ตอนที่646
แต่เธอก็ทนได้
เรื่องลับส่วนตัวประเภทนี้ ต่อให้เธอพูดออกมาก็อาจจะถูกหัวเราะเยาะใส่อยู่ดี
เธอทำเพียงแค่หันไปมองตามเสียงเท่านั้น
คนที่เอ่ยประโยคนี้นั้นเป็นผู้หญิง ปาณีแทบจะคิดไม่ออกว่าเธอคือใคร
ซ้ำยังไม่ได้สนิทกันอีกด้วย พูดจาเรื่องพวกนี้ตัวเธอไม่รู้สึกว่าไร้มารยาทเลยหรือไง?
เธอมองดูคนเหล่านั้น เอ่ยขู่ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ถ้าหากพวกเธอยังพูดอีก ฉันจะไปแล้ว”
“เอาเถอะไม่พูดแล้วๆ”ทุกคนพูดจาไกล่เกลี่ย ในเมื่อเป็นงานรวมตัวเพื่อนๆ ก็ไม่อยากทำให้หมดสนุกขึ้นมา
ส้มโอวันนี้ค่อนข้างมาช้าแต่ก็มาอยู่ดี เธอมาและนั่งลงข้างๆปาณี
ไม่เจอเวทัสกับติรยา เธอจึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เวทัสกับติรยาวันนี้ไม่มาหรือ?”
“ไม่มา”เพื่อนนักเรียนพูด “ถามปาณี ปาณีก็ไม่พูดจา”
“ปาณีไม่พูดก็แปลว่าเธอไม่รู้ไง” ส้มโอเหลือบมองปาณีรอบหนึ่ง เอ่ยเสียงเบา “ยังดีที่ฉันมา ถ้าหากฉันไม่มา พวกเขาคงรังแกเธอแน่”
“……..”หม้อไฟร้านนี้ เป็นแบบแยกกันคนละหม้อ ปาณีจุ่มกระเพาะวัวลงในหม้อและเอ่ย “เธอไม่มาเร็วกว่านี้”
รังแกไม่เท่าไหร่ เพียงแต่เธอรู้สึกโดดเดี่ยวและแปลกแยก
พวกเขาเล่นทำเอาซะเธอกินหม้อไฟตรงหน้าไม่ลง
มีส้มโอมา บรรยากาศก็ดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ตอนทุ่มนึง ธามนิธิก็เตรียมโทรศัพท์หาเธอ “ทานเสร็จแล้วยัง? ฉันมาถึงแล้ว”
“ยังไม่เสร็จเลยค่ะ”ปาณีไม่คิดว่เขาจะมาเร็วขนาดนี้ “คุณรอฉันสักครู่ได้ไหมคะ?”
“ใครหน่ะ?”ทุกคนต่างมองที่ปาณีอย่างสงสัย น้ำเสียงที่เธอคุยโทรศัพท์ น้ำเสียงของเธอแสดงออกถึงความอ่อนหวาน นึกภาพไม่ออกว่าคนอย่างปาณีจะมีน้ำเสียงที่นุ่มนวลขนาดนี้ยามคุยโทรศัพท์
ปาณีพูดเอ่ยอย่างภูมิใจ “สามีฉัน”
ยังไงซะเธอกับธามนิธิก็ไม่ได้หย่ากัน ตอนนี้เธอยิ่งอยู่จึงยิ่งมีความชอบธรรมมากขึ้น
“สามีเธอมารับเธอ รับเรียกเขาเข้ามาสิ! ให้พวกเราดูเจอเขาหน่อย” มีเสียงดังวุ่นวายขึ้นมาเต็มไปหมด ปาณีจึงลุกขึ้นยืนและออกไปคุยข้างนอก
เธอออกมาอยู่ข้างนอก เสียงวุ่นวายจึงสงบลงมา และได้ยินธามนิธิเอ่ยถาม “เป็นอะไรไป?”
