แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่611
ตอนนี้เธอเริ่มสงสัยเล็กน้อย ว่าเมื่อสักครู่คุณอาพูดอะไรกับจอมพลนรเทพ
ธามนิธิมองดูภรรยาของเขาที่กำลังพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะพูดกับท่านจอมพล :” เธอยังกล้าๆกลัวๆ แล้วยังอายด้วย อย่าถือสาเธอเลยนะครับ ”
” ไม่เป็นไร ” ท่านจอมพลพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล :” เมื่อกี้ฉันเพิ่งจะทำให้เธอตกใจเองน่ะแหละ ”
” ปาณี รีบทักทายท่านสิ ” ธามนิธิสอนเธอ
ปาณีพูดด้วยความประหม่า :” สวัสดีค่ะท่านจอมพล ”
เสียงของเธอช่างเหมือนกับตัวเธอตอนนี้เลย เเข็งทื่อไปหมด
ความรู้สึกนี้มันประหม่ายิ่งกว่าตอนเจอครูใหญ่ที่โรงเรียนเสียอีก
จอมพลนรเทพส่งยิ้มให้เธอ :” ธามนิธิมันเรียกฉันว่าลุงทินพล เธอก็เรียกตามเขาก็เเล้วกัน ”
ฟังเธอเรียกว่าท่านจอมพล มันฟังดูแปลกๆ
อีกอย่างตอนนี้ธามนิธิก็ไม่ได้อยู่ในกองทัพแล้ว ก็ยิ่งไม่จำเป็นที่จะเรียกเขาว่าท่านจอมพล
ปาณีเปลี่ยนคำพูดใหม่ :” ลุงทินพล ”
ชายชรายิ้มให้พร้อมกับทำเสียงตอบรับ ” เอ้อ ” เขาชงชาให้เธอถ้วยหนึ่ง ก่อนจะยื่นถ้วยชานั้นมาตรงหน้าเธอ
ถ้วยชาสีขาวที่มีใบชาสองใบลอยอยู่ในน้ำ
จอมพลนรเทพพูดกับปาณีว่า :” เมื่อครู่นี้ฉันเข้าใจผิดไปเอง เธอก็อย่าถือสาเลยนะ ฉันคงไม่ได้ทำให้เธอตกใจใช่มั๊ย ?”
ปาณีมองเขาอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเองเท่าไหร่ เเละไม่เข้าใจที่เขาพูดว่าเข้าใจผิด มันหมายถึงอะไรกัน
เเต่ถึงกระนั้น เธอก็รีบส่ายหน้าทันที ” ไม่เลยค่ะ ”
” ชาถ้วยนี้ถือเป็นการขอโทษก็เเล้วกัน เธอลองดื่มดูสิว่าอร่อยหรือเปล่า ” จอมพลนรเทพมองดูปาณีด้วยความเมตตาเอ็นดู สายตาช่างดูเหมือนปู่มองดูหลานยังไงยังงั้น
ปาณีใช้มือทั้งสองประคองถือถ้วยชา ดมกลิ่นของชาถ้วยนั้น ก่อนจะค่อยๆจิบน้ำชา ” อร่อยมากค่ะ ”
จอมพลนรเทพรีบคุยโม้ว่า :” เมื่อวันก่อนมีคนให้ชานี้กับฉันมา เป็นใบชาใหม่ของปีนี้เลยนะ มีเเต่คนอยากจะได้ลิ้มลอง เเต่ก็ไม่มีใครได้ดื่ม มีเพียงแค่เธอกับธามนิธิเท่านั้น ที่ฉันอยากให้ได้ลองดื่มดู ”
” เป็นเกียรติของผมเลยครับ ” ธามนิธิพูด
” คุณท่านไม่รังเกียจหนูเเล้วเหรอคะ ?” ปาณีทนเก็บความสงสัยไม่ไหว เลยถามออกมา
เมื่อตอนที่เธอยืนอยู่ตรงทางเดินเมื่อครู่นี้ ในหัวของเธอมีเเต่คำถามนี้
ครั้งเเรกที่เจอหน้าเธอ ก็รีบไล่ตะเพิดเธอออกมา เธออดที่จะสงสัยไม่ได้เลยจริงๆ
จอมพลนรเทพตอบเธอไปว่า :” ฉันจะไปรังเกียจเธอได้ยังไงกัน ?เมื่อตอนที่ขาของเขายังไม่หายดี เธอเต็มใจที่จะเเต่งงานกับเขา คนที่อยู่เคียงคอยดูเเลเขาแบบนี้ เด็กดีอย่างเธอ คงไม่สายเกินไปที่ฉันจะชอบเธอนะ ”
ปาณีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ท่านจอมพลพูดว่าชอบเธออย่างนั้นเหรอ ?
