ตอนที่686
เห็นได้ชัดว่าทั้ง ๆ ที่ทำสิ่งที่ใกล้ชิด แต่เธอรู้สึกว่าหัวใจของเขาอยู่ห่างไกลจากตน
ทำไม เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการเธอ แต่การวางตัวต่อเธอกลับไม่มีความอ่อนโยนแม้แต่น้อยเช่นนี้
“ชนัน คุณรักฉันไหม” นลิน มีสุวรรณ์เอ่ยถามออกมาหนึ่งประโยค
รักงั้นเหรอ
คำพูดคิดเพ้อฝันนี้ ทำให้เมธชนันสูญเสียความกระตือรืนร้นฉับพลัน ทำการถอนออกมาโดยทันที
เขาไม่เล่นตามแผนจนจบ เธอมืดบอดไปเล็กน้อย เวลาที่ผู้ชายอยู่บนเตียง ไม่ใช่ว่าควรจะขาดสติหรอกเหรอ
เธอยังคงคิด ว่าสามารถทำให้เมธชนันช่วยเธอได้
เมธชนันจัดเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเย็นชา พูดกับนลิน มีสุวรรณ์ว่า “ตระกูลนาทันเลิศฐานะไม่เลว คู่หมั้นของคุณคนนี้ก็ท่าทางจะชอบคุณมาก”
คำพูดของเขาทำให้ใบหน้าของนลิน มีสุวรรณ์เป็นสีน้ำเงินสลับขาว “แล้วยังไง”
เมธชนันพูด “เมื่อแต่งงานไป ก็มีชีวิตอยู่อย่างสงบ”
นลิน มีสุวรรณ์ตัวแข็งทื่อ ไม่อยากเชื่อว่าคำพูดนั้นมันจะออกมาจากปากของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งต้องการเธอ ตอนนี้กลับมาพูดอย่างไร้น้ำใจไร้คุณธรรมเช่นนี้ออกมา
เขาสัมผัสเธออย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ยอมรับผิดชอบเธอ!
นลิน มีสุวรรณ์จ้องเขาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “คุณต้องการให้ฉันแต่งงานกับเขางั้นเหรอ”
“นอกจากนี้ ครอบครัวของคุณก็หาใครที่มีสถานะดีกว่าเขาไม่ได้แล้ว ไม่ใช่เหรอ” คนที่ชลธีพอจะสามารถหาได้ ปิยพนธ์เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เขาคว้าไว้ได้ ..
นลิน มีสุวรรณ์พูด “มีคุณอยู่….”
“คุณคิดว่าคุณสามารถแต่งงานกับผมได้เหรอ” เมธชนันชำเลืองมองเธอ เกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเขา นลิน มีสุวรรณ์รู้ดีกว่าเขา
ตามที่คาดไว้ หลังจากได้ยินคำพูดของเขา นลิน มีสุวรรณ์สีหน้าแข็งเกร็งขึ้นมาทันที
ในสถานการณ์ปัจจุบันของเธอ ถ้าต้องการแต่งงานกับเมธชนันภายในหนึ่งสัปดาห์ มันยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นไปถึงสวรรค์
เธอมองเขาและพูดอย่างเพ้อฝัน “ต่อให้ไม่สามารถแต่งงานกับคุณได้ ฉันก็ไม่อยากแต่งกับปิยพนธ์ ด้านธามนิธิ…”
ขอแค่เมธชนันสนับสนุนเธอ ต่อให้เธอไม่แต่งงาน ธามนิธิก็ไม่สามารถทำอะไรกับครอบครัวของเธอได้
เมธชนันเปิดปากเอ่ยขัดจังหวะเธอ “คุณไม่คู่ควร”
-
เมื่องานหมั้นจบลง ปาณีเดินออกมาจากข้างในกับธามนิธิ
แม้ว่าในที่สุดนลิน มีสุวรรณ์จะหนีไป แต่ที่เธอหมั้นหมายกับปิยพนธ์มันเป็นสิ่งที่แน่นอนแล้ว
ชลธียังพูดด้วยว่าในสัปดาห์หน้าก็จะพาคนทั้งสองไปรับไปรับรองยืนยันความสัมพันธ์ของการแต่งงาน
เห็นชลธีรีบให้นลิน มีสุวรรณ์แต่งงานออกไป ทุกคนก็ต่างสงสัยกันว่านลิน มีสุวรรณ์กำลังตั้งครรภ์