“พวกเขาอยากเจอคุณ ฉันโมโหแทบตายอยู่แล้ว! คนพวกนั้นแค่อยากจะหัวเราะฉัน เมื่อกี้ก็เพิ่งจะเยาะเย้ยเรื่องที่คุณลุกยืนไม่ได้อะไรต่อมิอะไร”ตั้งแต่ที่ธามนิธิลุกขึ้นยืนมาได้ เธอก็ไม่ได้ยินคำพูดพวกนี้มานานมากแล้ว
พอมาฟังอีกครั้ง เธอก็ยังคงโมโหมากอยู่ดี
เพิ่งจะบ่นเสร็จ ปาณีก็ได้ยินธามนิธิเอ่ย “ออกมารับฉัน”
เดิมทีเวทัสจะต้องมาร่วมงานเลี้ยงรวมตัวเพื่อนนักเรียนนี้ แต่เขาไม่ได้มา
เป็นเพราะเรื่องของปาณีเมื่อตอนกลางวัน เขาจึงออกไปเดินเล่นจนกระทั่งถึงตอนเย็น ทุ่มนึงเขาถึงกลับมาถึงห้องชมรม
ชมรมในตอนนี้คนน้อยมากอีกทั้งยังเงียบสงบ
เขาเพิ่งจะเดินเข้ามาก็เห็นชยรพกับโมรีอยู่ด้วยกัน
ริมฝีปากของโมรีกำลังแนบอยู่กับริมฝีปากของชยรพ
ภาพตรงหน้า สำหรับเวทัสแล้วออกจะดูคาดไม่ถึงอยู่บ้าง เขานิ่งไปชั่วครู่และกำลังกลับออกไป แต่ถูกชยรพเห็นเข้าซะก่อน จึงผลักโมรีออกและเอ่ยอย่างลุกลี้ลุกลน “นายมาแล้ว?”
โมรีก็หันหน้ากลับมาเช่นกันและมองดูเวทัส
เวทัสเพียงแค่ตะลึงไปชั่วขณะเท่านั้น จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นนิ่งสงบอย่างยิ่ง “ขอโทษที รบกวนพวกนายแล้ว ฉันกำลังจะไปเดี๋ยวนี้”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”ชยรพรีบเอ่ยอธิบายอย่างร้อนลน “นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด”
ฉากเมื่อครู่นี้ อย่าว่าแต่เวทัสคาดไม่ถึง แม้กระทั่งตัวเขาเองยังคาดไม่ถึงเช่นกัน
บนอินเตอร์เน็ตเอาแต่พูดว่าโมรีคือแฟนของเวทัส คนในทีมก็รู้เช่นกันว่าโมรีชอบเวทัส ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูคลุมเครือมาโดยตลอด
ตอนที่647
ตอนนี้เวทัสมาเห็นฉากแบบนี้ ชยรพก็ลนลานแทบตายอยู่แล้ว
โมรียืนอยู่ด้านข้าง ไม่ได้พูดแก้ตัวอะไร ทำแค่เพียงมองดูเวทัสเท่านั้น
เวทัสพูดกับชนรพ “ไม่เป็นไร”
เดิมเขาก็ไม่เคยใส่ใจเรื่องนี้
เพียงแต่พอมาเห็นภาพนี้อย่างกะทันหัน ต่อให้เป็นเพื่อนที่สนิทสนมที่สุด ก็ยังรู้สึกประดักประเดิดที่ทำตัวเป็นก้างขวางคออยู่บ้าง
โมรีจ้องมองดูแผ่นหลังของเวทัสที่เดินจากไป เธอรู้สึกว่าจิตใจของตนเองนั้น เจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง
ชยรพหันกลับมามองโมรี “โมรีเธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?”
นี่เป็นจูบแรกของเขานะ!
เมื่อกี้เขายังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกโมรีกอดและจูบเข้าให้…
ให้ตายเถอะ เขาเห็นเธอเป็นพี่ชายน้องชาย แต่เธอกลับจูบเขา!
