ตอนที่691
เธอเอื้อมมือออกไปผลักเขาออก “คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
ปิยพนธ์คิดว่าเธอแค่ขี้อาย มองใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเธอด้วยความตื่นเต้น “นลิน ผมรู้สึกเหมือนว่ากำลังฝัน ในที่สุดคุณก็มาเป็นภรรยาของผม”
ขณะที่เขาพูดแบบนั้นก็ไม่ได้ปล่อยนลิน มีสุวรรณ์ ยังคงแนบชิด ลมหายใจพ่นลงบนใบหน้าของเธอ
นลิน มีสุวรรณ์ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นสามีของตัวเอง จึงรู้สึกต่อต้านเขาอย่างถึงที่สุด
ปิยพนธ์กอดเธอเอาไว้ พูดอย่างหลงใหลว่า “ที่รัก หลังจากนี้ผมจะดูแลคุณอย่างดี ที่รัก ผมรักคุณจริง ๆ นะ”
“ปิ…ปิยพนธ์” นลิน มีสุวรรณ์เอ่ยเสียงแผ่วระโหยออกมา “พวกเรายังไม่ได้รู้จักกันมากนัก คุณให้เวลาฉันอีกหน่อยได้ไหมคะ ฉัน…ฉันยังไม่ชิน คุณบอกว่าคุณชอบฉันมาตั้งนานแล้ว ฉันเชื่อว่าที่คุณแต่งงานกับฉัน มันไม่เกี่ยวกับการที่จะทำเรื่องนี้ใช่ไหมคะ”
ปิยพนธ์ชะงักไปครู่หนึ่ง จ้องมองนลิน มีสุวรรณ์ “……”
นลิน มีสุวรรณ์ขาดกลัว ไม่กล้าให้เขารู้ ว่าตนเลี่ยงกันทำเรื่องนี้กับเขาเพราะว่าเกลียด
และแน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้ชอบที่จะทำเรื่องนี้กับเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนั้นหลังจากมีความสัมพันธ์กับเมธชนัน ในตอนนี้เธอพบว่าตัวเองนั้นชอบเขามาก
ก่อนหน้านี้เขาดีกับเธอมาก และคอยปกป้องอยู่เงียบๆ
เมื่อเขาว่าง เขาจะพาเธอไปทุกมุมเมืองเพื่อหาอะไรทาน
เขาเป็นทายาทบ้านวิสิทธิ์เวช ได้รับความรักจากเขานับเป็นเกียรติ
เพียงแต่ตอนนั้นเขาแย่กว่าธามนิธิในทุกเรื่อง เธอจึงไม่เห็นเขาในสายตา
มักจะรู้สึกว่าธามนิธินั้นดีที่สุด
พอมาคิดดูแล้ว ธามนิธิไม่เคยรักเธอ ไม่เหมือนกับเมธชนัน ความนึกคิดของเขานั้นมีให้กับเธอทั้งหมด
คิดถึงความทรงจำเหล่านั้น เธอก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองพลาดบางสิ่งที่สำคัญไปเสียแล้ว
ดังนั้น เมื่อเธอต้องมามีความสัมพันธ์กับปิยพนธ์ เธอก็ไม่สามารถยอมรับมันได้
เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีความรู้สึกเป็นของตัวเอง
ดังนั้น เธอคาดหวังว่าปิยพนธ์จะให้โอกาสนั้นกับเธอได้
นลิน มีสุวรรณ์พูด “ฉันรู้ว่าคุณดีกับฉันมาก ฉันก็ประทับใจมาก แต่ว่า ความรู้สึกควรจะค่อยๆ พัฒนาขึ้น รออีกหน่อยนะคะ เมื่อฉันตกหลุมรักคุณ พวกเราค่อยพูดเรื่องนี้กันอีกครั้งได้ไหมคะ”