เมื่อเดินไปที่ประตู ปาณีถามธามนิธิว่า “เมธชนันล่ะคะ ทำไมไม่เห็นเขา”
เขาลากนลิน มีสุวรรณ์ออกไปแล้วก็ไม่ได้กลับมา
เมื่อนึกถึงเขา ปาณีก็เป็นห่วงเล็กน้อย เขาคงจะไม่นึกสงสารเมื่อเห็นนลิน มีสุวรรรณ์แล้วใจอ่อนกับเธอจนตัดสินใจช่วยเธอหรอกนะ
ปาณีเพิ่งคิดจบก็เห็นเมธชนันเดินมา
ทั่วทั้งร่างอยู่ในสภาพดี ไม่เห็นว่ามีส่วนใดผิดปกติ
ปาณีพูด “ฉันยังคิดอยู่เลยว่าคุณจะไม่กลับแล้วหรือเปล่า”
“ทำไม” เมธชนันเดินเข้ามา
ใบหน้าและลักษณะท่าทางของเขาเหมือนเมฆบางเบาและสายลมอ่อน
ปาณีจ้องหน้าเขา อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้
เมธชนันจ้องมองเธอพลางเลิกคิ้ว “ทำไมคุณมองผมแบบนั้น”
สายตาทรงอำนาจของเขากลับทำให้ปาณีร้อนตัว
“ไม่มีอะไร” ปาณีเปิดประตูรถแล้วก้าวเข้าไปนั่ง
ธามนิธิขับรถ ปาณีนั่งอยู่ที่ด้านข้างคนขับ เมธชนันนั่งอยู่ด้านหลัง “ชนัน คุณเคยชอบน้านลินใช่ไหม”
ตอนที่687
“……” เมธชนันยกดวงตาขึ้น “จะรู้มากไปทำไม”
ปาณีมองดูเขา แสงดวงไฟภายในทำให้ใบหน้าดูเป็นสามมิติขึ้นมา เหมือนกับดาราหนัง “ก็แค่สงสัยนิดหน่อย น้านลินเป็นคู่หมั้นของคุณอา แต่คุณชอบเธอ….”
“ปาณี” ธามนิธิมองปาณีที่พูดไม่รู้จักกาลเทศะ จนต้องยับยั้งคำพูดของเธอ
ทุกอย่างมันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เธอถามมันขึ้นมาอีก ย่อมไม่ค่อยเหมาะสม
เขากับเมธชนัน ไม่เคยมีความขัดแย้งกันในเรื่องของนลิน มีสุวรรณ์
เมธชนันถือว่าธามนิธิเป็นพี่น้อง จึงจะไม่ทำอะไรที่เกินเลย
และธามนิธิก็เชื่อในตัวเมธชนัน เชื่อว่าเมธชนันจะไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อเขา
ปาณีเห็นคุณอาพูดจึงรีบหุบปากสนิท
เธอเชื่อฟังเสมอ คุณอาไม่ชอบที่เธอถาม ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่ถามอีก
เมธชนันหัวเราะ ที่ปาณีถามแบบนั้นเขาไม่ได้โกรธ “วางใจเถอะ ความสัมพันธ์ของผมกับธามนิธิแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิด”
เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับธามนิธิ เมธชนันก็รู้สึกว่าตัวเองถูกจ้องเขม็งรุนแรง
แน่นอนว่าดวงตานั้นเป็นของคุณปาณีของพวกเรานั่นเอง
มองไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างเมธชนันกับธามนิธิแล้ว ปาณีก็มักจะคิดถึงประโยคที่ว่า พี่น้องก็เหมือนมือเท้า ผู้หญิงก็เหมือนเสื้อผ้า
พวกเขาเป็นมือเท้า เธอก็เป็นเสื้อผ้า
ปาณีมองไปที่ธามนิธิแล้วถามว่า “คุณอา ในใจของคุณอา ฉันกับเมธชนันใครสำคัญกว่ากัน”
ธามนิธิ “….”
คำถามผีนี่คืออะไร
เขามีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับเมธชนัน สำหรับปาณี….
เมธชนันหัวเราะ เต็มไปด้วยความมั่นใจ “คำถามนี้ต้องให้ตอบด้วยเหรอ แน่นอนว่าเป็นผม….ปาณีของเราสำคัญกว่า!”
