ปาณีหัวเราะร่วน “ก็คุณเป็นสามีของฉันอยู่ แล้ว ! เป็นมาตลอด
ธามนิธิเห็นเธอแบบนี้แล้ว ก็ได้แต่จูบริมฝีปาก ที่ริมฝีปากเธอ
ตอนเช้าแปดโมงกว่า ปาณีตื่นนอนขึ้น ก็พบว่า ธามนิธิออกไปทํางานแล้ว
ช่วงนี้เขาออกไปแต่เช้าทุกวัน ได้ยินว่างานยุ่ง จนแม้แต่ข้าวกลางวันก็ไม่ได้ทาน ไม่รู้ว่ายุ่งอะไร ขนาดนั้น
ถึงแม้จะอยู่บ้านเดียวกัน แต่ถ้าเป็นเรื่องงาน แล้ว ปาณีรู้สึกว่าเธอกับธามนิธิเหมือนอยู่กันคนละ โลก
งานของเธอ เขาไม่เข้าใจ
งานของเขา แค่ฟังเธอก็ยังไม่เข้าใจ
ปาณีลุกขึ้นจากเตียงนอน ไปบ้วนปาก พบว่า บนอ่างล้างหน้า มีแปรงสีฟันของเธอที่มียาสีฟันบีบ ไว้แล้ววางอยู่
นี่ จะเอาใจกันเกินไปหรือเปล่า?
เขาเอาใจจนเธอรู้สึกประหลาดใจ พอมองไป ที่กระจก ก็มีข้อความอรุณสวัสดิ์ติดอยู่
เป็นลายมือของเขา เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ดูไม่ออกเลยว่า คุณอาจะเป็นได้ถึงขนาดนี้
งานยุ่งขนาดนั้น ยังนึกถึงเธอได้ ทำให้เธอ รู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีกว่าใครๆ
หลังจากจบชั่วโมงเรียนแล้ว ปาณีก็ไปที่บริษัท ของธีระ
เพราะว่าเธอยังเป็นนักศึกษาอยู่ ดังนั้น จึงเป็น เพียงนักศึกษาฝึกงาน ไม่เหมือนคนอื่นๆที่ต้องเข้า ออกงานตามเวลา เมื่อไรที่เธอมีเวลาจะเข้าบริษัท ตอนไหนก็ได้
ธีระดีต่อเธอมาก หนึ่งเป็นเพราะธามนิธิที่ ทําให้ต้องดูแลเธออย่างดี สองเป็นเพราะตัวของ ปาณีเองที่เป็นคนเข้ากับคนง่าย ทั้งเป็นคนฉลาดพูด อีกด้วย
ถึงแม้อายุยังน้อย แต่ทํางานเป็นที่วางใจได้ ทําให้ใครๆก็อยากทํางานกับเธอ
ครึ่งปีมานี้ กิจการของบริษัทดำเนินไปได้ดี มาก มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทําให้มีพนักงานกว่า ร้อยคนเข้าไปแล้ว
ปาณีเดินตามหลังธีระเข้าไปในห้องทํางาน ถามว่า “คุณเป็นเจ้าของบริษัทนี้หรือคะ?”
ธีระมองไปที่ปาณี ตอบยิ้มๆว่า “ไม่ใช่อยู่แล้ว”
เขารู้ว่าปาณีมีสถานะเป็นภรรยาของธามนิธิ เพียงแต่ไม่นึกว่า ถึงป่านนี้แล้ว ปาณีกลับไม่รู้สึกนิด ว่า บริษัทนี้เป็นของธามนิธิ
เขาเป็นคนฉลาด จึงไม่พูดอะไรมาก
แล้วเจ้าของเป็นใครกัน ปกติจะเข้าบริษัท หรือเปล่าคะ? ” ปาณีรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เธอค่อนข้างสนิทสนมกับ ระแล้ว นึกอยาก
ถามอะไรก็ถามขึ้นตรงๆ ธีระมองเธออีกครั้ง ตอบยิ้มๆว่า “ไม่เคยเข้ามา เลยสักครั้งเดียว”
ธามนิธิไม่เคยเข้ามาที่บริษัทแห่งนี้เลย แม้แต่ ไวยาตย์ก็ไม่เคยมา นั่นเพราะว่าบริษัทแม่ส่งเขาให้ มาดูแล และรับผิดชอบบริษัทสาขาแห่งนี้
ปาณีพูดขึ้นว่า “ดูลึกลับจัง”
พอได้ยินคําว่าลึกลับ ธีระก็เกือบหลุดหัวเราะ ออกมา
แต่ว่า เพราะกลัวจะโดนไวยาตย์ด่าเอา เขา จึงอดทนไม่พูดอะไรที่จะไปทำให้ปาณีเกิดความ สงสัย
ได้แต่พูดตามน้ำไปว่า “ดูเหมือนว่าทาง เจ้าของบริษัท มีบริษัทที่ต้องดูแลเยอะมาก เลย ทําให้เข้าไปดูแลได้ไม่ทั่วทุกแห่งน่ะ”
กิจการที่อยู่ในเครือธุรกิจของตระกูลวิสิทธิ์ เวชมีมากมายนัก อสังหาริมทรัพย์ หนังละคร งานสื่อ ภัตตาคาร…..
หลังจากธามนิรลาออกจากราชการ ก็กลับมา รับช่วงธุรกิจของตระกูลต่อ
ปกติเขาจะยุ่งกับงานหลักที่ดูแลอยู่จนไม่มี เวลามาดู บริษัทเล็กๆที่ซื้อมาโดยไม่ยากเย็นแห่งนี้ไม่มีความจําเป็นต้องมาดูแลด้วยตัวเอง
ปากพยักหน้ารับอย่างเหมือนรู้เรื่อง “คนราย มักทําอะไรตามใจเสมอ”
มาถึงปานนี้ เธอยังไม่รู้อยู่ดีว่า ตระกูลวิสิทธิ์ เวช นรารวยมากขนาดไหน
ทีแรกก็ร่ำรวยพอๆกับตระกูลพิมพ์สาร
บางทีอาจจะรวยกว่าด้วยซ้ำไป
ในสายตาของเธอ คิดแค่ว่าครอบครัวที่มี กิจการของตัวเอง เทียบกับคนยากจนข้นแค้นอย่าง เธอแล้ว ก็ถือว่ารวยมากทั้งนั้น
แต่ว่าภายหลังเธอถึงพบว่า ไม่ใช่อย่างที่เธอ
แต่ก็จนปัญญาเธอที่จะจินตนาการออก
เลิกงานแล้ว ธีระกับปาณีออกไปหาอะไรทาน ด้วยกัน ธามนิธิติดงานเลี้ยงรับรองแขก จึงมาดูแล เธอไม่ได้