ตอนที่ 296
เขาพูดว่า “ไม่ใช่แน่นอน พวกเขาเป็นบริษัทใหญ่ มีสินค้าขายทั่ว ประเทศ ครอบครัวเราแค่ทำธุรกิจเล็กๆ ฉันมีอิทธิพลขนาดนั้นที่ไหนกัน”
“ทำธุรกิจเล็กๆ?” ปาณีมองไปยังธามนิธิอย่างไม่อยากเชื่อ เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าธามนิธิทำธุรกิจอะไร
แต่ปกติดูภาพพจน์การออกงานเขาแล้ว รู้สึกว่าจะไม่ธรรมดานะ
ธามนิธิเบ้ปาก มองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยนั้น พูดล้อว่า “ทำไมสามีเป็นแค่เถ้าแก่ของบริษัทเล็กๆ เลยทำให้เธอผิดหวังหรอ?”
ปาณีนั่งลง “ไม่ใช่ค่ะ หนูแค่กำลังคิดว่า ดูเหมือนทำธุรกิจจะได้เงินมาก เลยนะคะ ทำธุรกิจเล็กๆยังอยู่บ้านใหญ่โตขนาดนี้ได้เลย”
“..” ธามนิธิมองไปยังรอบๆห้องนอนที่รวมห้องน้ำแล้วใหญ่กว่า 100 ตารางเมตร เชิดหน้าพูดอย่างจริงจังว่า “ก็ยังโอเคนะ เพื่อนของพี่แนะนำมา ได้มาในราคาทุน เลยไม่ได้แพงมาก
“ยังทำแบบนี้ได้หรอคะ?” ถือเป็นความรู้ใหม่ของปาณีเลย
รามนิธิพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “เธอก็รู้ว่าพี่เขยร่วมหุ้นกับคนอื่นในการ บุกเบิกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น คนที่รู้จักก็พวกแวววงเดียวกันหมด ราคาบ้านถือถือว่าถูกกว่าราคาตลาดมาก”
“.* ปาณีมองไปยังธามนิธิ “แต่ทำไมหนูได้ยินมาว่า บ้านที่เมืองชลธี พี่เขยเป็นคนบุกเบิกเองล่ะคะ”
รามนำไอแค่กๆ ปรับโทนเสียงตัวเอง “พี่เขยร่วมหุ้นกับคนอื่น ในความ
เป็นจริงแล้วก็แค่ช่วยคนอื่นทำงานก็แค่นั้นเอง”
“แล้วบ้านที่เราอยู่ตอนมาที่เมืองชยุตแรกๆล่ะ?”
“แน่นอนว่าต้องเข่าสิธามนิธิเงยหน้าขึ้น มองไปยังเพดาน “ตอนนี้บ้าน หลังนี้ยังผ่อนอยู่เลย ตอนนี้ฉันมีหนี้ท่วมตัว แล้วยังนั่งอยู่บนรถเข็นอีก เธอจะ รังเกียจฉันไหม?”
พูดจบ สายตาของธามนิธิก็เต็มไปด้วยความน้อยใจ
ปาณีรู้สึกว่าเขากำลังล้อเล่นอยู่ แต่สายตาของตากลับเหมือนเรื่องจริง เธอกำลังคิดในใจ ไม่ได้รีบร้อนตอบอะไร เห็นเธอไม่พูดไม่จา ธามนิธิพูดอย่างเสียใจว่า “ปาณีต้องรังเกียจฉันแน่ๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างตั้งแต่แรก ฉันจะไม่ได้เรื่องจริงพวกนี้กับเธอเลย”
้ ปาณีกลัวเขาจะเสียใจจริงๆ รีบพูดว่า “หนูไม่ได้รังเกียจคุณค่ะ ไม่เป็นไร รอหนูทำงานก่อน แล้วเรามาผ่อนบ้านนี้ด้วยกันนะคะ” ธามนิธิเห็นว่าเธอเชื่อคนพูดของตัวเองสักที ยิ้มแล้วจับมือเย็นๆของเธอ
มากุมไว้ ให้เธอแต่งงานกับฉัน ทำให้เธอลำบากแล้ว แต่ว่าในอนาคตฉันจะดี
กับเธอแน่นอน แพ้จะไม่มาก แต่ว่า ทั้งหมดที่ฉันมี ฉันจะให้เธอ”
“.” ฝ่ามือของเขาอุ่นมาก น้ำเสียงอ่อนโยนมากอีกต่างหาก ปาณีรู้สึก ตื้นตันใจเล็กน้อย เธอนึกถึงที่อยู่ที่คนๆนั้นส่งมาให้เธอ ถ้าพูดอย่างนี้ก็น่าจะ เป็นเรื่องบังเอิญ นะ “งั้นพรุ่งนี้หนูลองไปดูที่บริษัทนั้นดูนะคะ”
ข้อมูลที่สามารถหาดูในเน็ตได้อาจไม่มีมูลความเป็นจริงทั้งหมด พรุ่งนี้ ไปคุยกันต่อหน้า ไม่แน่เธออาจมีความคิดที่ไม่เหมือนเดิมก็ได้
นึกถึงเรื่องผ่อนบ้าน ทันใดนั้นปาณีก็รู้สึกว่าภาระของตัวเองนั้นมากขึ้น เธอจะพยายามหาเงินมากขึ้น แบบนี้ถึงจะแบ่งเบาภาระของคุณอาได้
ผ่านไปสักพัก ธามนิธิขึ้นมาบนเตียง เห็นปาณีก็ไต่ขึ้นมาบนเตียงด้วย เธอเอาอะไรบางอย่างใส่ไว้ในมือเขา
เขาอึ้งไปสักพัก มองไปยังบัตรและธนบัตรในมือ “นี่คืออะไร?”
ปาณีอธิบายว่า “ในบัตรนี้เป็นเงินที่เก็บออมในช่วงนี้ และก็ยังมีเงินอีก นี่
เป็นอั่งเปาที่หนูได้จากคุณพ่อคุณแม่ของคุณตอนไปบ้านคุณครั้งแรก แม้รู้ จะรู้ว่ามันไม่มาก แต่ว่า คุณลองดูว่าจะช่วยอะไรคุณได้ไหม!” เทอมก่อนเธอใช้เงินของธามนิธิเยอะขนาดนี้ คิดๆไปยังรู้สึกละอายใจ