กลัวว่าปิยพนธ์จะไม่รับปาก เธอจึงพยายามที่จะอ่อนโยน
ปิยพนธ์ชะงักไปสักพักพลางครุ่นคิด จากนั้นก็พยักหน้ารับปาก “ได้ครับ”
เธอสวยงามมาก และพูดถูกต้องทุกอย่าง
ปิยพนธ์กับธามนิธิเมื่อเทียบกันระหว่างพวกเขาอาจเทียบกันไม่ได้ แต่เขาก็ยังเป็นคนดี อย่างน้อย สำหรับตนที่เป็นผู้หญิงที่เขาชอบ เขาก็ยังมีความให้เกียรติ
นลิน มีสุวรรณ์เห็นเขารับปากก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
บ่ายวันรุ่งขึ้นก็ใช้ข้ออ้างว่าแม่ไม่สบาย บินกลับไปปักกิ่ง
ที่บอกว่าจะตกหลุมรักปิยพนธ์ ก็เพื่อรับมือกับเรื่องเมื่อคืน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีความเป็นไปได้ที่เธอจะชอบปิยพนธ์
คุณนายเยอซอมองไปที่นลิน มีสุวรรณ์ที่นังอยู่บนโซฟา “แกมาที่นี่เอง ไม่ได้พาสามีแกมาด้วยเหรอ”
เรื่องการแต่งงานของนลิน มีสุวรรณ์ คุณนายเยอซอรู้ ควรจะพูดว่าตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้กันหมดแล้ว
นลิน มีสุวรรณ์แข็งค้าง ไม่ได้คิดเลยว่าแม่ก็….
เห็นได้ชัดว่าที่เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายแบบนั้น แม่ไม่ได้รู้สึกเสียใจกับเธอเลยแม้แต่น้อย
เธอไม่พูด
คุณนายเยอซอโน้มน้าว “ที่จริงเมื่อแต่งงานแล้ว…..บางครั้งก็ไม่จําเป็นต้องมองหาคนที่ตัวเองชอบ แกแต่งงานกับเขาน่ะดีแล้ว ตระกูลนาทันเลิศก็ฐานะไม่เลว ถึงเทียบกับธามนิธิไม่ได้ แต่แกกับธามนิธิมีความหมายอะไรต่อกันล่ะ เขาไม่ชอบแกอีกแล้ว หลังจากแต่งงานแล้วก็ใช้ชีวิตอย่างสงบเถอะ”
ทัศนคติของคุณนายเยอซอคือต้องการที่จะบอกกับนลิน มีสุวรรณ์ว่าที่ตัวเองชอบเมธชนันนั้นไม่สามารถเอ่ยออกมาได้อีก ..
ตอนที่692
ตอนนี้ในสายตาคนอื่น เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
ถ้าหากเธอบอกว่าเธอมีความสัมพันธ์กับเมธชนัน แล้วเมธชนันไม่ยอมรับคำพูดนั้น เช่นนั้นแล้วเธอก็ไม่รู้ว่าจะต้องอับอายขายหน้าขนาดไหน
……
เมธชนันเพิ่งนอนตอนตีห้า และตื่นขึ้นมาตอนเจ็ดโมงเช้า
ที่บ้านตระกูลศรีเดชนิษนั้นเงียบเชียบ
เขาใส่ชุดนอนสีดำนั่งอยู่บนเตียง
ชลิตพิงหน้าต่าง มองดูและเพิ่งลุกขึ้นมา มีความกังวลต่อเมธชนันเล็กน้อย “นายมีปัญหาการนอนหลับเหรอ มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่”
ตั้งแต่ธามนิธิได้รับบาดเจ็บ ชลิตก็ถูกตระกูลวิสิทธิ์เวชส่งไปดูแลธามนิธิ