โมรีมองชยรพรอบหนึ่ง รู้สึกละอายใจอยู่บ้าง “ขอโทษ”
เธอไม่ได้อยากจะหลอกใช้เขา
เพียงแค่วันนี้ มองเห็นเวทัสจูบปาณี ก็รู้สึกมีแรงกระตุ้นขึ้นมานิดหน่อย
เดิมทีเธอคิดว่า ตนเองนั้นตามเวทัสมานานขนาดนี้ เขามองเห็นภาพแบบนี้เข้าก็ควรจะมีปฏิกิริยาตอบสนองบ้างเล็กน้อย แต่กลับคิดไม่ถึง ว่าที่แท้เขาไม่เคยใส่ใจมันเลยแม้แต่น้อย
ทำให้หยุดที่จะรู้สึกน่าหัวเราะไม่ได้ เดิมทีเคยคิดว่า อยู่เคียงข้างเขามานานขนาดนี้ เขาก็ควรจะคิดอะไรกับเธอขึ้นมาบ้างสักเล็กน้อย
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเธอนั้นเป็นแค่คนที่เดินผ่านทางจริงๆ
ชยรพมองเห็นสีหน้าของปาณีดูหดหู่ รู้ดีว่าเธอนั้นชอบเวทัสมาโดยตลอด
ผู้ชายตัวโตอย่างเขา รู้ดีว่าไม่ควรไปทะเลาะถกเถียงกับเธอแต่เรื่องจูบแรก
เพียงแต่……
เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับเธอสองสามประโยค “เธอก็รู้ว่าฉันกับเวทัสนับถือกันเป็นพี่เป็นน้อง เรื่องของพวกเธอฉันไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง แต่เธอกลับลากฉันเข้าไปด้วยแบบนี้ เธอทำให้ฉันทำตัวไม่ถูกเข้าใจไหม?”
ปกติแล้วเขาปฎิบัติกับโมรีดีอยู่ไม่น้อย ยังไงซะเธอก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในทีม
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขายินยอมมีเรื่องมีราวกับเวทัสเพราะเธอหรอกนะ!
เขานับถือเป็นพี่น้องกับเวทัสมานานมากแล้ว ถึงขนาดที่ทั้งสองสามารถใส่กางเกงตัวเดียวกันได้ โมรีทำแบบนี้ แทบจะทำให้เขากลายเป็นคนประเภทบาปหนาไร้ยางอายไปแล้ว
เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะไปแย่งคนของพี่น้องลงหรอกนะ!
โมรีหัวเราะเยาะตนเอง “ยังไงซะเขาก็ไม่สนใจหรอก”
อยู่ข้างกายเขามานานขนาดนี้ บางครั้งเธอก็รู้ว่าตนเองเหนื่อยเกินไปแล้ว
ชยรพรู้สึกว่าพูดกับเธอไม่รู้เรื่องจึงเอ่ย “งั้นฉันกลับก่อนหล่ะ”
เขาเกรงว่าโมรีจะคิดไม่ตก แล้วทำอะไรกับเขาขึ้นมาอีก
ชยรพรู้สึกว่าตนเองสมควรจะอยู่ห่างจากโมรีขึ้นมาหน่อย แบบนี้ถึงจะปลอดภัย
อยู่มายี่สิบปี เขาเป็นผู้ชายใสซื่อประเภทที่ขนาดมือของเด็กผู้หญิงยังไม่เคยจะจับเลยสักครั้ง
เมื่อก่อน เขายังมีเป้าหมายอันเกิดขึ้นได้ยากอย่างปาณีอยู่บ้าง ผลลัพธ์คือหลังจากที่เห็นธามนิธิ เขาก็แทบจะถูกฆ่าลงในทันใด ถึงขนาดที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดอะไรขึ้นมาอีก ดังนั้นในด้านประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆของเขาจึงยังคงเป็นกระดาษขาวอันว่างเปล่าอยู่เช่นเดิม
อย่างไรก็ตามการ จูบครั้งแรกของเขา กลับต้องมากลายเป็นเหยื่อในสายตาของคนอื่นเข้าให้
-
ปาณีเดินออกมาจากร้านอาหาร เป็นเวลาทุ่มกว่า ท้องฟ้าด้านนอกจึงมืดอยู่บ้าง ส่วนธามนิธินั้นลงมาจากรถเรียบร้อยแล้ว
เขาสวมชุดสูทสีดำ กระดุมถูกติดอย่างประณีตเรียบร้อย แทบจะคล้ายกับนายแบบก้าวลงมาจากปกนิตยสาร
เขาตัวสูงอย่างยิ่ง บนตัวเต็มไปด้วยความรู้สึกมั่งคง
ปาณีเอ่ย “คุณอา”
ธามนิธิเดินมาถึงตรงหน้าเธอและยื่นมือออกไปหา ในขณะที่ปาณีก็ยื่นมือมาจับมือหนาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะนำเขาเข้าไปด้านใน
“ปาณีไม่ใช่ว่าหนีไปแล้วหรอกนะ? ปล่อยสามีเธอมาให้ยลโฉมหน่อยจะสึกหรอเข้าให้หรือไง”
“พวกเธออย่ามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเลย ไม่ใช่ว่าเธออยากจะแต่งให้กับสามีพิการนั่นสักหน่อย ได้ยินมาว่า ผู้ชายคนนั้นยังค่อนข้างมีอายุอีกด้วย ดูท่าเธอคงจำเป็นต้องทำ!”