” เเต่ว่าเมื่อสักครู่นี้เพิ่งจะ …… ”
ธามนิธิถึงกับหัวเราะออกมา ก่อนจะอธิบายให้เธอฟังอย่างนุ่มนวล :” ก็เป็นเพราะว่าลุงทินพลได้ยินที่ชนันพูดว่าคุณคือแฟนของผม ท่านคิดว่าพวกเราหย่ากันเเล้ว เเละผมก็มีผู้หญิงคนอื่น ท่านก็เลยโกรธผม เเต่ผมก็อธิบายให้ท่านฟังไปเรียบร้อยเเล้ว ”
ลุงทินพลมองจ้องหน้าธามนิธิ ก่อนจะพูดว่า :” ก็เเกนั่นแหละ ทำให้ฉันเข้าใจผิดหมดเลย เเล้วก็ไม่รีบพูดให้เคลียร์ตั้งเเต่แรก ”
เมื่อได้ยินที่พวกเขาอธิบาย ปาณีก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก
ที่เเท้จอมพลนรเทพก็ไม่ได้รังเกียจเธอ !
เมื่อตอนที่เธออยู่นอกห้อง เธอเข้าใจว่าท่านไม่ชอบเธอมาโดยตลอด คงเป็นเพราะฐานะของครอบครัวไม่ดีพอ และอาจเป็นเพราะเธอไม่ใช่คนเก่งที่มีอะไรโดดเด่น เลยทำให้ท่านคิดว่าเธอไม่คู่ควรกับธามนิธิ
เเต่คิดไม่ถึงว่า ที่เเท้เธอก็เป็นพวกกระต่ายตื่นตูมไปเอง
จอมพลนรเทพพูดกับธามนิธิว่า :” ปาณีเป็นคนดีใช้ได้ แกโชคดีที่ได้เจอผู้หญิงแบบนี้ เมื่อได้เจอเเล้วก็ต้องรักษาเอาไว้ดีๆ ผู้หญิงอย่างเธอใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆนะ ”
ธามนิธิพยักหน้าเบาๆ :” ผมทราบเเล้วครับ ”
ธามนิธิพูดจบก็หันไปมองที่ปาณี เเล้วเขาก็แอบจับมือเธอไว้ที่ใต้โต๊ะ
ต่อหน้าท่านจอมพล ปาณีรู้สึกประหม่ากระวนกระวาย เธอก็เลยชักมือกลับมา
ท่านจอมพลพูดกับเธอว่า :” แม่หนูนี่สายตากว้างไกล แถมวาสนาดี เมื่อตอนที่เขาบาดเจ็บเธอยังเต็มใจที่จะเเต่งงานกับเขา มาถึงวันนี้เขาจะต้องดูเเลเธอเป็นอย่างดีไปชั่วชีวิต ”
ตอนที่612
ธามนิธิเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาโดยตลอด ในจุดนี้เป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังขาเลย
ในสายตาของจอมพลนรเทพ ปาณีฉลาดกว่านลิน มีสุวรรณ์อยู่มากโข
ช่วงที่ธามนิธิยังดีๆอยู่ นลิน มีสุวรรณ์ ก็แค่คอยให้เขามาเอาอกเอาใจตัวเอง น่าเสียดาย ทำอะไรให้ตั้งมากมาย แล้วได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ?
