ตอนที่ 104
มองไปยังธามนิธิอีกครั้ง เสื้อผ้าบนตัวเขามองไม่ เห็นแม้แต่โลโก้ ไม่รู้ว่าไปซื้อของโนเนมมาจากไหน ก็ ยิ่งดูถูกธามนิธิเข้าไปอีก
จริมเก็บมือที่ยื่นเข้ามา ไม่ได้สนใจธามนิธิอีกต่อ ไป แต่กลับจ้องมองปาณี พูดจาแปลกๆว่า “เธอเป็นผู้ หญิงตัวคนเดียว ไม่รู้เรื่องอะไร อยากให้คนที่ระเกะระกะ ที่ไหนก็ไม่รู้มาหลอกเอาล่ะ”
“คนที่ระเกะระกะ?” ปาณีมองไปยังจริม ในสายตา ของเธอ จริมก็คือคนที่ “ระเกะระกะ คนหนึ่ง อดไม่ได้ที่ จะหัวเราะ แล้วพูดว่า “คุณพูดถึงตัวเองหรอคะ?”
“เธอ…” จริมโกรธเล็กน้อย แม่ของเธอเป็นคน เมืองชลธี ครอบครัวของปาณีก็เป็นคนเมืองชลธีเช่นกัน แม้เขากับปาณีจะไม่ได้ลงเอยกัน ก็ยังฝืนพูดได้ว่าเป็น
คนบ้านเดี่ยวกัน!
จริมพูดด้วยความโกรธว่า “ผู้หญิงที่ไม่เคยเรียน หนังสือนี่น่ากลัวจริงๆเลย มีเวลาไปมั่วกับผู้ชายแบบนี้ ฉันขอเตือนให้เธออ่านหนังสือเยอะๆจะดีกว่านะ!”
“อ้อ” ปาณีตอบไปอย่างหมั่นไส้ นึกถึงพี่ชายคนนี้ จบมาจากโครงการ 985 ไม่กล้าหาเรื่องจ้า
เธอไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับจริม มีคำพูดอยู่ว่า สามารถโต้เถียงหรือแสดงความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้ สำหรับคนที่มีความเห็นคล้ายคลึงกัน แต่อย่าไปสนใจหรือถือสาคนโง่เลย
เขาโง่ขนาดนี้ เธอไม่ถือสาเขาหรอก ไม่อย่างนั้น ตัวเองก็จะพลอยโง่ไปด้วยน่ะสิ?
ปาณีพูดกับธามนิธิว่า “คุณอา เราไปทานข้าวกัน เถอะค่ะ!”
ไม่อยากเสียเวลาอันมีค่าบนตัวของจริม
ธามนิธิกลับไม่ขยับตัวเลย มองไปทางจริมด้วย สายตาที่หยิ่งและเย็นชา “นายกับปาณีของฉันสนิทกัน มากหรอ?”
เขาเน้นที่คำว่า ของฉัน” เป็นพิเศษ ปาณีเป็นคน ของเขาต่างหาก
จริมยังคงโมโหอยู่ กลัวว่าจะมีความสัมพันธ์ เกี่ยวข้องกับครอบครัวของปาณี “ไม่ได้สนิทกันมากเท่า ไหร่ ก่อนหน้านี้ก็แค่เคยทานข้าวมื้อเดียว”
“ถ้าอย่างนี้แล้ว นายมีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์มั่วๆต่อ หน้าเธอ” แววตาของธามนิธิไม่เป็นมิตรอย่างมาก เมื่อกี้ เขาแค่นั่งนิ่งๆอยู่ตรงนั้น แต่ตอนนี้รังสีอำมหิตกลับแผ่ ขยายไปทั่ว
จริมไม่พอใจธามนิธิตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จึงพูดจา โจมตีปาณี และถือโอกาสประชด เหน็บแนมธามนิธิไป ด้วย
ในเวลานี้ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของธามนิธิแล้ว แต่เดิมเขาอยากเถียงกลับ แต่พอเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นสายตาของธามนิธิแล้ว กลับทำให้เขาอึ้งไปสักพัก
ทั้งๆที่คนๆนี้นั่งอยู่บนรถเข็น แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ
อะไร จริมถึงเกิดภาพหลอนว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีตำแหน่ง สูงกว่าเขา ความรู้สึกแบบนี้ เขาเคยมีมาก่อนหน้านี้ ตอนที่
บริษัทต้อนรับผู้บริหารใหญ่ท่านหนึ่ง แต่ว่า ธามนิธิดูไป
แล้วอายุยังน้อยอยู่เลย คงไม่ใช่หรอกมั้ง?
แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้จริมก็ไม่สามารถเถียงออกมา ได้เลยแม้แต่คำเดียว โดนธามนิธิด่าฟรีๆ
แฟนของเธอเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว รีบดึง แขนของจริม “เรากลับกันเถอะค่ะ!”
เธอมักรู้สึกว่า ธามนิธิคนนี้ ไม่ใช่คนที่จะหาเรื่อง ได้ง่ายๆ..
หลังออกจากร้านอาหารแล้วจริมถึงได้สติกลับมา ไม่คาดคิดเลยว่าถูกคนอื่นว่าเพียงประโยคเดียว
จะทำให้เขาตกใจมากขนาดนี้? แฟนที่อยู่ข้างๆเขาอุทานออกมาว่า “เมื่อกี้ผู้ชาย คนนั้นหล่อมากเลย!”
แม้ว่าธามนิธิจะนั่งรถเข็น แต่ว่าหน้าตาเขาดีมาก ถ้าหากเขาลุกขึ้นยืนได้ ไม่รู้ว่าจะหล่อขนาดไหน ไม่เพียงแต่เท่านี้ ไวยาตย์ที่เป็นลูกมือของเขาก็
หล่อกว่าจริมไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ คำพูดของแฟนสาว สำหรับจริมแล้ว เปรียบเสมือนน้ำมันที่ราดลงไปในไฟที่กำลังลุกไหม้ แต่เพราะเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน เขาจึงไม่กล้าพูด อะไรมากนัก
หลังจากที่จริมออกไปแล้ว ปาณีถึงจะมองธามนิธิ ที่กำลังโมโหแวบหนึ่ง พูดอย่างเอาอกเอาใจว่า “คุณอา เราไปกินข้าวกันเถอะ?”
ธามนิธิมองปาณีที่กำลังจะเข้ามาจับมือตัวเอง แวบหนึ่ง ไม่ได้สนใจเธอแต่อย่างใด ส่งสัญญาณให้ไว ยาตย์เข็นเขาเข้าไปในร้านอาหาร