เรื่องที่เมธชนันมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ เขาจึงเพิ่งค้นพบไม่นาน
คำพูดของชลิต ทำให้จิตใต้สำนึกของเมธชนันมองไปยังรูปภาพที่ผนังที่เขาถ่ายกับธามนิธิโดยไม่รู้ตัว เขากอดไหล่ธามนิธิ ดวงตาพลันมืดมนอย่างช่วยไม่ได้
เขาตอบกลับไป “หลังจากอุบัติเหตุของธามนิธิ”
และเรื่องที่เขามีปัญหาในการนอนหลับนี้ เขาไม่เคยให้ใครรู้
“……” คำพูดของเขา ทำให้ชลิตนิ่งไป “แต่ตอนนี้ธามนิธิดีขึ้นแล้ว นายยังนอนไม่ได้อีกเหรอ”
“ไม่รู้” เมธชนันพูดอย่างหมดหนทาง
ชลิตอดไม่ได้ที่จะมองเขา “ฉันอยากได้ยินความจริง”
เขารู้สึกได้ ว่าเหตุผลที่เมธชนันนอนไม่หลับไม่ใช่แค่เพราะเรื่องนี้ แต่มีเหตุผลอื่นอีก
ถ้าเขาไม่พูดออกมา ตนก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเขาแก้ปัญหานี้อย่างไร
เมธชนันยิ้มครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเขาปฏิเสธความตั้งใจของชลิต
เขาเปลี่ยนเรื่อง พูดกับชลิตว่า “จริงสิ ฉันนอนกับนลิน มีสุวรรณ์แล้วนะ”
“……” เพียงชลิตได้ยินประโยคนี้เท่านั้น ดวงตาก็พลันเบิกกว้าง
ต่อให้เขาจะเป็นคนใจเย็นและมั่งคงเสมอ แต่เมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้ว ก็ยังแปลกใจเล็กน้อย “นายจะให้ฉันพูดกับนายว่าอะไร เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่”
“ที่งานหมั้นของเธอเมื่อคืน”
ความสัมพันธ์กับชลิต เมธชนันไม่มีอะไรปิดบัง
ชลิตเป็นคนแรกที่รู้ว่าเขาชอบนลิน มีสุวรรณ์
ยกเว้นเรื่องที่ธามนิธิได้รับบาดเจ็บ เขาไม่เคยซ่อนอะไรจากชลิตได้
ชลิตปวดหัวมาก “นายคิดอะไรอยู่ ถ้าพ่อนายรู้เข้าต้องฆ่านายแน่” ..
ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนเมธชนันจะถูกตีไม่น้อย แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นแล้ว แล้วก็มีใจฮึดสู้อย่างมาก
ในหน้าที่การงาน ก็แสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมไปทั่วทุกที่ ไม่ได้แย่ไปกว่าธามนิธิ
เมธชนันพูด “ชอบเธอมาหลายปีแล้ว เมื่อคืนก็เลยไม่ได้กลั้นเอาไว้”
นลิน มีสุวรรณ์เป็นคนแรกที่เขาชอบ และเขาก็ชอบมานานแล้ว เป็นคนเดียวที่เขาชอบ
แต่หัวใจเธอมีเพียงธามนิธิ ซึ่งมันชัดเจนว่าธามนิธิไม่ได้ชอบเธอเลย…
ชีวิตของเมธชนัน หลังจากได้พบกับธามนิธิแล้วก็มีความเปลี่ยนแปลง