ผู้หญิงคนนั้นไม่ผ่านบททดสอบเลยสักข้อ
ไม่มีทางที่เธอจะได้อยู่กับธามนิธิอย่างแน่นอน
สำหรับปาณี เธอไม่เพียงเเต่เป็นคนฉลาด อุปนิสัยใจคอก็ดีกว่านลิน มีสุวรรณ์เป็นไหนๆ ดังนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไร ปาณีก็คู่ควรที่ธามนิธิจะรักเเละใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนลิน มีสุวรรณ์
-
ปาณีเเละธามนิธิอยู่พูดคุยกับจอมพลนรเทพอยู่ราวๆครึ่งชั่วโมง ท่านจอมพลคุยกับธามนิธิเยอะมาก เเละยังถามเขาว่าอยากจะกลับเข้ามาในกองทัพหรือเปล่า ซึ่งเขาก็ได้เเสดงเจตนารมณ์ของเขาเองไปเเล้ว
ท่านจอมพลรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยสำหรับเขา เเละก็ไม่ได้บังคับเขา
เมื่อออกมาจากห้องของท่านจอมพล ปาณีรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ เเถมได้ดื่มชาจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
เธอกอดเเขนเขา เเล้วกระซิบพูดเบาๆว่า :” ตอนที่ถูกท่านไล่ตะเพิดออกมาตอนนั้น ฉันก็ยังคิดอยู่ว่า หรือน้านลินจะพูดถูก คิดไม่ถึงว่าก็เเค่เป็นความเข้าใจผิดไปเอง ”
จอมพลนรเทพไม่เพียงเเต่ไม่รังเกียจเธอ เเต่ยังยกย่องชื่นชมเธออีกด้วย
ธามนิธิยิ้มให้เธอ เขาดึงมือเธอมากุมไว้ ก่อนจะพูดว่า ” ตอนนี้คุณสบายใจเเล้วใช่มั๊ย ?บอกแล้วว่าปาณีของผมน่ะดีที่สุดแล้ว ”
คนรอบข้างเขาต่างก็รู้ว่าเธอเป็นคนดี เพียงเเค่เธอยังขาดความเชื่อมั่นก็เท่านั้นเอง
” ดีก็ดีค่ะ เเต่ตอนนี้ฉันอยากไปห้องน้ำมากเลย ” เมื่อสักครู่นี้เธอดื่มชาเข้าไปเยอะมาก ถ้ายังไม่ได้ออกมาข้างนอก เธอก็คงจะทนไม่ไหวเเน่ๆ
ธามนิธิหัวเราะออกมา ” ป่ะ ลงไปข้างล่างกัน ”
ทันที่ที่พวกเขาเดินลงมาถึงชั้นล่าง ก็เห็นนลินที่กำลังรอพวกเขาอยู่
น้านลินพูดกับธามนิธิด้วยท่าทางดูมีความสุขปนๆเย้ยหยัน :” ฉันบอกแล้วไง ว่าอย่าพาเธอไปพบท่านจอมพล จอมพลนรเทพไม่มีทางที่จะชอบเธอหรอก เเล้วตอนนี้เป็นยังไง ?”
ปาณีไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอ ได้เเต่มองไปที่ธามนิธิ
ดูจากท่าทางน้านลินเเล้ว ปาณีรู้สึกขี้เกียจที่จะต่อปากต่อคำกับเธอ
เธอคิดเพียงเเค่ว่าตัวเธอเองนั้นโชคดีแล้ว จอมพลนรเทพท่านก็เป็นคนใจดีมีเมตตา เเละท่านก็ไม่ได้รังเกียจเธอด้วย
มาจนถึงขนาดนี้เเล้ว น้านลินก็ยังมิวายตามมาเย้ยหยันใส่เธออีก
ธามนิธิมองดูนลินด้วยแววตานุ่มลึกเยือกเย็น
เขามองดูผู้หญิงไร้ยางอาย ได้ทีขี่แพะไล่คนนี้ ก่อนจะพูดกับเธอว่า :” แส่ไม่เข้าเรื่อง ”
นลินทำเป็นแข็งใจพูดต่อ :” ก็เพราะว่าฉันเป็นห่วงคุณหรอกนะ ถ้าคุณไม่ฟังฉันเเล้วคุณก็จะเสียใจ ปาณีก็ต้องทุกข์ทรมานใจไปด้วยเเน่ๆ จริงมั๊ย ?ธามนิธิ เธอไม่เหมาะสมกับคุณตั้งเเต่แรกอยู่เเล้ว อีกทั้งตอนนี้พวกคุณก็หย่ากันเเล้วด้วย ยังจะอยู่ด้วยกันอีกทำไม ”
คำพูดคำจาที่เธอพูดออกมาช่างไม่น่าฟังเอาซะเลย เเต่กระนั้นเธอก็ยังจะสร้างภาพเหมือนเป็นคนดีเสียอย่างนั้น
ปาณีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมผู้หญิงคนนี้
ไม่รู้ว่าเธอไปรวบรวมความกล้าหน้าด้านมาจากไหน ถึงได้มายืนพูดกับคุณอาของเธอแบบนี้ ?
ปาณีสุดจะทน จึงสวนกลับไปแบบเจ็บๆว่า ” ถ้าไม่ให้คุณอาอยู่กับฉัน จะให้เขาไปอยู่กับคุณรึไง ?คุณเคยทำอะไรกับเขาเอาไว้บ้างลืมเเล้วหรือไง มาตอนนี้ทำเป็นอยากจะกลับมาอยู่กับเขา หน้าด้านไร้ยางอายจริงๆ ”
ปาณีพูดโพล่งออกไปแบบตรงๆ แต่ก็อย่างว่า เธอไม่จำเป็นต้องมานั่งรักษาภาพพจน์อะไรอยู่เเล้ว
เธออยากพูดอะไร เธอก็จะพูด !