เลี้ยวโค้งได้ทันเวลา ดาบใหญ่ยาวสี่สิบเมตรของปาณีแทบจะไม่สามาถเรียกคืนได้
เมธชนันมองไปทางธามนิธิที่กำลังขับรถ ยิ้มเละพูดว่า “ตั้งแต่มีคุณ ธามนิธิก็กลายเป็นเพื่อนสนิท จำไม่ได้แล้วว่าเคยเป็นพี่น้องกัน คุณดูสิ ต่อหน้าเขา ผมไม่กล้าพูดอะไรเลยที่มันมากเกินไป ดังนั้น พี่ดาว คุณอย่าได้เถียงกับผู้น้อยอย่างผมเลย”
ธามนิธิเป็นผู้ใหญ่มาก ไม่เคยทำให้ธามนิธิอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นั่นคือเหตุผลที่ว่าผ่านมาหลายปีแล้วพวกเขายังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
แม้แต่ปาณีก็รู้สึกได้ เขาเป็นคนที่คิดเกี่ยวกับคุณอามากจริง ๆ
ไม่ได้เห็นพวกเขา เธอเองก็คงไม่รู้ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย มันก็ดีเช่นนี้เหมือนกัน
เห็นเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับธามนิธิ ปาณีก็รู้สึกโล่งใจ
เธอเปลี่ยนไปพูดกับเมธชนัน “ฉันยังกลัวว่าคุณจะช่วยน้านลิน กลายเป็นศัตรูของคุณอา”
“ผมจะช่วยอะไรเธอได้” เมธชนันเหมือนได้ยินเรื่องตลก “เรื่องของธามนิธิ ผมไม่กล้าเข้าไปยุ่ง และอีกอย่าง ผมอยู่ข้างเขาโดยไม่มีเงื่อนไข”
นี่คือความจริง ..
แม้ว่าวันนี้เขาจะสัมผัสนลิน มีสุวรรณ์ แต่ในใจของเขายังคงเป็นธามนิธิที่สำคัญที่สุด
เมื่อก่อนเพราะธามนาธิ กับนลิน มีสุวรรณ์จึงไม่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องที่เกินไป
และตอนนี้มันจะไม่เป็นเพราะนลิน มีสุวรรณ์เช่นกัน ที่ทำให้ต้องไปยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับธามนิธิ
-
งานหมั้นจบแล้ว แขกทุกคนกลับไปกันหมดแล้ว ป้าขึ้นไปข้างบนและเคาะเบา ๆ ที่ประตูห้องของนลิน มีสุวรรณ์ “คุณหนูคะ คุณชลธีให้คุณลงไปข้างล่างค่ะ”
นลิน มีสุวรรณ์กำลังกอดหมอนนอนพิงหัวเตียง คิดทบทวนอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ได้ยินเสียงของป้าแต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงตอบออกไป
ป้าเคาะประตูอีกครั้ง “คุณหนู คุณอยู่หรือเปล่าคะ”
ตอนที่688
นลิน มีสุวรรณ์เบื่อหน่าย จำใจวางหมอนลง เปิดประตูและเดินออกไป
ป้ามองเธอ เอ่ยอย่างอ่อนโยนและจริงใจ “คุณชลธีบอกว่าให้คุณลงไปกล่าวลาครอบครัวท่านประธานธีรวัฌน์ค่ะ”
พวกเขาจะได้รับใบรับรองในสัปดาห์หน้า และตอนนี้ข่าวการแต่งงานของพวกเขาได้รับการตีพิมพ์แล้ว
ตอนนี้นลิน มีสุวรรณ์เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลนาทันเลิศแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
ชลธีถูกธามนิธิกดดัน จึงได้ตัดสินใจให้นลิน มีสุวรรณ์แต่งงานออกไป
นลิน มีสุวรรณ์พูด “ฉันไม่อยากไป”
เธอรู้สึกเบื่อที่ต้องไปเจอปิยพนธ์
ป้ากำลังพูดอะไรต่อ แต่ปิยพนธ์ขึ้นมาเสียก่อน “นลิน”
นลิน มีสุวรรณ์มองเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนคนนี้จะเป็นสามีของเธอ
ถ้าหากเทียบกับมาตรฐานภายในใจของเธอแล้วมันช่างห่างไกลเกินไป
