เธอได้แต่ทำตาปริบๆมองพวกเขาเดินออกไป ทั้งแบบนั้น
“ฉันบอกเธอแล้วว่าอย่าไปยุ่ง” นลินอค หน้
เธอไม่ได้ “ถึงพวกเขาจะหย่ากันจริงๆ ก็ไม่มี ประโยชน์อะไรกับเธอนี่” เกิดธามนิธิหย่ากับปาณีขึ้นมา ไม่แน่ว่าอาจ กลับมาหาเธอก็เป็นได้
ตอนที่ธามนิธิแต่งงานไป หลังจากเธอสงบใจ ได้แล้ว ถึงกล้ากลับมาที่นี่
“ที่ฉันทําเพราะเป็นห่วงเธอหรอกนะ” พูดถึง ตรงนี้ เณศราอดไม่ได้ที่จะมองค้อนนลิน “เธอนี่ก็ช่าง อดทนเก่งจริง ธามนิธิบีบครอบครัวเธอถึงขนาดนี้ ถ้าเธอไปอ้อนวอนเขา ยอมขอโทษเขาเสียหน่อยจะ เป็นไร?”
“ให้ไปอ้อนวอนเขาน่ะหรือ?” นลินเห็นเป็นเรื่อง ขบขัน “ฉันไม่ไปหรอก”
“จริงเขาไม่เลวเลยนะ บางทีถ้าเธอยอม ขอโทษ เขาอาจให้อภัยเธอก็ได้” เณศราคิดหวังดีต่อ เพื่อนที่เคยอกหัก รักมาก่อน
นลินมองเธอแล้วพูดขึ้นว่า “ตอนฉันเพิ่งกลับ มาใหม่ๆเคยไปพบเขา ท่าทีของเขาคงไม่ต้องพูดถึง หรอกนะ เธอคิดว่าฉันจะทําอะไรได้? หรือต้องให้ไป นอนออดอ้อนเขา?
ก้าหากธามนิธิเป็นเหมือนเมื่อก่อน จะให้เธอ ไปออดอ้อนเขายังไงก็ได้ แต่ทว่า ผู้ชายที่นั่งอยู่บน รถเข็นแบบนี้ เธอไม่เคยนึกจะสนใจ
เณศรามองเห็นท่าทางเธอเป็นแบบนี้ ก็ไม่รู้จะ พูดอะไรอีก “แล้วเธอไม่กลัวว่าพ่อเธอจะโกรธแย่ หรือ?”
“กลัวสิ ! แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เธอก็รู้นิสัยฉันนี้ นลินพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า “เธออย่าเอาฉันไป เกี่ยวข้องกับเขาอีกเลย ฉันกำลังเตรียมตัวจะไป ปักกิ่งแล้ว”
“ไปปักกิ่ง ?”
“วันเกิดแม่บุญธรรมนะ” นลินอาจยอมก้มหัว ให้กับคนอื่น แต่จะไม่ยอมให้กับธามนิธิเป็นแน่ “ฉัน จะไปเยี่ยมท่านหน่อย วันเกิดท่านปีที่แล้วก็ไม่ได้ไป
ปีก่อนเป็นเพราะว่าต้องการหลบหน้าธามนิธิ เธอจึงหนีไปเมืองนอก ดังนั้น วันเกิดของแม่บุญธรรม ปีนี้ ยังไงก็ต้องไป
และที่สำคัญ เธอตั้งใจจะไปเจอเมธชนัน กลับมาคราวนี้ นลินได้เปลี่ยนเป้าหมายไปที่ เมธ นันแทน
ถ้าคนอย่างนลิน มีสุวรรณ์จะแต่งงาน ต้องได้ แต่งกับผู้ชายที่มีพร้อมที่สุดในโลก เธอไม่อาจใช้ ชีวิตรวมกับคนที่นั่งรถเข็นไปตลอดชีวิตได้หรอก
แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกเสียใจก็คือ ครั้งก่อนที่เมธ ชนันมาที่เมืองชยุต เธอโทรไปหาเขาถึงสองครั้ง แต่เขาไม่ยอมมาพบเธอ
ดังนั้นการไปปักห่งในครั้งนี้ เธอต้องคว้า โอกาสนี้ไว้ให้ได้
ไวยาตย์กับธามนิธิเดินออกจากลิฟต์ ส่วน ปาณีกับธีระก็เต้นตามหลังมา
เธอหันไปหาธีระ พูดว่า “งั้นวันนี้ฉันกลับก่อน นะคะ”
ได้สนทนากับธีระตั้งนาน เธอรู้สึกว่าคุย พอแล้ว ไว้ตอนอยู่ที่บริษัท ค่อยถามเขาถึงเรื่องต่างๆ ต่อ
ธีระพยักหน้ารับ “ได้”
ทั้งสองคนเดินออกมา ก็เห็นธามนิธิขึ้นรถไป แล้ว กําลังมองมาที่พวกเขา
ธีระกับปาณีคุยกันแต่เรื่องงาน จึงไม่ได้รู้สึก อะไร แต่พอเดินออกมา เมื่อเจอกับสายตาของธา มนิธิเข้าไป ถึงกับชะงักเลยทีเดียว ทำไมถึงรู้สึกว่า สายตาของท่านประธาน นำ
กลัวจังเลยแฮะ?
พอเขาเห็นสายตาแบบนั้นของธามนิธิ ก็ก้มหัว ลงอย่างนอบน้อม แล้วหันไปส่งสัญญาณกับไวยาตย์ ถึงจะไปบอกลาปาณี
ปาณีพูดขึ้นว่า “งั้นฉันไปก่อนนะคะ บาย” พอเธอขึ้นรถแล้ว ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป ยังหันไปโบกมือใหธีระ
ทําท่าราวกับอยากคุยกับธีระต่ออีกสองชั่วโมง อย่างนั้นล่ะ !!
ธามนิธินั่งอยู่ข้างๆ มองไปที่ภรรยาของตัวเอง ดูท่าทีสบายๆกับผู้ชายคนอื่นแล้ว ก็ขมวดคิ้ว ทำไม ตอนปาณีอยู่กับเขาไม่เห็นว่าเธอจะกระตือรือร้น ขนาดนี้เลย?
ปาณีนั่งอยู่ข้างๆ มองไปที่ธามนิธิ เห็นเขา กำลังจ้องมองเธออยู่ จึงถามขึ้นว่า “มีอะไรหรือคะ?”