เเละเธอก็คิดว่า ไม่มีคำไหนที่มันไม่จริง
นลินได้ฟังที่ปาณีพูดจบ มือเธอก็กำหมัดแน่นด้วยความโกรธสุดขีด จนอยากด่ากราดใส่ปาณี
แต่เมื่อคิดได้ว่าเธอคือนลิน มีสุวรรณ์ เป็นถึงคุณหนูแห่งตระกูลมีสุวรรณ์ ไม่ใช่คนหยาบคายต่ำต้อยเยี่ยงปาณี นลินจึงทำได้เเค่เพียงควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองไว้
นลินชักจะเริ่มเกลียดสถานะเเละตัวตนของเธอเองมากขึ้นทุกวัน
ถ้าหากเธอทำอะไรโดยไม่รู้จักยั้งคิดเเล้วล่ะก็ ปาณีคงหมดสิทธิ์ที่จะพูดใส่เธอปาวๆแบบนี้เเน่ๆ
เเต่นั่นดันเป็นเพราะว่า เธอเป็นถึงคุณหนูเเห่งตระกูลมีสุวรรณ์ เมื่ออยู่ในสถานที่เเบบนี้ เเล้วเธอเกิดไปโต้เถียงกับยัยเด็กปาณีขึ้นมา คนที่เสียก็คงเป็นตัวเธอเองอยู่วันยันค่ำ
นลินพูดยืนกรานขึงขังต่อไป :” ปาณี ฉันก็หวังดีกับเธอหรอกนะ ถ้าเธอไม่ฟังที่ฉันพูด สุดท้ายเเล้วคนที่เสียใจก็คือเธอ ”
ตอนที่613
” ก็ใช่ไง ” ปาณีพูดปนหัวเราะ :” เเต่ก่อนสมัยที่คุณอายังไม่หายเป็นปรกติ น้านลินก็พยายามโน้มน้าวให้ฉันเลิกกับเขา เเล้วก็บอกว่าเพราะหวังดีกับฉัน แต่ทำไมตอนนี้ฉันกลับรู้สึกว่า ตัวคุณเองก็รู้สึกเสียดายใช่มั๊ย ?ไม่รู้สึกขายหน้าบ้างเลยหรือไง ?ถ้าคุณคิดว่าที่คุณพูดมาทั้งหมดมันถูกต้องเเล้วล่ะก็ ตอนนี้คุณก็ควรอยู่ให้ห่างคุณอาของฉันไว้ อย่าได้พยายามคิดจะจ้องวางแผนทำอะไรกับเขาทั้งนั้น รับทราบเอาไว้ด้วย ”
คำพูดของปาณี ทุกๆคำที่เปล่งออกมา ทำให้นลินรู้อึดอัด กระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างมาก
เธอทำอะไรปาณีไม่ได้ ทำได้เพียงเเค่ เสเเสร้งทำหน้าตาน่าสงสารก่อนจะหันไปทางธามนิธิ ” คุณดูสิ ฉันหวังว่ากะเธอแท้ๆ แต่เธอกลับพูดใส่ฉัน …… ”
ธามนิธิได้ฟังคำพูดของนลิน เขาจึงหันไปจ้องมองที่ภรรยาเเสนรักของเขาอยู่พักใหญ่
ครู่หนึ่งผ่านไป เขาจึงตอบนลินกลับไปว่า ” เเต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า เธอออกจะเกรงใจคุณมากเลยนะ ”
ก็เห็นๆอยู่ว่านลินยังไม่ได้ทำอะไรเลย เเต่กลับเหมือนว่าเธอไปกล่าวหาใส่ปาณีอย่างนั้นแหละ
ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้ถ้าปาณีทำอะไรไม่ดี ธามนิธิก็คงต้องช่วยภรรยาตัวเองอยู่เเล้ว เขาจะมาช่วยคนนอกอย่างเธอได้อย่างไรกัน ?
นลินยืนตัวเเข็งทื่อ เธอรู้สึกว่ากำลังถูกสองคนนี้รวมหัวกันรังแกเธอ
” ธามนิธิ ” ในจังหวะนั้นเอง เมธชนันก็เดินเข้ามาพอดี
เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างๆนลิน ก่อนจะมองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาของเขาก็หันไปทางปาณี ” ปาณี เธอโอเคดีใช่มั๊ย ?”