ปิยพนธ์เดินเข้ามาด้วยความกระตือรือร้น พูดกับป้าว่า “คุณลงไปก่อนเถอะ”
ป้าพยักหน้าแล้วรีบจากไป ทิ้งพื้นที่ไว้สำหรับทั้งสองคน
ปิยพนธ์มองไปที่นลิน มีสุวรรณ์อย่างอ่อนโยน “คุณสวยจัง”
คำชมของเขาทำให้นลิน มีสุวรรณ์ขนลุก ต่อหน้าคนอื่นนั้นนลิน มีสุวรรณ์มีบุคลิกที่อ่อนโยนเสมอ
เธอไม่กล้าพูดเสียงดังกับปิยพนธ์
แค่พูดเลี่ยงว่า “ฉันเหนื่อยค่ะ”
ปิยพนธ์เดินเข้ามาจับมือของเธอ “พวกเราหมั้นกันแล้ว วันนี้คุณกลับไปกับผมเป็นไงครับ”
นลิน มีสุวรรณ์ค่อย ๆ ชักมือออกมา “ฉันไม่อยากไปค่ะ”
หลังจากถูกปิยพนธ์สัมผัสเธอก็รู้สึกขยะแขยงมาก
ให้เธอกลับไปกับเขาเนี่ยนะ
เธอยอมไปตายเสียดีกว่า
ปิยพนธ์ค่อนข้างผิดหวัง “ทำไมล่ะ หลังจากได้รับใบรับรองแล้วคุณก็ต้องย้ายไปที่นั่น ดังนั้นไปทำความคุ้นเคยก่อนก็ได้”
“ฉันบอกว่าฉันไม่ไป” นลิน มีสุวรรณ์ตวาดออกมาอย่างหงุดหงิด
แต่เดิมเธอก็ได้รับความทุกข์ใจจากเมธชนันอยู่แล้ว ต้องมาเจอคนโง่ตรงหน้าอีก ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้น
ปิยพนธ์ชะงักไปชั่วครู่ ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะทำท่าทางเย็นชาแบบนี้
นลิน มีสุวรรณ์ตัวแข็งทื่อ เพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองเสียจริตไป
เธอมองปิยพนธ์พลางรีบเปลี่ยนท่าที “วันนี้ฉันเหนื่อยมากจริง ๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นวันนี้คุณกลับไปก่อนนะคะ”
ปิยพนธ์มองนลิน มีสุวรรณ์ นึกถึงงานหมั้นวันนี้ เธออาจจะเหนื่อยแล้ว จึงยิ้มออกมา “งั้นก็ได้! เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาหาคุณใหม่ คุณอยากทานอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมเอามาให้คุณ”
“บ้านฉันมีคุณป้าคอยทำอาหารให้แล้ว ไม่ต้องหรอกค่ะ” นลิน มีสุวรรณ์ปฏิเสธ
มองออกว่าปิยพนธ์นั้นดีกับเธอ
แต่ว่า ผู้ชายคนนี้ เธอไม่อาจทนได้จริง ๆ
จากก้นกระดูกของเธอ เธอไม่ชอบผู้ชายที่แสนธรรมดาคนนี้
แต่ตอนนี้ธามนิธิกดดันย่างหนัก และคุกคามอนาคตของพ่อเธอ ก่อนที่เธอจะให้เมธชนันช่วยเธอออกไป เธอต้องอดทนกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งหมดนี้
ปิยพนธ์ยิ้ม “ไม่เป็นไร คุณจะทำอะไรมันก็เป็นสิ่งที่ควร คืนนี้คุณพักผ่อนให้เต็มที่ เดี๋ยวผมจะกลับไปก่อน”
นลิน มีสุวรรณ์ยืนนิ่งอย่างเย็นชา หวังว่าเขาจะรีบไปสักที
ปิยพนธ์ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ กลับยังไม่ไป
นลิน มีสุวรรณ์เร่งอย่างหงุดหงิด “ทำไมคุณยังไม่ไปอีก”
คนคนนี้ต้องการอะไรอีก
ปิยพนธ์ก้มหน้าลงมา กดจูบบนใบหน้าของเธอ ท่าทางดั่งประสบความสำเร็จ “ราตรีสวัสดิ์ครับ”
ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขา เขาอยากจูบเธอก็จูบได้โดยที่ไม่ต้องกังวล
มองดูปิยพนธ์ที่เดินไปแล้ว นลิน มีสุวรรณ์ยกมือขึ้นเช็ดใบหน้าตัวเองซ้ำไปซ้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้ชายคนนั้น….น่าขยะแขยง….