ด้านในห้องผู้คนยังคงถกเถียงกัน ปาณีจูงมือธามนิธิเข้ามา และทันในนั้นเองภายในห้องก็เงียบลงมาในทันทีทันใด
ตอนที่648
ช่วงนี้อากาศอบอุ่น วันนี้ปาณีจึงใส่กระโปรงสีขาว ยาวเท่าเข่า ให้ความรู้สึกสดใสเยาว์วัย
ในขณะที่ธามนิธินั้นใส่ชุดสูทสีดำทั้งตัวดูแล้วเคร่งขรึม ก่อนหน้าที่จะมา เขาเพิ่งทำงานล่วงเวลาที่บริษัทเสร็จ
ดูธรรมดาจนไม่สามารถธรรมดาไปกว่านี้ได้อีก แต่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างปาณีนั้นกลับดูเป็นพร่างพราวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
WTF!
ใครหน่ะ!
โครตหล่อ!
ก่อนหน้านี้มุมมองด้านความหล่อในความคิดของทุกคน ก็คือคนประเภทเวทัสที่ชอบใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว มองแล้วดูสูงส่งเย็นชา
แต่กลับคิดไม่ถึง ที่แท้แล้ว ผู้ชายประเภทนี้ที่สวมสูทและแต่งตัวอย่างพิถีพิถันนั้นช่างให้ความรู้สึกมั่นคงอย่างยิ่ง
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนมีปฏิกิริยาตอบสนองเป็นคนแรก และเอ่ยขึ้น “โอ้โห ปาณี เธอแอบเลี้ยงหนุ่มหน้าขาวไว้ข้างนอกหรือ!”
ทุกคนล้วนคิดว่าสามีของปาณีเป็นชายแก่นั่งอยู่บนรถเข็น ตอนนี้พอมองเห็นคนหล่อตรงหน้า ย่อมต้องคิดว่าเธอมีชู้อย่างแน่นอน
หนุ่มหน้าขาวสามคำนี้ ทำเอาธามนิธิเลิกคิ้วขึ้น เขามองไปยังเด็กหนุ่มที่เอ่ยพูด ก่อนจะยิ้มอย่างสงบขึ้น “ฉันดูคล้ายเด็กหนุ่มหน้าขาวขนาดนั้นเลยหรือ?”