เมื่อก่อนคนอื่นรับรู้ว่าเขาเหลวไหล แต่เขาเป็นคุณชายบ้านวิสิทธิ์เวช เขาเหลวไหลมาตั้งแต่เกิด แต่มันก็จบไปแล้ว
แต่กับธามนิธิ ทั้งหมดของเขาจะต้องนำมาเปรียบเทียบกับเขา พ่อของเขาก็มองว่าธามนิธิเป็นลูกชายแท้ ๆ
ในความเป็นจริงเมธชนันไม่ได้เลวร้ายไปกว่าธามนิธิ ธามนิธิทำอะไรเขาก็ทำแบบนั้น
แต่การมีอยู่ของธามนิธิ กลับทำให้แสงของเขาถูกบดบังโดยสมบูรณ์
จนกระทั่งธามนิธิขาหัก และกลับไปที่เมืองชยุต ชีวิตของเขาก็เริ่มเป็นปกติขึ้นมา พ่อก็ไม่จับผิดเขาเหมือนที่เคยเป็น
เขารู้ว่าตัวเองผิดต่อธามนิธิ อาจจะมีบางสิ่งที่ทำไปแล้วไม่เสียใจภายหลัง
ตอนที่693
แค่เป็นคืนที่ฝันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฝันถึงตอนที่ธามนิธิได้รับบาดเจ็บ
เขาเป็นทหาร พ่อของเขาสอนเขาตั้งแต่อายุยังน้อย มันจึงเป็นบวกมาก
แต่กับเรื่องนั้น มันเป็นคราบที่ลบไม่ออกในชีวิตของเขา ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครรู้ แต่หัวใจของเขาเต็มไปด้วยการลงโทษ
เขาส่งคนไปดูแลธามนิธิ หวังว่าธามนิธิจะได้รับแต่สิ่งที่ดี หวังว่าธามนิธิจะมีความสุข เป็นทั้งหมดที่ตัวเองรู้สึกขอโทษต่อเขา
อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าหลังจากที่ธามนิธิยืนหยัดขึ้นมาได้ หัวใจก็ยังคงสับสน
พ่อตั้งใจจะให้ธามนิธิกลับมา เขาก็กลัวว่าจะกลับเป็นเหมือนเดิมเมื่อครั้งที่ถูกธามนิธิปล้นชีวิตไป
โดยเฉพาะนลิน มีสุวรรณ์ หลังจากที่ธามนิธิหายดีแล้ว ก็วิ่งไปหาธามนิธิเพื่อทำให้ตัวเองขายหน้าทันที มันทำให้เขารู้สึกตลกมาก
หลายครั้งที่เขาพยายามจะบีบคอผู้หญิงคนนั้น แต่เขาก็อดทนเอาไว้ได้
โชคดีที่ธามนิธิมีปาณี จึงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะกลับมา
เขารู้สึกอยากขอบคุณพวกเขา มันเป็นธรรมชาติที่จะไม่ทำสิ่งที่ถูกต้องกับธามนิธิ
เขาจะทำทุกอย่างเพื่อชดเชยการสูญเสียของธามนิธิ ตราบใดที่เขาไม่กลับมา พวกเขาจะเป็นพี่น้องกันตลอดไป
ดังนั้นถึงแม้ว่าหัวใจของเขายังคงมีความรู้สึกเล็กน้อยต่อนลิน มีสุวรรณ์ ก็จะบังคับตัวเองให้เกลียดผู้หญิงคนนี้
แน่นอนเรื่องนี้ เขาไม่แม้แต่จะพูดกับชลิต และจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้
ชลิตมองธามนิธิโดยที่ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ พูดอย่างปวดหัวว่า “ช่างเถอะ ไม่อยากพูดกับนายแล้ว”
บางทีเขาอาจจะชอบนลิน มีสุวรรณ์จริง ๆ!