เขาจูบเธอด้วยเหตุผลอะไร
นลิน มีสุวรรณ์เข้าไปในห้องน้ำ ล้างหน้าตัวเองอีกครั้งและอีกครั้ง
-
พวกของปาณีกลับมาถึงบ้าน เมธชนันกับธามนิธินั่งอยู่บนโซฟาและพูดคุยกัน
เมธชนันมาที่นี่ก็หลายวันแล้ว จึงเตรียมที่จะกลับ
ตอนที่689
ปาณีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ โทรหาทัดธน
ตั้งแต่ทัดธนพาพลอยไปก็ยังไม่กลับมา
ปาณีโทรหาทุกวันเพื่อสอบถามความเป็นไปของพลอย
ใช้เวลารอสายครู่หนึ่งกว่าจะถูกรับสาย
ปาณีสอบถาม “คุณทัดธน พลอยเป็นยังไงบ้างคะ”
ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างทัดธนกับครอบครัวของชลธี งานหมั้นคืนนี้เขาควรจะไป
แต่เขาไม่ได้ไป
ทัดธนพูดอย่างจริงจัง “พลอยเป็นไข้นิดหน่อย ผมอยู่เป็นเพื่อนเธอ”
“เป็นไข้เหรอคะ” ปาณีเพิ่มเสียงขึ้นมา
สายตาของเมธชนันหันไปหาเธอ
ปาณีถามบางอย่างอีกเล็กน้อย จากนั้นก็วางสายไป
เมธชนันรีบถามเธออย่างว่องไว “พลอยเป็นไข้เหรอ”
ตั้งแต่ป่วย พลอยไม่เคยอยู่ห่างจากครอบครัว นี่เป็นครั้งแรก
เมธชนันเป็นห่วงเธอ ไม่ต่างจากการเป็นห่วงเด็กเล็ก
ปาณีพยักหน้า “คุณทัดธนบอกว่าเธอเป็นไข้นิดหน่อย แต่มีหมอมาดูเธอแล้ว พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปดูเธอ”
พลอยเป็นเด็กดี ปาณีไม่ได้ติดต่อกับเธอมานานแต่ก็ยังปฏิบัติต่อเธอเหมือนกับเป็นน้องสาว
แม้ว่าพลอยจะแก่กว่าเธอ แต่ดูเหมือนเป็นน้องสาวมากกว่า
พลอยนอนอยู่บนเตียง มีเข็มที่ด้านหลังของมือที่กำลังมีของเหลวไหลเข้าไป
ทัดธนถือผ้าขนหนู กำลังเช็ดใบหน้าให้กับเธอ
ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูชายร่างใหญ่อย่างทัดธนคอยดูแลผู้หญิงอย่างทนุถนอม ก็แปลกใจเล็กน้อย
ในความประทับใจของเขาอย่างไรทัดธนก็เป็นแค่คนที่บ้างาน
ใบหน้าของพลอยแดงก่ำจากความร้อน มองที่ทัดธน “พี่ทัดธน ฉันอยากกินของหวาน”
“…..”
ของหวาน?
ในเวลานี้ที่บ้านจะมีของหวานที่ไหนกัน
ทัดธนสั่งผู้ช่วยข้าง ๆ “ไปซื้อมา”
ผู้ช่วยนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วรีบวิ่งออกไป
ในเวลานี้มาให้เขาซื้อของหวาน เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าจะไปซื้อตรงไหน
ทัดธนอาศัยอยู่ในย่านชนชั้นสูง ใกล้เคียงไม่มีร้านค้า
และต้องหาร้านที่ขายของหวาน มันไม่ง่ายเลย
ผู้ช่วยไปครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะกลับ ซื้ออมยิ้มมาสองอัน ทัดธนรับมาแกะเปลือกอมยิ้มให้ และส่งมันให้เธอ “ของหวานของคุณ”
พลอยรับมา ส่งอมยิ้มเข้าไปในปาก และพบว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
“ฉันไม่ได้อยากกินของหวานแบบนี้”
“…..”
ทัดธนพูด “แล้วคุณอยากกินของหวานแบบไหน”
“หวานๆ กลมๆ”
“…..” ทัดธนนึกไม่ออก
ผู้ช่วยที่ได้ยินก็มึนงง
อมยิ้มที่ซื้อมาให้เธอมันก็กลมและก็หวาน!