เขาเพิ่งก็เสร็จธุระยุ่งๆของเขา ตอนที่กำลังกลับมาก็ได้ยินว่าปาณีถูกท่านจอมพลไล่ตะเพิดออกมาจากห้อง เขาก็เลยรู้สึกเป็นห่วง
เมื่อว่ากันด้วยเหตุผลเเล้ว พ่อของเขาไม่น่าจะใช่คนเเบบนั้น ต่อให้พ่อเขาจะไม่พอใจ ก็ไม่น่าจะทำแบบนั้นให้ธามนิธิต้องรู้สึกอับอายต่อหน้าคนอื่น
ปาณีตอบเขา :” ฉันโอเคดีค่ะ ”
ตอนนี้เธอก็เเค่อยากจะปลีกวิเวกไปห้องน้ำก็เเค่นั้นเอง ยังไม่จบไม่สิ้น ก็มีคนเข้ามาร่วมวงเพิ่มอีกคนเเล้ว
ปาณีมิอาจทนฝืนพูดกับเมธชนันได้ต่อไปอีกเเล้ว เธอรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ
เมธชนันคิดว่าปาณีคงทนฟังคำพูดที่ทิ่มแทงใจไม่ได้ เขาจึงพูดกับธามนิธิว่า :” เธอไม่เป็นไรใช่มั๊ย ?ให้ฉันไปคุยกับพ่อฉันให้ ดีไหม ”
” ไม่มีเรื่องอะไรหรอก ” ธามนิธิก็ไม่คิดจะอธิบายต่อ
นลินชอบหลงผิดอยู่บ่อยๆ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้เธอเข้าใจผิดไปแบบนี้เเหละ !
ยิ่งเธอคิดว่าเธอภาคภูมิใจ ก็ยิ่งทำให้คนอื่นมองเธอเป็นตัวตลกมากยิ่งขึ้น
เขาไม่ได้ใส่ใจกับการมาเสวนากับคนที่มีความคิดบ้าๆ เป็นโรคประสาทแบบเธอ
ทีเเรกนลินก็คิดว่า ทันทีที่เมธชนันเดินเข้ามาเเละได้เห็นว่าเธอกำลังย่ำแย่อยู่ เขาคงจะช่วยเธอพูดอะไรบ้าง เเต่ผลก็คือ เมธชนันกลับเป็นห่วงเป็นใยเเต่ปาณีเเละธามนิธิเท่านั้น !
ปาณีเข้าห้องน้ำเสร็จออกมา ก็เห็นสาวน้อยคนหนึ่งในชุดคอสเพลย์ ยืนอยู่ตรงนั้น เธอไว้ผมหน้าม้า ผมสลวยของเธอยาวมากๆ ไม่ได้สวมรองเท้า เรียวขาสวยคู่นั้นเปลือยเปล่าอยู่นอกชุด
ผู้คนที่มาในวันนี้ต่างก็สวมชุดที่ดูเป็นทางการกันทั้งนั้น แต่หญิงสาวคนนี้กลับไม่เหมือนคนอื่นๆ จึงทำให้ปาณีอดไม่ไหวที่จะจ้องมองเธออยู่แบบนั้น
หญิงสาวเห็นว่าปาณีกำลังมองมาที่เธอ จึงเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของปาณี ” พี่คะ พี่เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่สูงๆ ประมาณนี้ เเล้วก็สวมเสื้อไหมพรมสีดำบ้างหรือเปล่าคะ ?”
” …… ” สาวน้อยคนนี้สูงเกือบพอๆกับปาณี ถึงเเม้ว่าเธอจะหน้าตาน่ารักสะสวย เเต่กลับทำให้คนที่ได้เห็นเธอรู้สึกแปลกๆ
ปาณีเองก็พูดไม่ถูกเหมือนกัน ว่าคืออะไรที่ดูขัดๆอยู่ เธอจึงได้เเต่ส่ายหน้า ” ไม่เห็นเลยจ้ะ ”
” ไม่เห็นจริงๆเหรอคะ ?” หญิงสาวไม่ยังลดละความพยายาม
ปาณีพูดกับเธอว่า :” ฉันเพิ่งมาที่นี่ครั้งเเรกน่ะ ไม่ค่อยคุ้นกับที่นี่เท่าไหร่ ”
แต่เธอก็ไม่ได้เห็นคนที่ว่าจริงๆ
” อ่อ ” หญิงสาวพยักหน้าหงึกๆให้เธอ ” ถ้าเกิดพี่เจอเขา อย่าลืมบอกเขาด้วยนะคะว่าให้เขามาหาหนูด้วย เขาบอกว่าจะมาหาหนู แต่หนูก็รอเเล้วรออีก รอมานานเเล้วด้วย ก็ยังไม่เห็นเจอเขาสักที ”
สายตาของเธอดูน่าสงสารจับใจ ราวกับว่าเธอรอเขามานานมากเเล้วจริงๆ
ตอนที่614
ปาณีพูดกับเธอว่า :” เเล้วเธอรู้ชื่อของเขารึเปล่าล่ะ ?เดี๋ยวฉันจะถามคนอื่นๆดู เผื่อเขาจะรู้จัก ”
ต่อให้ปาณีไม่รู้จัก เเต่เมธชนันก็น่าจะรู้จัก
ก็ที่นี่มันบ้านของเขานี่ ถ้าอยากจะหาใครสักคนก็คงไม่ยากเลยสักนิด
” ชื่อเหรอ ?หนูจำชื่อเขาไม่ได้อ่ะค่ะ แต่หนูมีรูปเขา ” เธอหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนๆดูรูป หาดูอยู่พักใหญ่ในที่สุดก็เจอรูปจนได้ ” อยู่นี่ค่ะ นี่แหละเขา ”
ปาณีมองดูรูปในมือถือเธอ เป็นรูปที่เซฟมาจากในเนต ที่มุมขวาล่างยังมีลายน้ำติดไว้อยู่เลย
ที่บังเอิญไปกว่านั้นก็คือ ผู้ชายคนนี้ เป็นคนที่ปาณีที่รู้จักเสียด้วย
ปาณีเผลอปากพูดโพล่งออกมา :” นี่มันคุณทัดธนนี่ ?”
