ตอนที่ 76
เธอมองแม่แวบหนึ่ง ปกติคนขี้งกขนาดนั้น ไม่ คาดคิดเลยว่าแค่มากินข้าวกับนภันต์ ทำไมถึงต้องเลือก ร้านอาหารที่แพงขนาดนี้
เธอกำลังอยากจะถามคำถามนี้ มือถือของฝนสิริก็ ดังขึ้น มีคนโทรเข้ามา ฝนสิริรับสาย “ใช่ค่ะ ที่นี่แหละค่ะ”
ฝนสิริยังอุตส่าห์ออกไปต้อนรับที่หน้าประตูอย่าง กระตือรือร้น
ปาณีถามนภันต์อย่างไม่เข้าใจ “นี่มันอะไรกัน?”
นภันต์พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “ก็ครั้งก่อนพี่ไม่ได้กิน ข้าวกับคนในบ้านแก้วใสไม่ใช่หรอ? แม่บอกไปว่าพี่ป่วย ดังนั้น พวกเขาก็นัดใหม่ในวันนี้”
“นภันต์ นายขายฉัน?” ปาณีหมดคำพูด
เมื่อครู่เห็นแม่พูดอย่างจริงใจ เธอคิดว่าแม่จะคิด ทบทวนสำนึกแล้ว และรู้สึกผิดต่อเธอ แต่ที่ไหนได้ นี่มัน หลอกลวงชัดๆ!
จงใจให้นภันต์นัดเธอออกมา ที่แท้ก็เป็นการนัดดู ตัวของเธอหรอกหรอ?
เห็นท่าทางโมโหของปาณีแล้ว นภันต์พูดว่า “พี่ ผมไม่มีทางเลือก แม่บอกว่า ถ้าผมไม่นัดพี่ออกมา ก็จะ ไม่ให้เงินผมใช้อีก ผมไม่เหมือนพี่สักหน่อยที่หาเงินเอง ได้ ถ้าหากแม่ไม่ให้ แล้วผมจะทำยังไง? พี่ก็แค่ทนหน่อยกินข้าวมื้อเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก ถ้าหากพี่ไม่ยอม พวกเขาจะบังคับพี่ได้ยังไงล่ะ?”
ปาณีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา นี่คือแม่แท้ๆ? น้องชายแท้ๆหรอ?
เธอวางเมนูลง ยืนขึ้นเตรียมตัวจะไป แต่ถูกนภันต์ ดึงไว้ “พี่ ข้าวมื้อเดียวเอง กินเสร็จค่อยไปนะ ดีไหม? พี่ คงจะไม่ทำให้แม่ขาดความน่าเชื่อต่อหน้าคนอื่นใช่
ไหม?”
เขาใช้แม้กระทั่งวิธีอ้อน
ปาณีพูดประชดว่า “ตอนนายเรียนไม่เห็นจะ
เห็นใจพวกเขาอย่างนี้นี่”
ตอนนี้กลับแสร้งทำเป็นกตัญญู
นภันต์พูดอย่างขาดความมั่นใจว่า “ผมก็โตเป็นนี่ ครับ!”
“โตแล้วก็เลยหลอกฉันเหมือนพ่อแม่?”
“ที่ผมทำไปก็เพราะหวังดีกับพี่นะ พี่คงไม่หวังที่ จะทำสงครามเย็นกับพ่อแม่ต่อไปใช่ไหม? อีกไม่นานก็ จะเปิดเทอมแล้ว ถึงเวลานั้นพี่จะไม่ไปเรียนจริงๆหรอ? ก็ ยังต้องให้พ่อแม่เอาเงินให้อยู่ดี?” นภันต์วิเคราะห์อย่าง คนมีเหตุผล ในบางครั้ง เขาก็คิดเพื่อปาณีจริงๆ
ปาณีมองไปยังเขา “พ่อแม่ไม่มีทางเอาเงินให้พี่ เรียนหรอก และพวกเขาก็จะไม่มีทางที่จะให้นายดรอป เรียน”
แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ต้องการแล้ว แต่ว่า สำหรับ ปาณีแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะผ่านเรื่องนี้ไป
สิ่งที่พ่อแม่ลำเอียง เป็นปมในใจของเธอ
แม้เธอจะเป็นลูกสาว แต่ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ของพวกเขานะ วิธีปฏิบัติต่างกันขนาดนี้เลยหรอ?
นภันต์พูดว่า “ให้สิ เพราะยังไงผมก็จะไม่เรียน ผม เรียนไปก็เสียเงินเปล่าๆ ขอแค่ผมไม่เรียน แม่ก็จะเอา เงินออกมา”
ปาณีมองหน้านภันต์ ไม่ได้เตรียมตัวจะออกไปอีก ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเธอเชื่อว่าพ่อแม่จะให้เธอเรียนต่อ แต่
เป็นเพราะว่าเธอไม่สะดวกที่จะทำสงครามเย็นกับฝนสิริ
อีกต่อไป
ควรจะให้คำตอบกับทางบ้านวิสิทธิ์เวชได้แล้ว!
นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธอมาในวันนี้
เร็วมาก ฝนสิริก็พาคนบ้านแก้วใสเดินเข้ามา
“นั่งสิคะ! นี่ลูกสาวของดิฉันค่ะ ปาณี นี่ก็ลูกชาย ของดิฉัน นภันต์ค่ะ” ฝนสิริต้อนรับแม่ลูกบ้านแก้วใส อย่างกระตือรือรั้น
ปาณีกับนภันต์ไม่ได้พูดอะไร ปาณีไม่อยากแสดง ท่าทีที่กระตือรือร้น กลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าเธอมีใจให้ และ นภันต์ก็ถูกมองข้ามอย่างไม่มีตัวตน
จริมคนนี้ดูจากการแต่งตัวก็น่าจะอายุ 40 แล้ว เป็นคนที่จะมาดูตัวที่แม่หาให้จริงๆหรอเนี่ย?
ฝนสิริเห็นลูกๆทั้งสองคนนั่งนิ่ง พูดว่า “ยังไม่รีบ ทักทายคุณน้าอีก?”
“สวัสดีครับคุณน้า” นภันต์ทักทาย