ในตอนนั้นเอง คนรับใช้ก็เข้ามา “คุณทัดธนคะ คุณปาณีมาค่ะ”
ปาณีไม่รู้ว่าทัดธนอาศัยอยู่ที่ไหน จึงยังไม่เคยมาที่บ้านเขา แต่…ธามนิธิรู้
ดังนั้นพวกเขาจึงมาด้วยกัน
ไม่นาน ทัดธนก็เห็นปาณีเดินเข้ามา เอาขนมสองเม็ดออกมาจากกระเป๋า และส่งมันให้กับพลอย
พลอยรับมาแล้วมีความสุขมาก “ดาวดาว”
เธอจำชื่อของปาณีได้ นอกจากนี้ปาณียังเอาขนมที่เธอชอบมาให้ด้วย
ปาณีมองรอยยิ้มของเธอก็ยิ้มกว้าง ป่วยแบบนี้ยังหัวเราะได้อีก
ของหวานที่ปาณีให้ แม้ว่าจะห่อด้วยกระดาษเหมือนกัน แต่ข้างในมีถั่ว แน่นอนว่ามันต่างจากอมยิ้มที่พวกเขาซื้อมา
ทัดธนมองท่าทางของพลอยที่มีความสุข แล้วหันไปถามปาณี “คุณรู้ได้ยังไงว่าเธออยากทานแบบนี้”
“เมธชนันบอกค่ะ” ปาณีอธิบาย “เมธชนันบอกว่า พลอยชอบทานมันในเวลาที่ป่วย พวกเราจึงเอามาให้เธอโดยเฉพาะ”
แน่นอนว่าก็เพราะเป็นห่วง จึงแวะมาดู
ทัดธนมองไปที่ปาณี “คุณมาคนเดียวเหรอ”
“คุณอากับเมธชนันอยู่ข้างล่างค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทัดธนจึงยืนขึ้นและออกจากประตูไป
ปาณีจึงอยู่คุยกับพลอย
ทัดธนลงไปข้างล่างและทักทายทั้งสองคน
กับธามนิธินั้นคุ้นเคยกันดีก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
สำหรับเมธชนัน เขาเป็นถึงคุณชายใหญ่ เกี่ยวกับตัวตนนี้ ทัดธนจึงไม่ได้กังวลมากนัก
เพียงแค่ สิ่งที่ทำให้เขากังวลคือตัวตนของเมธชนันนั้นเป็นพี่ชายของพลอย
ซึ่งในอนาคตต้องเป็นพี่ภรรยา
เมธชนันนั่งอยู่บนโซฟา เห็นได้ชัดว่าเด็กกว่าทัดธนไม่กี่ปี แต่กลับมีกลิ่นอายของความเป็นผู้ใหญ่
เขาจ้องมองทัดธนอย่างใจเย็น “ผมตั้งใจจะกลับแล้ว วันนี้จึงมารับพลอย”
เขามาแล้วถ้าไม่รับพลอยกลับแล้วทิ้งพลอยไว้ที่นี่ มันก็ไม่เหมาะสม
ทัดธนพูด “อีกสองวันผมจะไปส่งพลอยกลับ และพูดคุยเรื่องแต่งงานกับเธอ”
เมธชนันมองไปที่ทัดธน มีความแปลกใจเล็กน้อย “คุณอยากใช้เวลาอีกสองวันกับพลอยผมก็ไม่ได้อยากขวาง คุณกับเธออยู่ด้วยกันแล้ว คงจะรู้ว่าเธอมีปัญหาแค่ไหน”
มันเป็นปัญหามากกว่าการเลี้ยงดูผู้หญิงคนหนึ่ง
ทัดธนพูด “ผมไม่คิดว่าเธอมีปัญหา”
ถึงแม้ว่าเธอจะต้องถูกดูแลตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นจะเดินหายไป แต่ทัดธนไม่ได้รู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมธชนันประหลาดใจ ทุกคนในครอบครัวคิดว่าพลอยมีปัญหา ไม่คิดว่าเขากลับไม่คิดเช่นนั้น….
เขายกมุมปาก “คุณไม่ได้ต้องการจะแต่งงานกับพลอยจริงหรอกใช่ไหม”
ครั้งล่าสุดที่ทัดธนพูด พวกเขาแค่เล่นมุกตลกกันเท่านั้น
แต่หลังจากนั้น ตอนที่ทัดธนปรากฏตัว ประกาศเรื่องการแต่งงาน ตอนนี้ทุก
คนรู้แล้วว่าเขากำลังจะแต่งงาน
ทัดธนพูด “แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง”
เมธชนันรู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย “คนในตระกูลแสงศรีเรืองรู้ไหม คุณได้ปรึกษาเรื่องนี้หรือยัง”
ทัดธนนิ่งไป ตั้งแต่วันที่เขาพูดในโทรทัศน์ว่าเขากำลังจะแต่งงาน นพรุจก็โทรหาเขา ถามว่าเขาจะแต่งงานจริงหรือไม่
ทัดธนก็ตอบไปตามตรง
นพรุจเป็นคนแรกที่คัดค้าน
ถึงแม้ว่านพรุจจะเป็นคนที่มีเหตุมีผลก็ตาม
คนอื่นไม่รู้ แต่นพรุจรู้ คนที่เป็นฝ่ายเลิกคือพลอย และตระกูลศรีเดชนิษก็ดูถูกทัดธน
ทัดธนเป็นลูกนอกสมรส มันเป็นเรื่องปกติที่จะถูกมองข้าม ตระกูลศรีเดชนิษมีต้นทุนที่จะดูถูกทัดธน
แต่ว่า….