เพียงเพราะความสัมพันธ์ของธามนิธิ เขาต้องบังคับตัวเองให้เกลียดนลิน มีสุวรรณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก
หลังจากพูดคุยกับเมธชนัน ชลิตก็ออกมาจากบ้านตระกูลวิสิทธิ์เวช เห็นนลิน มีสุวรรณ์ยืนอยู่ที่ประตู
ชลิตอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปหา และจากไปทันที
ชลิตไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อนลิน มีสุวรรณ์ ถึงแม้ว่าธามนิธิจะไม่ชอบเธอ แต่ในฐานะคู่หมั้น เธอทำร้ายธามนิธิอย่างหนักหนาสาหัส
-
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมธชนันลงมาจากชั้นบน แต่งตัวเรียบร้อยพิถีพิถัน ติดตามทหารผู้ช่วยไป คนขับรถรออยู่ที่ประตู
นลิน มีสุวรรณ์มองเขาจากระยะไกล รู้สึกถึงความเจ็บปวดของตัวเอง
เมธชนันอยู่บนรถ ไม่แม้แต่จะมองมายังทิศทางของเธอเลย
ตอนนี้เธอรู้แล้ว แต่เดิม ถ้าเขาไม่ให้อากาสเธอ ด้วยตัวเองนั้น ก็อยู่ห่างไกลจากเขามาก
เธอเข้าใกล้เขาเพียงครึ่งก้าวก็ไม่อาจเป็นไปได้
“คุณมีสุวรรณ์มีอะไรคะ” ที่ออกมาทักทายนลิน มีสุวรรณ์คือนายหญิงศรีเดชนิษ
นลิน มีสุวรรณ์ยืนอยู่ที่นี่นานแล้วจนทำให้คนสนใจกันมาก เธอจึงมาถาม
เมื่อนลิน มีสุวรรณ์เห็นนายหญิงศรีเดชนิษก็ตกใจมาก “นายหญิงสวัสดีค่ะ”
นายหญิงศรีเดชนิษน้ำเสียงเย็นชา “ท่านจอมพลของเราไม่ต้อนรับคุณมีสุวรรณ์ คุณมีสุวรรณ์อย่ามาที่นี่อีก!”
“ฉัน…ฉันมาหาเมธชนันค่ะ” นลิน มีสุวรรณ์พูดด้วยความหวาดกลัว
นายหญิงศรีเดชนิษมองไปที่นลิน มีสุวรรณ์ด้วยความแปลกใจเล็กน้อย เธออาจไม่คาดคิดว่านลิน มีสุวรรณ์จะพูดแบบนี้ออกมา ยิ้มและเตือนว่า “คุณมีสุวรรณ์แต่งงานแล้ว มาหาชนันของเรามันไม่ดีว่าไหม ถ้าคนอื่นเข้าใจผิด ไม่ว่าคุณจะทำอะไร มันก็ไม่ดีต่อชื่อเสียงของเขา”
นายหญิงศรีเดชนิษพูดอย่างสุภาพ
แต่ทำให้คนฟังเกิดความตึงเครียดมาก
แต่เดิมนลิน มีสุวรรณ์อยากจะพูดเรื่องที่เธอทำกับเมธชนัน แต่คำพูดนี้ของนายหญิงศรีเดชนิษจะสามารถเอ่ยปากได้ที่ไหนกัน
-
“นายหญิงคะ คุณพลอยกลับมาแล้วค่ะ” แม่บ้านเดินเข้ามารายงานนายหญิงศรีเดชนิษ
นายหญิงศรีเดชนิษหันไป เห็นรถของทัดธนจอดอยู่หน้าประตู
ตอนที่694
บ้านตระกูลศรีเดชนิษมีประตูหลายบาน ตรงนลิน มีสุวรรณ์อยู่เป็นหนึ่งในนั้น
ทัดธนลงจากรถก่อน แล้วยื่นมือเข้าไปในรถให้กับพลอยเหมือนสาวน้อยก้าวลงจากรถ
ป่วยอยู่สองวัน พลอยยังคงมีสีหน้าซีดเซียวเล็กน้อย แต่เมื่อยืนอยู่ข้างทัดธนกลับยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข
นายหญิงศรีเดชนิษไม่สนใจนลิน มีสุวรรณ์อีก เดินตรงไปหาทัดธน
พลอยมีความประหม่าเล็กน้อยขณะที่ยืนข้างทัดธน มองไปที่นายหญิงศรีเดชนิษอย่างระแวดระวัง นายหญิงศรีเดชนิษค่อนข้างเคร่มขรึม พลอยจึงกลัวเธอมาก