ผู้หญิงคนนี้มีรูปของคุณทัดธน แต่กลับไม่รู้จักคุณทัดธนอย่างนั้นรึ ?
มันจะไม่แปลกไปหน่อยเหรอ ?
” พี่รู้จักเขาด้วยเหรอคะ ?” แววตาของปาณี ทำให้ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก
ขณะที่ปาณีกำลังจะอ้าปากพูดนั้น จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังลอดเข้ามา :” พลอย ”
เมธชนันเดินเข้ามาพอดี โดยมีสาวรับใช้เดินตามมาด้านหลังด้วยอีกหนึ่งคน
เมื่อได้เห็นเขา หญิงสาวก็กระพริบตาปริบๆ ” พี่ชาย ”
เมธชนันเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าของหญิงสาว คิ้วของเขาเริ่มขมวดยุ่งมองไปที่หญิงสาวเเวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปทางสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ :” รีบพาตัวเธอกลับไปเลย วันนี้คนพลุกพล่านมาก ปล่อยให้เธอออกมาเพ่นพ่านอยู่ข้างนอกแบบนี้ ถ้าเกิดเรื่องยุ่งๆขึ้นมาจะทำยังไงห๊ะ ?”
สาวใช้รีบพยักหน้ารับคำทันที ” ได้ค่ะ ”
สาวใช้เดินมาคว้ามือหญิงสาวไว้ ” คุณหนู พวกเรากลับเข้าห้องกันเถอะค่ะ ”
หญิงสาวที่ถูกเมธชนันเรียกชื่อว่าพลอย ยังคงไม่ลดละที่จะส่งสายตามาทางปาณี ” พี่คะ ถ้าพี่เจอเขา อย่าลืมบอกให้เขามาหาหนูด้วยนะคะ ”
” …… อืม ได้จ้ะ ” ปาณีได้เห็นเเววตาของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะตอบรับเธอไป
เมธชนันเอามือลูบๆหน้าผากตัวเอง มองดูสาวใช้พาหญิงสาวคนนั้นเดินจากไป จากนั้นจึงหันมาทางปาณี ” เธอคือน้องสาวฉันเอง สมองเธอมีปัญหานิดหน่อย สติไม่ค่อยสมประกอบ เธอก็อย่าถือสาเลยนะ ”
พอได้ฟังที่เขาพูดว่าสมองเธอมีปัญหา ปาณีจึงเข้าใจเเล้วว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าหญิงสาวคนนั้นดูเเปลกๆ
ปาณีมองไปที่เมธชนัน ก่อนจะถามเขาว่า :” เธอป่วยเหรอคะ ?”