ตั้งแต่เลิกกันไป พลอยก็ป่วยอีกครั้ง แล้วทำไมทัดธนถึงต้องรับผิดชอบเธอในเวลานี้
ในโลกนี้ไม่มีผู้หญิงอีกแล้วเหรอ!
ถึงแม้ว่าจะเป็นคนในตระกูลศรีเดชนิษ ความจริงนี้ก็แน่นอนว่าพูดออกไปไม่ได้
เมธชนันมองทัดธนเพื่อดูปฏิกิริยาแล้วก็ยิ้ม “คุณทัดธนไม่ต้องฝืนตัวเอง พวกเราตระกูลศรีเดชนิษไม่ได้เป็นคนไร้เหตุผล พวกเราไม่มีใครคาดหวังให้คุณรับผิดชอบพลอย”
“ไม่ใช่เพราะความรับผิดชอบ แต่เพราะผมชอบเธอ” ทัดธนพูดอย่างจริงจัง
ชอบ….
เมื่อคำนั้นออกมาจากชายวัยสามสิบเช่นเขา ดูเหมือนจะไร้สาระทีเดียว
เมธชนันช็อกไปแล้ว แต่ว่าทัดธนกลับจริงจัง
ปาณีที่อยู่ข้างบนกล่อมให้พลอยหลับไปแล้วก่อนที่จะเดินลงมา
ผู้ชายทั้งหลายที่กำลังคุยกันก็ไม่พูดกันมากอีก
ปาณีมองธามนิธิ “พวกเรากลับกันเลยไหมคะ”
มีทัดธนอยู่ พลอยจะไม่เป็นไร แต่กลับเป็นเธอ เธอรู้สึกว่าถ้าตัวเองไม่กลับไปนอนพรุ่งนี้คงต้องสายอีกครั้ง
ธามนิธิพูด “งั้นพวกเรากลับกันเถอะ”
เขาเหลือบมองไปทางเมธชนันแล้วพูดว่า “ชนัน คืนนี้นายก็อยู่ดูแลพลอยที่นี่เถอะ ถึงแม้ว่าต้องพาเธอกลับ ก็ต้องรอจนกว่าเธอจะดีขึ้น”
ตอนนี้พลอยป่วยอยู่คงเป็นไปไม่ได้ที่จะพาเธอกลับ
ใครจะรู้ว่าเมธชนันดูเหมือนจะประหลาดใจคำพูดในประโยคนั้นของทัดธน และก็ไม่ยืนกรานที่จะพาพลอยไป เหมือนกับว่าเขาเห็นด้วยกับทัดธน “งั้นก็รอจนกว่าเธอจะดีขึ้น แล้วค่อยพาเธอกลับไปก็แล้วกัน”
กลับมาถึงสวนจตุจักรในตอนที่ดึกมากแล้ว ธามนิธิที่ยังไม่หลับ ก็ได้เห็นปาณีกอดแขนของเขาอยู่และนอนหลับไปแล้ว
มองไปที่ภรรยาของตัวเอง เขาเอื้อมแขนไปโอบรอบตัวเธอ กดจูบลงบนหน้าผากของเธอแล้วหลับไป
เย็นวันต่อมาเมธชนันก็บินกลับ เรื่องของเขากับนลิน มีสุวรรณ์เหมือนกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ตอนที่690
ที่สำนักงานเขต นลิน มีสุวรรณ์ถือโทรศัพท์มือถือ กำลังส่งข้อความไปหาเมธชนัน “ชนัน วันนี้ฉันได้รับใบรับรองแล้ว”
ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเมธชนันจะไม่สนใจเธอ แต่เธออดไม่ได้ที่จะส่งข้อความไปหาเขา คาดหวังว่าเขาจะมาพาเธอออกไป และไปจากที่นี่
หลังจากหนึ่งนาทีก็มีข้อความตอบกลับมา : ขอให้มีความสุขกับการแต่งงาน
นลิน มีสุวรรณ์มองข้อความดังกล่าว ราวกับว่าได้เห็นท่าทีเฉยเมยของเขาด้วย
นึกถึงวันนั้นที่เขาปฏิเสธแม้แต่จูบ ความรู้สึกไม่พอใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
ทางด้านตระกูลศรีเดชนิษ นลิน มีสุวรรณ์ไม่เคยกล้าที่จะอวดดี