เขาไม่ได้มีน้ำเสียงโมโหแต่อย่างใด ซ้ำยังไม่โมโหอีกด้วย
คนเหล่านี้ล้วนเป็นเพื่อนนักเรียนของปาณี และสิ่งที่ธามนิธิอยากจะรักษามันเอาไว้ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างปาณีกับเพื่อนเหล่านี้ เขาอยากให้เธออยู่ท่ามกลางคนเหล่านี้ด้วยความเปล่งกระกายความและมีหน้ามีตา แทนที่จะใช้ตัวตนของเขา แยกเธอและเพื่อนๆออกจากกันเป็นคนละโลก
คำพูดติดตลกของเขา คล้ายว่าทำให้เด็กหนุ่มคนนั้นเพิ่งพูดไปหัวเราะและตอบขึ้นมา “ไม่เหมือน ฉันแค่ล้อเล่นหน่ะ”
ผู้ชายคนนี้ถึงแม้อายุยังน้อย แต่ท่าทีของเขาล้วนมีกลิ่นอายของนายทหารเก่าออกมา ไม่มีส่วนไหนที่เหมือนเจ้าหนุ่มหน้าขาวเลยสักนิด
ปาณีแนะนำเขากับทุกคน “นี่สามีฉัน”
เธอรู้สึกได้ว่าหลังจากที่ตนเอ่ยจบ ทุกคนคล้ายมีแววตาอิจฉาออกมา
บ้ามันเถอะ ใครเป็นคนปล่อยข่าวลือว่าสามีของปาณีทั้งแก่ทั้งเดินไม่ได้ออกมา?
นี่มันออกจะคลาดเคลื่อนมากเกินไปหน่อยว่าไหม?
พนักงานเพิ่มเก้าอี้เข้ามา ธามนิธิจึงนั่งลงข้างๆกายปาณี
ทุกคนเอ่ยถามอย่างสงสัย “ปาณี สามีของเธอทำอาชีพอะไรหรือ”
ธามนิธิตอบแทนปาณีด้วยท่าทีสงบ “ทำงานอยู่ที่บริษัทเบนนิซิสกรุ๊ปจำกัด”
“เก่งสุดๆไปเลย!” พวกเขาไม่รู้ว่าธามนิธิทำงานอะไรที่บริษัท แต่แค่ได้ยินว่าเขาทำงานที่นั่นก็รู้สึกว่าเขาเก่งสุดๆ “ได้ยินว่าบริษัทเบนนิซิสกรุ๊ปจำกัดรับคนยากที่สุด นายไม่ใช่ว่าเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก? มองแล้วคล้ายว่าเป็นแบบนั้นเลย”
ธามนิธิพูดอย่างใจเย็น “ฉันไม่ได้ไปเรียนเมืองนอก”
ปาณีนั่งอยู่ด้านข้าง มองดูเขากำลังพูดคุยกับเพื่อนนักเรียน
ตอนที่649
ทุกคนได้ยินธามนิธิพูดแบบนั้น ก็ดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ “ได้ยินว่าคนทั่วไปเข้าบริษัทเบนนิซิสกรุ๊ปไม่ได้หรอก ลูกพี่ลูกน้องของฉันจบป.โทจากมหาลัยดังยังเข้าไม่ได้เลย!”
ธามนิธิหัวเราะ “อาจเป็นเพราะฉันโชคดี”
“ยังไงก็เก่งมากอยู่ดี!”ปาณีนั่งฟังคนเหล่านี้เอ่ยพูด เธอรู้สึกสนุกขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าหากพวกเขารู้ว่าคุณอาที่ท่านประธามของเบนนิซิสกรุ๊ป ไม่รู้ว่าจะมีปฏิกิริยาตอบกลับยังไง?
หลังจากทานข้าวเสร็จและออกมา ส้มโอก็อยู่ตามหลังปาณี เป็นเพราะธามนิธิขับรถมา ปาณีจึงเอ่ยขึ้น “เหยาเหยา พวกฉันไปส่งเธอเป็นไง?”
