไม่ ลำพุงก็เห็นเธอสักก่อน “คุณหนูปาณี รีบมานั่งสิคะ เตรียมอาหารเช้าไว้ให้คุณหนูแล้วค่ะ”
ปาณีจึงนั่งลง
อาหารเช้าคือบะหมี่ของเมืองชยุต เป็นหนึ่งใน เอกลักษณ์ของเมืองชยุต คนในท้องที่มักจะทานใน ตอนเช้า
โต๊ะอาหารใหญ่มาก ปกติคนเยอะ แต่ในเวลานี้ มี เพียงเธอกับเวทัส ปาณีจึงถามว่า “พวกเขาไม่อยู่เลย หรอคะ?”
ลำมุงตอบว่า “วันนี้เป็นวันจันทร์ ทุกคนไปทำงาน แล้วค่ะ ในบ้านก็เหลือเพียงคุณหนูกับคุณชายเวทัสค่ะ”
เวทัสมาหลังจากที่พวกเขาไปแล้ว ในบ้านตอนนี้ มีเพียงเขาและปาณีที่หยุดเพราะปิดเทอม