ต่อให้เธอนอนกับเมธชนัน เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไป
จอมพลนรเทพกับแม่ของเมธชนันนั้นเป็นคนที่ยากจะจัดการ และตนก็ไปขึ้นเตียงกับเมธชนันเอง จะให้เมธชนันมาแต่งงานด้วยมันก็เป็นไปไม่ได้
เธอแค่คาดหวังว่าเมธชนันจะอ่อนโยนกับเธอ และก็หวังว่าเขาจะมาช่วยเธอ
หลังจากได้รับใบรับรอง นลิน มีสุวรรณ์ถูกบังคับให้ตามปิยพนธ์กลับไปที่บ้านตระกูลนาทันเลิศ ที่บ้านได้เตรียมหลายสิ่งหลายอย่างสำหรับเธอส่งมาให้ด้วย
เห็นได้ชัดว่าเมื่อเดือนที่แล้วเธอยังรู้สึกว่าเธอเป็นคุณหนูมีสุวรรณ์ผู้สูงส่ง ไม่มีใครดูถูก ตอนนี้กลับต้องพึ่งพาตระกูลนาทันเลิศเพื่อเอาชีวิตรอด
ปิยพนธ์อาบน้ำเสร็จแล้ว มองไปที่นลิน มีสุวรรณ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง เดินตรงเข้าไปกอดเธอไว้จากทางด้านหลัง
นลิน มีสุวรรณ์ตกใจมาก รีบผลักเขาออกไป ทันทีที่เขาสัมผัสเธอ ทำให้เธอรู้สึกคลื่นไส้และอึดอัด
ปิยพนธ์มองดูปฏิกิริยาที่รุงแรงของเธอ เอ่ยถามว่า “อายเหรอครับ พวกเราแต่งงานกันแล้ว เดี๋ยวคุณก็ชิน”
ชินงั้นเหรอ
เธอจะชินกับมันได้ยังไง
ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้ต้องพึ่งพาตระกูลนาทันเลิศ
ถ้าไม่ใช่เพราะเมธชนันไม่สนใจเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะธามนิธิกดดันเกินไป
ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อเข้มงวดเกินไป
เธอก็อยากให้ปิยพนธ์ไสหัวไปซะ
เธอมองปิยพนธ์และโป้ปดว่า “ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ”
“ไม่สบายตรงไหน อยากเรียกหมอไหมครับ” ผู้ชายคนนี้ไม่รู้จักวิธีการอ่านสีหน้า ความฉลาดทางอารมณ์ของเขาก็ต่ำเท่ากับมูลค่าทางใบหน้า
เขามองไม่ออกเหรอว่าตนแค่ไม่ชอบเขาก็เท่านั้น
นลิน มีสุวรรณ์พูด “ไม่ต้องหรอกค่ะ”
“งั้นก็มานอนเถอะ” ได้ยินว่าเธอไม่สบาย ปิยพนธ์จึงให้เธอไปนอนบนเตียง
นลิน มีสุวรรณ์ยืนอยู่ข้างเตียง มองไปที่เตียงเดียวในห้องนี้ เธอต้องนอนกับผู้ชายคนนี้งั้นเหรอ
แค่คิดเธอก็อยากจะบ้า
บ้าไปแล้วเหรอ ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้งั้นเหรอ
ปิยพนธ์มองท่าทางของเธออย่างเอ็นดู เดินตรงเข้ามาอุ้มเธอขึ้นและวางลงบนเตียง
“คุณ…คุณปล่อยฉันนะ!” เขาเป็นผู้ชาย นลิน มีสุวรรณ์จึงไม่มีแรงต้านทานได้
หลังจากที่ปิยพนธ์วางเธอลงบนเตียง ร่างทั้งร่างก็ทิ้งตัวลงทับเธอ บดจูบแนบสนิทไม่หยุด นลิน มีสุวรรณ์รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองมีแต่ล้ำลายของเขา ความรู้สึกรังเกียจผุดขึ้นมาอีกครั้ง