ตอนที่ 286
ในสายตาของปาณีเป็นการเพ้อฝัน แต่ในสายตาของเขานั้น กลับดู เหมือนต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว
แววตาของเขา ทำให้ปาณีหลบสายตาด้วยความตื่นเต้น
เธอคิดมากเกินไปหรือเปล่า?
จู่ๆก็เหมือนเธอถูกสารภาพรักซะงั้น
แต่ว่า คุณอาก็คือคุณอาจริงๆ ขนาดสารภาพรักยังทำให้รู้สึกสบายใจ
ขนาดนี้
ปาณีคิดถึงแม่ของตัวเอง ปีนี้ก็อายุ 40 กว่าปีแล้ว อีกไม่อีกปีก็จะ 50 แล้ว แต่ก็ยังคงต้องทำงานอยู่ทุกวัน
เพราะว่าเงินที่พ่อหามาได้นั้น ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัว ดังนั้น เธอจึงจำเป็นต้องออกไปทำงานอย่างพยายาม เคยมีช่วงเวลาหนึ่ง ปาณีไม่ทำงาน ช่วงที่ไม่มีรายได้ และก็เป็นช่วงที่
ทะเลาะกับพ่อหนักที่สุดเหมือนกัน
และอาจเป็นเพราะแบบนี้ แม่ถึงมองว่าเงินมีค่ามากเป็นพิเศษ
ดังนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสามารถได้ยินผู้ชายพูด ว่า ฉันจะเลี้ยงเธอทั้งชีวิตนี้เอง
ปาณีหลับไปสักพัก ตอนตื่นนอนก็เที่ยงพอดี
เธออาบน้ำ แล้วรวดเปลี่ยนผ้าปูไปด้วย
น้าลำมุงเดินเข้ามาจากข้างนอก มองไปยังเธอที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เล็ก กำลังชักผ้าปูที่นอนในกาละมังอยู่ จึงรีบวิ่งเข้ามา “คุณหนูปาณีคะ ทำไมคุณ หนูมาชักผ้าปูเองล่ะคะ? ป่วยก็ควรนอนพักดีๆ เรื่องพวกนี้ให้น้าทำก็ได้แล้ว
ค่ะ”
“ไม่ ไม่เป็นไรค่ะ” ปาณีทำตัวไม่ถูก ตอนเธอตื่นนอนพบวาบนผ้าปูมี คราบเลือดอยู่ ไม่อยากให้คนใช้เห็นจึงซักด้วยตัวเอง เธอพูดกับน้ำมุงว่า “หนูจะชักเสร็จแล้วค่ะ”
น้าลำมุงพูดว่า “น้าได้ยินไวยาตย์บอกว่าคุณหนูป่วย ป่วยหนักไหมคะ?” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินยาแล้ว” เธอแค่เหนื่อยมากเกินไปหน่อย จึงเป็นไข้ ก็ไม่ได้ป่วยหนักอะไรจริงๆ
น้าลำมุงนั่งลง “คุณหนูรีบไปพักเถอะค่ะ เดี่ยวน้าจัดการเอง” เห็นปาณีป่วยแล้วยังต้องทำงานอีก เธอรู้สึกปวดใจมาก
ปาณีพูดว่า “ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ” ขณะที่ทั้งสองคนดึงไปดึงมานั้น ธามนิธิก็เคลื่อนรถเข็นเข้ามา
เขาตื่นไวกว่าปาณีนิดหน่อย เมื่อกี้จึงไปห้องทำงานมาก
“มีอะไรกัน?”
น้าลำมุงถอนหายใจ “คุณหนูป่วยแล้วยังมาชักผ้าปูอีก น้าบอกน้าทำเอง เธอก็ไม่ยอม
ธามนิธิตอบว่า “น้าไปเตรียมอาหารให้เธอเถอะครับ ปาณีคงหิวมาก แล้ว”
“ก็ได้ค่ะ”
หลังจากน้าลำมุงออกไป ธามนิธินั่งอยู่บนรถเข็น มองไปยังปาณี “เธอ ทำอะไรอยู่?”
ปาณีเอาสบู่ถูลงไปบนผ้าปู รู้สึกเบื่อหน่ายมาก ผ้าปูผืนนี้ด้นมาเป็นสี ขาวอีก คราบเลือดบนนั้นล้างยังไงก็ล้างไม่ออก
เธอตอบว่า “ผ้าปูสกปรกค่ะ หนูกลัวน้าลำมุงจะเห็น
ธามนิธิมองไปยังผ้าห่มที่แช่อยู่ในกองฟองสบู่นั้น พูดอย่างปวดใจว่า “ผ้าปูในบ้านซักแห้งหมด แบบนี้ก็ถูกเธอซักจนเสียหมดนะสิ”
ปาณีดึงผ้าปูที่เปียกปอนนั้นขึ้นมา “งั้นทำยังไงคะ? เอาทิ้งหรอ?” ตอนเธอนอนคนเดียว ผ้าปูก็ใช้น้ำซักหมดเลย ไม่คิดเลยว่าผ้าปูยังจะ ดูแลขนาดนี้
“ทั้ง?” ธามนิธิมองไปยังเธอ สีหน้าหนักใจ “เธอรู้ไหมว่าผ้าปูชุดนี้ราคา เท่าไหร่? ครูที่โรงเรียนไม่เคยสอนรีไงว่าการประหยัดเป็นประเพณีอันดีงาม ของประเทศจีนเรา?”
แต่เดิมปาณียังรู้สึกปวดใจแทนผ้าปูอยู่ แต่พอเห็นท่าทางเข้มขรึมของ
รามนิธิแล้ว จู่ๆก็รู้สึกตงิดๆชอบกล? “คุณดุฉัน?”
ตอนอยู่บนเตียงยังเป็นคนอบอุ่นอยู่เลย นี่กลับหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว
หรอ!
้ ธามนิธิอึ้งไปสักพัก พูดว่า “ฉันแค่รู้สึกปวดใจ เธอไม่สบายแล้วยัง
ต้องมาซักผ้าปูอีก?”