“แบบนี้จะดีหรือ?” ส้มโอมองธามนิธิด้วยความกลัวอยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าปาณีกับธามนิธิหย่ากันแล้ว เธอคิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้ ธามนิธิจะปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังพูดคุยกับทุกคนอย่างเป็นกันเองอยู่ตั้งนาน
แต่ต่อให้เขาดูเข้าถึงง่าย ก็ยังไม่ให้ความรู้สึกที่ว่าเขากับคุณเป็นประเภทเดียวกันอยู่ดี
ผู้ชายคนนี้ บนร่างให้ความรู้สึกราวกับอยู่เหนือทุกสิ่งออกมา
ซ้ำร้าย ส้มโอคือคนจำนวนน้อยที่รู้ตัวตนของธามนิธิ พ่อของเธอแทบจะบูชาธามนิธิราวกับเทพเจ้า เธอรู้ดีเกินไปว่าการขยับนิ้วของเขาหมายความว่าอย่างไรดังนั้นเธอจึงกลัวที่จะนั่งรถของเขา
ปาณีเอ่ย “ก็แค่ผ่านทางเท่านั้น ไม่เป็นไรหรอก”
คนขับรถขับรถเข้ามาและจอดลงที่หน้าประตู ส้มโอรีบขึ้นไปนั่งข้างหน้าก่อนในทันที ส่วนปาณีกับธามนิธินั้นนั่งอยู่ด้านหลัง
กลุ่มนักเรียนที่ตามพวกเขามาอยู่ด้านหลัง มองเห็นพวกเขาขึ้นรถไป ก็ล้วนแล้วแต่อิจฉา
ทุกคนล้วนมีความรู้สึกประเภทหนึ่งขึ้นมาคือ จะต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีกับปาณีได้ให้ ไม่แน่ว่าหลังจากนี้อาจจะขอยืมเส้นสายของเธอเข้าไปที่บริษัทเบนนิซิสกรุ๊ปได้ก็ได้
บนรถเงียบเป็นอย่างยิ่ง ส้มโอนั้นตื่นเต้นจนไม่กล้าเอ่ยพูดจา แม้กระทั่งแอบมองธามนิธิเธอยังไม่กล้า
ถึงแม้ธามนิธิจะนั่งเงียบไม่ได้พูดอะไรมาโดยตลอด แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับทำให้คนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
พอถึงประตูเล็ก ส้มโอก็เอ่ยขึ้น “ขอบใจนะปาณี ขอบคุณค่ะคุณธามนิธิ”
คุณชรัณนั้นออกมาจากประตูเล็กก็มองเห็นลูกสาวของตนลงมาจากรถคันหนึ่ง
“ส้มโอ”คุณชรันนั้นค่อนข้างท้วม ยามพูดจากับลูกสาวน้ำเสียงก็ดังและดุดันเป็นอย่างยิ่ง ไม่เหมือนยามนั่งทานข้าวกับธามนิธิที่มีน้ำเสียงประจบเอาใจ
ส้มโอมองเห็นเขาจึงเอ่ยตอบเสียงเบา “พ่อ”
“นี่แกนั่งรถใครมา?”คุณชรันรู้สึกว่ารถคันนี้ดูคุ้นตาอย่างยิ่ง จึงเดินเข้าไปใกล้
ได้ยินส้มโอเอ่ยขึ้น “เพื่อนนักเรียนของหนูค่ะ”กระจกรถลดต่ำลงมา ธามนิธิมองชรันรอบหนึ่ง พอคุณชรันเห็นเขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“ท่านประธานธามนิธิ”คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าคนที่ส่งลูกสาวเขากลับมาคือธามนิธิ ยิ่งไปหว่านั้นข้างๆเขายังมีปาณีนั่งอยู่อีกด้วย
ตอนที่650
ก่อนหน้านี้ที่ได้ยินข่าวว่าปาณีกับธามนิธิหย่ากัน เขาไม่ค่อยเชื่ออยู่บ้าง ธามนิธินั้นเอาอกเอาใจปาณีขนาดนั้น จะหย่ากับเธอได้อย่างไร?
นี่ไม่ใช่เรื่องตลกหรอกหรือ?
ปาณีมองเห็นชรัน ก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา ที่แท้ส้มโอเป็นลูกสาวคุณชรันหรอกหรือ?