เมธชนันตอบ :” เธอป่วยมาหลายปีเเล้ว ถ้าเธอพูดอะไรไป ก็อย่าไปถือสาเธอเลยนะ อีกอย่าง ที่เธอเห็นน่ะ เธอไม่ใช่เด็กๆเเล้วนะ เธออายุ 23 เเล้ว ”
อายุ 23 ……
ปาณีคิดว่าเธอดูเหมือนอายุเเค่สิบกว่าปีเท่านั้นเอง
เเต่นี่ก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัว เธอจึงไม่ได้ถามอะไรมาก
เมธชนันพาเธอกลับเข้าไปด้านใน ก็ได้เห็นธามนิธิกำลังคุยกับคนนั้นคนนี้อยู่
คนที่ธามนิธิรู้จักที่นี่ มีเยอะกว่าที่เมืองชยุตมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มาในวันนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นกัลยาณมิตรของจอมพลนรเทพทั้งนั้น เเละทุกคนก็ทราบดีว่า เมื่อก่อนธามนิธิเป็นคนที่ท่านจอมพลรักใคร่เมตตามากที่สุด ดังนั้นคนที่เข้ามาพูดคุยกับเขาต่างก็ให้ความเคารพ เเละให้เกียรติเขาอยู่เสมอ
เห็นเขากำลังยุ่งๆ ปาณีเลยไม่เดินเข้าไปหา เเต่เธอกลับเดินไปหาอะไรอร่อยๆกินแทน
เมธชนันในฐานะเจ้าภาพ จึงคอยเชื้อเชิญต้อนรับเธอเป็นอย่างดี ” กินตามสบายนะ อยากกินอะไรก็กินได้เต็มที่เลย ”
” ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่เกรงใจเเล้วนะ ” ปาณีหยิบเค้กขึ้นมาชิ้นหนึ่ง เริ่มต้นกินอย่างเพลิดเพลิน
เมธชนันยืนอยู่ข้างๆเธอ เขาตัวสูงกว่าเธอเกือบเท่าตัว ” ได้ยินว่า เธอโดนพ่อฉันไล่ตะเพิดออกจากห้องเหรอ ?”
” …… ” ปาณีถลึงตามองเขา คิดว่าทำไมเขาถึงมาถามแบบนี้อีกคนละ ” ทำไมคุณเป็นเหมือนน้านลินเลยล่ะ อยากจะมาหัวเราะฉันรึไง ?”
” น้านลิน ?” เมธชนันอึ้งไปชั่วครู่ เเล้วก็เข้าใจละว่าเธอน่าจะหมายถึงนลิน มีสุวรรณ์ จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา ” นี่เธอเรียกเค้าว่าน้านลินอย่างนั้นเหรอ เค้าแก่ขนาดนั้นเลยรึไง ?ถ้าเธอมาได้ยินสงสัยโกรธตายเลย ”
ปาณีพูดว่า :” ก็ฉันเรียกธามนิธิว่าคุณอา และถ้าฉันเรียกเธอว่าน้านลิน ก็คงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั๊ย ?”
ตอนที่615
เมธชนันคิดว่าที่เธอพูดมันก็มีเหตุผลอยู่ เขาก็เลยวิเคราะห์ต่อไปว่า :” ถ้าเป็นเเบบนั้น เธอก็ต้องเรียกฉันว่าคุณอาด้วยน่ะสิ ? ”
คุณฝันไปก่อนเถอะ !
สำหรับปาณีเเล้ว คุณอามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นก็คือธามนิธิ ในใจของเธอมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่มีสอง !
เธอพูดกับเขาว่า :” ฉันเรียกคุณว่าลูกพี่ก้ได้ ”
” ทำไมเรียกว่าลูกพี่อ่ะ ?”
ปาณีบอกเขาว่า :” โดยทั่วไปแล้วคนที่หล่อๆเท่านั้น ถึงจะเรียกว่าคุณอา ถ้าไม่หล่อ ก็เรียกว่าลูกพี่ก็พอแล้ว ”
” เดี๋ยวตีตายเลย ” เมธชนันโมโหขึ้นมาเลยเชียว
ทำไมเขาจะหล่อสู้ธามนิธิไม่ได้ ?
มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าเขาไม่หล่อ ?
เขาออกจะหล่อน่ารัก !
” นายจะตีใครห๊ะ ?” เสียงทุ้มต่ำของธามนิธิ จู่ๆก็ดังเเว่วเข้ามา
เมธชนันเห็นเขาทำหน้าเคร่งขรึมเดินเข้ามา ก็รีบทำท่าหวาดกลัวขึ้นมาทันที ” ไม่กล้า ไม่กล้า เเฟนนายนี่ ฉันมิบังอาจหรอก ”
ปาณีเดินไปยืนอยู่ข้างๆคุณอา ทำท่าแลบลิ้นใส่เมธชนัน ในวินาทีนั้นเองที่เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการเป็นผู้หญิงของลูกพี่ใหญ่ มันช่างดูราวกับว่าตราบใดที่เธออยู่กับธามนิธิ จะไม่มีใครกล้ามารังแกเธอได้
-
เวลายังเช้าอยู่ ธามธินิกับเมธชนันพากันขึ้นไปเล่นหมากรุกที่ชั้นบน ส่วนปาณีก็นั่งคุดคู้อยู่บนโซฟา ในมือกอดโน๊ตบุ๊คเอาไว้ เตรียมตัวจะเริ่มทำงานของเธอ
ถึงเเม้ว่าเธอจะออกมาเที่ยวเล่นข้างนอก เเต่เธอก็ยังคงมีความรับผิดชอบเรื่องงานอยู่เสมอ
สำหรับเธอเเล้ว ดูเหมือนว่าปีๆหนึ่งเธอไม่มีวันหยุดเลยด้วยซ้ำ
-
นลินกลับไปหาคุณนายเยอซอ เธอทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ท่าทางที่แสดงออกมาดูค่อนข้างหดหู่เศร้าสร้อย
คุณนายเยอซอมองดูนลิน ก่อนจะถามเธอว่า :” เป็นอะไรไปล่ะ ?ใครบังอาจมาทำให้นลินลูกสาวของแม่อารมณ์เสีย ?”
นลินพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย :” เเม่บุญธรรม แม่คิดว่าหนูมันแย่มากเลยเหรอคะ ?”
คุณนายเยอซอมองไปที่เธอ ” พูดเรื่อยเปื่อยน่า เเย่ตรงไหนกัน ?ในสายตาของแม่บุญธรรม หนูน่ารักที่สุดแล้ว ”
นลินหัวเราะออกมาเบาๆ :” แม่พูดปลอบใจหนูอีกแล้ว ”
” เมื่อครู่นี้ลงไปข้างล่าง ไปโดนใครรังแกมาอีกล่ะ ?” ถ้าไม่พูดแบบนี้ นลินก็คงไม่ยอมพูดออกมา
นลินพูดว่า :” ไม่มีใครรังแกหรอกค่ะ ก็เเค่วันนี้ ธามนิธิก็มาด้วย ”
” ฉันก็รู้เเล้วว่าเขามา ” คุณนายเยอซอมองไปที่นลิน ” แต่ก่อนหนูชอบเขามากเลยไม่ใช่เหรอ ?”
คงไม่ได้เป็นเพราะธามนิธิมาที่นี่เลยทำให้เธอไม่สบายใจหรอกมั๊ง !
” ใช่ค่ะ หนูชอบเขามาก ” นลินบอกกับแม่บุญธรรม :” แต่ว่าเขาไม่ชอบหนู แต่ก่อนหนูเคยทำเพื่อเขาตั้งมากมาย เเต่เขากลับไม่เคยเห็นหนูอยู่ในสายตา เเล้วมาตอนนี้ …… แม่คงไม่รู้หรอกว่า วันนี้เขาพาผู้หญิงมาด้วยคนหนึ่ง เด็กนั่นยังเป็นเเค่นักศึกษาอยู่เลย ฐานะครอบครัวก็ไม่ดี เห็นว่าเขามีเงินก็เลยอยากจะอยู่กับเขา แต่เวลาอยู่ข้างนอกก็เห็นไปๆมาๆกับผู้ชายคนอื่น ขนาดเธอเป็นอย่างนี้ธามนิธิก็ยังชอบเธอ แถมยังพาเธอไปพบจอมพลนรเทพด้วย เเล้วเธอก็โดนท่านจอมพลไล่ตะเพิดออกมา ธามนิธิก็โอ๋เธอจะเเย่ ปกป้องเธอยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก ”
เรื่องที่นลินเคยชอบธามนิธิ คุณนายเยอซอก็รู้อยู่แก่ใจดี
ตั้งเเต่ตอนนั้นคุณนายเยอซอก็ได้เห็นแล้วว่า ธามนิธิไม่ค่อยสนใจใยดีนลินสักเท่าไหร่ ทุกครั้งที่เธอเจอกับธามนิธิ จึงมักจะชอบโน้มน้าวให้เขาทำดีต่อนลินอยู่บ่อยๆ แต่ก็ดูเหมือนกับว่า มันจะไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย
เมื่อคุณนายเยอซอได้ยินที่นลินพูดเขา ตอนนี้เขากำลังรักใคร่ชอบพออยู่กับผู้หญิงแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
คุณนายเยอซอพูดว่า :” จอมพลนรเทพถึงกับไล่ผู้หญิงคนนั้นออกมา เเล้วธามนิธิยังจะปกป้องเธออยู่ ? เขาคิดอะไรของเขากันนะ ?”
” ใครจะไปรู้ได้ล่ะค่ะ ?” นลินฝืนยิ้มด้วยความขมขื่น ” คงเป็นเพราะหนูไม่ดีพอล่ะมั๊งคะ !”
” ไม่ดีพออะไรกัน ?” คุณนายเยอซอพูดปลอบเธอ :” ฉันก็เห็นๆอยู่ว่าเธอดีกับเขาขนาดนี้ โลกใบนี้มันก็มีผู้ชายประเภทนี้อยู่นะ ประเภทที่เธอยิ่งทำดีกับเขา เขากลับยิ่งไม่เห็นเธออยู่ในสายตา เธอไปเรียกธามนิธิมาหาฉันหน่อย บอกเขาว่าฉันมีธุระอยากจะคุยด้วย ”