ทัดธนพูด “คุณป้าครับ”
“เข้ามาสิ” ที่พลอยถูกพาตัวไป หลังจากที่เมธชนันกลับมา เรื่องราวก็ได้ถูกอธิบายทั้งหมดแล้ว
ดังนั้นตอนนี้เมื่อเห็นทัดธนมา จึงไม่รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย
วันนี้จอมพลนรเทพก็อยู่ นั่งอยู่บนโซฟากับนายหญิงศรีเดชนิษ เหมือนภูเขาสองลูกใหญ่ตั้งตระหง่าน กดดันจนหายใจลำบาก
โชคดีที่คนที่เผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้เป็นทัดธน ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาทั่วไป “ที่ผมมาวันนี้ เพื่อต้องการขอร้องคุณลุงกับคุณป้ายกพลอยให้แต่งงานกับผมครับ”
ภายในใจของทัดธนกำลังกระวนกระวาย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาขอร้อง
จอมพลนรเทพจ้องมองเขา “ครอบครัวของเธอเห็นด้วยหรือเปล่า”
“เรื่องของผม ผมสามารถจัดการด้วยตัวเองได้ครับ” แต่เดิมเขาเป็นลูกนอกสมรส แม้ว่าคนในครอบครัวจะมีความคิดเห็น สุดท้ายไม่ว่าจะต้องการแต่งงานกับพลอยหรือไม่ ก็เป็นตัวเขาที่ตัดสินใจเอง
จอมพลนรเทพไม่ตอบรับ แววตาของเขาเลื่อนมาที่พลอย “พลอย มานี่ซิ”
พลอยลุกขึ้นยืน และเดินไปนั่งข้าง ๆ จอมพลนรเทพ
เธอเป็นลูกสาวคนโปรดของจอมพลนรเทพ
ถึงแม้ว่าจอมพลนรเทพจะเข้มงวดกับลูกชาย แต่เขารักลูกสาวมาก
เธออยู่ในช่วงวัยรุ่น เมื่อต้องอยู่กับทัดธน ทุกคนในครอบครัวจึงต่อต้าน นั่นเพราะทุกคนรักเธอมาก ไม่ต้องการให้เธอหาคนที่มีช่องว่างระหว่างวัยเช่นนี้
จ้องมองเธออย่างเอ็นดู จอมพลนรเทพถามว่า “หนูอยากแต่งงานกับเขาไหม”
“หนูอยากแต่งค่ะ” พลอยมองไปที่ทัดธน บนใบหน้ามีความเขินอาย “หนูอยากอยู่กับพี่ทัดธนตลอดไปค่ะ”
เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เธอยังเป็นวัยรุ่นก็พูดอย่างนี้ และวันนี้มันยังคงเป็นเช่นเดิม
จอมพลนรเทพพูดกับทัดธน “ฉันจะให้ป้าของเธอเตรียมเรื่องการแต่งงานให้พร้อม ทางครอบครัวของเธอฉันก็จะไปพูดให้”
ที่เขาตอบกลับมานี้ เห็นได้ชัดว่าอนุญาตให้พลอยแต่งงานกับเขา
แต่เดิมภายในใจของทัดทนนั้นกระวนกระวาย จนเมื่อได้ยินก็ไม่อยากจะเชื่อ ที่จริงแล้วเขาคิดว่าตระกูลศรีเดชนิษจะไม่เห็นด้วย
จอมพลนรเทพพูด “ก่อนที่เธอจะมา ธามนิธิโทรหาฉันแล้ว ให้ฉันอย่าทำให้เธอลำบากใจ แล้วก็ หลังจากผ่านมานานแล้วแต่เธอยังต้องการที่จะแต่งงานกับพลอย ฉันจึงตั้งใจจะเชื่อเธออีกครั้ง”
มีพวกเขาอยู่ พลอยก็ไม่ประสบกับความเสียเปรียบ
ถ้าหากทัดธนจริงใจก็สามารถชดเชยความเสียใจของพลอยได้ด้วย
ท้ายที่สุดแล้วที่เธอเคยชอบทัดธนมากก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
ทัดธนผิดคาดเล็กน้อย “ขอบคุณครับคุณลุง”
จอมพลนรเทพพูด “งั้นก็อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันเถอะ!”