คุณชรันถึงแม้ว่าต่อหน้าธามนิธิจะคอยเอาใจเขาเป็นอย่างยิ่ง แต่ปาณีรู้ดีว่าเขาเป็นพวกผ้าขี้ริ้วห่อทอง ตั้งแต่ที่เขาส่งสร้อยคอหยกมาให้เธอครั้งนั้น กูสามารถดูออกได้ว่าคนๆนี้มีฐานะร่ำรวยเสียยิ่งกว่าบ้านของติรยาซะอีก
แต่ส้มโอเวลาที่อยู่ในมหาลัยนั้นไม่เคยทำตัวเป็นที่สะดุดตาเลยสักครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมักจะไปหางานพาร์ทไทม์ทำกับปาณีอยู่เสมอ
ติดดินเสียจนทำเอาคนนึกไม่ถึง
กระจกรถถูกปิดลง ในขณะที่คนขับรถออกสตาร์ทเครื่องใหม่อีกครั้ง ในขณะที่รถเข้าสู่การจารจร ปาณีที่นั่งอยู่ด้านข้างยังคงนั่งตกใจอยู่ไม่หาย ทันใดนั้นผู้ชายเย็นชาก็เคลื่อนใกล้เข้ามาก่อนจะโอบเธอเข้าไปในอ้อมอก
เขาวางหน้าลงบนไหล่ของเธอและหลับตาลง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน “ถึงบ้านแล้วเรียกฉัน”
“อืม”ปาณีหันไปมองเขาอย่างอดไม่ได้ เธอจะเชื่อได้อย่างไรว่า ผู้ชายคนนี้ที่ทำเอาคนอื่นตื่นเต้นกังวลจนไม่กล้าแม้แต่กระทั่งจะเอ่ยพูด เป็นคนเดียวกันกับที่ยามอยู่ต่อหน้าเธอ อ่อนโยนได้ขนาดนี้?
ธามนิธิพิงไหล่ของปาณีพักผ่อน ถึงแม้จะไม่ได้หนักมาก แต่ก็ทำเอาปาณีรู้สึกถึงภาระหน้าที่ขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม
เธอไม่กระดุกกระดิกไปมา ทำเพียงเล่นโทรศัพท์อย่างเงียบๆเท่านั้น ก่อนจะเห็นว่ามีเพื่อนนักเรียนหลายคนเพิ่มเธอเป็นเพื่อนในQQ และเอ่ยชมเธอ
“ปาณี สามีของเธอหล่อมาก! แถมยังสุภาพอีกด้วย! ไม่มีที่ติเลยสักนิด ครั้งหน้าเรามาทานข้าวด้วยกันอีกดีไหม ฉันเลี้ยง?”
ปาณีตอบกลับ “ค่อยว่ากันนะ!”
สายตาของเธอตกลงบนร่างของธามนิธิ มุมปากยกยิ้มขึ้น
เธอรู้สึกว่าผู้ชายข้างๆ คล้ายกับเป็นของแบรนด์เนมที่มีราคาที่สุด พาออกไปด้วย ก็ทำเอาเธอกลายเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนนักเรียนได้ในทันใด เป็นเพราะคุณอาคิดถึงเรื่องพวกนี้ ก็เลยมีมารยาทต่อพวกเพื่อนนักเรียนของเธอเป็นอย่างยิ่งสินะ! ต่อหน้าทุกคน เขามักจะรักษาหน้าตาให้แก่เธอเสมอ พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็ยื่นมือไปกุมมือของเขาเอาไว้
ธามนิธิตอบสนองกลับด้วยการกุมมือของเธอเข้ามาในฝ่ามือของเขา ปาณีจ้องดูผู้ชายตรงหน้าที่กำลังหลับตาแต่กลับไม่ได้นอนหลับ เธออดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
-
ยามเช้า อาจารย์ผู้สูงวัยผมสีดอกเลากำลังสอนนักเรียนด้วยท่าทีจริงจัง ปาณีนั้นกำลังหมุนปากกาไปมาและคิดไปถึงเรื่องที่ธามนิธิไปงานรวมตัวเพื่อนนักเรียนเมื่อคืน ในใจรู้สึกหวานล้ำอย่างยิ่ง
สายตาของเธอเลื่อนขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจและมองเห็นว่าที่นั่งของเวทสนั้นว่างเปล่า ก็นึกไปถึงเรื่องที่เขาจูบแก้มเธอ จู่ๆก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที เวทัสนั้นใกล้จะไปต่างประเทศแล้ว บางทีจึงไม่ได้มาที่มหาลัย