นั่นถือว่าสถานะของทัดธนได้รับการยอมรับแล้ว
-
คืนวันศุกร์ ธามนิธิกับปาณีทานข้าวที่บ้านวิสิทธิ์เวช จันวิภาพูดว่า “ทัดธนแต่งงานแล้ว”
ทัดธนแต่งงานกะทันหัน บ้านแสงศรีเรืองคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว พ่อของเขาไม่เห็นด้วยตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น
ณ จุดนี้ พวกเขาก็ได้แต่ถอนหายใจ
เมื่อคุณแม่วิสิทธิ์เวชได้ยินคำพูดของจันวิภาก็รู้สึกผิดคาดเล็กน้อย “แต่งงานแล้วจริง ๆ เหรอ!”
“ค่ะ” จันวิภาพูด “ได้ใบรับรองเมื่อวานนี้ สำหรับเรื่องนี้นพรุจปวดหัวมาก”
ปาณีที่นั่งข้างธามนิธิ ลอบชำเลืองมองคุณอา ที่ทัดธนแต่งงาน คุณอามีส่วนร่วมอย่างมองข้ามไม่ได้ ครั้งก่อนปาณีได้ยินธามนิธิคุยโทรศัพท์เพื่อโน้มน้าวจอมพลนรเทพ
ตอนที่695
ถ้าพี่เขยรู้ว่าพวกเขาเป็นตัวกลางช่วยทัดธนกับพลอย ต้องเกลียดชังพวกเขาตายแน่
ปาณีไม่พูดอะไร ค่อย ๆ คีบอาหารให้ธามนิธิ
ธามนิธิมองปาณีที่คีบอาหารให้ มองเธออย่างผิดคาดเล็กน้อย
ปาณียิ้ม และตัวเองก็กลับไปทานข้าวต่อ
ธามนิธิจับมือเธอเงียบ ๆ
ไวยาตย์ที่อยู่อีกฝั่ง มองทั้งสองแสดงความรักต่อกัน ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายความอึ้งของตัวเองอย่างไรดี
คุณแม่วิสิทธิ์เวชมองไวยาตย์แล้วพูดว่า “ไวยาตย์ ฉันจำได้ว่าวันนี้เธอก็อายุสามสิบแล้วใช่ไหม”
“เอ่อ ใช่ครับ” ไวยาตย์พยักหน้า
คุณแม่วิสิทธิ์เวชพูดว่า “แล้วมีแฟนไหม”
“……ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ” อายุสามสิบ เขารู้สึกว่าตัวเองยังเด็กมาก ยังไม่ต้องการที่จะมีแฟนเพื่อมาดูแลตัวเอง
คุณแม่วิสิทธิ์เวชหัวเราะขึ้นมา “เธอก็ควรหาได้แล้ว”
ไวยาตย์ในฐานะหมาโสดไม่พูดอะไรต่ออีก
อายุขนาดนี้ คนรอบข้างแต่งงานกันไปทีละคนทีละคน เขาถูกกดดันมากมาย
ประเด็นคือแม้แต่ธามนิธิที่ไม่เคยสนใจผู้หญิง ตอนนี้เขาก็เริ่มโชว์หวานทั้งวันแล้ว
มันไม่ดีที่จะปฏิเสธความเมตตาของคุณแม่วิสิทธิ์เวช จึงพยักหน้า “ผมจะลองดูครับ”
ปาณีที่กำลังทานข้าว ค่อนข้างรู้สึกปวดใจกับไวยาตย์กับสถานะหมาโสด เขามีอะไรผิดปกติ ถึงต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้กัน
“จริงสิ ปาณี” จันวิภาที่พูดกับธามนิธิจบก็นึกถึงปาณี “คุณกับธามนิธิจะมีลูกกันเมื่อไหร่คะ”
ปาณี “……”
นี่…..ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาถามเธอล่ะ ..
ปาณีมองคุณแม่วิสิทธิ์เวชด้วยความสำนึกผิด และพบว่าคุณแม่วิสิทธิ์เวชกำลังมองเธออยู่ รู้สึกกดดันทันที “ฉันจะพยายามให้ดีที่สุดค่ะ”
คุณแม่วิสิทธิ์เวชพูด “เมื่อสองวันก่อนฉันไปที่บ้านเปรมศรีโล ลูกสะไภ้ของธนันชัยกำลังจะคลอดลูก เขายังเด็กกว่าธามนิธิเสียอีก! ธามนิธิ แกต้องรีบแล้วนะ”
คุณแม่วิสิทธิ์เวชกับหลานคนนี้ คือตั้งตาคอยวันแล้ววันเล่า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ลูกชายของญาติและเพื่อน ๆ ต่างมีเด็กที่บ้านกันหมด ความคิดของเธอก็เริ่มมุ่งมั่นขึ้นมา
ธามนิธิพยักหน้า “ได้ครับ”
หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ปาณีกับธามนิธิขึ้นไปข้างบน
พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ ปาณีต้องขึ้นเครื่องบินเที่ยวแรก ธีระช่วยเธอนัดกับบริษัท ภาพยนตร์และโทรทัศน์
ธามนิธิช่วยเธอจัดกระเป๋าเดินทาง นำของที่เธอต้องใช้ใส่เข้าไป
ตอนนี้ปาณีค้นพบทางออกของตัวเองแล้ว ไม่จำเป็นต้องเก็บของด้วยตัวเอง เพราะธามนิธิปรารถนาที่จะทำทุกอย่างเพื่อเธออย่างดี
เธอยืนอยู่ข้าง ๆ มีความรู้สึกหนึ่งที่ไม่สามารถช่วยได้ ไม่รู้จะสรรหาคำใด “ฉันว่าคุณแม่เหมือนจะต้องการเด็ก หรือพวกเราควรต้องมีสักคนไหมคะ”
ธามนิธิที่กำลังช่วยเธอเก็บเสื้อผ้า หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ก็นิ่งไปครู่หนึ่ง มองไปที่ปาณีอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณพูดจริงเหรอ”
ดวงตาของเขามีแสงแห่งความหวัง ทำให้ปาณีได้รู้ว่าเขาก็ต้องการเด็กเช่นกัน
ปาณีไม่ต้องการเด็ก แต่ว่าคุณแม่วิสิทธิ์เวชตั้งตาคอย นั่นทำให้เธอหวั่นไหวเล็กน้อย
เธอเอ่ยปาก “ทุกครั้งที่เห็นความคาดหวังของคุณแม่ ฉันก็ได้แต่คิดว่าเราสองคนกำลังหลอกลวงเธอ นั่นมันมากเกินไป”
ตั้งแต่ครั้งนั้น หลังจากที่รู้ว่าเธอกินยา ธามนิธิก็คุมกำเนิดได้ดีเสมอมา
ธามนิธิช่วยเธอเก็บของต่อไป “คุณก็ใจอ่อนเกินไป”
“นั่นเป็นเพราะว่าคุณแม่ดีต่อฉันมากจริง ๆ!” หากเป็นคนอื่น ปาณีจะไม่ใจอ่อน เธอมองไปที่ธามนิธิ “พวกเราต้องมีลูก เธอจะได้มีความสุข”
ปาณีอยู่เคียงข้างธามนิธิ หลังจากที่ผ่านอะไรมามาก พบว่าตัวเองไม่อยากแยกห่างจากเขา